xs
xsm
sm
md
lg

เส้นทางกล เส้นทางคน "โน้ต มายาชวนชื่น" กับโชว์ที่ไม่ใช่แค่ภาพมายา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถูกพูดถึงไม่น้อยสำหรับโชว์มายากลบนเวที "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" ปีที่ 6 หลังหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันได้ใช้หอกหลายต่อหลายเล่มเสียบทะลุเข้าไปในกล่องที่มีผู้ช่วยสาวอยู่ด้านใน

แม้จะรู้ว่าเป็น "มายา" แม้จะรู้ว่าเป็น "กล" แต่งานนี้ก็ทำเอาหลายคนอดที่จะอึ้งไปตามๆ กันไม่ได้ถึงขนาดหนึ่งในพิธีกรต้องถามว่า...เธอไปอยู่ไหนมา? วันนี้ "Suprt บันเทิง" มีคำตอบถึงเทคนิคและที่มาของกลดังกล่าว, เส้นทางของหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า "โน้ต มายาชวนชื่น" รวมถึงผู้ช่วยสาวขาวสวยหมวยอึ๋มนั้นเธอคือใครกัน?

...
แนะนำตัวหน่อย
"ผมยุทธณา ชาลานภาพร หรือ โน้ต มายาชวนชื่น ครับ"

เห็นเราบอกในรายการว่าเคยอยู่กับตลกคณะ "ชวนชื่น" มาก่อน?
"ครับ อยู่ตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปี สมัยคาเฟ่กำลังรุ่งเรืองเลย ก็อยู่ได้ประมาณ 2-3 ปีครับ"

ตอนนั้นหลักๆ เราเล่นเป็นตัวอะไร?
"เป็นตัวเสริมครับ จริงๆ ก็เป็นทุกตัวแหละ เป็นตัวเสริม เด็กยกของขนของ (หัวเราะ) แล้วแต่ใครให้ทำครับ"

แล้วทำไมถึงออกจากคณะ?
"คือผมชอบมายากลมากกว่าครับ ประกอบกับว่าช่วงนั้นตัวเล่นแต่ละคนก็ไปทำอย่างอื่นกัน อย่างพี่ค่อมก็ไปถ่ายหนัง พี่จอยก็ไปถ่ายละคร พี่แฮคก็มีรายการ พี่ต๋องก็ไปเป็นพีธีกร หลายๆ คนเขาก็มีงานประจำ จนทำให้งานคาเฟ่มันหยุดบ่อย ตอนนั้นพี่จิ้มก็มีพิธีกรอยู่หลายรายการ"

"พี่จิ้มเค้าก็เห็นใจเด็กๆ พอตัวเล่นหยุดบ่อย เด็กๆ ก็ไม่มีงาน ไม่มีเงิน เขาก็เลยประชุมกันว่าให้ตัวเล่นมาเล่นได้ไหม แต่เราก็เห็นใจครับ เพราะแต่ละคนเขาก็เหนื่อย แต่ถ้าเขาหยุดเราก็ไม่มีรายได้ เพราะเราก็มีอาชีพเล่นตลกอย่างเดียว ก็เลยคิดว่าถ้ามันไปไม่รอดก็กลับมาเล่นมายากลอย่างเดิมดีกว่าครับ"

"กลับมา" แสดงว่าก่อนหน้าเราเล่นกลเป็นอยู่แล้ว?
"ก็เล่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ ที่ชอบเพราะว่ามันเคยมีนักมายากลคนหนึ่งไปแสดงตอนที่ผมเรียนอยู่ปอ.4 เขามาทำบุญและมาแสดงให้เด็กดู วันนั้นเป็นจุดกำเนิดของผมเลยครับ หลังจากนั้นผมก็พยายามค้นคว้า ไปหาที่เรียนแต่มันไม่มีที่เรียน สมัยนั้นมันจะมีหนังสือมายากลขาย ก็ไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน"

"พอเรียนจากหนังสือก็เล่นให้แม่ดูพ่อดูจนพ่อว่าผมบ้ามากชอบมากใช่มั้ย เขาก็เลยไปหาคนที่รู้จักกับนักมายากลแล้วให้ผมไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราวครับ ตอนนั้นอายุประมาณ 9 - 10 ขวบครับ"

เริ่มจริงจังตอนไหน?
"ประมาณ18 -19 ปี อยากจะหาเงินใช้ ไม่อยากจะรบกวนพ่อแม่ครับเพราะฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดี ก็หลังจากที่ซ้อมด้วยตัวเองถ่ายวิดีโอเอาไว้ดูจนคิดมั่นใจในตัวเองแล้วว่าสามารถไปแสดงให้คนดูได้ ก็ไปตามคาเฟ่ ไปทิ้งนามบัตรไว้ตามคาเฟ่ต่างๆ ไปแสดงให้เขาดู"

"ผู้จัดการบางที่เขาก็อยากลองดู แต่เขาไม่รู้จักเราตามทีวี เพราะเราไม่มีชื่อเสียงน่ะครับ เขาก็ถามเล่นยังไงค่าตัวแพงรึเปล่า ผมก็บอกขอที่ละ 500 บาท เพื่อเป็นการเริ่มต้นครับ คาเฟ่เขาได้ดูเขาก็เห็นใจแนะนำคาเฟ่ต่อๆ กันไปที่เป็นคาเฟ่ด้วยกันครับ จนผมก็ได้เริ่มกำเนิดมาจากคาเฟ่นี่แหละ"

แล้วเราไปอยู่กับชวนชื่นได้อย่างไร?
"มีวันหนึ่งได้ไปเล่นที่นกน้อยคาเฟ่ครับ แล้วตอนที่ผมแสดงอยู่ชวนชื่นเขาก็มาเล่นตลกที่นี่ เขาก็ยืนดูผม ตอนนั้นผมเอาคนเมาขึ้นมาเล่นกับผมบนเวที ผมก็ให้เขาถือผ้าผืนหนึ่งแล้วเราก็เอาผ้าสองผืนมาผูกรวมกันแล้วเอาผ้าใส่ในกางเกงเขาแล้วผมดึงผ้าออกมาโดยมีกางเกงในสีแดงติดมาด้วย"

"มันทำให้พี่จิ้มเขาฮามาก เขาชอบตรงนั้น พอผมลงจากเวทีเขาก็มาคุยกับผม แล้วก็ขอนามบัตรไป จากนั้นเขาก็ถามว่าเป็นไง งานเป็นยังไงบ้าง ผมก็คุยเปิดอกกับพี่เขาว่า พี่ผมมาทำแบบนี้มันจะน่าเกียจไหม คือผมมาขอแสดงผมเอาค่าตัวแค่ 500 เอง มันจะดูเป็นการตัดราคาคนอื่นรึเปล่า"

"แล้วผมยังบอกผู้จัดการร้านด้วยว่าถ้าผมเล่นไม่ดีไม่ต้องให้ตังค์ผม เพราะผมอยากจะแสดงเฉยๆ พี่จิ้มเขาก็เลยสะอึกในคำพูดของผมมั้ง อีกวันก็เลยโทรมาชวนผมไปอัดวิดีโอด้วย เล่นมุกมายากล ให้พี่ค่อมเล่นเป็นเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ตัวปลอม ผมเล่นเป็นตัวจริงอะไรแบบนี้ครับ"

"เล่นแจมสักอาทิตย์หนึ่ง คือชวนชื่นจะเล่นหนึ่งมุกหนึ่งอาทิตย์ พอเล่นครบก็ต้องจากกัน แต่ในระหว่าง 7 วันผมผูกพันกับพวกพี่เขามาก แล้วก็อยากหาประสบการณ์เล่นตลกด้วย ก็โทรบอกพี่จิ้มผมอยากเล่นตลกกับพี่ได้ไหม ผมอยากอยู่กับพี่จริงๆ เขาก็เลยเรียกคนในคณะมาประชุม"

"ก็มากันทั้ง 18 คนเลย ทั้งพี่พ่อดม พี่ค่อม พี่จอย แจ๊ส ทุกคนมานั่งประชุมกัน แล้วให้ผมยืนอยู่ตรงการ พี่จิ้มก็บอกว่าโน้ตเขาอยากมาอยู่ในทีมเรา พวกเรามีความคิดเห็นว่ายังไง ก็ปรากฏว่าทุกคนโอเค ซึ่งเราก็ดีใจมาก จากนั้นก็มาเล่นตลกกับพี่จิ้ม ก็คือช่วงนั้นไม่ได้จับมายากลเลยราวๆ 3 ปี กระทั่งมาแยกจากคณะ"

กลับมาเล่นกลต่อ?
"ตอนที่ออกมาคือพี่จิ้มเขาเห็นว่าทีมมันรวมยากแล้ว เพราะตัวเล่นแต่ละคนเขาได้รายได้ที่ดีกว่า เลยมานั่งประชุมกันว่าแล้วพวกตัวเสริมคนอื่นๆ ใครอยากทำอะไรก็บอก แล้วพี่จิ้มเขาจะให้ทุน อย่างมีเพื่อนที่เป็นตัวเสริมด้วยกันบ้านเขาอยู่ขอนแก่น พี่จิ้มก็พาไปถึงขอนแก่น ก็ไปเปิดร้านชานมไข่มุกให้ เขาก็ไปซื้อมาให้หมดทุกอย่างเลย"

"อย่างผม เขาถามเราจะไปทำอะไร ผมบอกผมมีมายากลอยู่แล้ว เขาบอกงั้นไปซ้อมมาให้ดี แล้วโน้ตพร้อมเมื่อไหร่โทรหาพี่ พี่จะช่วยพาออกงานต่างๆ ครั้งแรกเลยผมได้ชุดเปลี่ยนหน้ากากมาแล้วพี่จิ้มชอบเลยให้ผมไปออกรายการเกมพันหน้า เพราะว่าตอนนั้นผมบอกพี่จิ้มว่าผมจะไปแข่งกลที่ประเทศมาเลเซีย"

"เขาถามว่ามีเงินค่าตั๋วเครื่องบินไหม ผมบอกผมไม่มีเงินเลย เนี่ยผมขายมอเตอร์ไซต์เพื่อจะไปแข่งเอาประสบการณ์ให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะหลายประเทศมารวมกัน เขาเลยให้ผมไปออกรายการเกมพันหน้า ไปขอตั๋วเครื่องบิน ก็ได้มาแล้วครั้งนั้นเป็นจุดกำเนิดให้ผมกลับมาเล่นกลเป็นอาชีพ"

ย้อนไปตอนที่ไปแข่งที่มาเลย์ฯ ผลเป็นอย่างไรบ้าง?
"โอเคนะครับ คือมีผู้เข้ารอบ 55 ทีม18 ประเทศ ผมเข้ารอบ12 คนสุดท้าย ถึงแม้จะไม่ชนะเลิศแต่ก็เป็นคนไทยคนเดียวที่ได้เข้ารอบชิง ตอนนั้นมีคนไทยไปประมาณ 7 ทีม"

มาถึงเรื่องโชว์ที่หลายคนฮือฮาบนเวที "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" ต้องถามก่อนว่าคิดอย่างไรถึงมาประกวด?
"จริงๆ ตั้งแต่ซีซั่นแรกซีซั่นที่ 2 ก็อยากจะประกวดอยู่ครับ แต่ว่ามันมีเพื่อนนักเล่นกลเขาไปออดิชั่นแล้วไม่ผ่านบ้าง บางคนเล่นแล้วโดนคอมเมนต์ไม่ดีบ้าง เพราะว่ามันคือกลน่ะครับ ก็ทำให้เราไม่อยากไป จนมาปีนี้รายการเขาไปดูในยูทูปว่าเราโชว์เปลี่ยนหน้ากาก เขาก็ถามสนใจอยากจะออกรายการบ้างไหม"

"ผมก็บอกสนใจ แต่ไม่กล้า ผมกลัวกรรมการคอมเมนต์ไม่ดี เขาก็บอกถ้าคุณกล้าก็ไม่มีอะไรต้องปิด แล้วผมชอบคำนี้ไงครับ เหมือนมันเป็นการท้าทาย คือกลเราต้องแสดงให้คนดูอยู่แล้ว แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะแสดงให้คนดูทั่วประเทศด้วย ก็เลยตัดสินใจมา"

ทำไมถึงเลือกโชว์ชุดนี้มาแสดง?
"จริงๆ โชว์ตัวนี้มันเป็นของแชมป์โลกที่เล่นสักเมื่อ 10 ปีที่แล้วครับ ตอนนั้นผมก็คิดว่ามันคงมีเทคนิคอะไร เช่นฐานต้องมีกระจก มีโน่น มีนี่ แล้วตอนมันแทงมันแทงน่ากลัวมาก ซึ่งพอมันฉีกลังออกมาลังไม่มีอะไรเลย คือผมที่เป็นนักมายากลแท้ๆ ยังงงเลย เรารู้เทคนิคมาเยอะทำไมชุดนี้เราไม่รู้เลย มันเป็นปัญหาคาใจผมมา10 ปีนะ"

"แรกๆ ก็คิดว่าจะเล่นแต่ก็เลยล้มเลิกคิดเพราะว่ามันไม่มีขาย จนผมได้ดูชุดนี้อีกครั้งหนึ่งก็สะดุด แล้วรู้สึกว่าในบ้านเราไม่มีใครทำแบบนี้เลย ต้องลอง แต่จะลองจากไหนล่ะ หาลังเครื่องซักผ้า ลังตู้เย็น มันก็ไม่ได้มาตรฐานกับตัวผู้ช่วย ที่สุดแล้วต้องไปสั่งทำมา100 ใบ หลังจากนั้นเราก็ซ้อม"

"บอกตรงๆ เลยนะครับตอนแรกแฟนผมโดนแทงเขียวม่วงไปทั้งตัวเลย จนเขาร้องไห้ บอกเลิกเล่นได้ไหมชุดนี้ แต่มันเสียดายครับ (หัวเราะ) ทำกล่องไว้แล้ว 100 ใบครับ มันไม่ใช่ถูกๆ แล้วถ้าเราทำได้สำเร็จเราจะเป็นคนแรกเลยนะ เพราะตอนนั้นบ้านเราไม่มีใครเอามาเล่นเลย"

"ก็ซ้อมจนหมดลังไป 30 ใบครับ แล้วตอนแรกหอกไม้ที่ทำมันเป็นไม้สักผมไปเหลาแหลมเฟี้ยวเลย เหมือนเราเอากบไปเหลาดินสอนั่นแหละ แล้วแทงตอนแรกกระดูกเกือบแตกครับ (หัวเราะ) อันนี้เรื่องจริง"

ตั้งแต่โชว์นี้มา ตอนนี้แทงไปแล้วประมาณกี่กล่อง
"ประมาณ 500 ใบ แสดงมาแล้ว 500 กว่าเวที 500 กว่ารอบ ทำให้เราแม่นขึ้น ตอนนี้ครับหลับตาแทงยังได้เลย"

แสดงว่าเทคนิคมันอยู่ที่การแทง?
"ใช่ครับ มายากลชุดนี้มันต้องรู้ใจกันครับ เราต้องรู้ว่าเขาต้องนั่งอยู่ท่าไหนแบบไหน"

แบบนี้การที่ให้คนนอกอย่างให้กรรมการไปแทงไม่เสี่ยงหรือ? หรือว่าเรารู้กัน?
"ไม่รู้ครับ คือถ้าแทงโดนก็คือโดนเลย ตอนนั้นกาละแมร์แทงโดนนะครับ โดนเสื้อ แต่เจ๊เบนแทงโดนหน้าอกเลยครับแฟนผมตกใจจับหอกข้างใน (หัวเราะ) จริงๆ ที่เล่นวันนั้นที่ผมมาร์ค (mark : สัญลักษณ์, เครื่องหมาย) ไว้ในใจมันคลาดเคลื่อนไปหลายจุดเหมือนกัน คือไม่ได้โดนคนข้างในหรอก แต่มันแทงออกมาแล้วมันไม่สวยครับ"

"อย่างผมไปเล่นตลาดนัดเอาผู้หญิงใส่กล่องไม่ต้องใช้ฐานก็ได้นะ แล้วอันกลางใช้มีดแทงนะครับ แล้วจะต้องเอามีดฟันกล่องให้ขาดให้ดูว่าเคลียร์ทุกอย่าง แต่ออกรายการไม่อยากให้น่ากลัวมากเกินไปเลยใช้เป็นหอกดีกว่า"

สรุปผู้ช่วยคือแฟนเราใช่ไหม?
"แฟนครับผม ชื่อแคท (หัวเราะ)"

แบบนี้ก็ต้องรู้ใจกันสุดๆ?
"ส่วนมากก็ต้องเป็นแบบนั้นครับ ผู้ช่วยต้องรู้ใจเราเราต้องรู้ใจผู้ช่วย ถ้าเราสั่งให้เขาทำแบบนี้แล้วเขาไปทำแบบนั้นมันก็ไม่ได้"

มีแบบว่างอนกันก่อนแสดง พอไปแสดงแล้วเราแกล้งแทงพลาดมั้ย?
"ก็มีคนแซวครับ แทงซะขนาดนั้นอย่างกับโกรธใครมา ก่อนขึ้นมาได้ทะเลาะกันไหม (หัวเราะ)"

ทักษะที่นักมายากลที่ควรมีคือ...?
"หนึ่งคือแก้ไข้สถานะการณ์ได้ สองเข้ากับคนอื่นได้ดี เพราะเราต้องนำมายากลไปเสนอเขาก่อนเพื่อไปแสดงให้เขาดู ผมจะเล่นมายากลให้พี่ดูพี่ดูไหม มันสร้างทักษะให้เราสามารถกล้าแสดงออก ให้เรากล้าพูดกล้าคิด ให้เรากล้าเล่น มันหลายอย่าง แล้วการเล่นมายากลถ้าเรากลัวถ้าเราประหม่าการแสดงมันก็ไม่เนียน"

"เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีสมาธิ แต่ที่สำคัญก็คือเรื่องของการฝึกฝน เราต้องฝึกการเล่น ฝึกการพูด ฝึกการเล่าเรื่องฝึกการนำเสนอให้คนดูว่ามันจริงนะในสิ่งที่เราเล่นแม้ทุกคนจะรู้ว่าเป็นกลแต่ก็ต้องทำให้คนอึ้ง คนสงสัยว่าทำได้อย่างไร"

ทำไมมายากลบ้านเราถึงไม่ค่อยมีการแสดงชุดใหญ่ๆ เหมือนต่างประเทศ?
"ผมว่าเพราะบ้านเรา หนึ่งเขาไม่มีทุน สองมีทุนมีอุปกรณ์แต่ไม่มีที่แสดง สามถึงมีสถานที่แสดงแต่ไม่รู้จะเอาคนดูจากไหน คือพวกอุปกรณ์ชุดหนึ่งมัน 20,000 - 30,000 บาท เลยนะถ้าสั่งจากต่างประเทศ ถ้าจะเล่นให้ครบ 1 ชั่วโมงต้องสั่งมากี่ชุด 7 ชุด 8 ชุด ก็เป็นแสนแล้วครับ ถ้าลงทุนไปแล้วไม่มีงานปีหนึ่งมี 1 งานแบบนี้ไม่มีใครทำกันแน่นอน"

สุดท้ายช่วยบอกหน่อยว่าฝันของเราจากนี้คืออะไร? หรือเราอยากทำอะไร?
"ผมกำลังรวบรวมอุปกรณ์เท่าที่จะทำได้ครับ ตอนนี้มีอุปกรณ์พร้อมแล้ว มีทีมงานพร้อมแล้ว มีประสบการณ์พร้อมแล้ว มีโปรไฟล์ที่คนพอจะรู้จักบ้าง ผมบอกกับแฟนผมเสมอว่าถ้าผมมีโอกาสมีเงิน ถูกหวย ผมจะไปซื้อรถบรรทุกหนึ่งคัน ผมจะเอามายากลไปแสดงตามโรงเรียนต่างจังหวัดที่อยู่ชนบท ที่เด็กๆ ไม่เคยได้เห็นเลย"

"ไปเล่นฟรีครับ ไปเล่นกลางสนามแล้วให้คุณครูเอารถไปประกาศเชิญชวนคนมาชมการแสดงของเราซึ่งเป็นการแสดงละดับโลกมาแสดงให้ดูฟรีนะ อาจจะมีการเก็บค่าเก้าอี้นั่งดูบ้างเพื่อเอาเงินให้กับโรงเรียน ให้เป็นทุนการศึกษาของนักเรียน นี่คือสิ่งที่อยากทำ"

"คือช่วงนี้ผมได้มีโอกาสเดินสายไปกับมหากรรมมายากลนานาชาติซึ่งเป็นของโครงการไทยช่วยไทยอยู่ ก็ไปแสดงให้เด็กดู ส่วนมากเป็นเด็กประถมที่มาดู ความฝันของผมก็มีแค่นี้ไม่มีอะไรมากมายเลยครับ ก็อยากไปเล่นหาเงินช่วยเหลือให้กับเด็กๆ ที่ชนบทอยู่ตามต่างจังหวัดที่เขาไม่มีโอกาสได้ดูแบบนี้เลยครับ..."




นอกเวลางานกับแฟนสาวผู้ช่วย


กำลังโหลดความคิดเห็น