“จ๊ะ อาร์สยาม” รับครอบครัวโรครุมเร้า พ่อเป็นโรคภูมิแพ้-สะเก็ดเงิน เลือด-หนองออกซิบๆ แม่เป็นโรคซึมเศร้า ส่วนตนเสี่ยงเป็นโรคพุ่มพวง ตัดใจลดงานทิ้งเงินมหาศาล จากเดือนละ 40 กว่างาน เหลือแค่ 20 งาน เตรียมไปบนดวงวิญญาณราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ขอให้ไม่เป็นโรคนี้
เห็นร่าเริง ยิ้มหัวเราะตลอดเวลา สำหรับ “จ๊ะ อาร์สยาม” นงผณี มหาดไทย ที่ล่าสุด แว่วมาว่าส่อแววป่วยหนักรับเบญจเพสด้วยโรคพุ่มพวง (ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง) เหตุเพราะพักผ่อนน้อย นอกจากนั้น คุณพ่อก็ป่วยด้วยโรคสะเก็ดเงิน ด้านคุณแม่ยังเป็นโรคซึมเศร้า งานนี้สาวจ๊ะได้เปิดใจหลังเดินทางมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ บันเทิง 108 ทาง ช่อง 8 ที่เลข 27 ถึงเรื่องทั้งหมด
“คุณหมอบอกให้หนูหยุดงานประมาณ 1 เดือน เพราะว่าหนูเริ่มจะแบบเวลาอากาศร้อนมากๆ หรือว่าหนาวจมูกก็จะบวม เลือดก็จะซิบๆ หมอก็เลยบอกว่า กลัวหนูเป็นแพ้ภูมิตัวเอง เพราะรู้เริ่มแพ้เหงื่อ แพ้อะไรที่มาจากตัวเราเอง เพิ่งเริ่มที่จะแพ้เหงื่อตัวเอง คาดว่าจะเป็นนะคะ คุณหมอบอกว่าถ้าหนูไม่พักฟื้น 1 เดือน หนูจะต้องออกกำลังกาย นอนให้ตรงเวลาเรื่องอาหารการกิน เพราะว่าหนูเป็นคนลุยๆ ไม่ค่อยดูแลตัวเองหมอก็เลยกลัวจะเป็น”
“มันก็สืบเนื่องมาจากการเข้า รพ.ครั้งก่อนเพราะว่าเป็นโรคภูมิแพ้รุนแรง เป็นไซนัสอักเสบด้วยที่เลือดมันออก พอหมอบอกก็ตกใจนะคะ เดือนหน้าก็รับงานน้อยลงจาก 30-40 งาน ก็รับแค่ 20 งาน พัก 10 วัน แล้วก็เลือกที่ไม่ไกล เพราะว่าหมอไม่อยากให้ขึ้นเครื่องมาก เพราะช่วงนี้เลือดหนูพร้อมจะออก เขากลัวเลือดจะออกหู แต่ยังไม่ได้เป็นระดับรุนแรงมาก แค่กลัวจะเป็น เพราะว่าเราเริ่มแพ้อะไรที่มาจากตัวเรา”
“ไม่เคยศึกษาโรคนี้มาก่อนเลยค่ะ หนูเป็นคนง่ายๆ คิดง่ายๆ ว่าอะไรจะเกิดมันก็เกิด ถ้าเกิดเรากลัวเราก็จะต้องไม่รับงานเลย หมอบอกเราต้องเคลียร์คิวตัวเองแล้ว แต่หนูก็ยังไม่เคลียร์อะไรมาก อย่างเมื่อก่อนถ้ามีงานกลางคืนอยู่แล้ว แล้วมีงานกลางวันเข้ามาปกติหนูจะรับหมดเลย แต่ตอนนี้ก็ไม่รับแบบนั้นแล้ว คือ ตอนนี้หนูยังรับงานอยู่นะคะแค่ไม่รับเยอะเหมือนเดิม(หัวเราะ)”
โอดเบรกงานพักผ่อนไมได้ เหตุรับงานล่วงหน้า 6 เดือน
“จริงๆ แล้วหนูได้ถามนักร้องหลายคน บอกอาการ บอกโรค ถามหลายคนนะคะเป็นกันเกือบทุกคนเลยค่ะ แต่ของหนูนี่คือ คุณหมอบอกว่ากลัวว่าหนูจะเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองเท่านั้นเอง หนูว่ามันเป็นโรคปกติของคนกลางคืนมากเลย ถามว่าพบแพทย์ไหม พบตลอดเลยค่ะ เข้าทุกเดือน หรือ 2 อาทิตย์เข้าที เพราะหนูต้องไปส่องโพรงจมูก หมอกลัวจะเป็นหนอง ก่อนหน้านี้ที่เป็นไซนัสอักเสบ หมอบอกว่าถ้าเป็นหนองปุ๊บหนูจะไปงานไม่ได้แล้ว เพราะหนูต้องขูด หรือดูดหนองออก อันนั้นต้องนอนโรงพยาบาล”
“สาเหตุที่ยังไม่พักเพราะงานมันรับมาแล้วเกิน 6 เดือน งานที่เรารับมาแล้วเราไม่สามารถเบรกได้ คือ ถ้าเจ้าภาพเข้าใจ แต่คนดูไม่เข้าใจ เพราะมันเป็นงานค่อนข้างใหญ่ งานกาชาดที่ขึ้นป้ายไว้แล้ว ถ้าเราเสียตรงนี้ไป คนไม่มั่นใจกับเราว่าเราเบี้ยวงาน ก็เลยไม่กล้าเบรก แต่หลังจาก 6 เดือนที่เรายังไม่ได้รับงานอันนั้นคงเบาลง”
บอกไม่กล้าคืนงาน รอให้หนักแล้วค่อยไปเทสต์จริงจัง เชื่อเป็นโรคเวรกรรมทุกอย่างเอื้อเงินดี กลับรับงานเหมือนเดิมไม่ได้
“หมอก็รอหนูไปเทสต์จริงจัง ที่มันจะมีตัวเทสต์ว่าหนูแพ้อะไรบ้าง แต่ว่ายังไม่ได้เข้าไปเลย (หัวเราะ) เพราะหนูก็รอให้เป็นหนักสุดๆ (หัวเราะ) ค่อยเข้าไป ถามว่าทำไมไม่ห่วงตัวเอง ห่วงนะคะ แต่ถ้าใครมาอยู่ตรงจุดนี้จะเข้าใจ เวลาเราไปงานคนเยอะมากเลยนะ เราไม่กล้าคืนงาน จริงๆ แล้วหนูว่ามันเป็นโรคเวรกรรมนะคะ เพราะว่าคนเรากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อก่อนก็ทำงานทุกวันนะคะแต่ค่าตัวน้อย พอค่าตัวเยอะ ทุกอย่างเอื้ออำนวยหมดเลยนะ เจ้าภาพก็ดูแลเราดี แต่เรากลับรับงานไม่ได้ หนูว่าน่าจะเป็นโรคเวรกรรม หนูคิดเอง”
ชี้เป็นกรรมพันธุ์ พ่อก็เป็นโรคภูมิแพ้ แถมเป็นโรคสะเก็ดเงิน เลือด-หนองออกซิบๆ
“จริงๆ คุณพ่อก็เป็นภูมิแพ้นะ ที่หนูเป็นก็เป็นกรรมพันธุ์ พ่ออยู่กับหวายจักสาน จนกลายเป็นโรคสะเก็ดเงินที่เป็นโรคผิวหนัง แล้วก็เป็นเยอะมาก ตอนแรกหนูไม่เคยรู้เลยพ่อใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวตลอด แต่วันนั้นพาพ่อไปจันทบุรี ถอดเสื้อออกมาเหมือนกระดองเต่าที่แตกทั้งตัว เลือดซิบ หนองซิบ เต็มหมดเลย หลังก็เต็มเลย แล้วก็ต้องโกนผม เพราะโรคนี้เกิดจากศีรษะ 4-5 วันแรกนอนอยู่ดีๆ เขาทายาน้ำหนองไหลออกมาเต็มเลย”
“ตอนนี้พ่ออยู่ที่จันทบุรีค่ะ รักษาอยู่ แต่ว่าไม่ได้เป็นคุณหมอนะคะ คือ คุณพ่อรักษาตามโรงพยาบาลมาเยอะมากแล้วแต่ไม่หาย เพราะว่าที่โรงพยาบาลเป็นยาสเตียรอยด์ที่ทายุบ แต่พอเลิกทาก็จะเป็นขึ้นมาอีก พ่อก็เลยอยากหายขาด ไปที่นี่ดีขึ้นมาก แล้วที่นี่กินฟรี อยู่ฟรี รักษาฟรี”
“ก็เป็นพวกสมุนไพรค่ะ ที่นี่ไม่ใช่แค่รักษาทายาอย่างเดียว มีเรื่องอาหารการกินด้วย โรคสะเก็ดเงินกินได้แค่หมู กับผักนอกนั้นกินอะไรไม่ได้เลย”
รับแม่เป็นโรคซึมเศร้า ส่วนตนกำลังใจดี ไม่คิดมาก ทุกอย่างถูกกำหนดมาหมดแล้ว
“จริงๆ หนูเป็นคนที่ไม่ซีเรียส ไม่คิดมาก ไม่คิดเยอะ หนูคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนมันถูกกำหนดมาแล้วว่าเราจะต้องเป็นอะไร เพราะว่าชีวิตเราเอง เราก็ไม่เคยคิดว่าเราจะได้มาอยู่จุดนี้ เราก็ไม่ได้เครียดอะไร แต่กินยาทุกวันแค่นั้นเอง”
“โรครุมเร้าทั้งครอบครัว ตอนนี้คุณแม่ก็เริ่มเป็นโรคแล้ว (หัวเราะ) แม่เป็นโรคซึมเศร้า หนูอยู่กรุงเทพฯ พ่ออยู่จันทบุรี แม่อยู่คนเดียว แม่โทร.มาร้องไห้ใหญ่เลย (หัวเราะ) ถามว่าจะเอาแม่มาอยู่ด้วยไหม บอกตลอดเลย แต่ว่าแม่ไม่ยอมมาก็เลยแก้ปัญหาโดยที่เอาคุณน้ามาอยู่กับแม่ (ยิ้ม)”
นอกจากนี้ สาวจ๊ะยังเปิดใจต่อผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ตนเตรียมไปบนดวงวิญญาณราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี เพื่อขอให้ไม่เป็นโรค SLE ซึ่งถ้าสมหวังไม่ป่วยตนจะมาเล่นคอนเสิร์ตให้เต็มวง