xs
xsm
sm
md
lg

โคตรภูมิใจ "โตโน่" ปลดหนี้ครอบครัว 18 ล้าน ไม่รู้ปัญหาเขี่ยกรรมการเดอะสตาร์ยกเซ็ต!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โตโน่ ภาคิน” ภูมิใจทำงานปลดหนี้ให้ครอบครัว 18 ล้านในเวลา 5 ปี เร่งทำงานโกยเงินซื้อที่ดินเพิ่ม บอกเบื่อกับชีวิตที่มีแต่หนี้แล้ว ตอนนี้ไม่มีเมียก็ไม่เป็นไร ไม่รู้ปัญหาปลดกรรมการเดอะสตาร์ยกเซ็ต

ช่วงนี้ดูเหมือนจะได้เห็นหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ออกงานให้เห็นหน้าเห็นตากันบ่อยขึ้น ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าที่ตั้งใจทำงานเก็บหอมรอมริบมาตลอด เพราะนอกจากอยากจะซื้อที่ดินเพิ่มเติมแล้ว ยังปลดหนี้ให้ครอบครัวที่เคยมีหนี้สูงถึง 18 ล้านบาทได้หมดแล้วในเวลา 5 ปี ฟุ้งเป็นสิ่งที่ทำให้ตนภูมิใจมาก

“ช่วงนี้ก็ทัวร์คอนเสิร์ตบ่อยครับ ก็เอาตังค์ไปให้ที่สวนทานตะวันหมด (ยิ้ม) จริง ๆ มันก็ไม่ได้แพงอะไร คือเมื่อก่อนบ้านเราก็หนี้เยอะ ที่หามาได้ก็จ่ายหนี้เดิม แล้วเราก็ซื้อที่เพิ่มน่ะครับ ตอนนี้หนี้ก็ใกล้หมดแล้วล่ะ ตอนนี้มีแต่ซื้อที่เพิ่ม คงไม่อยากเป็นหนี้แล้วล่ะ เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว เบื่อแล้ว (หัวเราะ) บ้านก็เคลียร์หมดแล้วครับ ตอนนี้เหลือที่ที่ยังเหลือประมาณล้านกว่าบาท”

ที่เป็นหนี้ตอนนั้นก็ประมาณ 18 ล้านครับ ก็ใช้เวลาอยู่ 5 ปีครับ แต่ตอนนี้หมดไปแล้วนะครับ ตอนนี้เหลือแต่ซื้อที่อย่างเดียว ผมก็ดีใจนะ เพราะเรารู้ว่าตอนที่คุณแม่เป็นหนี้เขาทุกข์ใจขนาดไหน เราก็ดีใจที่ซื้ออะไรที่ท่านอยากได้ให้ท่าน ในตอนที่ครอบครัวผมยังอยู่กันครบ ตอนที่ยังมีคุณพ่อ คุณแม่ผมก็สดใส มีความสุข วันหนึ่งพอเสียคุณพ่อไปนอกจากจะเสียใจแล้ว ก็ต้องเสียสิ่งที่คุณพ่อซื้อให้ วันนี้ผมโตขึ้น ผมได้มีโอกาสทดแทนบุญคุณท่าน แต่ราคาของของที่ผมซื้อให้มันไม่ได้หมายถึงความกตัญญูหรือไม่กตัญญูนะครับ แต่หมายถึงว่าสิ่งที่ทำไปถ้าท่านมีความสุขผมก็ดีใจ”

“อย่างผมเห็นท่านถ่ายรูปกับสวนทานตะวันมา ผมก็ดีใจ ได้ไปดูสวนทานตะวัน ได้ปลูกพวกต้นเฟื่องฟ้า หรือเวลาที่แม่มาขอว่าขอไปทำบุญ เราโอนเงินให้ท่านได้ไปทำบุญ ถ้าท่านมีความสุขผมก็ยินดีครับ ตัวเราเองเอาตรง ๆ ไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอกว่าตายแล้วไปไหน (ยิ้ม) เราสนใจแค่ว่าตอนนี้เรายังมีโอกาสได้หายใจอยู่ ถ้าเกิดว่าทำให้คนรอบข้างมีความสุขได้เราก็อยากจะทำ

ภูมิใจที่สามารถทำอย่างที่พูดไว้กับแม่ตั้งแต่ตนยังเด็ก ๆ ได้ บอกถึงไม่มีเมียก็ไม่เป็นไร
“ตอนที่ปลดหนี้ได้ก็โล่งนะ ตอนที่เราได้เดินไปในบ้านของเราที่ซื้อให้ท่าน ผมจับหมดเลยนะ ทั้งกำแพง ทั้งราวบันได และไม่ใช่ว่าแค่ให้แม่อยู่ คุณยายก็ได้อยู่ด้วยจนท่านเสีย ได้มาอยู่บ้านหลังใหม่ ผมก็ชื่นใจครับ ผมภูมิใจ ดีใจ ตอนเด็ก ๆ ตอนที่บ้านเป็นหนี้ ตอนที่เสียคุณพ่อ เราเคยบอกคุณแม่ตั้งแต่ตอน 11 - 12 ขวบว่าเดี๋ยวจะเอากลับคืนมาให้ แม่ก็คิดว่าเป็นคำพูดของเด็ก ๆ แต่มันก็ฝังใจเรานะ เราไม่รู้หรอกว่าจะใช้วิธีไหน แต่ตอนนั้นรู้ว่าอยากจะทำให้คุณแม่สบายใจขึ้น พอเราโตมาแล้วมีโอกาสทำให้มันเป็นจริง ผมก็มีความสุขครับ”

เมียไม่มีไม่เป็นไรครับ (ยิ้ม) ตอนนี้ผมว่าพักไว้ก่อนดีกว่าครับ ผมว่าคงพักยาวอยู่เหมือนกัน คือหมายความว่าตัวเราเองก็ต้องยอมรับว่าด้วยเวลา ด้วยงานตอนนี้ ด้วยใจเราด้วยคงยังไม่ดีถ้าเอาใครเข้ามา ก็ตั้งใจทำงานครับ ตอนนี้ผมก็มีความสุขที่ได้เห็นเพื่อนมีความสุข คือเพื่อนในวงของผมตอนนี้มีความสุขทุกคน มีเงินไปเลี้ยงแม่ เลี้ยงพ่อ เลี้ยงแฟน ตัวเราเองตัวคนเดียว เราได้เห็นภาพนั้นก็มีความสุขไปด้วย เพราะพวกเขาก็เหมือนครอบครัวผม”

“ตอนที่ยังไม่มีงานขนาดนี้ ผมก็มีเอาเงินส่วนตัวให้พวกเขา เพราะพวกเขาก็เหมือนครอบครัวผม ถ้าผมอิ่มผมก็อยากให้เขาอิ่มกับผม และที่สำคัญตัวเราเองเรากินข้าวจานเดียวเราก็อิ่ม เงินจะหวงอะไรนักหนา ในเมื่อเราสามารถให้เพื่อนเราอิ่มไปกับเราด้วย มันก็ควรทำและที่สำคัญในวันที่ผมล้ม ในวันที่ผมเจ็บ ในวันที่ผมแย่ เพื่อนผม วงผมก็ไม่เคยทิ้งผมไปไหน วันนี้วงเรามีชื่อเสียงขึ้น มีงาน มีเงินมากขึ้น เราก็ต้องคอยเตือนกันเองไม่ให้เหลิง ควบคุมชีวิตให้มันดี ในเมื่อผมไม่มีแฟนเหมือนเพื่อนในวง ผมก็ดูเขามีความสุขกับแฟนเขาไปก็ได้ (ยิ้ม)”

ปัดไม่รู้เดอะสตาร์มีการเปลี่ยนตัวกรรมการยกเซ็ต
“ผมไม่ทราบเลยครับ แต่ถ้ามันเป็นจริงทีมงานก็คงมีการคุยกันแล้ว ก็คงมีเหตุผลของเขา แต่ถามว่าใจหายไหม ก็ใจหายกันทุกคนแหละ เพราะเดอะสตาร์ก็มีมา 10 กว่าปีแล้ว และอย่างที่โจ้-พี่ม้า-พี่เพชร เขาก็เป็นสัญลักษณ์ของเดอะสตาร์เลยนะ การคอมเม้นต์ของเขา คือเขาเป็นส่วนหนึ่ง แต่ในเมื่อมันมีการเปลี่ยนแปลงผมเชื่อว่าคงมีการคุยกันแล้วล่ะ ส่วนผมไม่ได้รู้เรื่องรายละเอียดลึกซึ้งอะไรครับ”

“แต่สำหรับผมรู้สึกว่ามันเป็นธรรมดานะที่จะมีคนต่อต้าน มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่มีเลยสิแปลก เพราะรายการนี้อยู่กับคนไทยมานาน พอมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนแฟน ๆ ก็ต้องใจหายอยู่แล้ว แม้กระทั่งตัวเราเองยังรู้สึกใจหายเลย แต่ขอให้จบลงด้วยดี หมายถึงว่าถ้าพี่โจ้-พี่ม้า-พี่เพชรจะไม่ได้ทำต่อ ผมว่าก็คงได้มีการคุยกับทางเอ็กแซ็กท์แล้วนะครับ ขอให้อย่าทะเลาะกันก็พอ”

“กลัวกระแสตอบรับจะไม่ดีเท่าของเดิมมั้ยเหรอ ตรงนี้มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปกำหนดได้ว่ากระแสตอบรับมันจะเป็นยังไง เพราะเดี๋ยวนี้ทีวีก็มีหลายช่อง มีรายการให้เลือกดูเยอะ ดังนั้นผมคิดว่าบางอย่างในเรื่องของกระแสมันควบคุมไม่ได้หรอก มันอยู่ที่ตัวผู้เข้าแข่งขันมากกว่าว่าเข้ามาเพื่ออะไร ถ้าเขาเข้ามาเพื่อที่จะแข่งกับตัวเอง เพื่อที่จะให้ความสุขกับคนดู นั่นเขาก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าเขาจะดังหรือไม่ดัง ขอแค่เขาทำในวันนั้น คนดูจะมาดูเขา 5 - 10 คนหรือ 5,000 คน เขามีหน้าที่ทำให้ทุกคนที่เข้ามาในวันนั้นมีความสุข ในเรื่องของกระแสหรือจำนวนคนก็คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลสำหรับคนที่มีความฝันจริง ๆ นะครับ”







ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น