“เอ พศิน” รับถูกโกงเงินค่าตัวเป็นพิธีกรรายการช่องเคเบิลถึง 7 หลัก บอกไม่ฟ้อง แต่ขอบอกชื่อคู่กรณีให้สังคมพิพากษา ซัดถ้ามีจิตสำนึกต้องติดต่อมาชดใช้ จวกผิดที่โกง-โกหก ไม่อยากติดค้างไปถึงชาติหน้า
เรื่อเงินไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ล่าสุด นักแสดงหนุ่มกล้ามโต “เอ พศิน เรืองวุฒิ” ขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังเข้าอัดรายการในรายการบันเทิง 108 ทางช่อง 8 ถึงกรณีที่ตัวเองโดนโกงค่าตัวเป็นจำนวนเงินกว่า 7 หลัก จากการถ่ายรายการ “LIKE สาระ Siam Signatue Story” ทางเคเบิลทีวีช่องหนึ่ง
“ก็เป็นรายการนี้ครับ ตามเสื้อที่ผมใส่เลย ชื่อรายการ LIKE สาระ Siam Signatue Story มันเกิดขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน มีเอ็กซ์ตร้าของรายการเกมโชว์เขาอยากมีรายการเป็นของตัวเอง เขาเลยมาคุยกับผมว่า อยากทำรายการติดต่อผมเป็นพิธีกร โดยถ่ายเดโม 2 เทป ส่งเสนอช่อง TGN นอกจากถ่ายแล้วก็อยากให้ผมไปยืนยันต่อทาง TGN ว่า ผมเป็นพิธีกรให้จริงๆ ก็ถ่ายให้ฟรี 2 เทป แล้วเขาก็ให้ค่าตัวมา 2 เทป ผมก็โอเคมันเป็นระบบที่น่าเชื่อถือ ก็อยากให้โอกาสคน เลยรับทำให้ พอได้เวลาช่อง TGN มา เขาก็มีแพลนว่าจะถ่ายประมาณ 30 เทป หลังจากนั้น ก็ถ่ายทำกันมาเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่ได้ค่าตัว”
“คือ ผมก็สงสัยว่าทำไมรายการถึงไม่มีสปอนเซอร์ทั้งๆ ที่ถ่ายหลายจังหวัดมาก มีไปที่ลาว ที่เกาหลีด้วย แม้แต่ปิดกล้องก็ไปปิดที่ฝรั่งเศส ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนใกล้ๆ เทปที่ 30 เขาบอกว่า บ้านเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมอยู่ที่มาเลเซีย แต่เขาบอกน้องอีกคนหนึ่งว่า อยู่ที่ลาว พอเขาเริ่มทำรายการออกอากาศได้สำเร็จที่บ้านก็เริ่มเห็นผลงานของเขา ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาบอกว่าเขาถูกตัดหางปล่อยวัดเพราะเขาเป็นเพศที่ 3 แล้วก็มามีแฟนที่เมืองไทย คุณพ่อก็เลยยกกิจการให้น้องสาวดูแลทั้งหมด ไม่ให้เงินเลย แต่พอเห็นความสามารถว่าทำรายการได้จริงๆ แล้วก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ คุณพ่อก็จะให้เงินมา 30 ล้านเพื่อทำรายการ”
“เขาบอกทีมงานทุกคนรับรู้ร่วมกันทั้งทีมตัด ทีมกล้อง และผู้ร่วมลงทุนว่าเดี๋ยวเราจะได้เงิน 30 ล้าน ผมจะได้ค่าตัว 7 หลัก ได้เทปละประมาณ 25,000 บาท บวกกับค่ากำกับอีก เพราะรายการนี้ไม่มีผู้กำกับรายการ ผมก็ช่วยในเรื่องการออกแบบ มีออกแบบซีดีให้ ฟรีนะครับ ออกแบบเสื้อ ออกแบบรูปแบบรายการ ช่วยกำกับรายการด้วย รวมก็ตกอยู่ประมาณเทปละ 30,000”
“ถ่ายกันมาปีกว่า ประมาณเดือนเมษาปีที่แล้วก็มีการจัดทัวร์เกิดขึ้นว่าไปถ่ายที่เกาหลี เขาก็จัดบริษัททัวร์ขึ้นมา เอาเงินจากลูกทัวร์ แล้วก็มีปัญหาเกิดขึ้นทำไมไม่ได้ไปสักที ผมก็เลยรู้สึกว่า ทำไมมันแปลกๆ เลยลองโทร.ไปที่บริษัททัวร์ที่เป็นสปอเซอร์ คือ ช่วงนั้นมีบริษัททัวร์เป็นสปอนเซอร์นะครับอยู่ 2-3 เทป บริษัททัวร์ผมจำชื่อไม่ได้เขาบอกว่าไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้เป็นสปอร์เซอร์เลยตั้งแต่เทปแรก”
บอกไม่ผิดที่ไม่มีเงิน แต่ผิดที่โกหก-โกง ไม่ฟ้องร้อง ลั่นถ้ามีจิตสำนึกต้องชดใช้
“หลังจากนั้นเขาก็หายไป รายการก็ถูกยุบ เขาก็มาขอโทษ พี่ผมขอโทษไม่น่าโกหกเลย ขอบคุณที่ให้โอกาสเขาดูน่าสงสารมาก แล้วเขาก็รับปากว่าจะชดใช้ ตอนนี้ผ่านไป 2 ปีแล้ว ไม่มีการติดต่อใดๆ จนผมลืมไปแล้วว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่เราควรจะได้ เพราะเราทำงานให้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ถามเลยว่าเมื่อไหร่จะได้ เพราะตอนนั้นเขายังไม่มี ก็ทราบว่าเขาก็เริ่มชดใช้ให้แก่บางท่านที่ทวงถาม หรือบางท่านที่ฟ้องร้อง ทราบว่ามีการไปขึ้นศาล และมีการผ่อนจ่าย 3,000-5,000 แล้วแต่ว่าตกลงกันยังไง ไม่มีเงินไม่ผิด มีโอกาสเราให้ได้ แต่โกง โกหกเป็นเรื่องผิด คุณต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำ อย่างน้อยใช้วันละบาทก็ยังดีกว่าไม่ใช้”
“นี่เป็นการดำเนินการครั้งแรก อย่างแรกคือ อยากให้เขารับรู้ ชื่อ คุณประจักษ์ เทพกุญชร ยังไม่มีฟ้องร้องครับ ก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้ติดต่อครับ ผมทราบจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เขาลงทุนไปบางคนเสียหาย 400,000-500,000 ที่ร่วมลงทุนไป ซึ่งเขาอาจจะไปกู้มา แล้วก็ผู้เสียหายจากการทำทัวร์ปลอมๆ ของเขา เขาก็มีการชดใช้ ได้ข่าวว่าใช้ใกล้จะหมดแล้ว อ้าวแล้วของเราล่ะ อย่างน้อยก็มาคุยกันหน่อยไหม ที่ไม่บอกสื่อจริงๆ คือ สงสาร และเห็นใจแต่ว่าเขาแย่เกินไป ตอนนี้คงไม่ติดต่อแล้ว”
“ถ่ายไป 30 เทปก็เอะใจนะครับแต่ตอนนั้นเนี่ย คือเราไม่คิดว่าเราจะไม่ได้เงิน เวลาเราไว้ใจเราให้โอกาสใคร เราสงสารเขา คือ ผมเคยส่งเขาไปบำบัดในเรื่องความไม่เชื่อมั่นในตัวเอง กับนักจิตวิทยาที่เป็นเพื่อนผมเอง แล้วอยู่ดีๆ เขาก็ร้องไห้ขึ้นมาแล้วก็ขอโทษ แต่ไม่รู้ขอโทษเรื่องอะไร คงจะเป็นเรื่องเงินที่เขายังไม่จ่าย หรือจ่ายช้า แต่ไม่คิดว่าข้างในใจเขามันมีมากกว่านั้น”
“จริงๆ ที่ต้องมาบอกตรงนี้นะครับเพราะว่าพอเราทราบว่า เขายังใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ แล้วเขาอาจจะเอาโปรไฟล์รายการนี้อาจจะไปขอสปอนเซอร์ หรือว่าเพื่อต่อยอดไปทำอย่างอื่น ทำได้นะครับ ไม่ว่า แต่มาเคลียร์ก่อน เพราะว่าผมไม่อยากติดค้างกับคุณไปถึงชาติหน้าเจอกันชาตินี้ก็พอแล้ว (ยิ้ม) เราก็คิดเรื่องนี้มาตลอดครับ แต่ด้วยความที่เป็นคนประนีประนอม เคยขึ้นศาลแต่ในละคร ถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่อยากขึ้น”
“เขาต้องติดต่อผมมา ผมทำมากที่สุดได้แค่นี้ ที่ผมทำร้ายเขามากที่สุดก็คือ บอกชื่อ ถ้าเขาไม่รับผิดชอบ อันนี้ก็เป็นกรรมของคุณแล้วล่ะที่คุณต้องรับผิดชอบตัวเอง อันนี้คือการพิพากษาขั้นรุนแรงที่สุดของผมแล้ว ถ้าคุณมีสามัญสำนึก และต้องการเคลียร์ตัวเองติดต่อกลับมา แล้วก็ชดใช้”
มั่นใจคงได้เงินไม่ครบ ไม่อยากให้อีกฝ่ายจนตรอก บอกอยากให้โอกาสเพราะเคยเป็นเอ็กซ์ตร้ามาเหมือนกัน
“ผมเชื่อว่าไม่ครบ ที่ 2 ปีที่แล้ว ผมไม่ทวงเพราะว่าเขาไม่มีเงิน แล้วคนไม่มีเงิน คนมันจนตรอกจนแต้มมันไปไหนไม่ได้จริงๆ ถ้าผมทวงเขาตอนนั้น บีบคั้นเขาตอนนั้นเขาอาจจะไม่มีชีวิตอยู่มาใช้เงินผมในวันข้างหน้าก็ได้ ก็เลยให้โอกาสแต่ไม่ควรจะหายไป ยืนยันหน่อยว่า คุณยังมีชีวิตอยู่ และจะชดใช้ เท่านั้นเองครับ”
“เมื่อก่อนไม่ระวังเพราะว่าผมชอบให้โอกาสคน ผมก็มาจากเอ็กซ์ตร้า ผมไม่ใช่อยู่ๆ เป็นพระเอก ผู้ร้าย มีบทเยอะๆ ค่าตัวแพงๆ ผมมาจากนักแสดงเด็ก ออกจากวงการไป และกลับมาตอน 22 มาเป็นเอ็กซ์ตร้า ผมเลยเข้าใจจุดยืนของเขาว่า การไม่มีเงินมันลำบาก กว่าจะขึ้นมาที่มีบทพูด กว่าจะได้รับค่าตัวที่เราสามารถซัปพอร์ตครอบครัวได้มันเหนื่อยก็เลยให้โอกาสเขาไป จริงๆ ก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อนะครับ”
ยันโพสต์ทวงเงินเป็นเรื่องปกติ วอนทุกค่ายให้ความชัดเจน ปิดกล้องแล้วจะได้เงินเมื่อไหร่
“เรื่องโพสต์ทวงเงินตรงนี้มันเป็นการทวงตามปกติ ผมเป็นหนึ่งในนักแสดงในหลายๆ คนที่ได้ค่าตัวช้า เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง คือ คนอยากเป็นดาราเยอะก็เลยต้องเล่า (ยิ้ม) ชีวิตนักแสดงมันไม่ได้สบาย เมื่อก่อนปิดกล้องปุ๊บ 15 วันจะได้เงิน บางเรื่องไม่ทันปิดกล้องปิดตัวปุ๊บได้ค่าตัวแล้ว เราก็จะวางแผนการใช้เงินได้อย่างดี ละครเรื่องหนึ่งเมื่อก่อนถ่ายแค่ 3 เดือน เดี๋ยวนี้ 7-8 เดือน รอไปอีก 3 เดือน บางเรื่องรอ 5 เดือน หรือบางคนยังไม่ได้เลย หรือได้ครึ่งเดียว”
“นักแสดงที่เข้ามาในวงการต้องวางแผนการเงินใหม่หมด เพราะว่าเราต้องจ่ายสรรพกรด้วย เราต้องซัปพอร์ตครอบครัว ค่าใช้จ่ายรายวัน หนี้รายเดือน แต่ถ้าเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าปิดกล้องตอนนี้ อีกกี่วันได้เงินชีวิตมันยากมาก เหมือนทำงานปีหนึ่งแล้วรับเงินปลายปี ตรงนี้ผมเลยอยากให้ทางค่ายเลยนะครับมีความชัดเจนว่า ปิดกล้องกี่วัน ได้เงินกี่ตอน ได้เงินทั้งหมดเมื่อไหร่ แต่ว่าทางช่องที่เล่นอยู่ตอนนี้ยังไม่มีปัญหา มีบางค่าย แต่หลังจากที่ผมโพสต์ไปเช็คออกเลยทั้ง 2 ช่อง อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้”