“ประยุทธ์” ปูดมีพวกเอาองค์กรนอกประเทศมายุ่ง ย้ำไม่เคยโกงแม้แต่บาทเดียว

นายกรัฐมนตรี ปราศรัยที่พรหมพิราม ย้ำไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง กลัวใจดีเกินไปแล้วลืม ปูดบางคนเอาองค์กรต่างประเทศมายุ่ง ย้ำคนไทยต้องกำหนดอนาคตด้วยตัวเอง ย้ำไม่เคยทำอะไรผิดจากประชาธิปไตย และยืนยันไม่เคยโกงแม้แต่บาทเดียว แต่ถูกชี้นำและบิดเบือน เดือดถ้าทะเลาะกันอีก เอาคนไทยไม่อยู่แล้ว ถามมีปัญหาใครจะเข้ามาแก้ รักใครเกลียดใครไม่ว่า อย่าเกลียดประเทศไทยก็พอ

วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการตรวจติดตามงานนโยบายรัฐบาล ว่า วันนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางมาประชุม ครม. นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ทุกพื้นที่เป็นของคนไทยทั้งสิ้น ตนในฐานะนายกฯ หรือใครก็ตาม ต้องไปได้ทุกที่ไม่ว่าพื้นที่ใคร เพราะถือว่าเป็นแผ่นดินไทยต้องไปได้ การมาครั้งนี้มีรัฐมนตรีมาด้วยหลายคน ซึ่งแต่ละคนถือเป็นจำเลยด้วยกันทั้งหมด โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. ตนมาทำหน้าที่ตรงนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุด เราไม่ใช่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง แต่มีอำนาจเต็ม ที่ต้องพูดบ่อย เพราะกลัวจะลืม เนื่องจากใจดีเกินไป เดี๋ยวจะลืมกันไปหมด วันนี้ทุกอย่างเรากำลังเดินหน้าประเทศเพราะเรามีปัญหามาก ขอร้องว่าอย่ามองเพียงพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้โชคดีที่เรารบกันแค่ภายในประเทศ แต่ก็มีบางคนที่จะเอาคนอื่นเข้ามายุ่ง ไม่รู้ว่าใคร แล้วพวกเราจะยอมหรือไม่ เอาหน่วยงานองค์กรต่างๆ เข้ามา คนไทยด้วยกันเองตัดสินกันเองไม่ได้หรือว่าประเทศจะเดินหน้าอย่างไร เราต้องกำหนดอนาคตของคนไทยด้วยตัวเอง

“ผมเข้ามาเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า ไม่ได้มาทำลายให้หนักไปยิ่งกว่าเดิม มีอย่างเดียวคือระบอบประชาธิปไตยยังไม่ได้เท่านั้นเอง แต่ผมก็ยังไม่เคยทำอะไรผิดไปจากระบอบประชาธิปไตย ไม่เคยมีใครทำประโยชน์เช่นนี้ พูด 10 วัน 10 คืนก็ไม่จบ เรามีโรดแมป เมื่อรัฐธรรมนูญเสร็จก็จะมีเลือกตั้ง แต่พอจะทำให้เร็วก็อยากทำประชามติกันอีก ก็เชิญทำกันไป ทุกอย่างเดินไปตามกระบวนการแต่ไม่ใช่เพราะผม ซึ่งผมไม่ต้องการใช้อำนาจอะไรทั้งสิ้น เว้นแต่คนที่ให้โอกาสแล้วยังทำผิดอยู่ เรามาเฉพาะกิจ มาเพื่อปฏิรูป เดินประเทศไปข้างหน้าและแก้ปัญหาติดขัด อดีตคือประวัติศาสตร์ อย่าลืมและอย่าทำกันอีกในส่วนที่ไม่ดี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยคิดว่าจะต้องมีคนรักคนชอบ แต่คนทั้งประเทศต้องมีสิทธิเท่าเทียมทางกฎหมาย ยืนยันว่า ตนจะไม่ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง บางอย่างอาจจะช้าบ้าง เพราะมีคนเสียผลประโยชน์ วันนี้ประเทศไทยไม่สามารถต่อรองอะไรกับต่างประเทศได้ เพราะเรามัวแต่ทะเลาะกันเอง ยืนยันว่า วันนี้ทุกประเทศเข้ามาหาตนและพูดคุยว่าอย่าไปฟังสื่อ และถามตลอดว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างนี้อีกนานหรือไม่ ซึ่งตนย้ำไปว่ารัฐบาลพยายามมาแก้ปัญหาและวางพื้นฐานที่ดีไว้ แต่อนาคตอยู่ที่คนไทยทุกคนว่าจะทำให้สิ่งที่เคยเกิดกลับมเกิดอีกหรือไม่ ด้วยการชี้นำและบิดเบือน

ทั้งนี้ ตนเป็นทหาร ตนโกหกอะไรไม่ได้ สิ่งที่ตนพูดและรัฐบาลทำ ยืนยันว่า ไม่เคยโกหกประชาชน ไม่เคยคิดคดโกงแม้แต่บาทเดียว ใครคิดจะเอาผลประโยชน์ขอให้รายงานขึ้นมา ใครที่คิดเอาผลประโยชน์มันไม่ควรยืนอยู่บนแผ่นดินนี้แม้แต่การสมยอมกันก็ไม่ได้ วันนี้ประเทศชาติต้องเดินหน้าด้วยรัฐบาล ข้าราชการ ท้องถิ่น จะต้องเดินไปพร้อมกันว่าประชาชนต้องการอะไร ทุกคนต้องรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยประเทศชาติต้องมาก่อน ขอร้องให้เลิกทะเลาะเบาะแว้งกัน ถ้าเลือกตั้งครั้งหน้ายังตีกันอีกแบบเดิม ปัญหาก็จะกลับไปยืนอยู่ที่เก่า ส่วนตนไม่อยู่ด้วยแล้ว ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ดังนั้น ขอให้ใช้วิกฤตเป็นโอกาส เร่งสร้างความเข้มแข็ง

นายกฯ กล่าวถึงเด็กนักเรียนที่มาต้อนรับและได้ร้องเพลงวันพรุ่งนี้ และเพลงค่านิยม 12 ประการ ว่า เด็กๆ ที่มาทุกคนไม่ได้ต้องการอะไร ไม่ต้องการมาชุมนุมหรือเคลื่อนไหว และไม่ต้องการเลือกตั้ง ตนฟังเด็กร้องเพลงเมื่อสักครู่ รู้สึกสะอึกคอหอย ตนจุกทุกครั้งที่ฟัง ไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกแบบตนหรือไม่ ถ้าไม่รู้สึกก็ช่วยไม่ได้ ประเทศไทยไม่ใช่ต้องอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งหรืออยู่บนทุกข์ของอีกคนหนึ่งแล้วความสุขของอีกคนหนึ่ง อยู่แบบนี้ประเทศมันอยู่ไม่ได้ ขอให้กลับไปคิดแล้วกันว่าจะอยู่ตรงไหน จะมีส่วนร่วมตรงไหนที่จะทำให้ประเทศมีความมั่นคงและมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ทุกคนจะมีความสุขโดยไม่เบียดเบียนกัน ทุกคนพึงพอใจในสิ่งที่มี ได้เท่าที่ได้ วันนี้ผมพยายามทำทุกอย่างให้เท่าเทียมด้วยกฎหมาย ด้วยการบริหารราชการ ให้คนจนมีโอกาสเข้าถึงทุกช่องทาง ทุกกฎหมาย ประชาชนจะต้องรู้ว่าได้ประโยชน์อะไร เจ้าหน้าที่ก็ต้องรู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองก็ไม่ต้องใช้กฎหมาย จะมาเรียกค่าตอบแทนไม่ได้

“วันนี้เราต้องเอาตำรวจมาเป็นเพื่อน อย่าเอามาเป็นพวก เดี๋ยวจะมีปัญหา ถ้าทุกคนไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันก็จะเป็นพี่น้องที่ดี บ้านเมืองก็จะสงบสุข ถ้าทะเลาะกันอีกก็คงไม่มีกฎหมายใดในโลกนี้ที่จะเอาคนไทยอยู่อีกแล้ว กฎอัยการศึกก็ประกาศใช้ไปแล้ว มาตรา 44 ก็ประกาศใช้แล้ว ก็ยังจะไม่ฟัง ไม่เชื่อ ถามว่ามันถูกแล้วหรือ กฎหมายมีเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า ถ้าไม่มีกฎหมายมันก็เดินไม่ได้ ก็จะมีการปลุกระดมกันทั่วไป แล้วปัญหาจะเกิดขึ้นมา ใครจะเข้ามาทำมาแก้ จะรักใครชอบใครผมไม่ว่า เกลียดผมเท่าไรก็ไม่ว่าแต่อย่าเกลียดประเทศไทย มันไม่ได้ วันนี้ผมต้องขอโทษที่ดุเดือดไปหน่อย” นายกฯ กล่าว