ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ภายใต้ร่มพระบารมี เสียงจากหัวใจ “คนบันเทิง” จะขอเป็นคนดีตามรอยพ่อหลวงของแผ่นดิน

คนไทยหัวใจสลาย ร่ำไห้ทั้งแผ่นดิน หลังจากที่สำนักพระราชวังมีประกาศแถลงการณ์เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต โดยวันนี้คนบันเทิงได้แสดงความจงรักภักดีขอตามรอยพระยุคลบาท ในการทำความดีตามรอยพ่อหลวงของแผ่นดิน ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ภายใต้ร่มพระบารมี

ป้าแจ๋ว ยุทธนา : “#ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่เกิดมาฉันก็เห็นแต่ ในหลวงกับสมเด็จฯ มาตั้งแต่จำความได้ ฉันเห็นท่านตามที่ต่างๆ จากทางทีวี เห็นพระราชกรณียกิจที่ท่านทำ เห็นท่านบนปกนิตยสารต่างๆ ทั้ง ศรีสัปดาห์ สตรีสาร สกุลไทย ฯลฯ เห็นท่านบนหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ทุกวัน จนฉันรู้สึกคุ้นเคยและเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะได้เห็น ในหลวง แม้แต่ในบ้าน หรือที่โรงเรียน ก็จะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านแขวนอยู่ ถึงแม้จะไม่เคยได้เข้าเฝ้าใกล้ชิด แต่ก็มีความรู้สึกอบอุ่นใจเสมอ ฉันเกิดมาในหลวงท่านก็เป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว จึงถือได้ว่าฉันเกิดมาในรัชกาลที่ 9 โดยแท้ ฉันใช้ชีวิตเป็นพสกนิกรของท่าน เฝ้าดูพระราชกรณียกิจของท่าน รอฟังพระราชดำรัสของท่านในวันเฉลิมพระชนมพรรษาทุกปี ดีใจ ปลื้มใจจนน้ำตาไหลทุกครั้ง ที่ได้ฟังแนวคิดใหม่ๆ ของท่านจากพระราชดำรัสในวันนั้น ขนลุกทุกครั้งที่เห็นท่านเสด็จพระราชดำเนินกลับพร้อมกับที่เพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลงกระหึ่ม ยิ้มได้ทุกครั้ง ที่เห็นท่านโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลบางๆ ให้กับประชาชนของท่านที่มาเฝ้ารับเสด็จ เห็นพระจริยวัตรอ่อนโยนเป็นกันเองของท่านที่มีต่อราษฎร ฉันจะหยุดทำกิจกรรมต่างๆ เมื่อได้เห็น ในหลวงกับสมเด็จฯ ในทีวี และจะนั่งดูภาพเคลื่อนไหวของท่านในจอ จนรู้สึกเหมือนว่าท่านจะอยู่กับเราตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เวลาผ่านไป ฉันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ผู้คนรอบข้างดูมีอายุมากขึ้น บ้างก็ป่วยและจากไป นั่นเป็นธรรมดาของโลก แต่ฉันก็ยังคงเห็น ในหลวงและสมเด็จฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจของท่านต่อราษฎร อย่างต่อเนื่อง จนดูเหมือนว่าท่านจะอยู่กับพวกเราไปจนฟ้าดินสลาย จนวันหนึ่ง มีข่าวว่า ในหลวง ทรงพระประชวร ฉันใจหายวาบ และรู้สึกได้ว่าเวลาได้ผ่านไปยาวนานโดยไม่รู้ตัว รู้สึกอีกที ก็เมื่อไม่ได้เห็นท่านในทีวีเหมือนเคย ไม่อยากคิดว่าจะไม่ได้เห็นท่านในทีวีอีกแล้ว แต่นั่นเป็นความจริงที่เกิดขึ้น หลังจากที่ได้รับฟังข่าว การประชวรของในหลวง อย่างหวั่นใจ มาหลายวัน ในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ขณะที่ฉันกำลังถ่ายละคร บ่วงหงส์ แถลงการณ์จากสำนักพระราชวัง แจ้งว่า ในหลวง เสด็จสวรรคต แล้ว นักแสดงและทีมงานในกองถ่ายของฉันร้องไห้ ฉันนั่งน้ำตาไหล ใจเต้นแรง มึนหัวไปหมด เหมือนเวลารอบตัวหยุดนิ่ง ฉันถ่ายทำต่อไปได้อีกเพียงฉากเดียว ก็สั่งเลิกกอง เพราะนักแสดงตาบวมแดงก่ำ ถึงจะทำการแสดงต่อได้แต่ก็ไม่ไหวกันแน่นอน ฉันนั่งรถกลับบ้านอย่างเงียบๆ แล้วคิดว่าในที่สุดวันที่ฉันคิดว่าจะไม่เกิดขึ้นก็มาถึง นั่นคือวันสิ้นสุดของรัชกาลที่ 9 แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็ดีใจที่ได้เกิดมาในรัชกาลที่ 9 ได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของท่านมานานแสนนาน”

ท็อป ดารณีนุช : “วันนี้ฉันได้ขี่จักรยานไปกราบลาพ่อหลวงที่ฉันรัก รถบนถนนหนาแน่นมาก ต้องขี่อย่างระมัดระวังคอยขี่หลบหลุมบนถนนและฝาท่อ อุปสรรคแค่นี้สำหรับฉันมันน้อยนิด เพราะเป้าหมายของฉันคือพระองค์ท่าน ขอให้ได้กราบลาท่านให้ใกล้ที่สุดเป็นพอ ตอนขี่ลงสะพานพระปิ่นเกล้าฯฉันเห็นแถลงการณ์ในจอทีวีบนรถตู้ เลยแวะข้างทางและได้เห็นคนในร้านปาดน้ำตา ด้านหน้ามีตำรวจยืนอยู่ ฉันถามว่าแถลงแล้วใช่ไม๊? ทุกคนพยักหน้า เหมือนใครมากระชากหัวใจน้ำตาฉันไหลไม่หยุด ฉันสะอื้นจากในอกอย่างไม่อับอายแต่ฉันหยุดไม่ได้ รู้แต่ต้องออกขี่จักรยานต่อไปเพื่อจะข้ามสะพานอรุณอัมรินทร์ เพราะอีกนิดเดียวฉันก็จะได้กราบท่านแล้ว ขี่มาถึงตีนสะพานคุณตำรวจก็ปิดถนนตรงทางขึ้นสะพาน แต่คุณตำรวจอนุญาตให้เดินขึ้นกระไดตรงทางเดินเท้าข้ามไปได้ ฉันจึงลงแบกจักรยานข้ามไปศิริราช ลงถึงตีนสะพานฝั่งศิริราชก็ปิดไฟหน้าลงเข็นเข้าไป โชคดีที่เจอที่จอดจักรยานคันสุดท้ายฉันผูกโซ่ไว้แล้วเดินงงๆ ฝ่าฝูงชนเข้าไป ผู้คนหนาแน่นตาแดงบ้าง ร้องไห้บ้าง หลายคนเข้ามากอดให้กำลังใจ จากนั้นฉันเดินไปหาพี่ต่าย ไปนั่งรอรับเสด็จ มีขบวนรถพระที่นั่งขบวนเดียวที่แล่นออกไป คุณตำรวจบอกหมดแล้ว จะไม่มีขบวนใดๆ แล้ว ฉันจึงแยกกับพี่ต่ายเดินไปหน้าตึก 100 ปี และหาจุดที่ใกล้พระองค์ท่านที่สุดก้มลงกราบลา ตั้งจิตอธิษฐานขอน้อมถวายบุญกุศลที่เคยทำมาทุกภพทุกชาติแด่พระองค์ท่าน ขอพระองค์ท่านสมปรารถนาไม่ว่าท่านจะปรารถนาสวรรค์สมบัติหรือนิพพานสมบัติ และหากมีบุญวาสนาก็ขอให้เกิดมาได้เป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ขากลับฉันท่องในใจเพียงว่า “ในหลวงของแผ่นดิน” ฉันนึกคำอะไรไม่ออกเลย เพราะทั้งชีวิตและแผ่นดินนี้เป็นของพระองค์ท่านจริงๆ ฉันรู้ แต่ว่าฉันรักในหลวงด้วยดวงใจ”

ปั้นจั่น : “วันแห่งความทรงจำของผมตลอดไป รักพระองค์สุดหัวใจ ผมรู้แค่ว่าผมภูมิใจและรักในหลวงไม่ว่าชาติไหนๆ หากผมมีบุญขอให้ได้เกิดเป็นประสกนิกรของพระองค์ ขอเป็นข้ารองพระบาทรับใช้พระองค์ทุกชาติไป มันคงติดตัวกันมาตั้งแต่ก่อนไหนก็ไม่ทราบ แต่คำว่า จงรักภักดีมันอยู่ในสายเลือดของคนไทย มันอยู่ในตัวผม มันล้างออกไม่ได้ และจะคงอยู่อย่างนี้ตลอดไป”

หนิง ปณิตา : “ณิรินกำลังอยู่ในวัยที่เรียนรู้ สิ่งนึงที่พยายามปลูกฝังลูกคือเวลาไปที่ไหนแล้วเห็นพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านจะบอกลูกทุกครั้ง “ณิริน ธุ ท่านสิลูก นี่คือในหลวง เราอยู่ประเทศไทย ประเทศไทยเป็นบ้านของท่าน พวกเราอาศัยบ้านท่านอยู่นะลูก” จนเมื่อเช้าณิรินมาเล่าให้ฟังว่า “แม๋จ๋า แม่จ๋า เมื่อวานคุณพ่อร้องไห้ คุณพ่อบอกในหลวงไปสวรรค์แล้วแปลว่าอะไร” เช้านี้เลยนั่งคุยกับณิริน ณิรินบอกว่า “แม่ หนูรักในหลวง” ..... เลยบอกณิรินไปว่า “แม่ภูมิใจที่สุด” สัญญากับตัวเองเลยว่าจะสอนลูกให้เป็นคนดี ยึดมั่นใน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม #ข้าพระพุทธเจ้าและครอบครัวขอเกิดเป็นเม็ดดินใต้ฝ่าพระบาทเป็นข้ารองพระบาทอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิ์สมภารทุกชาติไป

วีเจจ๋า : “หากถามว่าใครคือวีรบุรุษและต้นแบบในการใช้ชีวิตของฉัน คำตอบเดียวที่เด่นชัดที่สุด คือ “ในหลวง”... พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมล้นด้วยเมตตา คุณธรรม ความเสียสละ และพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในทุกๆ ด้าน... ฉันเคยสงสัยว่า คนเราจะเก่งทุกอย่างได้อย่างไร แต่การมองพระองค์ท่าน ทำให้ฉันได้คำตอบและแรงบันดาลใจ... เก่งทุกด้าน ไม่ใช่แค่เก่งธรรมดา แต่โดดเด่นถึงขั้นได้รับการยกย่องจากนานาชาติ... ฉันภูมิใจเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาเป็นประชาชนของท่าน ภูมิใจที่ทั่วโลกได้เห็นว่าพระมหากษัตริย์ของเราประเสิรฐเพียงใด และขอดำเนินตามรอยพ่อของเรา ดูแลประเทศไทย โดยการเป็นคนดี พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน เพื่อที่จะพัฒนาประเทศ และผืนแผ่นดินที่รักของพระองค์ท่าน ตราบจนชีวิตจะหาไม่... รักพ่อที่สุด”

คิง สมจริง : “วันที่ลืมตาดูโลกก็เกิดมาในร่มบรมโพธิสมภารของพระองค์ เติบโตมาก็เห็นแต่พระจริยาวัตรอันงดงามที่พระองค์ทำให้แก่พสกนิกร เป็นบุญนักหนาที่เกิดในรัชสมัยของพระองค์#พ่อของแผ่นดิน#วันที่ตื่นมาแล้วหัวใจหายไป#รักในหลวงที่สุดของหัวใจ”

บีม กวี : “ไม่มีท่านแล้ว จากนี้สิ่งที่เราทำได้ คือ เป็นก้อนดินที่ดี ที่คอยดูแลต้นไม้ที่ท่านทรงปลูกให้งอกงามต่อไป #ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9”

กาละแมร์ : “กราบพระบาทพระโพธิสัตว์เสด็จสู่สวรรค์ ลูกจะจดจำสิ่งที่ท่านได้ทรงสอน ลูกจะดำเนินรอยตามทุกขั้นตอน แม้จากจรแต่องค์ท่านคงอยู่ในใจลูกตลอดกาล…ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อปวงชนชาวไทยเสมอ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้านางสาวพัชรศรี เบญจมาศ” พร้อมแคปชั่น “การเสด็จมาของพระองค์ท่านครั้งนี้ มาเพื่อทำภารกิจให้คนไทยทั้งปวง เสียสละทั้งชีวิตให้กับเราทุกคน หยาดเหงื่อทุกเม็ดท่านทำเพื่อคนอื่นเสมอ สิ่งที่จะทำเพื่อท่านได้ในชีวิตนี้ เราจะดำรงตนเป็นคนดี ทำดี ทำเพื่อคนอื่น เพื่อประเทศชาติตราบชีวิตเราจะหาไม่”

กอล์ฟ เบญจพล : “พวกเราจะมีสติและเข้มแข็งให้เร็วที่สุดครับพ่อ #พ่อเหนื่อยมาเยอะแล้ว #พ่อหลับพักผ่อนให้สบายนะครับพ่อ ...รักพ่อครับ #เป็นบุญเหลือเกิน # ที่เกิดมาในรัชกาลที่ 9 #ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย # ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพเจ้า นายเบญจพล เชยอรุณ”