xs
xsm
sm
md
lg

“มหาหิงค์” สำนึกผิดก๊อบเพลงวงดังอังกฤษ อ้างแค่วงดนตรีบ้านนอก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หวิดช็อกลือฟ้อง 570 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


วอร์นเนอร์ฯ จับมือ “วงมหาหิงค์” แถลงข่าวก๊อบปี้เพลงวงดังอังกฤษ ลั่นข่าวลือฟ้อง 570 ล้าน ไม่เป็นความจริง ขออุบตัวเลขที่แท้จริง บอกกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่น่ากลัว ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย จุดมุ่งหมายอยากให้คนเข้าใจปัญหาที่แท้จริง ด้านมหาหิงคุ์สำนึกผิด เปิดใจไม่เม้มแคร์ยอดวิว อยากมีเพลงเป็นของตัวเอง โอดแค่วงบ้านนอก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รับหวิดช็อกหลังลือถูกฟ้อง 570 ล้าน เผยหาเงินทั้งชีวิตคงไม่มีปัญญาจ่าย

เรียกว่าเกิดกระแสดราม่ามาพักใหญ่ ๆ จากกรณีที่ “วงมหาหิงค์” ได้นำทำนองเพลง “What You Know” ของศิลปิน “Two Door Cinema Club” จากประเทศอังกฤษ มาใส่เนื้อใหม่เป็นเพลง “สิ่งรอบข้าง” โดยหลังถูกชาวเน็ตทักท้วงว่าเป็นพฤติกรรมไม่ถูกต้อง แต่กลับถูกวงมหาหิงค์สวนกลับด้วยถ้อยคำรุนแรง เป็นเหตุให้แฟนเพลงบางส่วนเกิดความไม่พอใจ พากันร้องเรียนไปยังต้นสังกัดอย่าง บริษัท วอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด รวมไปถึงต้นสังกัดของวงดังกล่าวที่ประเทศอังกฤษ

ล่าสุด วอร์นเนอร์ มิวสิคฯ นำโดย “บอย อภิชาติ หงส์หิรัญเรือง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอร์นเนอร์ฯ ทนาย และสมาชิกวงมหาหิงค์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยวงมหาหิงค์ยอมรับความผิด อ้างทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อนย้ำกระแสฟ้อง 570 ล้าน ไม่เป็นความจริง

มหาหิงค์ : “สวัสดีพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกท่านเลยนะครับ ผมกราบขอโทษนะครับที่ได้ทำการก๊อบปี้ หรือว่าได้เลียนแบบ ด้วยความที่ทำไปอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริง ๆ ต้องกราบขอโทษด้วยนะครับ ในสิ่งที่ทำผิดไป แล้วก็ขอโทษสำหรับพี่ ๆ วง Two Door Cinema Club ที่พวกผมได้เอาเมโลดี หรือว่าเพลงมาดัดแปลงหรือว่าทำอะไรโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต”

ก็ขอโทษแฟนคลับของพี่ ๆ วง Two Door Cinema Club ด้วยครับ ที่ ในตอนแรกพวกผมได้พูดปะทะคารมใน Facebook ก็ต้องกราบขอประทานอภัยจริง ๆ ด้วยความโกรธ โมโห หรืออาจจะพิมพ์ไปด้วยความโมโห ต้องกราบขอโทษจริง ๆ แล้วก็ขอโทษทางแฟนคลับของพวกผมเอง ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังในเรื่องที่พวกผมทำเพลงออกมา โดยที่ไปเลียนแบบหรือว่าอะไรอย่างนี้ ต้องกราบขออภัย แล้วก็สุดท้ายจริง ๆ นะครับ กราบขอโทษพี่ ๆ ทางวอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) นะครับที่พวกผมได้ก่อเรื่องวุ่นวายที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายอย่างนี้นะครับกราบขอโทษจากใจจริงคับผม”

บอย: “ผมขอสรุปเรื่องราวต่าง ๆ ให้เป็นอย่างนี้นะครับ คือ ทางวงเองได้มาคุยกับผมหลังจากที่เกิดเรื่อง แล้วก็ได้มาขอโทษอย่างเป็นทางการไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วผมก็บอกทางวงว่าถ้ามีโอกาสสักครั้งหนึ่งได้มาตอบคำถามต่าง ๆ กับพี่ ๆ สื่อมวลชน ให้กับทุก ๆ คนทราบเรื่องราว ครั้งนี้เหตุเกิดจากการที่น้องเขาได้ทำการละเมิดสิทธิ”

เขายอมรับนะครับเขาไม่ได้ทำการปฏิเสธหรือคิดว่าจะต่อสู้ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นจากแฟนคลับของวง Two Door เอง หรือใครสักคนนี่แหละครับ มีการส่งข้อมูล หลักฐานต่าง ๆ ไปที่ต่างประเทศ บอกว่า ทางไทยมีวงดนตรีวงหนึ่งทำการก๊อบปี้แล้วก็แอบอ้างว่าเป็นทำนองตัวเอง ซึ่งพอเราทราบเรื่องราวแบบนี้เราก็ทำการหาข้อมูล แล้วก็เชิญทางวงเอ มหาหิงค์เขามาชี้แจงครับ ซึ่งทางวงก็ให้ความร่วมมือดี”

“ที่น้องนั้นทำเขาไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่คิดว่าเรื่องเล็ก ๆ นี้จะกลายเป็นเรื่องราว เป็นประเด็นทางสังคมได้นะครับ ทีนี้ผมถือโอกาสนี้ชี้แจงทางกฎกติกา กฎหมาย ข้อกำหนด ข้อต่าง ๆ เรื่องของลิขสิทธิ์นี้นิดหนึ่งเพื่อให้ทางเพื่อน ๆ น้อง ๆ พี่ ๆ ศิลปินที่ติดตามข่าวได้เข้าใจหรือบุคคลทั่วไปนะครับ ได้เข้าใจเรื่องราวของหลักการของเรื่องกฎหมายของลิขสิทธิ์นะครับ จริง ๆ กฎหมายของลิขสิทธิ์ มันยังไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่ากลัวนะครับ”

ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดตายหรือว่าจะเก็บแพงจนรับไม่ได้ แต่การละเมิดนี้เขาวางกติกาไว้สูงเนื่องจากว่าเขาไม่ได้ต้องการเงินจากการละเมิด เขาต้องการที่จะให้ทุกคนเคารพในเรื่องของละเมิดสิทธิ์ ผมก็เชิญคุณสมยศซึ่งเป็นทนายความของทางสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจ ให้ความรู้ให้ความเข้าใจในส่วนของกฎหมายลิขสิทธิ์บทลงโทษเป็นข้อมูลกับพี่ ๆ สื่อมวลชนครับสักนิดหนึ่งนะครับขอเชิญครับ”

ทนาย : “ในส่วนกับประเด็นที่เกิดขึ้นกับวงมหาหิงค์ มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของลิขสิทธิ์ ซึ่งในประเทศไทยจะมีความคุ้มครองเจ้าของลิขสิทธิ์อยู่ ที่เรียกว่าลิขสิทธิ์พุทธศักราช 2537 การที่น้องเขาไปเอาทำนองมาร้องของวงต่างประเทศนี้ มาดัดแปลงแล้วใส่เป็นเนื้อร้องเขาเขาเป็นเพลงไทยนี้ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน ตรงนี้กฎหมายให้ความคุ้มครอง เจ้าของลิขสิทธิ์อยู่ และกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องครับ”

“และการให้ความคุ้มครองเจ้าของลิขสิทธิ์ ก็คือ ให้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวที่จะทำอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับงานที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมา เช่นการทำซ้ำดัดแปลงนะครับ แล้วก็การเผยแพร่ออกสู่สาธารณชน หรือว่าการให้เช่าต้นฉบับก็ได้ นั่นคือสมมุติว่าถ้าเกี่ยวกับวงการเพลง ก็คือ ให้เช่าสิทธิ์บันทึกเสียงนะครับ หรือว่าการโอนสิทธิ์สิทธิประโยชน์ ที่ได้จากลิขสิทธิ์นั้นให้ผู้ใดก็ได้ ข้อสุดท้ายก็คือเขาสามารถอนุญาตให้ใครก็ได้ทำซ้ำหรือดัดแปลงหรือแพร่สู่สาธารณชนก็ได้ อันนี้เข้าเงื่อนไขของวงมหาหิงค์ คือไม่ได้ขออนุญาตตรงนี้”

“ส่วนบทอัตราโทษที่มีวางไว้ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ นี้ ก็คือ ตรงนี้มันเป็นความผิดที่กระทำโดยตรงต่อเจ้าของลิขสิทธิ์ คือ ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้ขออนุญาต ก็จะมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาทนะครับ คราวนี้ถ้ามันมีเจตนาเพื่อการค้าเข้ามาโทษจะมากขึ้นนะครับ มีโทษจำคุกเข้ามาเกี่ยวด้วย มีโทษจำตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี โทษหนักจะสูงขึ้นตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือศาลอาจจะใช้ดุลพินิจ ทั้งจำทั้งปรับก็ได้ตรงนี้”

บอกตักเตือนว่ากล่าวในเบื้องต้น วงมหาหิงค์ยอมรับผิดทุกการกระทำ ส่วนโทษปรับไม่ขอเปิดเผยตัวเลข
บอย : “ต้องให้สื่อมวลชนได้ทราบในข้อกฎหมาย มีการระบุอัตราโทษทั้งจำทั้งปรับเรื่องของการประเมินลิขสิทธิ์ ทีนี้ในเคสของทางมหาหิงค์ หลายท่านก็ทราบว่าทางวอร์นเนอร์ฯ เองมีโทษอย่างไร ข้อแรกเลยเราได้มีการตักเตือนว่ากล่าว ทางวงมหาหิงค์ให้การยอมรับ แล้วก็ขอโทษ แล้วก็ต้องการที่จะขอโทษผ่านสื่อมวลชน ก็ถือว่าทางนี้ได้รับทราบแล้วก็ยอมรับผิดในเงื่อนไขในการกระทำครั้งนี้ ส่วนโทษปรับเราคงมี แต่ผมไม่ขอเปิดเผยตัวเลขในการปรับ จากเมื่อกี้ทางทนายคุณสมยศได้บอกถึงกติกาอยู่แล้วนะครับว่าจะไม่เกินอัตรากฎหมายไทยที่กำหนดแน่นอน แต่เราก็จะมีการพูดคุยอีก เพราะผมก็อยากจะให้เรื่องนี้มันชัดเจนแล้วก็หลายวงหรือหลาย ๆ ท่านที่ติดตามข่าวเขาได้ทราบถึงบทสรุปของเรื่องนี้”

“เรามีการปรับมีการลงโทษ เราได้แจ้งน้องเขาแล้วว่าทางเราเองไม่สามารถที่จะปล่อยปละหรือปล่อยเลยผ่านเรื่องนี้ได้ เพราะเราไม่อยากให้มันเป็นมาตรฐานที่ผิดของสังคม เมื่อทำผิดต้องขอโทษ เมื่อทำผิดต้องยอมรับการลงโทษในสิ่งที่เราอยากย้ำตรงนี้ให้พี่ ๆ สื่อมวลชนทุกคนทราบ แล้วก็ให้แฟน ๆ หรือผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องนี้ได้ทราบอย่างตรงไปตรงมาครับ”

อ้างไม่บอกตัวเลขที่แท้จริงเพราะต้องให้ศาลเป็นผู้กำหนด ย้ำจิตสำนึกสำคัญกว่า
บอย : “คือทางเราได้แจ้งแล้วนะครับว่าโทษปรับทางกฎหมายมีระบุไว้แล้วครับ 1 - 2 แสนบาท กรณีที่ไม่มีการค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้ามีการค้าเข้ามาเกี่ยวข้องนี้มีโทษจำด้วยแล้วก็มีโทษปรับด้วยนะครับ โทร. ปรับนี้จะสูงถึง 8 แสนบาทนะครับ ทางวงไม่ได้เอาเพลงไปใช้ในการแสดง”

“คือถ้าจะให้กฎหมายมันกำหนดว่าเท่าไหร่ เราก็ต้องดำเนินการทางกฎหมายนะครับ เพราะต้องให้ศาลเป็นผู้กำหนด ซึ่งถ้าเราบอกว่าต้องการปรับให้วงเขาสำนึก คือต้องเข้าใจก่อนว่าการลงโทษที่ดีที่สุดคือการทำคือการยอมรับ แล้วสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำผิดไป สำคัญกว่าทุก ๆ อย่างนะครับ วันนี้วงเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกจะต่อต้านหรือมาต่อสู้หรืออะไรทั้งสิ้น เขายอมรับในสิ่งที่เขาทำผิด ผมก็หวังว่าสังคมจะให้โอกาสน้องเขาได้ทำงานตรงนี้ต่อนะครับ แล้วก็ในเรื่องนี้เรื่องเงินผมคุยกับต่างประเทศครับ เขาบอกว่าเรื่องเงินอาจจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำหรับเราคือความเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ดนตรีในเมืองไทยมากกว่านะครับอันนั้นเป็นเป้าหมายสำคัญนะครับ”

“ผมไม่ได้คุยกับวงโดยตรงนะครับ ผมคุยกับทางต้นสังกัด ก็คือ ทางวอร์นเนอร์ มิวสิค ที่อังกฤษ ที่ UK เขาทราบข่าวจดหมายที่เขาส่งมาให้เรานี่เป็นจุดหมายให้ทางวงเขาเซ็นยอมรับว่าเขาได้มีการทำอย่างนี้จริง ต่างประเทศรับรู้ทุกกระบวนการนะครับ ไม่ใช่เราทำเองโดยพลการที่นี่ ทุกอย่างมีการอธิบายชี้แจงไปที่ต่างประเทศหมด”

บอกเป็นแค่วงดนตรีบ้านนอก ก๊อบเมโลดีเพลงดังเพราะอยากมีเพลงเป็นของตัวเอง หลังถูกถามตลอดว่าดังจากเพลงไหน ส่วนตอบโต้ชาวเน็ตเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
วงมหาหิงค์ : “ตอนแรกวงผมต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนบ้านนอกจริง ๆ เป็นวงที่อยู่โคราช เป็นวงที่รับงานคือผมคัฟเวอร์เพลงทั่วไปเล่นอยู่นะครับแล้วทีนี้งานมันเยอะมาก ส่วนใหญ่ผมก็เจอคำถาม มหาหิงค์มันดังเพลงอะไรวะ อันนี้ผมเจอคำถามแบบนี้ครับ ผมก็เลยทำเพลงออกมาทั้งหมดประมาณ 5 - 6 เพลง แต่สิ่งรอบข้างนี่ผมได้ฟังผมชอบเมโลดี้กีตาร์มาก ผมยอมรับว่า ผมอาจจะได้รับอิทธิพลจากเพลงนี้มามาก แล้วเอามาทำการเขียนเนื้อใหม่ โดนเอาเมโลดี้กีตาร์มาเป็นเพลงสิ่งรอบข้างครับยอมรับครับ ซึ่งเราประกาศไปแล้วว่าจะไม่เล่นตั้งแต่ที่เกิดเรื่องแล้วครับ”

บอย : “ขอเสริมนิดหนึ่งนะครับ โดยปกติถ้าในเรื่องของลิขสิทธิ์ ในวงดนตรีต่าง ๆ จะเห็นว่าไม่ใช่เฉพาะวงเอ มหาหิงค์ ในอดีตที่ผ่านมามีค่ายเพลงไทยหลายค่ายนะครับวงดนตรีหลายวงที่นำทำนองของต่างประเทศมาแล้วใช้เนื้อเพลงไทยในการทำงาน เราสามารถทำได้ถ้ามีการขออย่างถูกต้อง เราเรียกว่าอะแด๊ป ถ้าดนตรีนี้ชอบเมโลดี้นี้ใช้ทำนองทำงานดนตรีชิ้นใหม่ขึ้นมา อันนี้มันเป็นเรื่องปกติแต่ต้องขออนุญาตนะครับ การขอไม่ได้เป็นสิ่งที่ยาก”

วงมหาหิงค์ : “จริง ๆ แล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมทำขึ้นมา 3 ปีที่แล้วครับ ซึ่งผมได้ทำขึ้นมาโดยการเอาเมโลดีของเพลง What You Know ของศิลปิน Two Door Cinema Club แต่ทีนี้ผมรู้สึกว่าเพลงนี้มันลงไปปุ๊บ มันมียอดวิวสูงมากภายในหนึ่งเดือน ก็มีฐานแฟนเพลงของพี่ ๆ Two Door Cinema Club มาด่ามาว่าผม ซึ่งผมลบออกไปตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ปีที่แล้ว เขามาด่าเนี่ยผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดประเด็นใหญ่ขนาดนี้ อันนี้ผมยอมรับเพราว่าผมเพราะผมพิมพ์ตอบโต้ไป ด้วยความที่ใน facebook ผมบ้าน ๆ ผมขอกราบขอโทษครับ ผมจะพูดคำพวกนี้คือพวกผมคุยกันในวงก็ไม่ได้พูดเพราะกันอยู่แล้ว ที่นี้พอมาเจออย่างนี้ปุ๊บเป็นความที่ผมโกรธโมโหจริง ๆ เป็นอารมณ์ที่ทำไปแล้วก็ไม่คิดว่าเขาจะแคปมาแล้วก็เอามาพูดให้เป็นประเด็นใหญ่จนถึงทุกวันนี้ครับ

“ผลกระทบตอนนี้ถ้าในเรื่องของงานยังไม่รวน งานยังไม่โดนถอน แต่ว่ากระแสลบก็มีแบบว่าพวกผมก็ไม่มีหัวคิดอะไรอย่างนี้ครับ อันนี้ต้องขอโทษจริง ๆ ผมได้รับอิทธิพลจากเพลงนี้มาจริงๆ เพราะผมชอบ แล้วผมก็ทำ แต่ผมทำผมไม่ได้ไปทำปั๊มแผ่นขายหรืออะไร ผมทำมาใส่ยูทิวบ์ เพื่อให้เป็นเพลงที่ผมเล่นบทเวทีสนุกสนานแค่นั้น”

โอดเข็ดแล้ว ล่าสุดมีเพลงใหม่แต่ไม่กล้าปล่อย
วงมหาหิงค์ : “ผมมีเพลงแล้วครับแต่ผมไม่กล้าปล่อยออกมา เป็นเพลงที่แต่งเองครับ ทำเอง คือต้องบอกพี่ๆ เลยนะครับผมทำเพลงในห้องนอนครับ ไปดูได้ครับ ใครอยากตามไปดูห้องทำเพลงผม ผมพาไปได้ตู้ที่ผมอัดร้องเป็นตู้อบซาวน่าเก่าที่เขาเลิกใช้แล้วผมเอามา ยกขึ้นมาบนห้อง ถามทุกคนได้ ไปดูได้ครับ คือ ผมไม่ได้มีเจตนาที่มาทำขายเป็นกิจลักษณะผมทำแค่เพื่อให้ผมเล่นบนเวทีแล้วคนที่เขามาดูผม เขาจะรู้สึกไม่เสียดายเงินที่เขาเสียบัตรเข้ามาเองนั้นเองครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจริง ๆ ครับ”

“ผมทำออกมา 6 เพลงครับชื่อเสียงผมไม่ได้ก็อปทุกเพลงครับ ผมเอาเพลงเมโลดี้มาก็เพราะว่าผมอยากมีเพลงเร็ว พี่ไปดูในยูทิวบ์นะครับ ผมทำเพลงออกมา 6 เพลงทั้งหมด มีแต่เพลงช้า มีสวยควายตาย เพลงล่าสุดที่ทำออกมาเป็นเพลงเร็ว ไม่ได้คิดอะไรเหมือนกัน พี่ไปดูเนื้อหาผม ถ้าผมคิดอะไรผมไม่ตั้งชื่อเพลงสวยควายตายหรอกครับ เอาจริง ๆ อันนี้พูดด้วยการเป็นตัวของผมเองเลยครับ”

“ผมทำให้เกิดงานจ้างเฉย ๆ เจ้าภาพเขาชอบถามเวลาโทร.มาหาเราดังเพลงอะไร ทำไมงานเยอะจังคนดูเยอะ ผมเจอคำถามแบบอยู่บ่อย ๆ ผมก็เลยต้องทำเพลงออกมา แฟนคลับผมก็มีบางส่วนที่ผิดหวังที่พวกเราไปก็อบเขามา แต่บางส่วนเขาก็ให้กำลังใจอยู่ ตอนแรกเราลบไปแล้วแต่แฟนเพลงเสียดายเนื้อหาเพราะเป็นการให้กำลังใจ ถามว่าผมสีเครดิตตัวเองเพราะอะไร เพราะผมได้ทำการแก้ไขอันใหม่ ซึ่งก็ยอมรับว่าผมเลียนแบบก๊อบปี้มาครับ”

ตอนนี้เข็ดครับ ผมก็คงจะไม่ไปเอามาอีก แต่ถ้าผมสนใจอันไหนผมก็จะมาหาพี่บอยที่วอร์นเนอร์ฯ ครับ ว่าพี่ครับผมอยากทำเพลงนี้เอาเพลงอังกฤษเพลงนี้มาให้ผมทำได้มั้ย ผมจะขออย่างถูกต้องครับ”

แจงไม่ได้ไปจิกวงมหาหิงค์ให้มาขอโทษ แต่ติดต่อหาทางออกร่วมกัน
บอย : “จริง ๆ แล้วสมัยนี้อินเตอร์เน็ตมันเร็วมากนะครับ บางครั้งข้อมูลข่าวสารมันปิดกันไม่มิด แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เราทราบอย่างหนึ่งคือเอ มหาหิงค์เป็นแฟนคลับ Two Door Cinema Club ถึงรู้จักเพลงนี้แล้วก็เอามาใช้ แล้วก็มีคนในวงการและแฟนคลับ Two Door Cinema Club เขาเห็น จริงๆ เราได้รับการร้องเรียนมาส่วนหนึ่งก่อนหน้านี้ จนกระทั่งมันเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาคือการปะทะคารมกันระหว่างวงกับแฟนคลับของใครก็แล้วแต่ เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาวัน นี้ซึ่งผมก็ได้ตักเตือนน้องว่าวันนี้โลกหรือโซเชียลเรานี้การที่เราจะพูดอะไรหรือทำอะไรก็แล้วแต่มันเร็วมากเลยครับ มันก็ไม่ดีกับทางวงหรือกับใครทั้งสิ้น”

“ทางวอร์นเนอร์พอทราบข่าวทางเราก็บอกทางมหาหิงค์ เขาก็บอกว่าเขาไม่รู้จัก เขาไม่รู้เลยว่าต้องติดต่อยังไงอะไร งั้นเราก็บอกน้องเขาหน่อยว่าเข้ามาคุยกันซักนิด จะได้หาทางออกร่วมกัน ซึ่งทางมหาหิงค์เองก็ให้ความร่วมมือทุกอย่าง ไม่อิดออด อยากจะมาวันรุ่งขึ้นเลย แบบ โทร.ปุ๊บก็อยากจะมาคุย คือพวกเขาไม่สบายใจจริงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น อันนี้เป็นความจริงที่ทางเราได้คุยกัน เขาก็ตรง ๆ ซื่อ ๆ แบบนี้”

ย้ำไม่เกี่ยว Two Door Cinema Club กำลังจะมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย
บอย : “อันนี้คงไม่เกี่ยว (หัวเราะ) ไม่เกี่ยวกันนะครับ คือ ผมก็มีคำถามหลายครั้งว่าตั้งใจหรือเปล่า จริง ๆ ไม่เกี่ยวกันเลยครับ Two Door เขามาของเขา เราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเกี่ยวข้องกัน บางคนก็ถามแล้วถ้า Two Door มา มหาหิงค์จะไปดูจะไปเล่นมั้ย ผมก็มองว่ามันไม่เกี่ยวกัน คงไม่ได้เอามารวมกันแบบนั้นครับ ไม่เกี่ยวกันครับ”

เปิดใจไม่เม้ม แคร์ยอดวิว บอกเป็นสิ่งที่ต่อยอดหาเงินเลี้ยงครอบครัว
วงมหาหิงค์ : “ผมแคร์ คือพวกผมทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ทำงานอะไรเลยนอกจากเล่นดนตรีอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนครับการเล่นดนตรีของพวกผม จุดมุ่งหมายคือหาเงินเลี้ยงครอบครัวเหมือนกันครับ แต่เราก็ต้องรักดนตรี รักก่อนแล้วสิ่งตอบแทนที่ได้คือเงินที่มาเลี้ยงดูครอบครัว ทุกคนคือเสาหลักของครอบครัวหมดครับ นั่นคือสิ่งที่พวกผมต้องต่อยอดให้วงครับต้องเอาเพลงมาทำ”

ที่บอกว่าเราแคร์ยอดวิวมากกว่าความถูกต้อง ยอดวิวเยอะก็ดีครับ อันนี้คือถามว่าแคร์มั้ย ผมแคร์ก็แคร์ครับ เพราะว่าการที่มีคนไปดูเยอะ ๆ ผมก็ชอบครับ เพราะว่าเขาจะได้รู้จัก แต่ถ้าถามว่าแคร์ยอดวิวมากกว่าความถูกต้องมั้ย ความถูกต้องผมไม่รู้เลยว่าที่ผมทำนี้มันอยู่ในเรื่องของกฎหมายเยอะมาก ตรงนี้ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ ครับอันนี้ผมบอกตรง ๆ”

ยอมรับสุดอึ้ง ข่าวลือจะถูกฟ้อง 570 ล้านบาท บอกหนักไปสำหรับวงบ้าน ๆ หาเงินทั้งชีวิตคงไม่มีปัญญาจ่าย
มหาหิงค์ “ตอนนั้นผมรู้สึกอึ้งครับ แล้วผมก็ปรึกษาผมจะรวมเงินกันหาทนายด้วย เพราะว่าเงิน 570 ล้าน ชีวิตนี้ผมก็หาไม่ได้ครับ เราหาทนายคืออย่างน้อยให้มาไกล่เกลี่ยให้มันเหลือน้อยที่สุดครับ (หัวเราะ) เตรียมใจครับคิดว่าต้องเจอแน่ คือ ตอนนี้อะไรจะเกิดพวกผมไม่รู้ แต่ที่เขาพูดมาคือเงิน 570 ล้าน มันหนักแน่สำหรับผม หาเงินทั้งชีวิตก็ไม่ได้ เราไม่หนีครับ ถ้าติดคุกก็ต้องติด ถ้าเกิดไกล่เกลี่ยได้ก็เป็นโชคดีของวงพวกผมไปครับ”

บอย : “ที่บอกว่าฟ้อง 570 ล้านนี่ไม่จริงครับ อันนี้คือสิ่งที่เรากังวลผมไม่อยากให้ข้อมูลข่าวสารที่ผิด ๆ อยู่ในโซเชียลนะครับ ก็มีความกังวล อย่างที่เขาได้ให้สัมภาษณ์ครับ เขาเดินมาหามาคุยกับทางวอร์นเนอร์ฯ เขาก็คุยตรง ๆ คุยซื่อ ๆ เขากลัว เขาก็เป็นนักดนตรีคนหนึ่งในวงการเพลงครับ มีความสามารถในการแสดง ก็อยากจะมีพื้นที่ของตัวเองแล้วก็ทำด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เขาก็ขอโทษทางผมว่าเขาไม่น่าไปใจร้อนอารมณ์ชั่ววูบปะทะคารมกับคนอื่นเลย มันก็ทำให้เขารู้สึกผิดมากในเรื่องนี้ครับ”

แล้วก็ 570 ล้านนี่เขาก็บอกผมว่าเขาจะไประดมเงินทุนญาติพี่น้องทั้งหมู่บ้านมา ผมบอกว่าไม่เป็นไรใจเย็น ๆ เรามาคุยกัน สิ่งแรกเราอยากทำให้เรื่องนี้ชัดเจนครับ อยากให้ทุกคนทราบเรื่องของกฎหมายลิขสิทธิ์ เรายอมรับว่าในเมืองไทยความรู้เรื่องลิขสิทธิ์ยังน้อยอยู่ ซึ่งพวกเราคงต้องทำการให้ความรู้เรื่องนี้ต่อไปนะครับ วันนี้ผมโทร.คุยกับทางต่างประเทศ ซึ่งเขาบอกผมว่าเงินอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญที่ทางวอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย) ต้องการคือให้ความกระจ่าง”

บอย : “ส่วนต้องไปไกล่เกลี่ยเมืองนอกมั้ย คือปกติในทางต่างประเทศเขาก็ต้องดูความเหมาะสมเหมือนกัน คือ ทางน้องเขาไม่ได้ไปปั๊มแผ่นซีดีขาย หรือเขาไม่ได้ไปเดินสายโปรโมตครับ เขาก็แค่ทำขึ้นมา เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเร็วกว่ากฎหมาย วันนี้ใคร ๆ ก็อัปเพลงลงยูทิวบ์ทุกวันตามเก็บก็คงไม่หมด การให้ความรู้สำคัญกว่า การให้คนเข้าใจในหลักการสำคัญกว่าครับ เราไม่ได้ไกล่เกลี่ยถึงขั้นต้องยกโทษให้วงนี้เราทำอย่างนั้นไม่ได้ ต้องทำตรงไปตรงมาครับ”

วงมหาหิงคุ์ : “ตั้งแต่เกิดเรื่องผมไม่เล่น Facebook เลย ผมโพสต์แค่เพลงร้องให้กับฉัน เข้าไปดูได้ เพราะว่าเนื้อหาเพลงนี้ เพลงพี่เสือ ธนพล ครับ ผมชอบมาก ผมร้องทุกงานครับ”

บอย : “ไปขอพี่เสือด้วยนะ”

วงมหาหิงค์ : “ครับ (หัวเราะ)”


กำลังโหลดความคิดเห็น