“เจมส์ เรืองศักดิ์” เปิดตัวว่าที่เจ้าสาว เพิ่งเข้าใจคำว่าพรหมลิขิต ต้องใช้เวลาพิสูจน์ความจริงใจ เหตุครอบครัว “ครูก้อย” หวั่นทำให้ลูกสาวผิดหวัง น้ำตาคลอคุกเข่าขอแต่ง ฮึกเหิมหลังแต่งขอปั๊มลูก 4 คนรวด ลั่นสินสอดยังไม่กำหนดตัวเลข แต่จะขอมอบชีวิตคู่ที่ยอดเยี่ยมให้เป็นของขวัญที่มีมูลค่ามากที่สุด
นักแสดงดัง “เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” ควงว่าที่ภรรยาสุดสวย “ครูก้อย นัชชา แดงงาม” มาเปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมเผยภาพพรีเวดดิ้งของทั้งคู่เป็นครั้งแรก ณ ฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ ซ.ลาดพร้าว 112 งานนี้ฝ่ายชายฟุ้งเป็นรักที่เหมือนพรหมลิขิต ตั้งเป้ามีลูก 4 คนรวด
เจมส์ : “ผมอยู่วงการบันเทิงมา 20 ปี เกิดมากับสื่อมวลชน แฟนเพลง แฟนละคร วันนี้เป็นวันสำคัญ ถ้าเราไม่มีโอกาสบอกสื่อมวลชนหรือแฟน ๆ อย่างเป็นทางการ เราก็เหมือนไม่ได้บอกญาติผู้ใหญ่ เลยถือโอกาสนี้ในการที่จะแจ้งให้พี่น้องสื่อมวลชนและแฟน ๆ ของเจมส์ ทราบว่า เจมส์ เรืองศักดิ์ กำลังจะมีเมียแล้วครับ (หัวเราะ) เราจะจัดพิธีหมั้นในวันที่ 24 ธ.ค. นี้ ช่วงเช้า ที่โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช ครับ เป็นพิธีแบบเรียบง่าย จะมีเฉพาะแขกที่เป็นญาติสนิทเท่านั้น แขกในงานคงไม่เยอะมาก”
“เราทำทุกอย่างในคอนเซ็ปต์เรียบง่าย เน้นเรื่องของความรักมากกว่าเรื่องอื่น วันนี้เลยถือโอกาสพาว่าที่เจ้าสาวที่ในสายตาผม ผมคิดว่าเป็นคนดี หน้าตาใช้ได้ (หัวเราะ) มาให้พี่น้องสื่อมวลชนได้มีโอกาสถ่ายรูปและแนะนำครับ คุณครูก้อยเป็นครูโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช เป็นคนใต้เหมือนกันครับ ส่วนวันแต่งงานคาดว่าจะอยู่ในปี พ.ศ. 2559 ครับ หลังจากหมั้นแล้วก็จะจัดงานวิวาห์ในเวลาที่เหมาะสมทันทีครับ”
ครูก้อย : “ก็ตื่นเต้นนะคะ ดีใจ ตอนแรกรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นความจริง ไม่น่าจะได้เป็นแฟนกัน แต่ว่าเขาได้พิสูจน์ความจริงใจทุกอย่างจนกระทั่งตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นดารา แต่เป็นพี่เจมส์ เขาเป็นคนจริงใจ คนดี รักครอบครัว ซึ่งเราเองเป็นคนรักครอบครัวมาก จุดนี้เป็นจุดที่ทำให้เราตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่กับเขาค่ะ”
โวจักรวาลจัดเรียงสถานการณ์ให้เจอ “ครูก้อย” เพิ่งเข้าใจคำว่าพรหมลิขิต ต้องใช้เวลาพิสูจน์ความจริงใจ เหตุครอบครัวฝ่ายหญิงหวั่นลูกสาวผิดหวัง
เจมส์ : “ผมไปทำงานที่ จ.นครศรีธรรมราช ผมเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช อยู่แล้ว เราไปทำงานครับ ผมเพิ่งเข้าใจคำว่าพรหมลิขิตก็วันนี้ เหมือนสถานการณ์ต่าง ๆ จักรวาลจัดเรียงให้เรามาเจอกัน เมื่อเราเจอกันแว้บแรก ต่างคนต่างรู้เลยครับว่าเราทั้งคู่มีบางสิ่งบางอย่างส่งให้เรามาเจอกันครับ พอมีโอกาสเจอกันวันนั้นก็แลกไลน์กันและสานสัมพันธ์ ซึ่งครูก้อยและครอบครัวเองก็กังวล เพราะเราก็อยู่ในวงการบันเทิง คุณพ่อคุณแม่ของท่านก็เป็นคุณครูเหมือนกันครับ ท่านกังวลว่าคนวงการบันเทิงจะเจอสาว ๆ เยอะหรือเปล่า กลัวลูกสาวจะผิดหวัง เราก็ต้องพิสูจน์ผ่านด่านคุณพ่อคุณแม่ แต่จริง ๆ ก็ไม่มีความกังวลเพราะว่าเรามั่นใจในการกระทำและคำพูดในความจริงใจของเรา ใช้เวลาคบกันเกือบปี”
“ถามว่าเร็วไปมั้ยในการแต่งงาน จริง ๆ แล้วถ้าเป็นตอนเราวัยรุ่นกว่านี้ เราว่ามันเร็วไปครับ แต่ตัวเจมส์เองผ่านประสบการณ์เรื่องความรักมาพอสมควร และด้วยวัยด้วย ซึ่งผมอายุใกล้จะ 40 ปีแล้ว ดังนั้นพอมีประสบการณ์เยอะ เราจะเริ่มรู้ว่าอะไรคืออะไร อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ชีวิตเลยทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้นครับ ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่พอเรารู้ว่าอะไรเป็นข้อดีข้อเสียของตัวเอง เมื่อเราเจอความรักที่ใช่ เราก็จะรู้แล้วว่าเราต้องวางตัวยังไง อันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกอย่างมันเร็วขึ้นครับ”
ฝ่ายชายน้ำตาคลอขอแต่งงาน ฝ่ายหญิงรู้สึกเกินฝันได้เป็นภรรยานักแสดงดัง
ครูก้อย : “เขาชวนไปทานข้าวที่ร้านอาหาร และเขามีความประหม่า น้ำตาคลอ ซึ่งมันไม่ใช่บุคลิกของเขา ปกติเขาจะเป็นคนที่มั่นใจ เลยถามเขาว่าเป็นอะไร แล้วเขาก็ขอเราแต่งงานค่ะ เราก็บอกว่าเราตกลงมาตั้งนานแล้ว (ยิ้ม) เพราะพี่เจมส์ก็เหมือนเป็นไอดอลเราตั้งแต่ตอนมัธยม ต้องคอยติดตามผลงานตลอด ชอบเพลงของเขา ร้องเพลงได้หมด เขาเป็นศิลปินในดวงใจค่ะ ถามว่าเหมือนเป็นความฝันไหมก็ใช่ค่ะ มันยิ่งกว่าความฝันอีกค่ะเพราะว่าไม่เคยคิดว่าเราจะได้เป็นแฟนเขาหรือภรรยาเขา เคยคิดว่าแค่ถ่ายรูปคู่สัก 1 รูปก็ถือว่าเป็นความฝันแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
เจมส์ : “ผมอายุ 38 ปีครับ ครูก้อยอายุ 32 ปีครับ ถามว่าจะมีปัญหามั้ยในการใช้ชีวิตคู่ จริง ๆ แล้วเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากครับเพราะต่างคนต่างผ่านประสบการณ์ชีวิตมา เพราะถ้าเราเจอเร็วกว่านี้หรือช้ากว่านี้ การตัดสินใจอาจจะไม่ใช่แบบนี้ก็ได้
ค้นพบความจริง หากรักใครสักคนมาก ทุกอย่างไม่ใช่อุปสรรค
เจมส์ : “เรื่องระยะทางที่ห่างกัน จริง ๆ แล้วผมค้นพบความจริงอย่างหนึ่งครับว่าถ้าเรารักใครมาก ๆ สักคนหนึ่ง อะไรก็ไม่ใช่อุปสรรค รวมถึงระยะทางเช่นเดียวกัน อย่างตอนนี้ในช่วงเวลาเรายังเป็นแฟนกัน เราเริ่มเป็นคู่หมั้นกัน เราก็ต่างคนต่างมาครับ คือบินไปกลับบ่อยมาก แต่ในอนาคตเราวางแผนไว้ว่าเราจะสร้างบ้านไว้ 2 ที่คือที่กรุงเทพฯ และนครฯ อีก 1 ที่เพราะว่ามีครอบครัวของเจมส์และครอบครัวของก้อยที่ต้องช่วยกันดูแลด้วยครับ”
“เรื่องมีน้อง จริง ๆ แล้วเราทั้งคู่ต่างเห็นตรงกันว่าเราอยากมีลูกมาก ๆ หลาย ๆ คนและเร็ว ๆ ด้วย คิดว่าแต่งแล้วจะเที่ยวกันสักนิดหนึ่ง คงผลิตไปด้วยระหว่างเที่ยว หลังแต่งก็มีลูกเลย ก็กะว่าจะมีลูก 4 คนครับ เจ้าสาวก็กังวลเรื่องหุ่นอยู่ครับ (หัวเราะ)”
ครูก้อย : “คือเขาอยากมีลูกเยอะ ๆ ค่ะ 4 นี่คือขั้นต่ำ แต่อายุก้อยจะมีได้ถึง 4 คนหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ ก็ตามธรรมชาติค่ะ ก้อยว่าสัก 3 คนได้ แต่ถึง 4 คนไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ลั่นจะขอมอบชีวิตคู่ที่ยอดเยี่ยมหลังแต่งให้เป็นของขวัญที่มีมูลค่าที่สุด
เจมส์ : “จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าครูก้อยมีอาชีพเป็นครู แล้วอาจจะอยู่นอกวงโคจรวงการบันเทิงมาก เราค่อนข้างเปิดเผยในที่สาธารณะ ไปกินข้าวดูหนังปกติ แต่ครูก้อยไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเลยไม่เป็นข่าวเท่านั้นเอง การที่เราจริงจังมาแถลงข่าวชัดเจนเพราะเราคิดว่าคนนี้เป็นคนที่ใช่ครับ”
“เรื่องสินสอดทองหมั้นผมว่าสินสอดทองหมั้นที่มีค่ามากที่สุดที่ผมจะมอบให้คือการที่ผมจะมอบชีวิตยอดเยี่ยมที่สุดหลังจากแต่งงานแล้วให้กับครูก้อยและคุณพ่อคุณแม่ครูก้อย ผมว่าเป็นสินสอดที่มูลค่ามหาศาล และตั้งใจที่จะให้ ส่วนสินสอดทองหมั้นที่เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย เราจะให้เต็มที่เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งทำงานมาหลายปีที่จะให้ได้เต็มที่ตามธรรมเนียม แต่เราไม่ได้เน้นจบแค่วันนั้น เพราะสิ่งที่สำคัญคือหลังวันแต่งงานมากกว่า สินสอดยังไม่ได้กำหนดตัวเลขครับ ถ้าถึงวันที่เราคุยเรื่องงานแต่งงานอย่างชัดเจน ตัวเลขตรงนั้นคงจะต้องออกมาครับ”
หลังแต่งจะขอใช้ชีวิตฟรีดอม หยอดไม่รู้ชีวิตที่เหลือมีอีกกี่ปี แต่จะรักเท่าอายุที่มี
เจมส์ : “จริง ๆ แล้วผมให้ความสำคัญกับคำพูด 20% แต่ 80% คือการกระทำที่ก้อยจะได้เห็นตลอดไปหลังจากวันนี้เป็นต้นไปครับ
“ภาพพรีเวดดิ้งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เรามีโอกาสไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง มีรูปมาส่วนหนึ่งแล้ว เดี๋ยวจะเริ่มให้แฟน ๆ ได้ชมกัน เราก็ได้รับความเอ็นดูจากพี่ ๆ ในวงการ โดยเฉพาะพี่ปลา ฟินาเล่ ช่วยเราในการให้คำปรึกษาต่าง ๆ ในเรื่องการแต่งงานครับ ก็ไปถ่ายกับเรือยอชต์ที่ทะเลพัทยา คอนเซ็ปต์คืออิสรภาพ หรือ Freedom ครับ แต่งงานไปแล้วเราจะใช้ชีวิตแบบ Freedom ด้วยกันครับ พี่ก็อยากจะบอกน้องก้อยว่าชีวิตที่เหลือซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่ปี แต่ว่าทั้งหมดนี้เราใช้ด้วยกันครับ ไม่รู้ว่าจะบอกว่ารักมากแค่ไหน แต่ก็รักเท่าที่อายุจะมีครับ (หัวเราะ)”
ครูก้อย : ขอบคุณพี่เจมส์ที่รักและแสดงให้เห็นความจริงใจ จริง ๆ เงินทองไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือความรักที่ให้กันค่ะ”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม