กองปราบฯ ตามล็อกอดีต ตร. หลอกเหยื่อจัดหางานต่างประเทศ อ้างหมุนเงินไม่ทัน

MGR Online - ตร.กองปราบฯ บุกรวบหนุ่มใหญ่คาบ้านพัก จ.ปราจีนบุรี หลอกเหยื่อไปทำในต่างประเทศ ก่อนเรียกเก็บค่าดำเนินการรายละ 45,000-71,000 บาท เสียหายหลายล้านบาท พบมีหมายจับในคดีลักษณะเดียวกันร่วม 7 หมาย รับสารภาพหมุนเงินไม่ทัน

วันนี้ (15 มี.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ ผกก.1 บก.ปคม.นำกำลังเข้าจับกุม นายสมศักดิ์ โอภาโส อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 2 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลในข้อหาฉ้อโกง โดยหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานในต่างประเทศ รวม 7 หมายจับ จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 89 หมู่ 12 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

พล.ต.ต.กรไชยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้หลอกลวงเหยื่อว่าสามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานในประเทศแอฟริกาใต้ได้และมีค่าตอบแทนสูง จากนั้นได้ทำทีพาผู้เสียหายที่สนใจไปตรวจร่างกายทำสัญญาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการรายละ 45,000-71,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง วีซ่า ค่าแปลเอกสาร ฯลฯ แต่ภายหลังจ่ายเงินจำนวนนี้ไปแล้ว ทางผู้เสียหายกลับไม่สามารถเดินทางไปทำงานตามที่มีการกล่าวอ้างและตกลงกันไว้

พล.ต.ต.กรไชยกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเมื่อผู้เสียหายติดต่อสอบถามกับผู้ต้องหาก็จะถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่าติดขัดปัญหาต่างๆ เช่น มีการแจ้งเลื่อนเที่ยวบินไม่มีกำหนด จึงไม่สามารถเดินทางได้ หรืออ้างว่าอยู่ระหว่างประสานกับทางประเทศแอฟริกาใต้ นานวันเข้าเมื่อผู้เสียหายไม่ต้องการเดินทางไปทำงานแล้ว รวมทั้งต้องการขอเงินคืน ผู้ต้องหาก็จะไม่ยอมคืนเงินให้ แล้วปิดโทรศัพท์หนี รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นหลายล้านบาท จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่ายังมีหมายจับติดตัวในคดีความผิดลักษณะเดียวกันอยู่อีก 3 หมาย ในท้องที่ สน.บางนา, สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง และ สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา กระทั่งต่อมาชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.สืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดานอยู่ใน จ.ปราจีนบุรี จึงวางแผนติดตามจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าเคยรับราชการตำรวจยศ “ด.ต.” สังกัด สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ก่อนจะลาออกจากราชการมาประกอบธุรกิจส่วนตัว ทว่า ผลประกอบการไม่ดีและมีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนจึงหันมาก่อเหตุดังกล่าว ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป