xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนแท้คือน้ำตา “แม่สีดา” เปิดใจมรสุมชีวิต! ไม่มีแม้ที่ให้ซุกหัวนอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มรสุมชีวิต “แม่สีดา” เปิดใจน้ำตาไหลพราก กำลังจะไร้ที่ซุกหัวนอน บอกสมน้ำหน้าตัวเอง มีทุกอย่างแต่รักษาไว้ไม่ได้ โทษเวรกรรมทำชีวิตเหมือนโดนสูบ สู้งานหนักหวังปลดหนี้เป็นล้าน ไม่อยากมีบาปติดตัว

ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละคร สำหรับ “แม่สีดา พัวพิมล” คุณแม่อดีตดาราดังผู้ล่วงลับ “อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล” ชีวิตเหมือนจะดีขึ้นหลังได้ทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหาร แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกระลอก เพราะกำลังจะไร้ที่ซุกหัวนอน โดยเจ้าตัวเผยในรายการเปิดโปงด้วยอาการน้ำตานอง บอกสมน้ำหน้าตัวเองที่เคยมีทุกอย่างแต่รักษาไว้ไม่ได้

“เจ้าของร้านอาหารนี่เคยเป็นตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ตกอับ แต่พอชีวิตมันตกอับก็ไปช่วยเขา ก็ไม่ใช่เด็กเสิร์ฟอะไรหรอกคะ เขาเห็นว่าเราอยู่บ้านเหงา ๆ เขาคงเป็นห่วงเรา เราโอเคไป เขามีร้านอาหาร พอเราไปถึงตรงนั้นเราก็ไปช่วยเขา ไปนั่งเฉย ๆ งอมือ งอเท้าก็ไม่ได้ เขาก็มีอาหารให้เราทานอะไรต่ออะไร”

“เราเป็นแค่ลูกจ้างเขา (ยิ้ม) ที่มาออกรายการเขาก็เห็นข่าวของเรา เขาก็โทร.ไป ผมมีงานอันนี้พี่สนใจไหม ผมจะให้พี่มาทำหน้าที่นี้ คุมเงินเป็นผู้จัดการร้าน เราก็บอกน้องพูดใหม่ซิ จะให้พี่ไปคุมเงินเหรอ น้องไม่เห็นข่าวพี่เหรอ ข่าวพี่เสียหายมากเรื่องฉ้อโกง หลอกลวงแล้วหนูจะให้พี่ไปคุมเงิน หนูเชื่อใจพี่เหรอ เราก็บอกเขาอย่างนั้น เขาบอกผมเห็นครับข่าว แต่ผมไม่คิดแบบนั้นนะครับพี่สีดา ไอ้คำแบบนี้พอเราฟัง เขากับเราไม่ได้รู้จักกันเลย หรือสนิทกันมาก่อน เราก็เลยแบบเด็กคนนี้ให้เกียรติเรามากเลย เราอาจจะเป็นอย่างในข่าวก็ได้ แต่เขากลับให้ความเชื่อมั่นเรา ก็ไปเป็นผู้จัดการร้านให้เขา แล้วก็ดูแลเรื่องการเงินให้เขาด้วย”

“ชื่อร้านอาหารส้มตำเมืองทองคะ รสชาติอร่อยนะไว้ไปทานกัน อยู่ตรงพัฒนาการติดกับซอย 53 แต่ว่าตัวเราต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่างหัวหิน เพราะเขามี 2 สาขา คือ เรื่องรายได้เราคงไปเทียบกับสมัยก่อนไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้ชีวิตเรามันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน เขาให้เท่าไหร่เราก็ต้องเอา เอาเป็นว่าเราได้ประทังชีวิต เราได้ออกมาเจอคน ได้ออกมาใช้สมอง ให้สมองเราได้ทำงานมันจะได้ไม่นิ่ง แต่ว่าจะมากหรือน้อยมันไม่ได้สำคัญตรงนั้น มันสำคัญที่ใจของเขามากว่าที่เขาให้กับเรา ให้เกียรติเรามากกว่านะ ประทับใจตรงนี้ คนที่สนิทกันบางทีเขายังไม่อย่างนี้กับเราเลย”

ลั่นคำนินทาอาจลบล้างไม่หมด แต่ตนต้องปลดหนี้สินให้หมด เพราะไม่อยากให้มีบาปติดตัว
“ไม่อายหรอกค่ะถือว่ามันเป็นอาชีพสุจริต แล้วเราก็ตั้งใจที่จะทำงานเพื่อทยอยปลดหนี้ เราไมได้ทำเพื่อที่จะมาฟุ้งเฟ้ออะไร ทำมาก็ค่อย ๆ ปลดหนี้ไป เจ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เอาไปก่อน เมื่อก่อนก็กินไข่ต้ม ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่อย่างเดียว มาออกรายการก็จะขันได้อยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ยังดีได้ทานหมู ทานไก่อะไรได้ เจ้าของเขาก็ดูแลเราดี”

“ชีวิตมันยากไหมล่ะคะแทนที่เราจะได้ทานเหมือนคนปกติเขาที่ได้ทานผัก ทานอะไรต่ออะไร ในเมื่อชีวิตมันผันแปรไปเราก็ต้องทานเพื่อประทังชีวิต เพราะเราก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป เราต้องผ่านไปให้ได้ เราต้องลุกขึ้นยืนให้ได้ เราต้องปลดทุกสิ่งทุกอย่าง ปลดข้อครหานินทา ไอ้ครหานินทาเนี่ยจะปลดหมดหรือเปล่าไม่รู้ แต่หนี้สินนี่ต้องให้หมด เราจะไม่เอาบาปติดตัวเราเด็ดขาด

รับหนี้สินยังมีเป็นหลักล้าน โทษตัวเองใช้ชีวิตไม่เป็น แต่ย้ำไม่เคยเป็นหนี้เพราะการพนันแน่นอน
“จริงค่ะ สาเหตุที่เป็นหนี้มันเกิดจากว่าเราคิดผิด เราไปกู้เขา แต่ข่าวออกมาว่าเราหาเงินกู้เพื่อไปเล่นการพนัน เข้าบ่อน พูดต่อหน้าไฟเลย เราเล่นสนุก ๆ เพื่อนฝูงเราเล่นนะ เข้าบ่อนเราก็เคยเข้าไม่กี่ครั้งเรียนรู้แล้วเราก็ไม่เข้าของเราเอง ดิ้นรนไปมันไม่ใช่ เราไม่คิดที่จะทำมาหากินเพื่อที่จะเอาเงินไปทิ้งในบ่อน เพื่อนที่สนิทบางคนเขารู้ไอ้นี้มันก็ไม่เคยอะไรอย่างนั้นทำไมถึงได้มีข่าว เราก็ไม่ได้มีเงินอะไรมากมาย ถ้าจะพูดไปแล้วกินเก่ง ใช้เก่ง”

“อีกอย่างหนึ่งเป็นคนเก็บหอมรอมริบไม่เป็นพอจะทำงานเรื่องแล้วเรื่องเล่ามันก็เกิดปัญหา พอเกิดปัญหาด้วยตัวเราเองเนี่ย เราไม่ได้มีเงินมากมายในแบงก์ พอมันขัดสนขึ้นมาก็หาวิธีที่จะเอาเงินมาหมุนเพื่อที่จะทำงาน แต่การคิดของเรามันเป็นการคิดที่ผิด และเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างมากว่าเราผิดเอง เราจะไปโทษใคร เราไปกู้นอกระบบ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ เราคิดว่ามันประเดี๋ยวเดียวแต่มันไม่เป็นอย่างที่เราคิด มันก็ต่อเนื่องจนเป็นอย่างนี้”

“เสียใจมากค่ะที่คิดว่าเราเป็นหนี้เพราะพนัน ใครอยากเข้าใจยังไงก็เข้าใจไป คุณไม่เรียกถาม เราก็ไม่ตอบ จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะออกมาของมันเอง อย่างข่าวที่บอกว่าฉ้อโกงมันเสียหายมาก บางทีเราไปซื้อของกินเขายังไม่อยากคุยกับเรา ทั้งที่เราเอาเงินไปให้เขา

“ก็ไม่ท้อค่ะ ถามว่าตอนเราไปซื้อของแล้วเขาไม่คุยด้วยรู้สึกยังไง บางครั้งคนเราเขาก็ไม่ได้รู้จักเราแม้แต่นิดเดียว กับการที่เราต้องถูกประณามอะไรตรงนี้ จริงไม่จริงอย่างน้อยเขาควรจะให้เกียรติเรา เราเอาเงินไปให้เขา อย่างน้อยก็ต้องมารยาทเราเป็นลูกค้าคุณ แต่ก็ไม่ได้อะไร นึกแล้วว่าต่อไปนี้ฉันจะไม่มีวันเข้าร้านคุณอีก”

เผยตั้งปฏิญาณจะไม่ขอความช่วยเหลือเรื่องเงินจากใคร
“น้อยใจนิดนึงนะสำหรับคนพวกนี้ แต่ว่าเนอะชีวิตเรามันหักเหได้ใจจริง ๆ เกิดอะไรขึ้นแม้กระทั่งคนสนิทชิดเชื้อก็ไม่มีใครอยากคุยกับเราเลยซักคน ไม่มีใครอยากเรียกเราถามเป็นยังไง ชีวิตเกิดอะไรขึ้น เราจะได้อธิบายได้ นี่เราไม่มีโอกาสอธิบายอะไรกับใครยันทุกวันนี้ เพื่อนสนิทของสีดาคือน้ำตาอย่างเดียวเวลานี้”

“คนที่บอกตามหาอยู่ คือ พี่อี๊ด รัชณู บอกสีดาพี่ตามหาเนี่ยขอเบอร์ทางโน้นทางนี้ก็ไม่มี อาจจะเป็นเพราะว่าเราเปลี่ยนเบอร์ด้วยมั้งคะ พอออกรายการพี่อี๊ดเขาก็เห็น ก็ต้องโทร.ไปขอตามรายการ เขาคงคิดถึงด้วย เป็นห่วงด้วย คือแค่นี้เราก็ซึ้งแล้ว เรามีความรู้สึกว่าเขายังห่วงหาอาทรเราอยู่ ก็ติดต่อกัน แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร เราตั้งปฏิญาณว่าจะไม่ขอความช่วยเหลือเรื่องเงินเรื่องทองกับใคร ไม่แตะไม่ยุ่งเลยคิดอย่างเดียวทำงาน ทำงานเพื่อที่จะปลดหนี้ จะไม่วุ่นวายอะไรกับใครแล้วกลัว”

ร่ำไห้เปิดใจกำลังจะไร้ที่ซุกหัวนอน บอกสมน้ำหน้าตัวเอง มีทุกอย่างแต่เก็บรักษาไว้ไม่ได้
“(น้ำตาคลอ พยักหน้า) เราไปอาศัยเขาอยู่เนอะ เขาจะทำบ้าน ด้วยความที่เราไม่เคยย้ายไปไหน แล้วพอเราต้องมีการขนย้ายตลอดเวลามันหลายอย่าง มันเยอะ ไหนจะของเยอะ ไหนจะค่าใช้จ่าย ไม่อยากย้ายอะไรอย่างนี้ไง เราก็พูดไม่ได้ เราก็ไม่ใช่เจ้าของบ้าน แต่เขาไม่ได้มาไล่อะไรเราหรอกนะ เพียงแต่ว่าเขาจะทำบ้านเขาใหม่”

“เราก็เข้าใจว่าเขาจะต้องทำบ้านใหม่ตรงนี้ ทำเสร็จแล้วเราจะได้กลับมาอยู่ที่เดิมไหมก็ไม่ได้ถาม เราเป็นคนไม่พูดไม่ถาม ถามว่าจะไปอยู่ที่ไหน (น้ำตาไหล) ไม่ทราบเลย แต่ก็สมน้ำหน้าตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เรารักษาอะไรไว้ไม่ได้เลย ทำไมก็ไม่รู้ บ้าน บ้านเราก็มี รถเราก็มี เรามีทุกอย่างแต่เรารักษาอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้มันเป็นเวรเป็นกรรม มันเหมือนถูกสูบไปเลย”



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น