xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำจากปาก “แตงโม ภัทรธิดา” สารภาพเปิดหมดใจปมเลิก “โตโน่” (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“แตงโม” เผยอดทนและเสียน้ำตาเยอะมากตั้งแต่ “โตโน่” เดินเข้ามา ชี้ฝ่ายชายโตไม่พอ - ไม่มีวุฒิภาวะผู้นำ แต่เชื่อทำดีที่สุด แจงที่เคยระบุตนไม่ซื่อสัตย์เองแถมแอบคุยกับชายอื่นจนเป็นเหตุเลิกราเป็นเรื่องที่แต่งลองใจอีกฝ่าย ก่อนลั่นขอเสียสละเป็นคนผิดพร้อมยันหวังตายจริงแต่พระเจ้าคงอยากให้อยู่

เลิกรากับสามีนักร้อง - นักแสดงชื่อดัง “โตโน่ ภาคิน” มาได้พักหนึ่ง ล่าสุด นักแสดงหญิง “แตงโม ภัทรธิดา” ก็ทำเอาฮือฮาทีเดียวหลังเจ้าตัวไปออกรายการ “Club Friday SHOW” ช่อง GMM25 เทปวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดใจสารภาพถึงเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเลิกรากัน

โดยเจ้าตัวได้เริ่มต้นเผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจคบกับฝ่ายชายทั้ง ๆ ที่เคยออกปากไว้ว่าชาตินี้จะไม่มีคู่ว่าเป็นเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นมีความพยายามทุ่มเทที่จะเข้ามาจีบตนเอง ซึ่งต้องยอมรับว่าช่วงที่คบกันนั้นกระแสต่าง ๆ ที่เข้ามาเปรียบได้กับสึนามิเลยทีเดียว

“หลังจากที่โมตัดสินใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่มีคู่ ใจของคนที่มันหมดศรัทธาไปแล้วเนี่ย โมก็ยอมใจเค้านะ ว่าเค้าทุ่มเทในการพยายามที่จะจีบโม ในการพยายามที่จะให้เห็นว่าเค้ามาใจจริง ในใจของเค้า ความเป็นแมนของเค้าเนี่ย ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องทิ้งทัศนคติเดิม ๆ อุดมคติ อุดมการณ์เดิม ๆ ของเราว่า โอเค เรามีครอบครัวก็ได้ เพราะเค้าอยากมีครอบครัว”

“โมรู้สึกว่าสึนามิซัดชีวิตฉัน คือ โมก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าหาเค้าก่อน เค้าเข้ามาหาโม แต่โมโดนด่าเยอะมาก แต่ว่าแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อเรารักกันมากขนาดเนี้ย ทำยังไงดี โมก็เคยปรึกษา โมเจ็บ จนโมแบบ โมรู้สึกว่าอยู่ดี ๆ โมก็เป็นคนบาปของสังคมนี้ไปแล้ว โมเป็นคนไปแย่งโตโน่มาจากสังคมน่ะ โมไปแย่งโตโน่มาจากหัวใจหลาย ๆ หัวใจน่ะ โมถามโน่ว่าเราไม่คบกันมั้ย เรารอให้เราแก่มั้ยล่ะ ซากระแสความฮอตของยูก่อนมั้ยล่ะ แล้วค่อยกลับมาคบกัน โตโน่ไม่โอเคในข้อนี้ โตโน่บอกว่าสักวันนึงคนต้องเข้าใจ”

“โอเคถ้างั้นเราจะสู้ไปด้วยกัน โมอดทนมาเยอะมาก แล้วก็เสียน้ำตาไปเยอะมากเลยค่ะ...คือ โมมีความรู้สึกว่าหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าถ้าโน่ไปคบกับคนอื่นน่าจะโอเคมากกว่าเป็นแฟนกับโม คือ แบบคนอื่นดีกว่า คนนี้แรงอ่ะ คนนี้มีประวัติเกี่ยวกับความรักเยอะแยะไปหมดเลย แล้วก็ดูแบบไม่โอเค แต่ว่า โน่บอกโน่ไม่ได้มองเห็นโมในลักษณะนั้น เราก็ขอบคุณโน่ที่อดทนกับการเปลี่ยนแปลงของโม คือ โน่มีความอ่อนโยนจนโมอ่อนโยนลงได้ โมยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนโมเป็นคนแรงจริง ๆ โมไม่สามารถทนกับโซเชียลได้ เถียง ด่า ตอบ ใครมาแรงกลับ ไม่โกงจริง ๆ ค่ะ”

“แตงโม” เผยอดทนและเสียน้ำตาเยอะมากตั้งแต่ “โตโน่” เดินเข้ามา ชี้ฝ่ายชายโตไม่พอ - ไม่มีวุฒิภาวะผู้นำ แต่เชื่อทำดีที่สุด แจงที่เคยระบุตนไม่ซื่อสัตย์เองแถมแอบคุยกับชายอื่นจนเป็นเหตุเลิกราเป็นเรื่องที่แต่งลองใจอีกฝ่าย ก่อนลั่นขอเสียสละเป็นคนผิดพร้อมยันหวังตายจริงแต่พระเจ้าคงอยากให้อยู่

เลิกรากับสามีนักร้อง - นักแสดงชื่อดัง “โตโน่ ภาคิน” มาได้พักหนึ่ง ล่าสุด นักแสดงหญิง “แตงโม ภัทรธิดา” ก็ทำเอาฮือฮาทีเดียวหลังเจ้าตัวไปออกรายการ “Club Friday SHOW” ช่อง GMM25 เทปวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดใจสารภาพถึงเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเลิกรากัน

โดยเจ้าตัวได้เริ่มต้นเผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจคบกับฝ่ายชายทั้ง ๆ ที่เคยออกปากไว้ว่าชาตินี้จะไม่มีคู่ว่าเป็นเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นมีความพยายามทุ่มเทที่จะเข้ามาจีบตนเอง ซึ่งต้องยอมรับว่าช่วงที่คบกันนั้นกระแสต่าง ๆ ที่เข้ามาเปรียบได้กับสึนามิเลยทีเดียว

“หลังจากที่โมตัดสินใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่มีคู่ ใจของคนที่มันหมดศรัทธาไปแล้วเนี่ย โมก็ยอมใจเค้านะ ว่าเค้าทุ่มเทในการพยายามที่จะจีบโม ในการพยายามที่จะให้เห็นว่าเค้ามาใจจริง ในใจของเค้า ความเป็นแมนของเค้าเนี่ย ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องทิ้งทัศนคติเดิม ๆ อุดมคติ อุดมการณ์เดิม ๆ ของเราว่า โอเค เรามีครอบครัวก็ได้ เพราะเค้าอยากมีครอบครัว”

“โมรู้สึกว่าสึนามิซัดชีวิตฉัน คือ โมก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าหาเค้าก่อน เค้าเข้ามาหาโม แต่โมโดนด่าเยอะมาก แต่ว่าแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อเรารักกันมากขนาดเนี้ย ทำยังไงดี โมก็เคยปรึกษา โมเจ็บ จนโมแบบ โมรู้สึกว่าอยู่ดี ๆ โมก็เป็นคนบาปของสังคมนี้ไปแล้ว โมเป็นคนไปแย่งโตโน่มาจากสังคมน่ะ โมไปแย่งโตโน่มาจากหัวใจหลาย ๆ หัวใจน่ะ โมถามโน่ว่าเราไม่คบกันมั้ย เรารอให้เราแก่มั้ยล่ะ ซากระแสความฮอตของยูก่อนมั้ยล่ะ แล้วค่อยกลับมาคบกัน โตโน่ไม่โอเคในข้อนี้ โตโน่บอกว่าสักวันนึงคนต้องเข้าใจ”

“โอเคถ้างั้นเราจะสู้ไปด้วยกัน โมอดทนมาเยอะมาก แล้วก็เสียน้ำตาไปเยอะมากเลยค่ะ...คือ โมมีความรู้สึกว่าหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าถ้าโน่ไปคบกับคนอื่นน่าจะโอเคมากกว่าเป็นแฟนกับโม คือ แบบคนอื่นดีกว่า คนนี้แรงอ่ะ คนนี้มีประวัติเกี่ยวกับความรักเยอะแยะไปหมดเลย แล้วก็ดูแบบไม่โอเค แต่ว่า โน่บอกโน่ไม่ได้มองเห็นโมในลักษณะนั้น เราก็ขอบคุณโน่ที่อดทนกับการเปลี่ยนแปลงของโม คือ โน่มีความอ่อนโยนจนโมอ่อนโยนลงได้ โมยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนโมเป็นคนแรงจริง ๆ โมไม่สามารถทนกับโซเชียลได้ เถียง ด่า ตอบ ใครมาแรงกลับ ไม่โกงจริง ๆ ค่ะ”

นี่แหละความรักสไตล์ “แตงโม”
“แต่ก็ขอบคุณพระเจ้าค่ะ เราแต่งงานกันเนี่ย การแต่งงานกันทำยังไงโน่ถาม โมก็บอกว่าแต่งงานต้องเข้าคริสต์นะ เพราะบ้านโมเป็นคริสต์ เพราะฉะนั้นโตโน่ ด้วยความที่เค้ารักและอยากแสดงออกว่าเค้ายอมที่จะเปลี่ยนศาสนา โมก็ขอบคุณพระเจ้าที่ เอ่อ มอบคู่ชีวิตที่เค้า เค้าก็ทุ่มเทกับเราครั้งนี้มาให้โม”

“โมว่าคนอื่นฉลาดพอที่จะเผื่อใจ แต่โมไม่เผื่อเลย โมทุ่มหมดเลยค่ะ โมฝากแขวน พูดง่าย ๆ เลยว่าโมแขวนชีวิตไว้ที่โตโน่เลยแหละ แล้วพอแขวนชีวิตไว้ที่กับเขามันเป็นวิธีที่ผิดนะคะ เป็นวิธีที่ผิดมาก ๆ โมไม่แน่ะนำเลยค่ะ ถึงเราจะรักเขามากแค่ไหน เราต้องรักตัวเองด้วย แต่ว่าถามว่าถ้าย้อนกลับไปโมยังจะเลือกแขวนแบบนั้นมั้ยก็เลือกนะคะ เพราะว่ามันเป็นรักแบบในสไตล์แตงโมน่ะ”

“รักในแบบแตงโมมันเป็นแบบนี้ค่ะ คือ โมสุดตัวจริง ๆ พอมันสุดตัวแล้วมันมีความหวังไงคะ ความหวังพอตั้งไว้เยอะ ๆ มันผิดหวัง ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น ทำคนเดียว หวังคนเดียว จนเกินความจำเป็น โตโน่เองไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านความรักโชกโชนอะไรขนาดนั้น แล้วก็ยังอายุน้อยมากกว่าโม เพราะฉะนั้นเนี่ยในสิ่งที่เราเรียกร้องกลายเป็นมากเกินไปสำหรับเค้า แต่เค้าก็ที่สุดในชีวิตของเค้าแล้วอีกเหมือนกัน”

ทั้งนี้ เมื่อถูกผู้ดำเนินรายการถามว่าสิ่งที่ตนเองทำ เช่นการลงรูปภาพหวาน ๆ รีบแต่งงานทั้งที่คบกันไม่นานนั้น ทุกสิ่งทำไปเพราะต้องการที่จะยั่วยุแฟนคลับซึ่งไม่ชอบใช่หรือไม่? เรื่องนี้นักแสดงสาวตอบว่า...
“ถ้าในมุมมองของแฟนคลับอาจจะมีคิดก็ได้ว่าโมทำเพาะว่าอยากแหย่เขา ซึ่งในความเป็นจริง โลกของความเป็นจริงเราไม่ได้กระโดดเข้าไปอยู่ขนาดนั้นแล้วค่ะ คือ อย่างที่โมบอกว่าพอโมได้รู้จักโตโน่ แล้วก็เราพูดคุยกันถึงเรื่องพวกนี้ค่ะ โตโน่พยายามให้โมออกห่างจากโลกโซเชียลให้เยอะที่สุด อย่าเอาสิ่งพวกนั้นมาบั่นทอนการใช้ชีวิตคู่ การมีความสัมพันธ์ของเรา”

“แล้วก็โตโน่เองเนี่ย มีความคิดว่าอยากจะแต่งงานเร็วเพราะว่าคุณพ่อเสียตั้งแต่เด็ก โตโน่ไม่รู้ว่าโตโน่จะเป็นแบบคุณพ่อหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอยากมีลูกตอนเด็ก ตัวโมเองก็อยากมีลูก เราคบกันได้ประมาณหกเดือนแล้วก็อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว”

ผู้ดำเนินรายการ : ไม่คิดว่าเร็วไปหรือ
“คิดค่ะ แต่ว่ามุมมองโมอาจจะแตกต่างจากคนอื่นตรงที่ว่า โมอยากแต่งงานตอนมีความสุขมากดีกว่าแต่งงานตอนที่หมดช่วงโปรแล้ว แต่มันจำเป็นจะต้องจัดพิธี...”

เผยหลังจากชีวิตครอบครัวมีปัญหาจึงทำให้รู้ว่าฝ่ายชายยังโตไม่มากพอที่จะอยู่ในสภาวะผู้นำครอบครัว “พอเราอยู่ด้วยกันใช่มั้ยคะเราก็จะมีความเหนื่อยจากทุนเดิมน่ะค่ะที่เราคิดว่าเราผ่านมันมมาได้จริง ๆ แต่ไม่ค่ะ มันเป็นรากขมขื่นในจิตใจ แล้วงานเราลดอย่างเห็นได้ชัด สภาพครอบครัวเราหดหู่น่ะค่ะ เรามีจิตใจที่ค่อนข้างแย่กันทั้งครอบครัว ในช่วงเนี้ยแหละค่ะ โน่ยังโตไม่มากพอที่จะข้ามผ่านช่วงนี้ไปได้ ในสภาวะของผู้นำครอบครัว”

ผู้ดำเนินรายการ : ดูไม่ได้เพราะเรื่องที่คุยหรือคนที่คุย
“ทั้งสองอย่างเลยค่ะ โมเลือกที่จะคุยกับคนที่สนิทกับเค้าด้วยซ้ำ แต่เรื่องที่คุยบางเรื่อง ถ้าโมไปเห็นแบบเนี้ยในเครื่องโทรศัพท์ของโน่ โมรับไม่ได้ โมรับไม่ได้ว่าทำไมต้องปรึกษา ทำไมกระโดดไปปรึกษากับคน ๆ เนี้ย ทำไมไม่คุยกันเอง แล้วทำไมพูดเรื่องนี้ คือถ้าเป็นโมโมก็คิดค่ะ โมก็เข้าใจ ทำไมไม่ให้ดูอ่ะ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ให้ดูสิ”

“แต่แบบโมพูดข้อเสียของเค้า ก็ปรึกษาว่าเนี่ย เป็นแบบเนี้ย แบบเนี้ย แล้วเค้า เค้าจะต้องมารู้สึกว่าคนที่เค้าเคารพ คนที่เค้าไว้ใจ มีความลับกับโมอ่ะ โดยที่เค้าไม่รู้เรื่องน่ะ เค้าจะต้องเสียศรัทธากับคนที่เค้าเคยแบบเคารพ โมไม่น่ะ โมเลือกที่จะไม่ต้องรู้แล้วให้คิดว่าโมไปมีคนอื่นเลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่คนนั้นกับเค้าไงคะ”

“เพราะว่าตลอดเวลาที่่ผ่านมาโมทำผิดนะคะ มันมีช่วงที่เราหดหู่กันมากแล้วโมมีความลับกับเขา จะเห็นได้ว่ามันมีช่วงที่โมออกมาสารภาพว่าโมไม่ซื่อสัตย์ ตรงนั้นเนี่ย ความซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ ไม่เกี่ยวกับการนอกใจหรือไม่นอกใจ ในเคสของโมโมไม่ซื่อสัตย์จริง ๆ ค่ะ โมมีความลับ ความลับของโมเนี่ยคือการเริ่มเห็นข้อเสียของกันและกันมากขึ้น มันเป็นสภาวะที่ค่อนข้างแย่น่ะค่ะ”

“โมก็เลยเลือกปรึกษาผู้ใหญ่หลาย ๆ คน ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนซึ่งเอ่ยนามไม่ได้เลย โมไม่อยากให้โตโน่รู้เลย นั่นคือความลับ โมเลยไม่ไห้ดูโทรศัพท์ค่ะ โมจะบอกว่าเราเลิกกันครั้งนี้เพราะโมไม่ให้ดูโทรศัพท์ โมมีความลับที่อยู่ในโทรศัพท์”

ผู้ดำเนินรายการ : นั่นคือสาเหตุของการเลิก
“ใช่ค่ะ โมคิดว่ามันเล็กเกินไปที่คนที่มีครอบครัวแล้วจะก้าวข้ามผ่านไม่ได้...คือโมก็เข้าใจค่ะว่าในมุมของโน่โน่ขอเรื่องเดียวอย่านอกใจ ซึ่งโมเข้าใจเลยว่าการที่มีความลับเค้าถามแล้วว่าถ้าไม่ให้ดูเค้าจะเดินออกจากบ้านไป ณ ตอนนี้ โมจะเลือกแบบไหน โมยังยืนยันว่าโมไม่ให้ดู เพราะดูไม่ได้จริง ๆ น่ะค่ะ”

ผู้ดำเนินรายการ : ถึงขนาดที่อีกฝ่ายจะขอเลิกแต่เราก็เลือกที่จะไม่ให้ดู
“ค่ะ เพราะว่าในความคิดโมเนี่ย โมมีความรู้สึกว่าความรักอ่ะค่ะ มันไม่มีข้อไหนเลยที่ คนรักกันจะให้อภัยกันไม่ได้”

ผู้ดำเนินรายการ : ทำไมไม่คิดบอกตรง ๆ
“เราคุยกันหลายรอบมากแล้วค่ะ แต่เราให้กันไม่ได้ หลาย ๆ เรื่องน่ะค่ะ อย่างที่บอกว่าปัญหาสึนามิครั้งแรกมันยังไม่หมดไปจากใจของเรา ทั้งคู่จริง ๆ บวกกับคนตกงานน่ะค่ะ สภาพของคนตกงานมันย่ำแย่ จากคนที่เคยแบบอยู่ในระดับต้น ๆ วันนึงเราตกงาน เราเลยคิดว่ามันเป็นเพราะว่าแต่งงานหรือเปล่า”

ผู้ดำเนินรายการ : เริ่มโทษกันและกัน
“โมไม่โทษนะคะ แต่โมมีความรู้สึกว่าโตโน่โทษ ตอนแรกโมไม่คิดแต่โมมีความรู้สึกตอนที่เราเลิกกันไปแล้ว แล้วโน่ได้พูดกับแฟนคลับว่า สองปีที่ผ่านมาถ้าผมทำอะไรให้คุณเสียใจ ผมทำอะไรผิดพลาดไป ผมขอโอกาสที่จะกลับมา คือโมมีความรู้สึกว่าสองปีที่ผ่านมาคือความผิดใช่มั้ยที่มาคบกับหนู ตัวโน่เองก็เริ่มที่จะปล่อย เริ่มไม่ปกป้อง อะไรอย่างเนี้ย”

ผู้ดำเนินรายการ : เหมือนปัญหาเดิม ๆ ที่มันอยู่ล้อมรอบอยู่แล้วเพียงแต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไป
“ตอนนั้นกำลังที่เราจะสู้มันเยอะเลยค่ะ แต่พอวันนึงกำลังเราหมดเนี่ย โมรู้สึกว่าเหมือนโมสู้อยู่คนเดียว”

ผู้ดำเนินรายการ : แล้วอะไรมันคือตอนที่ ที่มันเหมือนกับว่าจังหวะที่เหมือนโมบอกความจริงอะไรบางอย่างกับโน่แล้วแต่เขาก็ยังไม่ฟัง
“มันอาจจจะเป็นเรื่องเดียวที่โมไม่สามารถรับได้ (เรื่องโทรศัพท์) เรื่องนี้แหละค่ะ โมเฉลยกับเขา โมจะเล่าให้ฟัง มันเป็นเรื่องที่ตลกมากเลยค่ะ แล้วมันดูเหมือนมันไม่จริงแต่มันจริงนะ วันเกิดเค้าคือโมปฏิเสธมาตลอดว่าโมไม่ได้มีอะไรนอกเหนือไปจากการแบบปรึกษาหรืออะไรอย่างนี้นะ ซึ่งมันก็ไม่มีจริง ๆ นะคะ แล้วพอถึงวันเกิดเค้า โมคิดว่าโมให้ของขวัญอะไรเค้ามากมายไม่ได้ แล้วสิ่งที่เค้าน่าจะต้องการมากที่สุดคือคำสารภาพจากเรา อย่างน้อยโมจะได้ให้เค้าในวันเกิดเค้า”

“วันเกิดเค้าโมก็เลยพิมพ์ไปสารภาพกับเค้า ว่า เออ โมไม่ซื่อสัตย์นะ โมคุยกับคน ๆ นึงแต่โมไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ เพราะว่าโมก็ต้องปกป้องเค้าเพราะว่าโมเป็นคนเข้าหาเค้าเอง”

ผู้ดำเนินรายการ : เป็นเพียงให้คำปรึกษาหรือว่ามีอะไรพิเศษเพราะตอนนั้นเริ่มหดหู่
“ไม่มีตัวตนค่ะ เพราะโมไม่ได้คุย โมแค่อยากจะบอกในสิ่งที่เขาอยากฟัง”

ผู้ดำเนินรายการ : บอกในสิ่งที่เขาอยากฟังเพราะคิดว่าว่าเขาปักใจไปแล้ว
“เค้าคิดว่าโมกลับไปคุยกับแฟนเก่า”

ผู้ดำเนินรายการ : แล้วเราไปสารภาพในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ?
“คือโมคิดว่าบางทีคนเราอาจจะอยากได้ยินในสิ่งที่อยากได้ยิน อยากจะได้ยินคำขอโทษ อยากจะได้ยินคำที่เขาอยากจะฟัง เขาอาจจะให้อภัยเราก็ได้”

ผู้ดำเนินรายการ : เราก็เลยโกหกไปว่าเราคุยกับแฟนเก่าจริงๆ
“ไม้ได้คุยกับแฟนเก่าค่ะ เพราะว่าโมไม่ได้คุยกับแฟนเก่าจริง ๆ โมจะไปบอกว่าโมคุยกับแฟนเก่าไม่ได้เพราะฉะนั้น แฟนเก่าจะเดือดร้อนมากเลยนะคะ คือ แล้วโมก็ต้องมีตัวละครใหม่ ซึ่งมันไม่มีตัวตน โมก็นั่งคิดกับตัวเองว่าทุกวันนี้ ในสายตาของโตโน่เนี่ย โมเนี่ยไปคุยกับคนอื่นน่ะ โมก็ถามตัวเองว่ากูคุยกับใครวะ”

ผู้ดำเนินรายการ : แต่เราเป็นคนบอกเขาเองไงว่าเราคุยกับคนอื่น
“ใช่เราบอกในสิ่งที่เขาอยากจะฟัง ซึ่งจริง ๆ แล้วโมไม่บอกก็ได้ บอกหรือไม่บอกมันก็เท่าทุนน่ะค่ะ สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่กลับมาหรอก”

ผู้ดำเนินรายการ : แล้วการบอกคือบอกกันหลังจากที่เลิกไปแล้ว
“ใช่ค่ะ มันก็เป็นวิธีที่แปลกมาก คือโมเสียสละที่จะเป็นคนผิดไปเลยอ่ะ”

ผู้ดำเนินรายการ : เพื่อให้เค้าเลิกค้างคาใจ
“ใช่ค่ะ”

ผู้ดำเนินรายการ : ฟังดูเหมือนกับเราแคร์ หัวใจเค้า แต่สิ่งที่เราทำเหมือนไม่แคร์หัวใจเค้าเลย ถ้าวันนึงเค้าไม่ได้ทำแต่เค้ามาบอกกับโมว่าเค้าคุยกับคนอื่นล่ะ
“โมจะเชื่อว่าเค้าไม่มีนะ มันคือเรื่องของการเชื่อใจน่ะค่ะ”

“ตั้งแต่เลิกกันนะคะโตโน่ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ติดต่อกลับมาอีกเลย อย่างวันที่โมไม่คิดจะอยู่ เค้าก็ไม่มาหา อันนี้ก็ไม่ได้ทำเพื่อให้เค้ากลับมาหาหรอกนะคะ แต่มันดันฟื้น คือ ไอ้ที่แย่ แย่ยิ่งกว่าความตายก็คือตายแล้วฟื้นเนี่ยแหละค่ะ”

ผู้ดำเนินรายการ : วินาทีที่ไม่อยากอยู่คือไม่อยากอยู่จริง ๆ หรือว่า...
“ไม่อยากอยู่จริง ๆ ค่ะ ตอนนั้นอารมณ์ชั่ววูบบวกกับสภาวะโรคซึมเศร้าที่หนักมาก ๆ แล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง ตอนนั้นพระเจ้าก็ไม่อยู่ในหัวแล้วค่ะ พ่อแม่ก็มีนะคะ แต่ว่าอารมณ์มาก่อน ความคิดชั่ววูบมักจะไม่คิดถึงใคร ยกเว้นอารมณ์ของตัวเอง โมโทรไปถาม จำไม่ได้หรือ ตอนเราแต่งงานเราสัญญากันว่าอะไร เค้าก็ตอบกลับมาว่าคุณก็รู้นะว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากคุณ แล้วจะให้ผมทำยังไง”

“มันเป็นน้ำเสียงที่ไร้เยื่อใยมาก แล้วโมรับไม่ได้ พอโมได้ยินคำพูดแบบนั้นแล้ว วางสายปุ๊บ ไม่มีแรงทำอะไรเลย ชีวิตโม หัวใจโมไปแล้วน่ะ อยู่ทำไมล่ะโลกใบเนี้ย ก็ในเมื่อเค้าคือที่สุดของชีวิตแล้วอ่ะ คือ นิยามความรักโมเค้าคือโลกทั้งใบของโม เป็นบ้าน เป็นบ้านที่แบบไม่ว่าโมจะไปที่ไหนก็ตาม โมเข้าไปอยู่ เค้าจะคือที่พักพิง คือที่หลบภัย คือโมมองความรักเป็นแบบนั้น อีกอย่างคือ ฝากความหวังเยอะเกินไปอย่างที่บอกน่ะค่ะ”

“ก็แกะคัตเตอร์ใหม่ที่ใหม่กริ๊บเลย แกะออกจากซองเลยค่ะ ก็กรีด ถ้าเป็นปกติแล้วโมคงคิดที่จะกินยาอย่างเดียวในจำนวนเยอะ ๆ เพียงแต่ว่ายาโมมันน้อยไป มันอาจจะช่วยแค่โมหลับไปวูบนึง แต่ โมหวังว่าวูบนึงของโมจะกลับมาแล้วเลือดไหลไปแบบหมดไปแล้ว แต่พระเจ้าไม่ให้โมตายค่ะ พระเจ้ายังให้โมต้องตื่นขึ้นมารับกับสิ่งที่ตนเองทำไป กดเท่าไหร่ก็ไม่เข้า คัตเตอร์คมมาก ใหม่มาก โมกรีดไปห้าทีน่ะค่ะ กดเท่าไหร่ก็ไม่เข้า ไม่มีแผลเย็บ แต่หลับไปนิดเดียว ไม่ได้บอกว่ามันคือสิ่งที่ควรจะทำนะคะ”

ผู้ดำเนินรายการ : ยังรักเค้าอยู่มั้ยคะ
“เต็มหัวใจเลยค่ะ แต่อยู่ในที่ลึกที่สุดแล้ว แต่โมเชื่อว่าทุกคนที่ฆ่าตัวตายไม่คิดอยากจะฟื้นขึ้นมาเจออะไร แต่พระเจ้าต้องการให้โมเข้มแข็งกว่านี้ ต้องแข็งแรงกว่านี้”

ผู้ดำเนินรายการ : โมมองว่าเราเป็นคนที่อยู่ด้วยยากมั้ย
“ถ้าเมื่อก่อนคิดว่าใช่ค่ะ ระหว่างโน่ลงไปเรื่อยๆ เนี่ยใช่หมด (หลังจากพี่โน่ไปแล้ว) โคตรง่ายเลยค่ะ เพราะว่าพอโมมีจิตใจใหม่ที่พระเจ้าทรงแบบเปลี่ยนจิตใจโมใหม่แล้วเนี่ย โมใจกว้างขึ้นเยอะมาก ไม่ วู่วาม แล้วก็รู้จักเผื่อใจแล้ว รู้จักที่จะมองเห็นหัวใจของคนรอบข้างมากขึ้น”

ผู้ดำเนินรายการ : ถึงวันนี้โตโน่รู้ความจริงหรือยังกับวันนั้นที่โมพูดไป
“ไม่ทราบหรอกค่ะ ว่ามันไม่มีตัวตน”

ผู้ดำเนินรายการ : ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่าเราอยู่ท่ามกลางเส้นบาง ๆ ระหว่าความเป็นคนตรง จริงใจ กับความเป็นคนโกหก เสแสร้งสร้างภาพ ซึ่งมันเป็นเส้นที่ใกล้กันมาก แล้วบางครั้งเราแยกไม่ออกว่า เฮ้ยแตงโมพูดจริงทุกอย่าง กับอีกอันนึงคือโกหก ทุกอย่าง บางคนพูดชื่อเราปุ๊บเบ้ปากใส่ รู้สึกว่าทุกอย่างที่เราพูดมันไม่จริง
“อือ โมจะไม่ค่อยเจอกับกระแสที่บอกว่าโมโกหก แต่โมจะเจอเส้นบาง ๆ ระหว่างตรงกับแรง ไอ้สิ่งที่เค้าคิดว่าโมสร้างภาพโมไม่ค่อยเจอ เพราะคนจะทราบดีอยู่แล้วว่าโมไม่สร้าง มันก็มาน่ะ คือโมไม่ต้องสร้างเลยน่ะ ตั้งแต่เข้าวงการมาโมเป็นคนพูดเยอะ เพราะฉะนั้นการทำข่าวกับโมเนี่ย สนุก มันมัน มันมีแต่เนื้อไม่มีน้ำ โมไม่กั๊ก เพราะฉะนั้น โมไม่จำเป็นต้องสร้างเลย คือไม่ว่าโมจะขยับตัวทำอะไรก็ตาม เป็นประเด็นหมดเลย”

ทั้งนี้ ในตอนท้ายเจ้าตัวได้ฝากไปยังคนที่บูชาความรักว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรขออย่างเดียวอย่าฆ่าตัวตาย และเมื่อผู้ดำเนินรายการให้พูดถึงอดีตสามี เนื่องในวันแห่งความรัก ทางด้านของนักแสดงหญิงก็น้ำตาไหลออกมา พร้อมกับบอกว่า...“คิดก่อนนะ อันนี้ไม่ได้คิดมาก่อนเลยเนี่ย ไม่รู้จะพูดอะไร เอ่อ ขอบคุณแล้วกันค่ะ ไม่ว่าจะมีเรื่องที่ดีหรือไม่ดี เรื่องที่ย่ำแย่มากแค่ไหนก็ตาม ความรักของโมมันก็ยังอยู่ค่ะ”

“ถ้าไม่มีเรื่องราวของเราทั้งหมดในวันนั้น ก็คงไม่มีโมคนใหม่ในวันนี้ เพราะฉะนั้นอะไรที่โมเคยทำให้รู้สึกไม่ดี ทำผิดมาก ๆ โมขอโทษ จะขอโทษกี่ครั้งก็ยินดีที่จะขอโทษค่ะ ขอให้วันแห่งความรักปีนี้ของโน่ มีความสดชื่น สดใส กับครอบครัว แฟนคลับ กับหลาย ๆ คนที่เขาเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน โมเองก็ส่งความรักเล็ก ๆ ผ่านตรงนี้แล้วกันค่ะ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่โมยังยืนยันได้ว่ามันคงมีอยู่ และโมเชื่อว่าโน่ก็มีอยู่เช่นกัน”

“โมคิดถึงนะคะ คิดถึงแน่ ๆ อยู่แล้วเพราะมันเป็นวันแห่งความรัก เราก็ต้องคิดถึงคนที่เรารัก ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นยังไงจะได้กลับมาเจอกันมั้ย ก็อยากให้มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิต ความรักของเราที่เราได้ทุ่มเมกับมันไปมาก ฝ่าฝันกันมามากถึงมากที่สุด แต่พอมา ณ วันนี้โมคงไม่เรียกร้องให้โน่กลับมา เพราะวันที่ออกอากาศโมอาจจะมีแฟนใหม่ไปแล้วก็ได้ หรือโน่อาจจะมีแฟนใหม่ไปแล้วก็ได้”

“แต่ว่า โมเชื่อว่า สิ่งที่อยู่ในลึกสุดใจมันก็ยังอยู่อย่างนั้นน่ะค่ะ มันเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ โน่ก็ยังเป็นโลกใบสวยงามที่โมอยู่...”





ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น