“บีม ศรัณยู” ควงภรรยา “ชาช่า” ตั้งโต๊ะแถลง เดือดแตกถูกโจรขโมยบัตร ATM กดเงิน 5 นาทีสูญเงินนับแสน เผยล่าสุดได้เงินคืนเต็มจำนวนแล้ว แต่ขอเอาเรื่องโจรให้ถึงที่สุด รับผิดสะเพร่าเองไม่ใช่ความผิดธนาคาร ออกมาโพสต์ฉะเพราะร้อนใจ แนะธนาคาร - สน. ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อประหยัดเวลา
ออกมาตั้งโต๊ะแถลงกรณีโดนคนร้ายขโมยบัตร ATM ไปกดเงิน 5 นาทีสูญเงินกว่าแสน งานนี้ “บีม ศรัณยู ประชากริช” ควงภรรยา “ชาช่า ภักค์ไพบูลย์” เปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชนหลังถ่ายรายการ “บันเทิง 8 HOT NEWS” ทาง “ช่อง 8” ระบุตอนนี้เรื่องคลี่คลายได้เงินคืนเต็มจำนวน (159,500 บาท) แต่ยังยืนยันเอาเรื่องคนร้ายให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัย แนะธนาคาร และ สน. ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อการประหยัดเวลา
ชาช่า : “วันนั้นช่ากำลังขับรถไปออกกำลังกาย แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีแมสเสจเตือนขึ้นมาว่าเงินออกจากบัญชีไป 500 บาท เราก็ตกใจ สักพักเงินก็ออกไปทีละ 2 หมื่น ติด ๆ กัน เราก็เลยขับรถกลับ เพื่อเตรียมไปแจ้งความ แต่ระหว่างทางก็ โทร.ไปหาคอลเซ็นเตอร์ธนาคารกสิกร เพื่อจะอายัด แล้วก็ถามว่าคนที่กดเขาคนที่ไหน เขาก็บอกมาว่ากดแถวตู้ที่ตลาดนำชัย แล้วก็ให้รหัสตู้เอทีเอ็มมา พอเราทราบ ระหว่างทางเราก็ขับรถไปรับบีม เพื่อที่จะไปแจ้งความที่ สน.ลุมพินี ด้วยกันค่ะ”
บีม : “ก็ไปแจ้งความที่ สน.ลุมพินี รับแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เราก็นำเอกสารแจ้งความไปที่ธนาคารกสิกร”
ชาช่า : “ที่เอาเอกสารแจ้งความไปที่กสิกรเพราะเราทราบแล้วว่ารหัสตู้เอทีเอ็มเลขอะไร แต่ว่าเราอยากจะได้เป็นลายลักษณ์อักษรเผื่อเอาไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าทางตำรวจหรือธนาคารอื่นต้องใช้หรือเปล่า แล้วก็ไปสอบถามธนาคารธนชาตกับธนาคารกรุงไทย ว่า เราอยากขอดูกล้องวงจรปิดต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ทางธนาคารก็บอกว่าต้องเอาหนังสือรับรองที่เป็นตราครุฑมา”
ลั่นถูกขโมยบัตรเอทีเอ็ม ใช้ไปแค่ 5 นาที ฟาดแสนห้า
ชาช่า : “บัตรโดนขโมยไปค่ะ เพราะว่าวันที่เกิดเหตุการณ์ ช่าไม่ทราบเลยว่าบัตรเอทีเอ็มหาย ระหว่างที่เราอายัดเราก็เช็กบัตรในกระเป๋าเรา มันก็ไม่มี บัตรนี้ไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ นาน ๆ ทีจะกดเงินจากบัตรนี้”
“ความที่เราไม่ค่อยได้ใช้ เราก็เลยตอบไม่ได้ว่ามันหายไปตั้งแต่วันไหน เราก็คิดว่าเรากดแล้วใส่กระเป๋าตังค์ คือเวลากดเงินเสร็จเราก็คิดว่าเราใส่กระเป๋าแล้วก็จบไป ไม่ได้มานั่งเปิดเช็กทุกวันว่าบัตรอยู่รึเปล่า”
บีม : “รู้ตัวอีกทีก็คือ มี SMS แจ้งเตือนว่าเงินออกไปหมดเลย ภายใน 5 นาที ยอดที่โดนกดไปคือ 159,500 บาท”
ชาช่า : “บัตรเป็นบัตรกสิกรค่ะ แต่ผู้ร้ายเอาไปกดที่ตู้กรุงไทย กับ ธนชาต”
โพสต์โวยตำรวจเพราะตนต้องเทียวไปเทียวมาติดต่อทั้งวัน บอกทำเสียเวลา แถมยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
บีม : “ครับ เราไป สน.ลุมพินี เพื่อขอใบรับรองที่มีตราครุฑ เพื่อนำไปขอภาพวงจรปิดต่าง ๆ แต่ทางร้อยเวรตอนแรกไม่กล้าออกหนังสือรับรองให้ เนื่องจากกลัวว่าอำนาจหน้าที่เขาจะไม่พอ เพราะเราไม่ทราบว่าทำบัตรหายที่ไหน แต่คาดว่าหายในท้องที่ลุมพินี ก็คือ แถวบ้าน เขาก็ไม่กล้าออกให้ เขาแนะนำให้ผมขับรถไป สน.ลาดกระบังเพื่อแจ้งความที่นั่น เพราะเขาบอกว่านั้นคือความผิดซึ่งหน้า แล้วทราบว่าคนร้ายกดที่ตู้ตลาดนำชัย ลาดกระบัง ให้ไปแจ้งความที่นั้นดีกว่า เขามีอำนาจเต็มที่กว่า”
“เราสองคนก็ขับรถไปชม.กว่า ไปถึงทางตำรวจที่รับคดีที่นั่นก็บอกว่าไม่สามารถออกหนังสือรับรองให้ได้เช่นกัน ทำไมถึงมาแจ้งปลายเหตุ ถ้าคนร้ายไปกดเชียงใหม่ หรือจังหวัดอื่น ๆ คุณไม่ต้องตามไปแจ้งความที่นั่นเหรอ มันก็มีเหตุผลนะครับ ซึ่งเราก็อ้าววิ่งไปวิ่งมาทั้งวันเลย เสียเวลามาก”
ชาช่า : “ก็เลยต้องขับรถกลับไปที่ สน. เดิมอีก”
บีม : “แต่ต้องเรียนตามตรงว่าทาง สน.ลาดกระบัง เขาออกให้ได้นะ แต่ว่าเราต้องขอสเตจเม้นทต์หลักฐานที่ชัดเจน”
ชาช่า : “แต่ทางธนาคารยังไม่สามารถปรินต์ออกมาให้ได้ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ในวันนั้นเลย มันต้องรออีกวันหนึ่ง สรุปที่ทำได้วันนั้นคือ ให้โทร.เช็กทางคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งช่าทำไปตั้งแต่ขับรถตอนแรกแล้ว”
บีม : “หลังจากขับไปกลับสอง สน. เราก็เลยขับไปดูสถานที่เกิดเหตุเอง ซึ่งไม่ได้เป็นตู้ของสาขาด้วย เป็นตู้ลอยอยู่ในตลาด เราก็ไปดูพื้นที่เบื้องต้นที่คนร้ายกดเงินช่วง 11 โมง และหลังจากนั้นเราก็ไปที่ สน.ลุมพินี อีกรอบ ได้เจอร้อยเวรท่านเดิม ก็ยังออกใบรับรองให้ไม่ได้ เพราะเขาขออนุญาตปรึกษาเพื่อนเขาก่อน เขาไม่แน่ใจว่าจะเกินอำนาจหน้าที่เขามั้ย เขากลัวมีความผิด แล้วเผอิญผมก็ได้พบกับรองสารวัตร หรือหมวดเบนซ์ เขามีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องของการทำใบรับรองที่มีตราครุฑ ซึ่งขอธนาคารเป็นประจำอยู่แล้ว คงเจอคดีแบบนี้เยอะ ท่านก็เลยออกหนังสือแจ้งความให้เราภายใน 15 นาที และให้เรานำกลับบ้าน เพื่อวันรุ่งขึ้นคุณช่าจะได้เอาไปส่งที่ธนาคารครับ”
“ถามว่าโกรธมั้ยก็คือมันค่อนข้างใช้เวลาทั้งวันจริงๆ ตั้งแต่เที่ยงจนถึงสามทุ่ม สรุปก็ไม่ได้อะไรเลย มาได้ตอนสุดท้ายที่หมวดเบนซ์เขาจัดการให้”
ชาช่า : “ต้องบอกก่อนว่าที่ช่าไปธนาคารกสิกรตอนแรก ธนาคารมารยาทดี น่ารัก แต่ว่ามีนิดหนึ่งที่เหมือนกับตอนเราไปเราขอบัตรคิวทุกอย่าง เราเข้าใจว่าทุกคนรีบเหมือนกัน แต่เราก็สอบถามว่าเราเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราต้องรอคิวมั้ย เขาบอกต้องรอ เราก็เข้าใจ แต่สรุปแล้วเราต้องรอแค่ที่คอลเซ็นเตอร์อย่างเดียว เราก็เลยมีความรู้สึกนิดหนึ่งว่าถ้าบอกตั้งแต่แรกก็จบ ก็อาจจะสื่อสารกันผิดพลาด แต่ก็โอเคพนักงานน่ารักทุกคน มารยาทดีทุกคนค่ะ”
บีม : “เรารอที่ธนาคารกสิกรประมาณ 40 นาที เราต้องเดินไปจี้พนักงานต้อนรับว่าบัตรเราหาย ทางพนักงานก็เลยไปถามเจ้าหน้าที่ที่ระดับสูงกว่าเขา เขาก็แนะนำว่าต้องให้โทร.ที่คอลเซ็นเตอร์”
ชาช่า : “วันรุ่งขึ้นก็โชคดี ที่ผู้อำนวยการฝ่ายอิเล็กทรอนิกส์ได้โทร.มาประสานงานกับช่าว่าจะอำนวยความสะดวกยังไง เตรียมตัวยังไง เอาเอกสารอะไรไปให้ที่ไหน ก็ต้องขอบคุณมาก ๆ เลย หลังจากนั้นก็เอาไปยื่นที่ธนาคาร แต่ต้องบอกว่าแต่ละธนาคารเขามีวิธีการที่ไม่เหมือนกัน ธนชาตให้เราส่งเอกสารที่สาขาไหนก็ได้ แต่กรุงไทยต้องให้ตำรวจไปยื่น แต่ละที่จะไม่เหมือนกันเลย”
บีม : “อารมณ์ตอนนั้นคือหลากหลาย และต้องใช้เวลา ทีนี้ผมก็ได้คุยกับธนาคารหลังจากนั้น ธนาคารเขาก็บอกว่าระบบมันไม่เหมือนกัน กว่าจะทำเรื่องให้ฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ คือมันต้องใช้เวลา แต่ด้วยเราเป็นผู้บริโภคเราก็อยากทราบเร็วที่สุด”
ชาช่า : “ส่วนตัวช่าพอทราบอยู่แล้ว แต่เราไม่สบายใจแน่นอน รู้สึกว่าไป ๆ มา ๆ หลายที่จังกว่าจะได้ข้อมูล แต่ไม่ได้รู้สึกว่าธนาคารทำล่าช้า เราทราบอยู่แล้วว่าธนาคารเป็นองค์กรใหญ่ ทุกอย่างมันต้องตามขั้นตอนของแต่ละธนาคาร”
ขอโทษรีบโพสต์ฉะเพราะร้อนใจ
บีม : “คือหลังจากนั้นก็ได้ภาพวงจรปิดมาจากทางสน. ธนาคารกรุงไทยก็ใช้เวลาส่งให้ภายใน 3 วัน แต่ด้วยความล่าช้าเองของทาง สน. ผมก็เพิ่งได้ภาพเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และได้เห็นเป็นภาพช่วงล่าง ซึ่งเราก็สงสัยว่าทำไมเราถึงไม่เห็นได้แบบชัดเจน ผมก็ได้โพสต์ และได้พูดคุยกับรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทีมย่อยเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์เป็นการส่วนตัว และได้ขอโทษท่าน ที่เราได้โพสต์อะไรพวกนี้เพราะเราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ภาพแบบนั้นมา”
“ท่านก็ได้ขอโทษส่วนตัวและบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล ท่านรีบเซ็นให้และส่งมาให้ เพราะได้รับคำสั่งมาว่าเป็นเรื่องด่วน เราต้องการยื่นเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไป แล้วที่ภาพออกมาเป็นแบบนั้นเป็นภาพที่ได้มาอย่างเร่งด่วน ซึ่งตรงนี้เราก็ได้ประสานมาเรื่อย ๆ จนวันจันทร์ที่ผ่านมาทางธนาคารธนชาต ก็ได้ติดต่อมาทางคุณช่าว่าได้ภาพวงจรปิดแล้ว”
พลิกเมืองล่าตัวคนร้าย ได้เงินชดเชยแล้วแต่เคสบายเคส
ชาช่า : “ตอนนี้ตำรวจก็พยายามจะหาตัวคนร้ายต่อไปค่ะ แต่ก็มีความคืบหน้าแล้ว ส่วนเงินทางธนาคารกสิกรก็ได้ชดเชยมาให้แล้ว แต่อันนี้ธนาคารไม่ได้ให้บอกนะ เราบอกเองคือ ช่าทราบมาอยู่แล้วว่าทางธนาคารดูเคสของเรา และตั้งใจที่จะชดเชยเงินให้เราอยู่แล้ว ก่อนที่จะทราบว่าเราจะแถลงข่าว ชดเชยเต็มจำนวนค่ะ ให้ก่อนที่ช่าจะทราบด้วยซ้ำว่าจะแถลงข่าว”
เผยตนสะเพร่า ไม่ใช่ความผิดพลาดของธนาคาร มั่นใจไม่ใช่ฝีมือคนใกล้ตัว
ชาช่า : “ใช่ค่ะ อันนี้ช่าไม่ได้มองว่าเป็นความผิดพลาดของธนาคารอยู่แล้ว”
บีม : “แต่ที่น่าสงสัยมากคือที่ธนาคารเช็กให้คนร้ายไม่ได้กดสุ่มรหัสเอทีเอ็มเลย คือกดตรงตัวเลยทีเดียว และลองกด 500 บาทออกมา และก็กด 2 หมื่น ๆ ซึ่งคนที่รู้รหัสของชาช่า แทบจะไม่มีเลย”
ชาช่า : “เพราะรหัสช่าไม่ใช่รหัสวันเดือนปีเกิด เป็นรหัสที่ตั้งขึ้นมาเอง ตอนแรกคิดว่าเป็นคนใกล้ตัว แต่ว่าตอนนี้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ใช่คนใกล้ตัวเพราะว่าตั้งแต่แต่งงาน ช่าก็ย้ายมาอยู่คอนโดกับบีมสองคน ไม่ได้เจอใคร เจอแต่เพื่อน ซึ่งเพื่อนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้รหัส น่าจะเป็นการดูเรากดเอทีเอ็ม แล้วก็รอจังหวะขโมยตอนนั้น ช่าคิดว่าอาจะเป็นกรณีนั้นมากกว่า”
บีม : “เพราะว่ามันไม่ใช่รหัสที่ง่าย ๆ นะครับ”
แนะธนาคารควรแจ้งให้คนที่เดือดร้อนอุ่นใจ
บีม : “ภาพที่ชัดเจนของกรุงไทยก็อย่างที่เห็น แต่ธนชาตก็อัปเดตขึ้น แต่ตอนนี้เราไม่สามารถบอกได้ว่าเห็นชัดขนาดไหน เพราะตำรวจเขากลัวจะไหวตัวทัน ก็อยู่ในขั้นตอนของการตามล่าหาครับ ก็ยังดำเนินคดีต่อไป ต้องบอกว่ารู้สึกดีกับทุกธนาคารตั้งแต่แรก แล้วพอมีเคสแบบนี้เกิดขึ้น เราก็ไม่รู้ว่าต้องไปแจ้งใคร คือ พอเกิดแบบนี้ขึ้นก็จะได้รู้ว่าคนที่เกิดเหตุการณ์แบบเราควรจะแก้ปัญหาอย่างไร ทางตำรวจก็ควรจะให้ความชัดเจนในการแจ้งความของผู้เสียหาย เพื่อประหยัดเวลาขึ้นในการทำงาน และธนาคารก็ควรจะมีบอกว่าควรจะแจ้งที่ไหนก่อน ให้ดูที่นี่ ให้แจ้งที่นี่ ทุกคนที่เดือดร้อนก็จะอุ่นใจขึ้น และเรื่องของเวลาก็จะกระชับขึ้น”
หวั่นคำครหาใช้สิทธิ์ดาราได้รับเงินคืน เผยเป็นการโจรกรรมที่แนบเนียน ล้ำมาก
ชาช่า : “ก็กลัวค่ะ ถึงได้บอกว่าธนาคารกสิกรไม่ได้เพิ่งมาคุยกับเราว่าจะคืนเงิน หลังจากที่ทราบว่าเราจะแถลงข่าว ช่าคิดว่าการคืนเงินน่าจะเป็นเคสบายเคส อันนี้ช่าไม่ทราบจริง ๆ ว่า ธนาคารเขามีวิธีการพิจารณายังไงค่ะ ตอนแรกเราตัดใจเรื่องเงินไปแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เงินคืนด้วยซ้ำ เราคิดแต่ว่าเราจะต้องจับผู้ร้ายให้ได้”
บีม : “เราอยากทราบเพราะว่ามันเป็นที่ที่เราอยู่พักอาศัย และละแวกใกล้เคียง เกิดเหตุการณ์แบบนี้คือความไม่ปลอดภัยนะ หรือถ้าเป็นการแอบดูรหัสแล้วไปกดได้ แสดงว่าเป็นการโจรกรรมที่แนบเนียน และถ้าเป็นการสกิมเมอร์ก็ต้องล้ำมาก ๆ ดังนั้น เรากับตำรวจก็เลยตั้งข้อสันนิษฐานแบบนี้ไว้ ความคืบหน้าตอนนี้ทาง สน. เขาก็พยายามดำเนินการให้อยู่ตามระบบของเขา เราก็ไม่สามารถตามจี้เขาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องบอกตรง ๆ ว่า ตำรวจก็มีงานเยอะ เราก็ต้องรอโทรศัพท์อย่างเดียวเรื่องความคืบหน้า เพราะมันเป็นขั้นตอนของเขา”
ชาช่า : “คือ เราไม่สามารถขอดูกล้องวงจรปิด หรือดำเนินการทุกอย่างได้ในวันเดียว ถ้าเป็นตู้ที่ตั้งในสาขาอาจจะได้เร็วกว่า”
บีม : “เพราะมีทั้งมุมของเอทีเอ็ม มุมด้านบน”
โล่งใจคลี่คลายในระดับหนึ่ง
บีม : “(หัวเราะ) ตอนแรกผมกลัวเรื่องเงียบถึงมีการโพสต์ลง แต่ตอนนี้มันก็คลี่คลายระดับหนึ่ง แต่คนร้ายเป็นยังไงเราก็ต้องตามตำรวจ”
ชาช่า : “ช่าว่าเราไปรอตำรวจอย่างเดียวก็ไม่ได้ คือตัวเจ้าของเรื่องก็ต้องตามด้วย ต้องต่างคนต่างช่วยกันตาม”
เพิ่งเข้าใจ ทำไมธนาคารให้ตั้งวงเงินในการถอนน้อย ๆ
ชาช่า : “ตอนนี้ถ้าให้แนะนำคือบัตร รหัสบัตร และอีกเรื่องหนึ่งคือการตั้งวงเงินในการถอนเงินค่ะ เมื่อก่อนไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องตั้งวงเงินน้อย ๆ บางทีเรามีธุระจำเป็นต้องใช้ต้องมานั่ง โทร.คอลเซ็นเตอร์ ตอนนี้เขาใจแล้วว่ามันสำคัญแบบนี้ ก็ใครที่รู้ตัวว่าเดือน ๆ หนึ่งใช้เงินไม่ได้เยอะมากก็ให้ตั้งวงเงินน้อย ๆ ไว้ดีกว่า เกิดอะไรขึ้นมาอย่างน้อยเขาก็เอาไปได้แค่ที่เราตั้งค่ะ”
บีม : “วันนี้ก็ได้รับการประสานความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่ายจริง ๆ”
ชาช่า : “ทุกธนาคารโทร.หาช่าเรื่อย ๆ ว่าตอนนี้ส่งภาพให้แล้วนะ ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้รับรึยัง”
