xs
xsm
sm
md
lg

ปลุกจิตวิญญาณ! “หม่อมจี๊ด” ส่งละครพีเรียด "ทหารกล้ากรุงศรีอยุธยา" ลงจอแก้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จากวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์ที่ประพันธ์ขึ้นกว่า 10 ปี ของ "หม่อมหลวงนรานุกูล ชุมพล" เรื่องราวคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ ที่นำมาซึ่งสำนึกแห่งความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษ บรรพกษัตริย์ ที่สร้างแรงศรัทธาและความภาคภูมิใจในแผ่นดิน กำลังจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

วันนี้ "Super บันเทิง" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “หม่อมจี๊ด” ซึ่งใครหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาจากการเป็นพิธีกรรายการน้ำดีที่สรรค์สร้างเพื่อสังคมอย่าง "76 จังหวัดตามหาคนดี" หรือที่รู้จักกันในนาม ราชนิกูลข้างถนน” ผู้บริหารบริษัท จักรตรีเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัด แถมยังคิดริเริ่มสร้างโปรเจกท์ละครพีเรียดเลือดรักชาติ จนผันตัวมาเป็นผู้สร้างหน้าใหม่ที่เดินหน้าผลิตละครเทิดพระเกียรติอิงประวัติศาสตร์ “ทหารกล้ากรุงศรีอยุธยา” ที่ได้แต่งไว้เมื่อหลายปีก่อนหยิบขึ้นมาสร้างเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับคนไทยได้ระลึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษ

"ก็อย่างที่ทุกคนได้ทราบว่าเราทำรายการส่งเสริมสังคม ด้วยการนำเรื่องราว 76 จังหวัดตามหาคนดี เรื่องคนที่อุทิศตนเสียสละเพื่อสังคมมาเผยแพร่โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี แล้วเราก็ต้องหยุดรายการไปเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่มันผันผวน แล้วสปอนเซอร์หลักไม่มี ซึ้งปีหน้าก็จะได้กลับมาออกอากาศอีกครั้ง"

"คืออุดมการณ์ปีนี้ มันเป็นการคบรอบ 10 ปี เราก็ได้มานั่งคุยกันปรึกษากันในกลุ่มทีมงานและก็ผู้ใหญ่ แล้วเราก็มาค้นกันว่าจะทำยังไงดีเพื่อที่จะตอบโจทย์กับปรัชญาขององค์กรที่สร้างสรรค์สิ่งดีเพื่อสังคม ซึ่งเราก็ได้มองย้อนกลับมาแล้วมาเจอนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ "ทหารกล้ากรุงศรีอยุธยา" ที่ผมเองได้แต่งไว้ร่วม 10 ปี เราก็เลยคิดว่านวนิยายอิงประวัติศาสตร์ตัวนี้ มันก็เป็นนวนิยายที่ปลุกจิตสำนึกให้คนตระหนักถึงบุญคุณบรรพบุรุษ บรรพกษัตริย์ เราเลยเอาเรื่องนี้ออกมาทำเป็นละครภาพยนตร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ครับ"

บทบาทหน้าที่ในการเป็นผู้จัด

เรียกได้ว่าการเป็นผู้จัดละคร ลำบากใจตั้งแต่เริ่มที่จะเป็นแล้ว เพราะไม่ง่ายกับการหาโลเคชั่นที่เข้ากับละครพีเรียดย้อนยุค บอกไม่มีเงินที่จะสรรค์สร้างโรงละครขึ้นมาเองได้ หากจะใช้ 4 G ทั้งเรื่องก็ไปลดถอนอัตรสให้ความสมจริงนั้นหายไปอีก

"แน่นอนครับถ้าพูดถึงเรื่องพีเรียดย้อนยุค แล้วเป็นพีเรียดจ๋าเลย เราก็ต้องนึกถึงโลเคชั่นจะเอาที่ไหนยังไง ซึ่งเราเองไม่ได้มีทุนมหาศาลมากพอที่จะบันดาลเมืองขึ้นมา หรือหมู่บ้าน กำเเพงเวียงวังออกมาได้ แน่นอนเราต้องใช้ 4 จี แต่ถ้าเราใช้ 4 จี ทั้งเรื่องมันกลายเป็นว่าเราไปลดถอนอัตรสให้ความสมจริงนั้นหายไป เราต้องทำยังไง เราจึงต้องบรรดารโลเคชั่นที่เราเห็นต่างๆนั้นออกมา และขยายภาพโลเคชั่นผสมผสานออกมาทำ 4 จีไปเพื่อให้ดูเหมือนสมจริง ซึ่งเรายอมรับเลยว่าโลเคชั่นนี้เราต้องใช้ถึง 8-9 จังหวัด กว่าจะจบเรื่องนี้ได้ โดยเราก็ไปถ่ายที่ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี อีกจังหวัดหนึ่งก็เป็นแถวๆ อ่างทอง"

ความต่างของละครพีเรียดทั่วไป!

หลังจากที่เดินหน้าถ่ายทำกันมาเป็นเวลานาน กับละครพีเรียดอย่างเรื่อง "ทหารกล้ากรุงศรีอยุธยา" ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง จนทำให้มีความต่างจากเรื่องอื่นโดยสิ้นเชิงเพราะทุกคนที่คัดมานั้นเล่นเป็นดาราที่ไม่ใช่ดารา

"แตกต่างอย่างโดยสิ้นเชิงครับ แน่นอนครับว่าทุกๆ เรื่องราวที่ทำพีเรียดย้อนยุคมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราได้ผ่านหูผ่านตามากันเนี่ย ทุกคนเขาก็มีมุมมองที่นำเสนอออกมา แต่ที่เราแตกต่างคือเราจะสะท้อนมุมมองของคนยุคนี้ คนที่เป็นเจเนเรชั่นยุคนี้ที่เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุเพียง 14 ปี ซึ่งเราจะทำยังไงให้คนในยุคเจเนเรชั่นนี้สื่อสารกับคนเจเนเรชั่นยุคเดียวกับเขาใน พ.ศ. 2558 และดูเรื่องราวของประวัติศาสตร์แล้ว มีความน่าสนใจและคล้อยตามกับสิ่งที่พวกเขาสื่อออกมานั้นคือแนวคิดที่เรากำลังจะสะท้อนให้เห็นว่าทุกๆ คนมีคุณค่าความหมายเท่าเทียมกัน"

"ในยามที่ร้อนทุกข์และไฟสงครามที่ลุกโชน ทุกๆ คนไม่ว่าคุณจะมั่งมีร่ำรวย คุณจะสูงศักดิ์เป็นลูกขุนนาง คุณจะเป็นข้าไพร่มาจากตรงไหน หรือคุณจะเป็นลูกหลานพระยา ทุกคนมีใจเดียวกันคือว่าความรักแผ่นดิน อยากจะรวมกันทำทุกวิถีทางนั้นพ้นภัย อันนี้คือสิ่งที่เราอยากสะท้อนมุมมองตรงนี้ในสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไป แล้วก็อีกอย่างหนึ่งก็คือความเสียสละ ทุกคนพร้อมที่จะเสียสละคนละเล็กละน้อย ทุกคนพร้อมหมดเลย ทุกคนก็มีความรักในมุมมองของทุกคนที่จะแสดงออกเพื่อแผ่นดิน สิ่งเรานี้ครับที่ผมต้องการนำเสนอความแตกต่างจากที่เราจะเห็นเรื่องราวตามประวัติศาสตร์การรบกันฆ่าฟันกัน ขัดแย้งกันเพียงเท่านั้นเองครับ"

ถามว่าออกแนวพีเรียดจ๋ามั้ย?

"เป็นละครพีเรียดจ๋าเลยครับ ซึ่งผมขออนุญาติอธิบายละครพีเรียดทั่วๆไป คืออาจจะมีละครย้อนยุคกันต่าง พ.ศ. โดยเรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นละครที่พีเรียด เพราะถ้าย้อนกลับไปในปีพุทธศักราชในปี 2310 ในคราวที่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวในครั้งนั้นมีพระราชพงศาวดารที่ยืนยันไว้แล้วว่ามีที่มาที่ไปเล่าถึงการเสียกรุงครั้งที่ 2 ว่า เราเกิดอะไรขึ้นในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ การเสียกรุงครั้งนั้นหลักประเด็นคือการแตกแยก การแตกความสามัคคี คนไทยไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว การที่อ่อนแอในเรื่องของอาณาจักรในยุคที่กำลังเสื่อมถอย หลายประเด็นเป็นอย่างนั้น"

"ซึ่งสิ่งที่เรานำเสนอนั้นเราต้องการที่จะสะท้อนแล้วบอกคนในสังคมว่า อาณาจักรกรุงศรีอยุธยาในพุทธศักราช 2310 นั้น ไม่ใช้เรื่องของความขัดแย้งเรื่องสงครามกันอย่างเดียว แต่ยังมีมุมมองอีกมากมายเหลือเกินที่เราอยากจะสะท้อนออกมาให้เห็นถึงความภักดีต่อแผ่นดิน มุมมองของการเสียสละ แม้กระทั่งชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงความสุขสบายมาร่วมกันปกป้องแผ่นดิน ผมเลยอยากสะท้อนมุมมองเหล่านี้ให้สังคมได้รับทราบ"

เปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ตามความฝัน

"น้อง ๆ นักแสดงทุกคนเขาเป็นดาราที่ไม่ใช่ดารา แน่นอนครับว่าเราไม่ได้ซึมซับจากตัวเขามา แต่เขามีความสำนึกรักในแผ่นดิน สำนึกรักในบรรพบุรุษ ซึ่งไม่มีทางครับที่พวกเขาจะเล่นละครออกมาแล้วให้ดีได้ แล้วออกมาทั้งสีหน้าแหววตาและคำพูด รวมทั้งภาษาการแอตติ้งต่างๆ เพราะฉะนั้นน้องๆ ทุกคนเขามีคุณพ่อคุณแม่ที่มีความรักและเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์มาก คือทุกคนมีพื้นฐานในการสำนึกบุญคุณ สำนึกถึงบรรพบุรุษ บรรพกษัตริย์ที่ได้มีให้เราวันนี้ เลยทำให้สิ่งเหล่านี้ที่เราไปเจอเขามาแล้วมาพูดคุยกับเขา ไม่นานหรอกครับถ้าเขาไม่ใช่ในแบบที่เราต้องการ ก็จะเผยออกมาให้เราเห็นอย่างชัดเจน เวลาที่อยู่ร่วมกันน้อยสุดอาจจะเดือนกว่าๆ บางคนมากสุดอยู่ด้วยกันเกือบ 2 ปี สิ่งเหล่านี้มันจะแสดงออกมาทั้งแนวความคิด ภาษากาย ภาษาใจ ว่าเขาเหมาะที่จะเล่นละครเรื่องนี้ไหม แล้วเขามีความสำนึกดังกล่าวที่ผมบอกหรือเปล่า"

"แล้วน้องทุกคนที่มาแสดงต้องมีความประพฤติค่านิยม 12 ประการด้วยกัน ซึ่งมันเป็นสัญญาใจที่ทุกคนเซ็นเลย ว่าด้วยเรื่องความประพฤติ เรื่องชาติ พระมหากษัตริย์ อยู่ในระเบียบที่เราตกลงกันเลยว่าทุกคนต้องมีแนวคิดเดียวกัน ทุกคนจะออกไปเล่นละครอิงประวัติศาสตร์แห่งชาติ ทหรากล้ากรุงศรีอยุธยา ทุกคนต้องเป็นต้นแบบของคนในสังคมได้ทั้งกายว่าจาใจและวิญญาณ เพราะฉะนั้นยืนยันได้เลยว่าเด็กส่วนใหญ่ของเราจะเป็นเด็กที่เราคัดเลือกมาแล้ว ทั้งความพร้อมของเรื่องการแสดงที่มาฝึกฝน แล้วก็ทางด้านแนวคิดครับผม"

นิยามคำว่า "แผ่นดิน"

แน่นอนคำว่า "แผ่นดิน" อาจจะเป็นเพียงคำเขียนสั้นๆ แต่ทว่าเมื่อย้อนเวลากลับไป นั่นคือสิ่งที่บรรพบุรุษ บรรพกษัตริย์ พยายามต่อสู้แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต เพื่ออยากให้คนไทยทุกคนรักและหวงแหนในแผ่นดินนี้ยิ่งชีวิต

"อย่างที่บอกครับ "แผ่นดิน" อาจจะเป็นคำสั้นๆ แค่สองคำเอง แต่มันมีเรื่องราวแล้วก็ความหมายที่บรรจุในสองพยางค์นี้มากมายเป็นแสนล้านความหมาย แถมยังมีเลือดเนื้อชีวิตที่มากมายอีก รวมทั้งความเสียสละ น้ำตาต่างๆ มันมีเรื่องราวที่ยาวนานกว่าจะมาเป็นแผ่นดิน ซึ่งทุกๆ คนคิดว่าหากคุณเข้าใจความหมายของแผ่นดินของคุณเพียงแค่คุณมีลมหายใจเข้าออกแล้วใชีวิตโดยไม่สนใจ แล้วเสวยสุขไปนั้นก็เป็นแผ่นดินในนิยามของคุณ แต่แผ่นดินในนิยามของพวกเราก็คือแผ่นดินที่มีคุณค่าความหมาย เลือด เนื้อ ชีวิต ความรัก ความเสียสละ และสิ่งที่เป็นจิตวิญญาณทั้งหมดที่ผมเรียกมันว่า "แผ่นดิน" ครับผม"

สุดท้ายนี้คาดหวังกับละครเรื่องแรกขนาดไหน?

"ของแบ่งออกเป็นสองส่วนนะครับ ในส่วนแรกเลยคือความสำเร็จ การยอมรับในสังคม และอยากให้มีผู้เข้าไปชมกันมากๆ เพื่อเป็นแรงผลักดันในการทำละครเรื่องต่อๆไป ซึ่งพวกเราทุกคนก็มีความตั้งใจในการทำงาน และนักแสดงทุกคน รวมถึงผู้กำกับ ก็เป็นหน้าใหม่ด้วย โดยเราก็หวังว่าอยากได้รับผลตอบรับจากทางผู้ชมมากพอสมควรเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อๆไปครับ"

"คาดหวังเรื่องที่สอง คือไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจและเราถือว่าเราได้ทำภาพยนตร์ละครเรื่องๆหนึ่งออกมาให้คนได้รู้ว่า ในบ้านนี้เมืองนี้มีที่มาที่ไปกว่าจะมีแผ่นดินที่เรายืนอยู่ทุกวันนนี้เราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายเป็นร้อยเป็นพันปี แล้วสิ่งเหล่านั้นสั้นๆ เลยคือความรักในแผ่นดิน ความเสียสละของเหล่าคนเล็กๆที่เป็นธุรีดินที่ยิ่งใหญ่ชั้นสูงสุดพระมหากษัตริย์ร่วมกันเสียสละให้แผ่นดินนี้ เป็นสิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนได้รู้สึกว่าคุณดูแล้วจงภูมิใจที่คุณเกิดมาเป็นคนไทย"



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น