>>ในที่สุดความรักที่หนุ่มหล่อโปรไฟล์ดี ทิม- โรจนินทร์ อรรถยุกติ หนุ่มวิศวะที่มาโลดแล่นในสายการเงิน ทุ่มเทให้ "ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์" เจ้าของร้านอาหาร เครื่องดื่มและไอศครีมที่ฮอตฮิตติดลมบนอย่าง Iberry (ไอเบอรี่),รส’นิยม, กับข้าวกับปลา, แซ่บอีลี่ และร้านชานม Cha Cha Cha มากว่า 2 ปี ก็สามารถทะลายกำแพงความโสดของเซเลบริตี้สาวคนเก่งได้สำเร็จ โดยทั้งคู่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานไปหมาดๆเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29พ.ย.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเพนนินซูล่า ท่ามกลางเพื่อนฝูงที่เคลียร์คิวมาร่วมแสดงความยินดีกับทางคู่
แน่นอนว่า “การแต่งงาน” คือ ปลายทางแห่งรักของคนสองคนที่รักกันเฝ้าคอยจะจูงมือกันไปให้ถึง แต่ขณะเดียวกัน “การแต่งงาน” ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นของคำว่า “ครอบครัว” ที่คนสองคนร่วมกันสร้างด้วยความรัก ความเข้าใจ การปรับจูนเข้าหากันเพื่อให้ครอบครัวนี้แข็งแรง
ความรักคงเดิม แต่ความห่วงใยทวีคูณ
เจ้าสาวป้ายแดง บอกเล่าถึงชีวิตหลังแต่งงานอย่างอารมณ์ดีว่า สำหรับเธอชีวิตแต่งงานไม่ได้แตกต่างจากภาพที่วาดฝันไว้มากนัก มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างอย่างชัดเจน คือ ความห่วงใยที่สัมผัสได้ “จะว่าชีวิตเปลี่ยนก็เปลี่ยนนะ แต่เปลี่ยนในแง่ความรู้สึกมากกว่า เรารู้สึกเหมือนมีคนอีกคนที่คอยดูแลเราตลอดเวลา คอยห่วงใยเรา จากที่เมื่อก่อนเราเคยใช้ชีวิตคนเดียว แต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่ใช่เขาห่วงเราฝ่ายเดียว เราเองก็ห่วงใยเขาเช่นกัน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยชินที่มาใครอีกคนมาเรียกว่าเราเป็นภรรยา(หัวเราะ)”
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเวิร์กกิ้งวูแมนคนเก่งมีธุรกิจที่ต้องดูแลมากมาย ปลาย้ำว่า ยังเดินหน้าดูแลธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัวต่อไป แต่พอมีคำว่าครอบครัวเข้ามาก็ต้องพยายามหาจุดที่สมดุลระหว่างงานและครอบครัวให้ได้
“สมัยก่อนปลาทำงานหนักมาก ทำงานกลับมาบ้านก็ยังมาทำงานต่ออีกถึงเที่ยงคืน ตื่นเช้ามาก็ทำงานอีก จนช่วงแรกๆทิมเองก็รู้สึกว่าปลาจะทำงานเยอะไปไหน แต่ทิมนี่แหละที่เป็นคนที่ทำให้ปลาเรียนรู้ว่า ความสุขของคนเราไม่ได้อยู่ที่การได้ทำงาน ได้เห็นผลของงานเสมอไป ต้องพูดอย่างนี้คือปลาเป็นคนไม่ชอบให้เวลาผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์ ชอบใช้ทุกเวลาให้มีความหมาย ดังนั้นปลาจะทำงานเยอะมาก พอทำเห็นผลของงานที่ออกมา เราก็มีความสุข แต่ทิม สอนให้ปลารู้ว่าความสุขของคนเราไม่ได้อยู่ที่การทำงานมากอย่างเดียว บางครั้งช่วงเวลาแห่งความสุขก็ขึ้นอยู่กับว่า เราได้ใช้มันกับใครมากกว่า”
“ช่วงแรกๆปลาก็มีปัญหาในการปรับตัวนะ คือ เราไม่ค่อยปล่อยวาง แต่พอเราตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตคู่ก็ทำให้เราต้องย้อนกลับมาถามตัวเองเหมือนกันว่า Priority เราตอนนี้คืออะไร สมัยก่อนเราตัวคนเดียว ไม่มีสามีหรือครอบครัวต้องดูแล แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ปลาก็บอกตัวเองนะว่า เป็นผู้หญิงไม่ต้องทำงานเยอะขนาดนี้ก็ได้ แต่ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเราเสียโฟกัสนะ แค่ต้องรู้จักแบ่งเวลามากขึ้น ปลาพยายามปรับตัว มีความสุขกับสิ่งรอบตัวที่ไม่ใช่งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารกินเองที่บ้าน ไปเดินเล่น ออกกำลังกาย”
จูงมือกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
ปลา บอกว่า ส่วนใหญ่ถ้ากลับจากทำงานมาเหนื่อยๆ อาจจะไม่ได้เปิดครัวเอง แต่จะอาศัยเวลาที่เข้าร้าน ทำอาหารปิ่นโตมาส่งให้คุณสามี เพราะสะดวกทั้งคนทำ (คุณปลา) และสบายท้องคุณสามี และถ้าทั้งคู่มีเวลาว่าง ก็ยังไม่ลืมพากันไปดูแลสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกาย
“คอนโดที่เป็นเรือนหอของเรา อยู่ใกล้สวนลุม เพราะฉะนั้นเราจะมาเดินเล่น วิ่งรอบสวนลุมช่วงเย็นบ่อยๆ เพราะอย่างที่รู้ ทิมเค้าสายนักกีฬาอยู่แล้ว เล่นไตรกีฬา เค้าเองก็เป็นคนทำให้ปลาซึ่งเกลียดการวิ่งมาก ยอมลุกขึ้นมาอดทนทำเพื่อสิ่งที่ดีต่อสุขภาพของตัวเอง จากแต่ก่อนวิ่ง 200 เมตรก็ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวนี้วิ่งรอบสวนลุมได้”
ส่วนแผนการในอนาคตของทั้งคู่ ปลาบอกว่า วางแผนจะมีเจ้าตัวเล็กอยู่เหมือนกัน เพราะเธอก็อายุมากแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้ลูกชายหรือลูกสาว ไม่ว่าเพศไหนคุณพ่อคุณแม่ก็แฮปปี้หมด
ทุกวันนี้ ทั้งคู่กำลังใช้ความรักและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถักทอครอบครัวเล็กๆนี้ให้มั่นคง ปลาบอกว่า เคล็ดลับในการครองรักของทั้งคู่ คือ “การสื่อสารสำคัญที่สุด” ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการฟัง
“ทิมเป็นฝ่ายสอนปลาว่า ถ้าเวลามีปัญหาไม่เข้าใจกัน ต้องสื่อสาร ต้องเอามาเคลียร์กันในวันนั้นเลย บางทีด้วยความที่ปลาเป็นผู้หญิงบางครั้งมีปัญหา ก็ไม่อยากพูด แต่ทิมจะบอกเลยว่าแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งปลาก็คิดว่าเป็นวิธีที่ดี ปัญหาจะได้ไม่หมักหมม”
งานนี้เพื่อการันตีความหวานของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ปลายังทิ้งท้ายประโยคเด็ดว่า “ทิมเคยบอกปลาว่า ปลาทำให้เค้ารู้สึกว่ามีบ้านของตัวเองจริงๆ เพราะด้วยความที่คุณพ่อของทิมเป็นทูต ต้องเดินทางไปประจำที่ต่างๆตลอด ทิมเองเลยใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศตลอด ต้องย้ายบ้านบ่อย พอตอนนี้เค้ามาสร้างครอบครัวกับเรา ทำให้เค้ารู้สึกมีบ้านที่แท้จริง ต่อให้เดินทางไปประเทศไหน สุดท้ายก็ต้องกลับมาบ้านของเราสองคน”
ย้อนไปสู่เส้นทางความรักของทั้งคู่ กว่าจะมาถึงวันสำคัญที่สุดในชีวิต ไม่น่าเชื่อว่า เพียง 6 เดือนที่คบหาดูใจกัน ฝ่ายชายก็มั่นใจแล้วว่า ปลาคือ คนที่ใช่ ถึงขั้นออกปากขอแต่งงานทันที เล่นเอาฝ่ายหญิงไม่ทันตั้งตัว เลยไม่ตอบรับและปฏิเสธแต่ขอคบหาดูใจไปก่อน จนล่วงเลยมา 2 ปี เห็นว่าทุกอย่างเหมาะสมแล้ว จึงตัดสินใจเข้าพิธีแต่งงาน
“ตอนที่เค้าขอปลาแต่งงานครั้งแรก ปลาไม่ได้ปฏิเสธ แต่บอกผลัดไปว่าขอแต่งปีหน้าก่อน เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม ถามว่าอะไรในตัวทิมที่ทำให้ปลามั่นใจ อาจเพราะเค้าไม่เหมือนผู้ชายไทยทั่วไป เพราะทิมเค้าโตและใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมาตลอด เค้ามีความเป็นฝรั่งสูงมาก เป็นคนรักครอบครัว อยากจะสร้างครอบครัวของตัวเอง อยากมีลูก ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับปลา ปกติแฟนคนก่อนๆที่ผ่านมาของปลา จะโลกส่วนตัวสูง กลัวการแต่งงาน พอมาเจอทิมคนละแนวเลย”
ปลา บอกว่า แน่นอนผู้หญิงทุกคนมีความฝันอยากจะแต่งงาน แต่ด้วยความที่เราโตขึ้น ทำงานเยอะมาก คำว่า “แต่งงาน” เลยดูเหมือนจะห่างไกลออกไปทุกที ไม่ได้อยู่ในสมองเลย แต่ไม่ได้หมายว่าไม่อยากแต่งงาน
“ถามว่าอะไรในตัวปลาที่ทำให้ทิมประทับใจและขอแต่งงานตั้งแต่ 6 เดือนแรก ปลาคิดว่า คงเพราะปลามีความเป็นผู้ใหญ่พอมั้ง ไม่ใช่สาวหวาน มีความเป็นผู้ชายอยู่เยอะด้วยซ้ำ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นข้อดีที่ทำให้ผู้ชายอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่มาก แต่เราพร้อมจะเดินไปด้วยกัน” :: Text by FLASH