xs
xsm
sm
md
lg

“หม่อมเอ็ม” รู้สึกแย่! ถูกตราหน้าลูกอกตัญญู ทอดทิ้งพ่อ เล็งช่วยปลดหนี้ 3 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หม่อมเอ็ม” ไม่อาย พ่อเร่ขายไอติมตจว. บอกทำใจไว้แล้วว่าสักวันจะต้องโดนตราหน้าเป็นลูกอกตัญญู ทอดทิ้งพ่อ ยันเคยขอร้องพ่อให้เลิกขายแต่อีกฝ่ายไม่อยากเป็นภาระ ยอมรับรู้สึกแย่ได้ “หม่อมเหยิน” ช่วยปลอบ บอกปีหน้าเลิกแน่! วาดฝันอยากช่วยพ่อเปลื้องหนี้ 3 ล้าน

กลายเป็นกระแสดราม่า เมื่อมีข่าว “หม่อมเอ็ม อรรถพล เทศทะวงศ์” ทอดทิ้งพ่อ “หม่อมเหยิน” หรือ “นายประสิทธิ์ เทศทะวงศ์” ให้เร่ขายไอศกรีมมะพร้าวอยู่ที่ต่างจังหวัด ล่าสุดเจ้าตัวขอตั้งโต๊ะเปิดใจเคลียร์ในรายการ “ข่าวช่อง 2” ทาง ช่อง 2 ข่าวลึก บันเทิงร้อน ยันไม่ได้เป็นคนอกตัญญู พร้อมจะรับพ่อมาอยู่ด้วย

“คือจริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลยครับ คือคนเขาไปเห็นว่าพ่อผมขายไอติมอยู่ต่างจังหวัด ในขณะที่เราก็เล่นละคร ทำงานในกรุงเทพฯ มันก็เลยเกิดเป็นภาพที่ทำไมปล่อยให้พ่อมาทำอะไรแบบนี้ ปล่อยให้มาลำบากหรือเปล่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วผมกับพ่อเนี่ยคุยกันทุกวัน พ่อผมเขาอยากที่จะอยู่ต่างจังหวัดเป็นหลัก เพราะเขามีบ้านตากอากาศอยู่ที่ปราจีนบุรี แต่ว่าตัวเขาไม่อยากอยากอยู่เฉย ๆ คนเคยทำงาน คนแก่เนาะเขาก็ทำไอติมขาย ง่าย ๆ ตามตลาดนัดบ้าง ตามที่ต่าง ๆ บ้าง พ่อผมอายุเยอะแล้วยอมรับแต่ว่าโชคดีที่เขายังแข็งแรง เขาเองไม่เคยบ่นเหนื่อย หรือว่าอะไรเขาเข้าใจว่าลูกก็ทำงาน”

“จริง ๆ แล้วตัวผมเองไม่อยากให้พ่อทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เคยบอกเขาแล้วตั้งแต่ 3 - 4 ปีแล้วว่าผมไม่อยากให้พ่อต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่พ่อผมเองเขาก็มีความคิดอีกอย่างหนึ่ง เขาคิดว่า ณ ขณะนี้ที่เขายังมีแรง เขาก็อยากจะทำ ไม่อยากอยู่เฉย ๆ ถ้าไม่ทำอะไรเขาเบื่อ”

“พ่ออยู่ต่างจังหวัดนานแล้วครับ ก่อนหน้านี้เขาไปอยู่ญี่ปุ่นมา 6 ปี ผมก็อยู่กับพี่ชาย ตอนนั้นผมอยู่ ม.3 ก็ทำงาน จันทร์ - ศุกร์เรียน เสาร์ - อาทิตย์ผมก็ทำงานเป็นหลัก แกก็ไปหาเงิน ไปอยู่ญี่ปุ่น พอกลับมางานละครมันก็ไม่ได้มีมากแล้ว งานตลกมันก็ไม่ได้มีมากเหมือนแต่ก่อน แล้วมันจะทำยังไงในเมื่อก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป แกเองเห็นว่าทำตรงนี้ได้อยู่”

บอกไม่อายที่พ่อเร่ขายไอติม ทำใจไว้แล้วว่าสักวันต้องโดนแบบนี้ อยากช่วยเปลื้องหนี้ 3 ล้าน
“เคยขอมานานแล้วครับ เพราะทุก ๆ ครั้งที่ผมไปเห็นเขาผมก็สงสาร ไม่ได้อยากให้ทำ แต่ว่าตัวผมเอง ต้องบอกว่าผมเองก็ไม่ได้ว่าไม่ใช่ไม่อยากเลี้ยงพ่อแม่ ไม่ใช่ แต่ว่าเราก็ดูแลตัวเองได้ส่วนหนึ่ง ต้องบอกว่าบ้านผมมีหนี้สินนะ มีภาระ ยังต้องเคลียร์อะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้มันอยู่ในช่วงที่ว่าช่วยกันทำ ช่วยกันหา ผมไม่อายสิ่งที่พ่อทำหรอกครับ ไม่เคยอาย แต่ว่ากลัวว่าวันหนึ่งมันจะเป็นแบบนี้(ยิ้ม)”

“ก็ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อหลาย ๆ อย่างครับ ทุกวันนี้เวลาทำงานได้เงินมาก็ส่งไปให้เป็นค่างวดรถเขา เป็นค่าเทอมหลาน เป็นค่าเช่าบ้าน บางทีเขาไปจันทบุรีด้วยไงครับเวลาที่เขาขัดอะไร ไม่พออะไรเราก็ยินดี ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว มีพี่ชาย พี่ชายคนโตอีก 2 คน มีพี่สาว พ่อผมมีลูกหลายคน ทุกคนช่วยกันหมด เพียงแต่ว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน หนี้ก็ระดับหนึ่ง บ้านยังเป็นหนี้ธนาคารอยู่ 3 ล้าน”

“ข่าวออกมาหลาย ๆ คนเขาคงเข้าใจ แต่มันก็มีหลาย ๆ คนที่มองว่าผมไม่ดูแลครอบครัว เป็นลูกที่ไม่ดี ถ้าคนที่เขาไม่รู้จริง ๆ เขาก็คงไม่รู้ ก็ไม่เสียใจครับ ผมคิดว่าไม่มีใครรู้อะไรดีเท่าตัวผม กับครอบครัวผม พ่อแกก็ขายไอติมนานแล้วครับ ก็คือไปทั่วครับ อีเวนต์งานดารา ตลาดนัดดารา อย่างบางทีมีงานเปิดตัวหนังเขาก็เหมาไปเราทำแบรนด์ให้มันดีครับ ไม่ใช่ว่าเราไปขายแบบน่าสงสารหรือว่าอะไร ก็พูดครับเขา เขาก็ให้กำลังใจว่าอย่าไปสนใจเลย ปากคนมันก็พูดไป ข่าวมันก็คือข่าว เขาก็ให้กำลังใจ”

“ตอนนี้ที่บ้านผมกำลังปรับปรุงใหม่ กำลังทำข้างล่าง ตอนนี้ยังไม่เสร็จ ฝุ่น ก็อาจจะยังไม่สะดวก อุปกรณ์ก่อสร้างยังกองอยู่เลย ถ้าเอาพ่อกับแม่มาก็คงยังไม่สะดวก แต่ผมคิดเอาไว้ว่าผมจะทำงานเก็บเงินแล้วผมอาจจะช่วยปลดหนี้ทุกอย่างที่มีแล้วก็ให้พ่อกับแม่ผมกลับมาอยู่ในกรุงเทพฯ”

เตรียมรับ “หม่อมเหยิน” มาอยู่ด้วยกัน พ่อให้คำมั่นปีหน้าจะเลิกขาย
“ที่ผมเคยคุยกับเขา เขาคงไม่อยากอยู่เป็นภาระเฉย ๆ เพราะว่าบ้านเรามันมีภาระเยอะ ภาระของแม่ ของพ่อ รถของแม่ รถของพ่อ ค่าโน่นค่านี่ที่เป็นภาระของเขาบางครั้งผมคนเดียวเอาไม่อยู่ เพราะตัวผมเองก็ดูแลตัวเองด้วย มีภาระของผมด้วย ในขณะเดียวกันเราก็ยังมีพี่น้อง เราช่วยกันอยู่ตอนนี้ ไม่น้อยใจหรอกครับ แต่มันอาจจะรู้สึกแย่เวลาที่เราเดินไปไหนแล้วคนเขาไม่เข้าใจ ไม่เคยได้สัมผัสเราจริง ๆ เขาคงไม่รู้”

“ก่อนหน้านี้ผมมีละครประจำคือน้องใหม่ฯ ผมถ่ายน้องใหม่ฯ มานาน บ้านหลังนี้เป็นบ้านของผม พี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) อุปการะผม แต่ ณ วินาทีนี้ผมยังไม่ได้ไปถ่ายน้องใหม่ฯ เพราะยังติดละครอีกเรื่องหนึ่ง ถ่ายอยู่ 2 เรื่อง จันทร์ - อาทิตย์ ผมทำงานทุกวันเลย บางทีผมก็ไม่ได้หาพ่อหาแม่ จะได้ไปก็คือโอกาสบางเวลาวันสำคัญ ส่วนใหญ่เราแยกกันอยู่ แต่ว่าเราโทร.คุยกันทุกวัน ไลน์เห็นหน้ากันทุกวัน”

“มีแพลนรับพ่อมาอยู่ด้วยแน่นอนครับ เพราะว่าตัวผมไม่เคยคิดว่าจะปล่อยให้เขาต้องทำงานขายไอติมแบบนี้ตลอดชีวิตหรอกครับ ก็คิดอยู่ แต่ว่าตัวผมเองตอนนี้รู้สึกว่าผมอยากจะโตขึ้น อยากจะทำอะไรที่มันได้มากกว่านี้ อยากดูแล อยากให้กลับมาให้อยู่เป็นครับครัวเหมือนคนอื่นเขา”

“พ่อไม่ได้ขอโทษครับ อย่างที่บอกครับเขาก็บอกไม่ต้องไปสนใจ ให้กำลังใจกันอยู่ครับ ไม่ต้องไปซีเรียส เครียดอะไรนะ ทุกวันนี้เขารู้ดี ผมทำงานทุกวันเลย ตอนนี้เขามีแพลนบอกกับผมว่าน่าจะปีหน้าน่าจะเลิกขาย หยุดขายไปต่างจังหวัดแล้ว เพราะว่าแม่ผมมีโรคเบาหวาน ความดัน แล้วก็มีแนวโน้มว่าจะต้องฟอกไตด้วยครับ ตอนนี้ก็คือต้องดูแลแม่ด้วย ในขณะเดียวกันที่พ่อออกไปขายไอติมแม่ผมบางทีก็อยู่บ้านไหวบ้างไม่ไหวบ้าง ตอนนี้ก็พยายามเอาแม่กลับมาดูแลให้ไวที่สุด เท่าที่จะทำได้”




ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น