คนบันเทิงจิตอาสาต่างค่ายต่างสังกัด รวมพลังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทำความดีเพื่อพ่อหลวง “กระแต - กระต่าย” ยึดคำสอนในหลวง ศิลปินคือผู้สร้างสรรค์ความสุขให้ประชาชน ทำดียากแต่ต้องทำ เพื่อให้จิตใจสูงขึ้น “เนย โชติกา” อิ่มใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน “อ๊อฟ ชนะพล” จะนำคำสอนไปใช้ในชีวิตประจำวัน ลั่นเมืองไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ดีที่่สุดในโลก
เป็นอีกหนึ่งวันที่คนบันเทิงจิตอาสา น้ำอาหาร น้ำดื่ม และของใช้มาแจกให้ประชาชนที่เดินทางมาสักการะและถวายความอาลัยพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หน้าพระบรมมหาราชวัง ไม่ว่าจะเป็นเกรซ กาญจน์เกล้า, ดาว มยุรี, อ๊อฟ ชนะพล, กระแต - กระต่าย อาร์สยาม, ธัญญ่า ธัญญาเรศ, พิตต้า ณ พัทลุง, แจ็ค แฟนฉัน, เนย โชติกา, โฟร์ ศกลรัตน์ ฯลฯ รวมไปถึงยังมีสำนักงานพัฒนาสังคมกรุงเทพมหานคร ศูนย์ฝึกอาชีพ มาตัดผมให้ประชาชนฟรี โดยวันนี้มาเป็นวันแรก จะมาทุกวันจนครบ 100 วัน
อยู่บ้านแล้วเศร้า “เกรซ กาญจน์เกล้า” ออกมาทำความดีเพื่อพ่อหลวงดีกว่า
“เป็นอีกหนึ่งวันที่มา เพราะเรารู้สึกว่า เราอยู่บ้านเราก็เศร้าเหมือนทุก ๆ คนที่พอรับรู้ข่าวก็เสียใจ พวกเรามีใจดวงเดียวกัน มันเป็นแผลตอนนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องจับมือกันและช่วยกันคนละไม้คนละมือ เกรซมาทุกวันเลย เมื่อคืนแล้วก็เมื่อคืนก่อน ก็ได้ไปที่หัวลำโพงด้วย มันแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละวัน ก็จะพยายามเพราะตัวเกรซเองไม่ได้มาตามซุ้ม เกรซไปซื้อของกันมาเองด้วยกับเพื่อน ๆ ต้องไปซื้อของเองจากแม็คโครก่อน แล้วค่อยมาลง แล้วก็มาเข้าบูธแบบที่เห็น ตั้งแต่วันแรกสุดเลยแจกน้ำเปล่า แจกขนม พอลองมาเรื่อย ๆ ปั๊บมันก็ทำให้รู้ว่าคนเขาต้องการอะไร เขาขาดอะไร เราก็สามารถปรับได้ในการซื้อแต่ละวัน อะไรที่จำเป็นที่สุดตอนนี้ ยาดมนี่อย่างกับทองเลย เพราะว่าอากาศมันร้อน สิ่งที่ได้ที่สุดคือ ยาดม ผ้าเย็น รวมถึงพัดจากช่อง 7”
“เราจะบอกว่าเรารู้สึกดีใจนะที่คนไทยเป็นน้ำหนึ่งเดียวกันในเวลานี้ไม่ใช่แค่คนหลั่งไหลมาสักการะนะ คนทั่วไปที่มาแจก ที่เป็นแบบเกรซ เป็นจิตอาสามาแจก เยอะมาก จนล้น จนตอนนี้ทางเทศกิจต้องสกรีนแล้วว่าถ้าเป็นน้ำดื่มขอไม่เข้า ถ้าเป็นอาหารขอไม่เข้า เขาจัดเป็นโรงทานแล้วตอนนี้ แล้วก็มีสกรีนว่ามีอะไรเข้ามาได้บ้าง เราก็นำของที่มันจำเป็นสำหรับตอนนี้ที่สุดก็คือจะเป็นยาดม เป็นพัด ผ้าเย็น ขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ น้ำอัดลม เกลือแร่อะไรพวกนี้ อะไรที่มันเพิ่มแรงที่จะทำให้ไม่เป็นลม เพราะว่าเขาเดินกันมาไกล บางรถจอดรถได้ไกล หรือบางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดก็จะเหนื่อยนิดหนึ่ง”
“แนวทางของพระองค์ที่ยึดหลักเนี่ยมีหลายข้อมากนะ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือความดี อย่างที่เกรซเคยบอกไป ความดี ดียังไง ดีคือดีสำหรับตัวเอง ดีที่สุดสำหรับเรา และจะไปดีกับผู้อื่น สมมุติว่าเราให้ เราเป็นคนให้ เขาได้ เราก็ได้ด้วย ไม่ใช่เราไม่ได้ เราก็ได้ความสุขในการที่เราได้ให้ด้วย และคำว่า พอเพียง พอเพียงนี่เป็นสิ่งที่ทุกคนจะจำได้เสมอ เพียงแต่ว่าบางคนไม่รู้ความหมายของคำว่าพอเพียงจริง ๆ ว่าคืออะไร พอเพียงไม่ใช่ประหยัดจนอด หรือว่าทำให้ใครเดือดร้อน การพอเพียงคือการรู้จักความพอดี แต่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย นี่คือคำว่าพอเพียงจริงๆ เราอยู่ตรงนี้ ถ้าเราพอเพียงแล้ว เราก็เอากำลังทรัพย์ของเรา แรงกำลังของเรามาแจกจ่ายให้กับคนอื่นบ้าง ถามว่าตั้งใจจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะมาทุกวันแบบที่เกิดขึ้นนะ ตอนแรกที่มาวันแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมาวันที่ 2 3 4 จน 5 ไม่ได้คิด คิดแค่ว่าวันไหนมีแรงไหวก็มา แต่ก็ตั้งใจว่า ถ้าจะมาแบบนี้ก็จะมาเรื่อย ๆ ทุกวัน”
“มันเป็นสิ่งที่ ไม่ใช่จะมีแค่เกรซ ทุกคนแหละ อยู่ดี ๆ เราก็จะมีแรงลุกขึ้นมา เพราะพ่อ เพราะพระองค์ท่าน มันมีแรงลุกขึ้นมา ทกให้เราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ ดีกว่าเศร้าเสียใจ ดีกว่าอยู่บ้านเฉย ๆ ในเมื่อเรามีแรง มีกำลังมากพอที่จะทำได้ ทำไมเราจะไม่ทำให้คนอื่น ดำเนินตามรอยเท้าพ่อ”
“อยากเห็นคนไทยจับมือกัน เพราะตอนนี้เราขาดเสาหลักของบ้าน เราขาดพ่อไป สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเราต้องจับมือ และผ่านช่วงเวลาที่เจ็บปวดนี้ไปให้ได้ อย่างสวยงามที่สุด เพื่อที่ว่าคนบนฟ้า ทอดพระเนตรลงมาจะได้ไม่มีอะไรจะต้องห่วง อยากจะฝากถึงคนไทยตอนนี้ ทุกคนจะได้เห็นว่าคนไทยรักกันมากเพียงใด เนื่องจากว่าเรามีพ่อคนเดียวกัน เพราะฉะนั้นอยากให้ข้ามผ่านช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านบ้านเมือง เศรษฐกิจอะไรก็ตาม จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกเยอะมากก็จับมือกันและรอรับไว้ และข้ามผ่านไปได้ ความคิดเราไม่มีทางเหมือนกันทั้ง 60 ล้านคนได้ แต่เราจะคิดยังไงให้อยู่ตรงกลาง และทำให้พ่อข้างบนสบายใจดีกว่า”
“กระแต-กระต่าย” เผยศิลปินคือผู้สร้างสรรค์ความสุขให้ประชาชน ยึดคำสอน ทำดียากแต่ต้องทำ เพื่อให้จิตใจสูงขึ้น
กระแต : “เรามาในนามของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาช่วยดูแลประชาชนของพ่อค่ะ ใครให้ทำอะไรก็ทำหมดเลย วันนี้เราได้ช่วยแจกรูปของพ่อให้กับทุกคนจำนวนหลายพันรูปเลยค่ะ และก็ตั้งใจว่าจะอยู่จนดึกเลย ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสมาที่นี่บ้าง มาแล้วค่ะ มาทีไรคนก็ยังมาเยอะเหมือนเดิมเลย ยิ่งตอนกลางคืนคนยิ่งเยอะเพราะบางคนเพิ่งเลิกงานเขาก็จะมา มีอยู่ครั้งเรากลับบ้านตีสามแต่คนก็ยังเยอะอยู่ คือปกติเราสองคนเป็นคนที่ทำงานเลิกดึกอยู่แล้ว ถ้าให้เรากลับเร็วเขาก็คงนอนไม่หลับ เราเลยคิดว่าเราอยากมาอยู่ใกล้พ่อให้ได้มากที่สุด”
กระต่าย : “สิ่งที่เราเห็นก็คือความสามัคคีของทุก ๆ คนที่อาสามาช่วย เราเห็นแล้วเราก็ชื่นใจค่ะ อีกอย่างดาราไม่ใช่มีแค่กลุ่มเรานะแต่ยังมีอีกหลาย ๆ กลุ่ม มาช่วยกันเกือบทั้งวงการแล้วมั้งคะ เราได้ลงนามหลายที่แล้วค่ะ แต่ที่นี่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไป คือ เรามาทุกวันเราเข้าไปวันไหนก็ได้ วันนี้เลยอยากตั้งใจมาช่วยเหลือทุกคนก่อน”
กระแต : “ถ้าอยู่ในมูลนิธิเราก็ทำเพื่อพ่อหลวงเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าในส่วนของตัวกระแตเอง ในหน้าที่ของศิลปินมันก็เป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ เพราะหนึ่งในเพลงของกระแต เพลงใต้ร่มพระบารมี ก็เป็นเพลงที่ถูกประพันธ์ขึ้นให้พ่อหลวง เป็นอัลบั้มแรกซึ่งตอนนั้นกระแตยังเด็กมาก ๆ อายุแค่ 14 - 15 เอง ดีใจมาก ๆ เลยในตอนนั้นที่ได้ร้อง แต่พอตอนนี้ได้กลับไปฟังอีกครั้ง มันสลดมันเสียใจ แต่มันเป็นเพลงที่มีความหมายดีมาก ๆ ค่ะฟังทุกครั้งก็เพราะทุกครั้ง เมื่อวานได้เปิดฟังอีกน้ำตาก็ไหล”
กระต่าย : “คำสอนจะมีอยู่สองคำสอนที่นำมาใช้หลัก ๆ เลยค่ะ คือ การทำความดี ทำความดีมันทำยากแต่เราก็ต้องทำ เพราะถ้าหากเราทำแล้วจิตใจเราจะสูงขึ้น แต่ก็อยากให้ทำออกมาจากความรู้สึกถ้าหากเราทำตามกระแสเราก็จะไม่รู้สักอะไร แต่ถ้าเราทำจากความรู้สึกถึงแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยความดีก็จะเบิกบานในใจของเรา ส่วนอีกหนึ่งคำสอนก็คือการเป็นศิลปิน”
กระแต : “ถ้าพูดถึงหน้าที่ของศิลปินในหลวงท่านเคยตรัสไว้ คำว่าศิลปินก็คือผู้สร้างสรรค์ความสุขให้กับประชาชน เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในเรื่องของตัวเอง ในการสร้างประโยชน์และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งหนูมั่นใจว่าทุกครั้งที่หนูได้ทำหน้าที่ศิลปิน หนูจะทำเต็มที่เพื่อให้ประชาชนหน้าเวทีมีความสุข”
กระแต : “หนูเชื่อว่าความโศกเศร้าของแต่ละคนมีไม่แพ้กัน ทุกคนเสียใจเหมือนกัน ทุกคนรักพ่อหลวงไม่แพ้กัน ความโศกเศร้าเราห้ามกันไม่ได้แต่ก็อยากให้กำลังใจดวงเล็ก ๆ จากเราทั้งสองคน และอยากให้ทุกคนมาให้กำลังใจเราด้วย แบ่งปันซึ่งกันและกัน เปลี่ยนจากความโศกเศร้ามาเป็นความสามัคคี ความปรองดอง ให้ชาติบ้านเมืองเราเข้มแข็ง เพราะเชื่อว่าตอนนี้เราเปราะบาง หนูอยากให้เรากลับมาเข้มแข็งเร็ว ๆ หนูเชื่อว่าพ่อหลวงไม่อยากเห็นเราเศร้าโศกเสียใจอีกแล้ว อยากให้ทุกคนกลับมาจับมือกันให้แน่นเข้าไว้ สามัคคีเข้าไว้ นำชาติบ้านเมืองให้เจริญและพัฒนาอย่างที่พ่อเคยหวัง”
กระต่าย : “ถ้าอยากจะร้องก็ร้องนะคะ ไม่ตั้งอั้นร้องให้พอ เพราะน้ำตาที่เราร้องไห้เราร้องให้กับคนที่รักเรามากที่สุด เขาจากเราไปเราก็สมควรที่จะร้องไห้แล้ว แต่ในเมื่อเราร้องไห้เสร็จแล้วก็อยากให้ทุกคนมีสติ และร่วมทำความดีเอาความเศร้าโศกเสียใจตอนนั้นมาร่วมกันรักและสามัคคี เพราะนั่นคือสิ่งที่พ่อหลวงพยายามบอกกับลูกทุกคนมาตลอด”
“อ๊อฟ ชนะพล” จะนำคำสอนไปใช้ในชีวิตจริง ภูมิใจมีพ่อหลวงที่เก่งที่สุดในโลก
“สำหรับช่วงเวลานี้ทุกคนซึมเศร้าหมอง วันนี้เป็นวันที่สอง ที่ผมได้มาให้กำลังใจพี่น้องชาวไทย ที่เป็นหนึ่งแรงใจแรงเดียวกันที่จะมากราบสักการะพ่อหลวงของเรากัน ผมมาอยู่ในบูธของร่วมกตัญญูซึ่งผมไม่ได้เป็นสมาชิกของร่วมกตัญญูนะ แต่ผมอยากให้กำลังพี่น้องชาวไทยทุกคน ๆ มีรอยยิ้ม ผมอยากเอาแรงกายแรงใจมาช่วยตรงนี้ ถ้ามีโอกาผมมาตลอดและอันไหนที่ผมทำได้ผมทำนะ”
“ผมยึดหลักอยู่อย่างพอเพียงและเป็นคนดีของสังคมเป็นลูกที่ดีและทำในสิ่งที่ไม่เดือดร้อนใคร เป็นคำสอนที่หลาย ๆ คนอาจจะได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วหลาย ๆ คนอาจจะได้ยินมานานแล้ว ถึงแม้คำสอนของพ่ออาจจะมีเยอะแยะ แต่เชื่อว่าทุกคำสอนเราสามารถเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้ ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมเราได้ ความรักและความผูกพัน ผมรู้สึกว่าผมภูมิใจนะ ที่ได้มาเกิดในสมัยรัชกาล ๙ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็พบเห็นพระองค์ท่าน และผมภูมิใจที่เรามีพ่อหลวงที่เก่งมาก ชื่อเสียงและความดีของท่านไม่ได้อยู่แค่ในประเทศไทยเท่านั้นยังอยู่ทั่วโลก มีหลาย ๆ ประเทศที่เคาระการกระทำของพ่อหลวง สิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมภาคภูมิใจมาก”
“ดาว มยุรี” มาทำความดีด้วยหัวใจ
“วันนี้มาด้วยหัวใจมาถึงประมาณบ่าย 3 โมงกว่า อยู่ตรงเต็นท์ร่วมกตัญญู มาช่วยหั่นผัก ช่วยทำกับข้าว แจกข้าว ตักข้าว ขนมปัง ดาวมาครั้งนี้เป็นวันที่2แล้ว แต่ถ้าวันไหนว่างดาวก็จะมานะ วันนี้เรามาทำความดีเพื่อพ่อ มาเห็นแล้วเราก็มีความสุขแล้วสำหรับคำสอนของพ่อหลวง ทุกคำสอนมีความหมายจริง ๆ แต่ที่ดาวยึดถือคือเพียงพอและพอเพียงให้เราไม่ยึดติด ทำให้เราไม่ฟุ้งเฟ้อ สิ่งที่เข้ามาในชีวิต”
“ยังไม่เคยถวายงานหน้าพระพักตร์ แต่ว่าตอนเด็กดาวจำได้ว่าเคยรับของจากพระองค์ท่าน ซึ่งตอนนั้นพระองค์ท่านเสด็จฯกันมาทั้งครอบครัวเลย แต่ตอนนั้นดาวเด็กมากอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ที่อำเภอเสนานิคม ท่านพระราชทานชุดนักเรียนและสมุดหนังสือ ดาวไปเข้าแถวรอรับเลย ครั้งนั้นถือว่าได้รับเสด็จใกล้ ๆ ที่สุดแล้ว”
“โฟร์ ศกลรัตน์” จะเป็นประชาชนคนดีของพระองค์ ยึดคำสอนเรื่องความพอเพียง แม่สอนให้ประหยัด
"ก็ดีใจนะคะที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง และก็ได้ทำความดีด้วยกัน อย่างของที่นำมาแจกวันนี้เช่นพวกข้าวเหนียวหมูก็หมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนริบบิ้นก็กำลังจะหมดเหมือนกันทุก ๆ คนกำลังทยอยแจก จริง ๆ โฟร์มาเกือบทุกวันนะคะแต่แค่ไม่ได้ถ่ายรูปลง เพราะส่วนใหญ่โฟร์จะแค่มาเก็บขยะ มาแจกอาหารปกติ”
“ที่ทำก็คงเป็นคนดีของสังคม เป็นแบบอย่างให้น้อง ๆ ที่เห็นโฟร์เป็นตัวอย่าง ก็จะเป็นประชาชนคนดีของพระองค์ด้วยค่ะ เรายึดคำสอนเรื่องความพอเพียง เพราะคุณแม่โฟร์ก็สอนโฟร์ให้เป็นคนประหยัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซื้อแต่ของใช้ที่จำเป็น ของเก่าถ้าหากใช้ได้แม่ก็จะให้ใช้จนกว่าจะพังหรือเสีย ถ้าหากซ่อมได้ก็จะซ่อม จนสุดท้ายเมื่อมันไม่ไหวจริง ๆ คุณแม่ถึงจะยอมให้ซื้อใหม่ อยากให้ทุกคนมากราบ และก็อยากให้ทุกคนเดินทางมาอย่างปลอดภัย”
“คุณแม่โฟร์จะสอนอยู่เสมอนะคะว่าในหลวงของเราท่านทำอะไรให้กับประชาชนและประเทศไทยบ้าง ซึ่งโฟร์ก็จะรู้จักท่านมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตามคำบอกเล่าของคุณแม่ ยังไม่เคยได้มีโอกาสถวายงาน แต่วันนี้ก็ตั้งใจว่าเดินทางมาทำดีเพื่อลูก ๆ คนไทยของพระองค์ท่าน ส่วนละครเทิดพระเกียรติก็ยังไม่มีโอกาสได้แสดงเลย แต่ถ้าหากมีโอกาสก็ดีค่ะ”
“พิตต้า-แจ็ค-ธัญญ่า” ใจหายวันที่ไร้พ่อหลวง
ธัญญ่า : “บรรยากาศวันนี้ถ้าเทียบกับวันที่ 14 ต.ค. ก็สบายกว่าเยอะค่ะ เพราะว่าคนก็ไม่ได้แน่นมาก แต่ก็ยังเยอะอยู่ดี”
พิตต้า : “สำหรับต้ามาวันนี้เป็นวันแรกค่ะ ได้เห็นว่าคนไทยก็ยังมาเยอะอยู่ วันนี้แดดร้อนทุกคนก็ยังมา ทุกคนมีน้ำใจค่ะ น้ำใจคนไทยมาช่วยกันเยอะมากจริง ๆ”
แจ็ค : “ผมมา 4 วันแล้วครับ แต่เมื่อวานนี้ไม่สบายครับ เลยพัก 1 วันแต่พยายามจะมาให้มาที่สุดถ้ามีเวลาว่าง บรรยากาศ ส่วนใหญ่เสาร์ - อาทิตย์ คนก็จะมาเยอะหน่อย ความรักของคนไทยซึ่งเห็นได้ชัดจริงๆว่าเขามีความช่วยเหลือกันเต็มที่จริง ๆ ครับ”
ธัญญ่า : “ความผูกพันพ่อหลวง คนไทยนะคะ ก็มีอยู่แล้วล่ะ เกิดมาเราก็อยู่ในแผ่นดินของในหลวง ตั้งแต่เล็กจนโต เราก็จะเห็นความเหน็ดเหนื่อยของท่านมาตลอด การที่ท่านทำเพื่อประชาชนคนไทย พอวันนี้ไม่มีท่านแล้วมันใจหายค่ะ ใจหายมาก ณ วันที่เรารู้เรื่องน้ำตามันมาเองโดยที่ไม่ต้องพูดหรือกลั่นกรอง น้ำตามาโดยธรรมชาติ เหมือนเราสูญเสียญาติผู้ใหญ่ที่สนิทกับเราจริง ๆ ไป”
พิตต้า : “ต้าเชื่อว่าทุก ๆ คนในประเทศไทย รักในหลวงไม่ว่าจะเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ต่อจากนี้ก็คิดว่าประเทศเราคงจะรักกันมากขึ้น เพราะเราก็ได้แสดงความรักในเห็นแล้ว ว่าตอนนี้คนไทยช่วยเหลือกัน”
แจ็ค : “ผมก็มีความรู้สึกว่าทุกคนรักในหลวง และจะทำตามรอยพระองค์ท่านครับ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ผมเคยไม่รู้มาก่อน ผู้ใหญ่ พ่อแม่ก็เล่าให้ฟัง แล้วผมก็จะนำสิ่งที่พ่อแม่ผมเล่าให้ฟังไปเล่าให้กับเด็กรุ่นใหม่ ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นหลานเรา หรือลูกเรา จะเล่าต่อ ๆ กันไป เพราะว่าพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีมาก ๆ คนไทยก็รักพระองค์ท่านครับ”
ธัญญ่า : “คำสอนที่นำมาใช้คือเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ เป็นคำสอนที่เราทุกคนควรจะจำให้ขึ้นใจไว้ อย่าไปฟุ้งเฟ้อ ตามกระแส ชีวิตเรามีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ใช้ตามความเป็นจริงเราก็มีความสุขค่ะ”
พิตต้า : “ชอบที่ท่านตรัสไว้ มี 14 ข้อ ที่บอกเรื่องใหญ่ให้พูดช้า ๆ ให้พูดชัด ๆ มันเป็น 14 ข้อที่เราจะไปพูดกับใคร หรือจะบอกข่าวเรื่องสำคัญกับใครเราต้องค่อย ๆ พูดออกไปเขาจะได้รับสารอย่างถูกต้อง”
แจ็ค : “ของผมเป็นเรื่องความซื่อสัตย์ครับ กตัญญูต่อพ่อแม่เป็นเด็กดีครับ”
ธัญญ่า : “ก็รู้สึกดีนะคะที่ทุกคนมาร่วมกันทำความดี เพราะว่าที่ผ่านมาเราเห็นคนไทยทะเลาะกันบ่อย เราก็รู้สึกว่าต่อจากนี้ไปถ้าเราจะทะเลาะหรือมีเรื่องมีราวกัน ก็ให้ไตร่ตรองและคิดทบทวนให้ดี เพราะเมื่อไหร่ที่เราทะเลาะกันเองก็เหมือนพ่อแม่เห็นลูกตีกัน ท่านก็ไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นอยากให้เรารักกันและสามัคคีกันเพื่อพระองค์ท่านค่ะ”
“เนย โชติกา” อิ่มใจ คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน
“วันนี้มาช่วยเพื่อน ๆ พี่ ๆ ก็ตั้งใจมา วันนี้ เพื่อนบอกว่าช่วง 11 โมงจะมีคนจากต่างจังหวัดที่เขามาแล้วมาลงรถตอนเช้า เขาก็มาที่นี่ ซึ่งคนเยอะมากจริงๆ ช่วงเวลานี้ วันนี้มีอาหารเยอะเลย เหมือนก็รวบรวม และมีคนทำ รู้สึกอิ่มใจ ตอนแรกที่มาราหิว ไม่ได้ทานข้าวเช้า แต่พอมาถึง มันอิ่ม อิ่มใจ บอกไม่ถูก”
ถามว่าเคยถวายงานในหลวงหรือไม่ นักแสดงสาวกล่าวว่ายังไม่เคยเลย เสียดายที่ไม่ได้มีโอกาส
“ถ้าให้พูดถึงพ่อหลวง เนยว่าพ่อเหนื่อยมามากแล้ว เนยว่าทุกคนที่มาในวันนี้ ทุกคนเลยนะไม่ว่าจะมาช่วย มาสักการะอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ในวันนี้ถ้าเกิดว่าพ่อเห็นพวกเราทุกคน เนยว่าพ่อหายเหนื่อย”
“ภาพประทับใจเยอะมาก เพราะพ่อหลวงของเราทรงงานหนักมากตลอดชีวิตของท่าน ตั้งแต่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคต เนยก็ไปอ่านพระราชดำริ พระบรมราโชวาท เนยว่านำไปใช้ได้กับชีวิตเราจริง ๆ คือทุกคนถ้าเกิดทำหน้าที่ของตัวเองดี ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร มีหน้าที่อะไร ถ้าหน้าที่ของตัวเองดีแล้ว สังคมก็จะดีอย่างที่พ่ออยากให้เป็น ตรงนี้ที่เนยนำหลักคำสอนของท่านมาใช้ พระองค์ท่านตรัสว่า ถ้าเราได้มอบหมายให้ทำงานอะไร เราต้องทำให้เต็มที่ เราต้องไม่เกี่ยง แล้วเราจะสำเร็จ ประกอบกับถ้าเรามีคุณธรรมด้วยแล้ว งานเราก็จะยิ่งออกมาดี”
