xs
xsm
sm
md
lg

พ่อเป็นยิ่งกว่าซูเปอร์ฮีโร “ต่าย-เอก” เทิดทูน “ในหลวง” ต้นแบบความอดทนและเสียสละ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เอก รังสิโรจน์” นำทีมนักแสดงช่อง 7 แจกพัด - ริบบิ้น ลั่น “ในหลวง” เป็นต้นแบบของความอดทน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง จะทำให้คนไทยไม่เป็นหนี้และไม่ทะเลาะกัน บอกหยิบคำสอนข้อไหนมาใช้มีแต่ได้ประโยชน์ ด้าน “ต่าย ชัชฎาภรณ์” เผยเกิดในครอบครัวข้าราชการ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ตั้งแต่เด็กยันโต จะสอนลูกหลาน พ่อหลวงไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ แต่เป็นต้นแบบบุคคลเสียสละที่จับต้องได้

“เอก รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง” นำทีมนักแสดงช่อง 7 อาทิ พีพี พัชญา, ต่าย ชัชฎาภรณ์, บอส ชนกันต์, บิ๊ก กฤษฎา, ติ๊ก วริศรา, บลิว วรพล ร่วมแจกพัดและริบบิ้นสีดำแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนักแสดงหนุ่มเผยยึดในหลวงเป็นแบบอย่างเรื่องความอดทน พอเพียงแล้วจะไม่มีหนี้

“เราตั้งใจที่จะมาช่วยอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตามถือว่าเป็นการได้รับใช้พระองค์ท่าน ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ ใครทำอะไรได้ก็ควรจะทำ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงว่าเราเป็นลูกของพระองค์ เป็นข้าราชบริพารในสมัยของพระองค์ ฉะนั้น ตอนนี้อะไรที่พอจะช่วยเหลือได้หรือมาหยิบจับอะไรได้ก็มาครับ วันนี้ก็มีพัดครับ แล้วก็มีริบบิ้น วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเลยครับ คนเยอะจริง ๆ ครับ ไม่น่าเชื่อว่าเช้าขนาดนี้คนเต็มสนามหลวงแล้ว เห็นคนเยอะ ๆ แบบนี้ก็ชื่นใจ”

ผมเคยได้มีโอกาสถวายงานต่อหน้าพระพักตร์ครับ เป็นงานละครสั้นเรื่องเงาะป่าครับ ประมาณ 11 ปีที่แล้วครับ ตอนนั้นเราเพิ่งจะเข้ามาเป็นนักแสดงใหม่ ๆ ก็มีแต่ความตื่นเต้น ยิ่งได้เข้ามาถวายการรับใช้ต่อหน้าพระองค์ท่าน ก็รู้สึกว่าเป็นบุญของเราที่ได้โอกาสรับใช้ ก็รู้สึกว่าเราได้เข้าไปในพระราชฐานก็เหมือนฝันนะครับ มีแต่ความปลื้มปิติ ณ เวลานั้นที่เราได้ทำงานถวายการรับใช้พระองค์ครับ”

“ถามว่า แอบมองพระพักตร์พระองค์มั้ย ในความตั้งใจก็ว่าจะแอบมองบ้าง แต่ลึก ๆ ความตื่นเต้น และปลื้มปีติเลยไม่ทันได้มองเลยครับ ส่วนที่เข้าไปเป็นพระราชฐานชั้นในนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าตรงส่วนไหนครับ งานนั้นเป็นงานประชุมเอเปกครับ เป็นการเลี้ยงผู้นำแต่ละประเทศที่เข้ามาประชุมในประเทศไทย ก็ถือเป็นความปราบปลื้มใจของเราที่เป็นอาชีพนักแสดง ได้รับใช้พระเจ้าอยู่หัว ซึ่งผมคิดว่านักแสดงหลาย ๆ ท่านที่ได้มีโอกาสเหมือนกับผมก็คงจะมีความรู้สึกไม่แตกต่างกันครับ”

คำสอนของพ่อดีที่สุดทุกข้อ หยิบข้อไหนมาใช้ก็ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเศรษฐกิจพอเพียง เพราะจะทำให้คนไทยไม่มีหนี้ ไม่ทะเลาะกัน
“ผมว่าคำสอนของพ่อนี่ดีทุกข้อนะ หยิบข้อไหนมาใช้ก็มีประโยชน์กับเราหมดนะครับ ตอนนี้เศรษฐกิจพอเพียง ช่วยคนไทยได้จริง ๆ ผมว่าช่วยคนได้ทั้งประเทศ คนเรามีปัญหากันส่วนใหญ่ก็เรื่องของเงิน ไม่ว่าจะทะเลาะเบาะแว้งเรื่องอะไรก็แล้วแต่ หรือเรารู้สึกว่าเสียเปรียบ ได้เปรียบก็เป็นเรื่องเงิน ๆ ทองๆ ฉะนั้น ถ้าเกิดเราใช้เศรษฐกิจพอเพียง เราก็จะไม่มีหนี้ทุกอย่างมันก็จะไม่เกินตัว ฉะนั้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะทำให้คนเรานั้นไม่เกิดภาวะเครียด เพราะว่าเราไม่มีหนี้ครับ”

“ผมเองพอเพียงมาตลอดอยู่แล้วครับ แล้วก็มาใช้เรื่องหลักความอดทน เราเห็นพระองค์ท่านเหนื่อย ทรงทำงานหนัก เราเห็นหยาดเหงื่อเราก็รู้สึกว่าพระองค์สามารถที่จะอยู่ได้สบายกว่านี้ แต่พระองค์ทรงไม่คิดแบบนั้น ทรงจะเสด็จฯไปในถิ่นทุรกันดาร เพื่อที่จะทำให้พสกนิกรของพระองค์นั้นอยู่ดีกินดี สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ทุกวันนี้เราเหนื่อย เราร้อน เราใส่สูทแค่นี้ต้องทนได้ พระองค์ทนได้หนักยิ่งกว่าเราอีก ฉะนั้น ต่อไปนี้ก็จะใช้หลักเรื่องของความอดทน จะนำพระองค์มาเป็นแบบอย่างในเรื่องของความตั้งใจ และอดทนให้มากกว่าเดิมในเรื่องของการทำงาน ในเรื่องของการใช้ชีวิตครับ”

“จะสอนลูกสอนหลานแน่นอนครับ เพราะเราเกิดในสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีลูกมีหลานก็ต้องเล่าเรื่องราว พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระองค์สืบต่อไปให้ลูกให้หลานได้รับรู้ครับ”

“ต่าย ชัชฎาภรณ์” เปิดใจเกิดในครอบครัวข้าราชการ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ตั้งแต่เด็กยันโต เทียบไม่ได้กับความรักที่พ่อมีต่อคนไทย
“วันนี้มีโอกาสได้มาที่สนามหลวง เห็นประชนหลายกลุ่มเลย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเรียน กลุ่มวัยกลางคน วัยทำงาน หรือว่าจะเป็นคนแก่ที่ผ่านมาแล้วหลายสมัย ผ่านมาแล้วหลายแผ่นดิน วันนี้เห็นทุกรูปแบบ ต่ายสัมผัสได้ว่าทุกคนมาที่นี่เพราะในหลวง ถึงแม้วันนี้ในหลวงอาจจะไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เรา แต่ว่าในหลวงอยู่ในใจของเราจริง ๆ”

“เราเปิดทีวีเราก็เห็นพระราชกรณียกิจ ทำให้เราเห็นว่ามีอีกหลายเรื่องเลยที่เราไม่รู้ มีอีกหลายเรื่องเลยที่พ่อหลวงปิดทองหลังพระ ทำให้รู้สึกว่าในหลวงเหนื่อย ป่วย ก็ยังอดทน ยังสู้เพื่อประชาชน ยังทำทุก ๆ อย่างเพื่อแผ่นดินที่ท่านรัก ณ วันนี้ต่ายก็มีในหลวงเป็นแบบอย่างในเรื่องของความอดทน เหนื่อยเราก็ทน ป่วยเราก็รักษา แต่สิ่งหนึ่งที่เราขาดไม่ได้คือเราต้องสู้ แล้วก็ต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ”

“ตั้งแต่เด็กทุกครั้งที่เปิดทีวีเราก็จะเห็นว่าพอ 2 ทุ่ม ปุ๊บจะมีข่าวในพระราชสำนัก จะเห็นทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปที่อยู่ที่ข้างฝาบ้าน เราก็เห็นตั้งแต่เราเกิดจนเราโตมา ทุกวันนี้ก็ยังคงมี แล้วก็เป็นครอบครัวข้าราชการด้วย ทุกครั้งที่ถึงวันที่ 5 ธ.ค. เราก็ต้องไปร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกันตั้งแต่เด็กจนโตค่ะ”

พระองค์ทำให้มีกำลังใจ เห็นคุณค่าลมหายใจ ยึดพระราชดำรัสกตัญญูและเสียสละ
“ก็มีโอกาสได้รับเสด็จเรื่อย ๆ เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ทำงานอยู่ที่สำนักงานอัยการตรงสนามหลวงนี่ ก็จะมีโอกาสได้มาร่วมรับเสด็จฯหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในหลวง หรือพระองค์อื่น ๆ ค่ะ เห็นพระองค์ท่านแล้วมีกำลังใจ ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรามีค่ามาก มีคุณค่าเหลือเกิน ลมหายใจของเรามีค่า สามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่างเลยค่ะ”

“แนวทางพระราชดำรัสที่ต่ายหยิบยกมาใช้ ข้อแรกเลยต่ายว่าสำคัญมากสำหรับทุกคนต้องมี ก็คือ เรื่องของความกตัญญู และความดี การให้ การเสียสละที่ไม่ใช่พูดว่าไม่เอาเปรียบ คำว่าไม่เอาเปรียบเป็นคนละมุมกับการให้ คนละมุมกับการเสียสละ ต่ายมองว่าสิ่งนี้ทุกคนควรจะมีในใจ เราก็จะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จ และเรียบง่าย พอมี พอเพียงค่ะ”

ดูแลพ่อแม่เป็นจุดเริ่มต้นการทำความดีที่ง่ายที่สุด จะสอนลูกหลาน ในหลวงเป็นต้นแบบที่ดี ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร แต่เป็นทุกอย่างที่จับต้องได้
“การจะทำความดีเพื่อพ่อหลวงทำได้หลายอย่างนะคะ ไม่ใช่ว่ามาถึงสนามหลวงเท่านั้นถึงจะทำได้ ทำได้ตั้งแต่ตื่นมาเลย นั่นก็คือดูแลคุณพ่อคุณแม่ ดูแลคนในบ้าน ดูแลสุขภาพของตัวเอง ถ้าเกิดว่าเราแข็งแรง เราก็ไม่เป็นภาระให้ผู้อื่น ถ้าเกิดเราเจ็บป่วยเราก็รักษา อย่ารอให้เป็นลม อย่ารอให้เป็นโรคร้ายแรงจนทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องลำบาก ง่าย ๆ เลย กตัญญู ความดี ความมีน้ำใจ แค่นี้เองค่ะ เริ่มต้นง่าย ๆ ค่ะ”

“ถ้ามีลูกมีหลานก็จะสอนว่าในหลวงเป็นต้นแบบที่ดี เป็นสิ่งที่เห็นภาพ ในหลวงไม่ใช่ซูเปอร์แมน ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร แต่ว่าทำทุกอย่างแบบแตะต้องได้ และเป็นรูปธรรมไม่ใช่แค่นามธรรม เป็นตัวอย่างได้ทุกอย่างเลยค่ะ”









กำลังโหลดความคิดเห็น