ตัวเล็กแต่หัวใจโต๊โต “น้องซีดี” เผยจะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ถ้าผ่าตัดแล้วไม่รอด บอกเผาคงไม่ได้อะไร อยากให้คนอื่นได้ทำความเข้าใจและรู้จักโรคโมยาโมยามากขึ้น รับสภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่หวั่นโรคโมยาโมยาที่สมองด้านขวากำเริบ เล็งอัดคลิปนิทานเพิ่มรายได้
จากกรณีที่ “น้องซีดี ด.ช.กฤตไน เลาหปราสารท” ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคโมยาโมยา โรคที่เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดสมอง ซึ่งพบได้ 1 ในล้านคน ต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองเพื่อต่อหลอดเหลือดสมองฝั่งซ้าย ไปเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา และเข้ารักษาตัวที่ห้องไอ.ซี.ยู. ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ทั้งนี้ ผลการผ่าตัดออกมาเป็นที่น่าพอใจ น้องซีดีได้ออกจากห้องไอ.ซี.ยู. มาพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วย และมีอาการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จำทุกอย่างได้แม่นยำ แม้ตรวจพบโรคโมยาโมยาที่สมองด้านขวาเพิ่ม แต่กำลังใจก็ยังเต็มเปี่ยม
คืบหน้าอาการล่าสุดวันที่ 5 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดของน้องซีดี มีเพื่อน ๆ แวะเวียนมาสร้างความเซอร์ไพรส์ถึงโรงพยาบาล เจ้าตัวเผยว่าโดยรวมทุกอย่างดีขึ้น แอบขำหมอบอกผ่าตัดแค่เพียง 3 วันก็วิ่งได้ แต่ถึงตอนนี้ตนยังวิ่งไม่ได้ เผยก่อนผ่าตัดคิดว่าหากไม่รอดจะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ หวังให้มีประโยชน์ช่วยเหลือคนอื่นต่อไป
“วันนี้วันเกิด เพื่อนมาเยอะก็ดีใจครับไม่เคยมีแบบนี้ ก็มีเซอร์ไพรส์บ้าง แต่ไม่เยอะขนาดนี้ ของขวัญเต็มเตียงเลย ก็เอาลงไปบ้าง (หัวเราะ) ก็ถูกใจ ชอบ อยากได้คอมพิวเตอร์ก็มีคนส่งมาให้แล้วครับ ก็ขอบคุณครับที่ส่งคอมพิวเตอร์มาให้ (ยกมือไหว้ขอบคุณ) หนูอยากเอาไปแคสเกมส์หรือทำอะไรเอาไปลงยูทิวบ์ ทำขาย อัดคลิป ทำคลิป ทำนิทาน ทำการ์ตูน ประมาณนี้ ก็เลยอยากได้คอมพิวเตอร์ ก็ยังไม่เห็นคอมพิวเตอร์เลย เขาบอกจะส่งไปที่บ้าน หนูก็ศึกษาในยูทิวบ์ กูเกิ้ลบ้าง ก็เลยอยากทำขาย หารายได้”
เผยอาการทุกอย่างโดยรวมดีขึ้น ส่วนโมยาโมยาข้างขวาที่เพิ่งตรวจพบ ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ ไม่หวั่นเป็นอัมพฤกษ์ซ้ำอีก
“ตอนนี้มีอาการปวดท้อง หมอบอกว่าเป็นกระเพาะอักเสบ หนูกินยาแอสไพริน มันเป็นยาหลังอาหารแล้วกัดกระเพาะ มันเจ็บ หมอบอกว่าไม่มีผลกับอาการ เพราะอยู่ไกลกันน่าจะไม่มีอะไร อาการอย่างอื่นดีขึ้นกว่าวันที่ผ่า แรงก็กลับมาดี ใช้งานได้ดีปกติทุกอย่าง อาการข้างขวาที่เพิ่งพบ คุณหมอบอกว่าตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องรอให้อาการมันออก ให้โรคมันดำเนินของมันไป พอโรคเกิดอีกครั้งก็ต้องผ่า แต่หมอไมได้บอกว่าจะเกิดขึ้นอีก อาจจะมานิดเดียวแล้วหายไปก็ได้ เราก็ไม่รู้”
“ถามว่ากลัวอาการกลับมาไหม หนูผ่าลองดูแล้วก็คือข้างนี้(ข้างซ้าย) ผ่าแล้วไม่ได้มีอะไร ถ้าอัมพาตเราก็รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างนี้ก็ต้องเล่าให้หมอฟัง หมอบอกว่าวันที่ 10 จะตัดไหม ก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลเลยครับ ดีใจครับ (หัวเราะ) หนูอยากออกจากโรงพยาบาลจะแย่ สิ่งแรกที่จะทำคือไปทานอาหารที่อยากกิน (หัวเราะ) แล้วก็กลับบ้านที่เมืองกาญจนบุรี และเริ่มทำคลิปที่จะขาย ที่คิดไว้ทำเป็นนิทาน ทำเป็นกล้องเอากล้องไปถ่ายกับเพื่อนที่ให้ความร่วมมือก็เอาไปถ่ายแล้วเอามาตัดต่อ ก็อาจใช้เป็นเกส์ที่ทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง เอามาทำนิทาน ทำเป็นการ์ตูนได้ มีเพื่อนคนหนึ่งเคยทำแล้ว ก็จะไปลองถามดูว่าต้องทำยังไง จะได้เป็นสมาชิก ทำคลิปแล้วลงยูทิวบ์ ดูยอดวิวและเขาก็จ่ายตังค์”
รับเล็งจัดงานวันเกิดย้อนหลัง ด้านแม่บอกหลังผ่าตัดรู้สึกว่าตนเด็กลง
“จะจัดวันเกิดย้อนหลัง จะมีคุณแม่ของเพื่อนอีกคนหนึ่งมาช่วยด้วย เขาให้สถานที่ ที่บางขุนเทียน หนูก็จัดเล็ก ๆ ไม่ได้จัดใหญ่โตอะไร(หัวเราะ) ก็จะไปขออนุญาตคุณป้าที่หนูไปซื้อข้าวซื้อก๋วยเตี๋ยวมากิน มาทำอะไรกันหน่อย ทำส้มตำ คงชวนไม่เยอะ น่าจะอยู่ในกลุ่มนี่แหละ อาจเอาพี่นักข่าวมานิดหนึ่ง (หัวเราะ)”
“เรื่องราวดี ๆ ในวันเกิดปีนี้ก็จะมีในเรื่องของขวัญ แล้วงานวันเกิดที่จะได้จัด และมีเพื่อน ๆ มาหา เมื่อก่อนไม่ได้มาหาทีเดียว บางคนก็แยกพาไปกินข้าว หนูรู้สึกว่าหนูเด็กลง (หัวเราะ) แม่บอกว่าทำไมหนูยังเด็ก ยังทำอะไรแบบเด็กไปหมด หนูอายุ 12 ก็ยังเด็กอยู่ (หัวเราะ)”
ความคิดใหญ่เกินตัว บอกถ้าผ่าตัดไม่รอดจะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ให้คนเข้าใจโรคโมยาโมยามากขึ้น
“ใช่ ก่อนผ่าหนูคิดว่าถ้าหนูไม่รอดหนูจะเป็นอาจารย์ใหญ่ หนูจะบริจาคร่างกายเพราะว่าหนูมีทั้งโรคตา ซีสต์ สมอง ตับ แล้วก็อะไรหลายๆ โรค ก็น่าจะเป็นอาจารย์ใหญ่ได้หลาย ๆ โรค เขาจะได้เรียนกันไป ศึกษา จะได้รู้จักโมยาโมยามากขึ้น แต่ถ้าข้างขวามีอีกก็ไม่แน่ไม่นอน ในอนาคตหนูอาจได้เป็นอาจารย์ใหญ่ก็ได้ คือเอาร่างกายหนูไปเผา หนูคิดว่ามันสูญเปล่า ร่างกายหนูมีโรคตั้งเยอะตั้งแยะ มันศึกษาอะไรได้ตั้งมากมายเอาไปเผาหนูว่าเอามาบริจาคดีกว่า เป็นประโยชน์ ช่วยคนอื่นได้ด้วย หนูบอกคุณพ่อคุณแม่ไปแล้ว เขาก็นิ่ง ๆ ไป (หัวเราะ) ก็เห็นมากอดหนู แล้วคุยกันนิดหน่อย แม่ก็บอกว่าคิดได้ไง ตัวแค่นี้ แล้วคิดอยากเป็นอาจารย์ใหญ่”
บอกต้องทำกายภาพบำบัด หมอแนะให้กัดแอปเปิล ขำหมอบอกหลังผ่าตัด 3 วันวิ่งได้ แต่ตอนนี้บอกให้รอถึง 3 เดือน
“หมอบอกว่า 2 เดือนให้ทำกายภาพ ให้ลองกัดแอปเปิล ตอนนี้เขาทำศัลยกรรม เขาเอาแผ่นกะโหลกตรงนี้ไปต่อ แล้วมันตึง ปากบางทีกินข้าวจะอ้าไม่ค่อยได้ เขาบอกว่าให้กัดแอปเปิ้ล บางคนก็บอกว่าให้เอาไม้มาเรียงในปาก ให้ปากอ้า แล้วสัก 3 เดือนค่อยเริ่มรับงานได้ แต่ตอนแรกที่คุยกับหมอเรื่องผ่าตัด หมอบอกว่า 3 วันวิ่งเลย นี่หนูก็รอ อยู่ว่าเมื่อไหร่หนูจะวิ่งได้ซักที (หัวเราะ) หมอบอกว่า 5 วันค่อยไปรับจ๊อบ แต่นี่มาบอกอีก 3 เดือนหนูก็ตกใจ (หัวเราะ) แต่ก็ขอคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจ ขอบคุณครับ”
...
(ชมคลิป) สมองด้านขวาผิดปกติ “น้องซีดี” ไม่หวั่นผ่าซ้ำ ตั้งใจจะบวช 5 ปีแต่แม่ห้ามเพราะกลัวไม่สึกเหมือนพี่ชาย
แม่ “น้องซีดี” เผยลูกชายฟื้นแล้วพร้อมฝากบอก “หนูทำตามสัญญาแล้วนะ”
หายห่วง! ผ่าตัด “น้องซีดี” สำเร็จ ร่างกายตอบสนองเร็วเหลือเชื่อ แม่เผยลูกชายน้ำตาไหล
(ชมคลิป) “น้องซีดี” พร้อมผ่าตัด ปลงเกิดแก่เจ็บตาย ถามแม่ “อยู่ได้ไหมถ้าไม่มีหนู”
ฟังเรื่องราว “น้องซีดี” หนูน้อยยอดกตัญญู ด้านแม่ภาวนาให้ลูกปลอดภัยอยู่ฉลองวันเกิด 5 ก.ย.
คนบันเทิงร่วมแชร์โพสต์ช่วย “น้องซีดี” ป่วยเป็นโรคโมยาโมยา
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม