xs
xsm
sm
md
lg

“สกอร์เปี้ยน - Return to Forever”...แมงป่องผยองเดช พิษร็อกยังร้ายเหลือ/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
สกอร์เปี้ยน หนึ่งในยอดวงร็อกของโลกที่วันนี้วงนี้มีอายุถึง 50 ปีแล้ว(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
“แมงป่องผยองเดช”

เป็นฉายาที่คุณอา“วิฑูร วทัญญู” (อดีต)ดี.เจ.ขวัญใจไทยร็อกตั้งให้กับวง“Scorpions”(สกอร์เปี้ยน) หนึ่งในสุดยอดวงเฮฟวี่ ฮาร์ดร็อก จากเมืองเบียร์ เยอรมนี ที่วันนี้อายุอานามของวงวันนี้ได้ยืนหยัดยืนยงมาจนทะลุ 50 ขวบปีแล้ว

สำหรับวงสกอร์เปี้ยน พวกเขาเคยช็อคแฟนเพลงด้วยการประกาศ “ยุบวง” ปิดฉากอย่างเป็นทางการมาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2553(ค.ศ.2010) โดยทางวงได้ปล่อยเหล็กในส่งอัลบั้ม“Sting In Tail”(2010) ออกมาอำลาวงการ ก่อนจะพ่วงท้ายด้วยการเดินสายเล่นคอนเสิร์ตล่ำลา Farewell Tour 2011 ซึ่งทางวงได้มาเปิดคอนเสิร์ตสร้างความประทับใจในบ้านเราด้วย

แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นอายแห่งดนตรีร็อกมันยังหอมหวน หอมหวาน และเหล่าสมาชิกของวงก็ยังมีพลังร็อกอัดแน่นเหลือเฟือ(แม้ว่าอายุอานามแต่ละคนจะมากแล้วก็ตาม) นั่นจึงทำให้พวกเขากลับมารวมตัวทัวร์คอนเสิร์ตกันอีกครั้ง ก่อนจะถือฤกษ์ที่ทางวงมีอายุครบ 50 ปี ส่งอัลบั้มใหม่ล่าสุดออกมาคือ “Return to Forever”(2015)

Return to Forever เป็นอัลบั้มที่บ่งบอกถึงความเป็นสกอร์เปี้ยน แมงป่องผยองเดชที่วันนี้กลับมา(อีกครั้ง)เพื่อจะคงความเป็นอมตะอยู่ยั้งยืนยง ซึ่งอันที่จริงสกอร์เปี้ยนนั้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในวงร็อกชั้นเยี่ยมที่มีบทเพลงชื่อดังมากมาย โดยเฉพาะบทเพลงบัลลาดอันไพเราะหวานซึ้งของสกอร์เปี้ยน นั้นถือว่าสุดยอดมากๆ พวกเขามีบทเพลงเพราะๆขึ้นหิ้งที่เราคุ้นหูกันดี อย่างเช่น “Still Loving You”, “Holiday”, “Always Somewhere” และ “Wind Of Change” ที่บทเพลงหลังนี่มียอดวิวบนยูทูบ(ในวันนี้)มากถึงกว่า 144 ล้านวิวเลยทีเดียว

Return to Forever เป็นสตูดิโออัลบั้มที่ 18 ของวง มีสมาชิก 5 พะหน่อ นำโดย “รูดอล์ฟ เชงเกอร์” (Rudolf Schenker) : ริทึ่มกีตาร์ ลีดกีตาร์ ร้องประสาน แต่งเพลง และเป็นแกนนำกำลังหลักของวง, “เคล้าส์ ไมน์”(Klaus Meine) : ร้องนำ,“แมธเธียส แจ๊บส์”(Matthias Jabs) ลีดกีตาร์,ริทึ่มกีตาร์ อะคูสติกกีตาร์, “พาวเวล มาซิโวด้า” (Pawel Maciwoda) : ตะปบเบส และ “เจมส์ ค็อตทัค” (James Kottak) : กระหน่ำกลอง

อัลบั้มชุดนี้มีทั้งหมด 12 เพลงด้วยกัน (ส่วนถ้าเป็น Limited Deluxe Edition จะมีเพิ่มมาอีก 4 เพลง เป็น 16 เพลง) บทเพลงส่วนใหญ่จะเป็นบทเพลงเก่าที่ตกค้าง ทางวงแต่งเคยไว้ในวาระต่างๆแต่ยังไม่ได้นำบรรจุลงในอัลบั้ม กับบทเพลงแรกที่แต่งขึ้นใหม่เอี่ยมอ่องใน 2 แทรคแรก
ปกอัลบั้ม Return to Forever
Return to Forever เปิดประเดิมกันด้วย “Going Out with a Bang” เพลงโจ๊ะๆมันๆ ติดสำเนียงฮาร์ดร็อกแบบอเมริกันสไตล์ เนื้อเพลงนี้แต่งขึ้นใหม่บอกเล่าการยืนหยัดอยู่ของวงในยุทธจักรดนตรีอันยาวนาน

ต่อมาเป็น “We Built This House” ผ่อนจังหวะลงมากลางๆ ท่วงทำนองเจือความเป็นป็อบสูง เมโลดี้สวย เสียงประสานเยี่ยม ทอนฮุคโดน เนื้อหาว่าด้วยการต่อสู้ฟันฝ่ามาจนถึงวันนี้ของสกอร์เปี้ยนส์ ว่าหนทางนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงเอกประจำอัลบั้ม

จากนั้นมาเร่งสปีดเร็วบรื๋อกับ “Rock My Car” เพลงโคตรมัน ร้อนแรง เปี่ยมพลังขับเคลื่อน กีตาร์โซโลได้มันสุดติ่ง

อารมณ์เพลงแล้วมาเบรกหัวทิ่มกับ “House of Cards” เพลงบัลลาดหวานซึ้ง ซึ่งเป็นสไตล์ถนัดของวงแมงป่องผยองเดช ดนตรีนุ่มละมุม เสียงร้องของเคล้าส์ ไมน์ ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เพลงนี้ถ้าในยุคเฮฟวี่ครองโลกเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จะกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงดังของวงไปโดยปริยาย

มาขับเคลื่อนพลังร็อกกันต่อกับ “All for One” เพลงมันๆชวนโยกหัว กีตาร์กระชากคอร์ดหนาแน่น เนื้อหาเพลงว่าด้วยการยืนหยัดของพวกเขา

ส่วน “Rock 'n' Roll Band” บทเพลงเก่าที่แต่งในช่วงปี 86-87 เดิมทำไว้สำหรับอัลบั้ม “Savage Amusement” ในปี 88 เนื้อเพลงว่าด้วยเนื้อหายอดฮิตของเพลงร็อกยุคนั้น ว่าด้วย เซ็ก ยา และ ร็อกแอนด์โรลล์ เพลงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงที่มากไปด้วยพลังของการขับเคลื่อน

Catch Your Luck and Play” หน่วงอารมณ์มาในจังหวะปานกลางกับร็อกอารมณ์ป็อบฟังเพลิน ทางกีตาร์เด่น ฟังเท่ไม่หยอก

Rollin' Home” เพลงนี้มีกรูฟที่เท่ๆมาก ดนตรีมาในจังหวะปานกลาง โจ๊ะๆ ชวนโยกหัวไปกับเมโลดี้ทางป็อบ ท่อนฮุคฟังติดหูง่าย ไลน์กีตาร์มีใส่ลูกสไลด์เข้าไปในท่อนแนวทำนอง เวลาแสดงสดคงจะมีคนโยกหัวตามกันตรึม ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงสุดเจ๋งของอัลบั้ม

กลับมาร็อกมันหนักๆกันกับ “Hard Rockin' the Place” ที่ทางวงใส่กันจนลืมแก่ ส่วน “Eye of the Storm” นี่เป็นการเบรกอารมณ์อีกครั้งกับบัลลาดร็อกหวานซึ้ง ฟังไพเราะจับใจได้อารมณ์

The Scratch” เป็นฮาร์ดร็อกโจ๊ะๆสำเนียงมะกันเช่นดังในเพลงแรก และจากนั้นปิดท้ายกันด้วย “Gypsy Life” อีกหนึ่งบทเพลงหวานซึ้งที่เป็นดังสัญลักษณ์ของวงแมงป่องว่า ไม่ว่าจะดุดัน หนักแน่น ร้อนแรงแค่ไหน แต่ยามบทจะหวานนี่พวกลุงๆหวานกันน้ำตาลเรียกพี่ ซึ่งในเพลงที่แล้วสกอร์เปี้ยนเล่นกัน“มันจนลืมแก่” มาในเพลงนี้พวกลุงๆก็เล่นกัน“หวานจนลืมแก่”เช่นกัน
ลีลาแมงป่องผยองเดชของวงสกอร์เปี้ยน(ภาพอินเตอร์เน็ต)
และนั่นก็เป็น 12 บทเพลงจาก Return to Forever อัลบั้มชุดใหม่ของวงสกอร์เปี้ยน ที่แม้ว่างานเพลงโดยรวมของอัลบั้มชุดนี้จะไม่มีอะไรใหม่ แต่ว่ามันฟังมีพลัง และมีความสดอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะถึงแม้สมาชิกของวงแต่ละคนจะจัดอยู่ในประเภท ส.ว. สูงวัย ตั้งแต่อายุ 50 กว่าไปจนถึง 60 ปลายๆ แต่ลุงๆวงแมงป่องกลับยังคงมีพลัง(ร็อก)เหลือเฟือ เล่นกันมันเหมือนสมัยหนุ่มๆ

เสียงร้องของเคล้าส์ ไมน์ แม้ไม่ได้โชว์พลังการแหกปากสุดเสียงสังข์เหมือนเมื่อกาลก่อน แต่ว่าลุงแกสามารถขับร้องถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีพลัง ถึงอารมณ์ และไม่ดันทุรัง คือเคล้าส์ ไมน์ เลือกที่จะร้องเพลงให้เหมาะสมกับวัย และสมรรถภาพทางน้ำเสียงของตัวเอง

ขณะที่ภาคริทึ่ม กลอง เบสนั้น หายห่วง เล่นคุมจังหวะยืนพื้นเป็นกองหลังได้แน่นปึ่ก ส่วนฝีมือกีตาร์ทั้งของ รูดอล์ฟ เชงเกอร์ และแมธเธียส แจ๊บส์ ยังฟังสดและเล่นเข้าขาสอดประสานกันอย่างรู้ใจ โดยรวมแล้วเน้นความเป็นทีมเวิร์คที่ทรงพลังมากกว่าเน้นความเด่น โดด เฉพาะตัวของใครบางคน

นับได้ว่า Return to Forever เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มคุณภาพ ชวนฟัง ที่อวลไปด้วยบรรยากาศของเพลงเฮฟวี่ ฮาร์ดร็อก ในรุ่นยุค 80 อีกทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์และบรรยากาศแห่งบทเพลงในแบบสกอร์เปี้ยน ที่แม้กาลเวลาจะพรากความวัยหนุ่มห้าวเป้งของพวกเขาไป แต่ว่ากาลเวลาไม่สามารถพรากพลังร็อกแอนด์โรลล์ที่มีอยู่เหลือเฟือในตัวพวกเขาให้เสื่อมสูญลงไปได้

*****************************************
ฟังเพลง We Built This House



*****************************************
แกะกล่อง

ศิลปิน : Josh Groban
อัลบั้ม : Stages

อัลบั้มใหม่ล่าสุดของ “จอช โกรเบิน” ยอดนักร้องโอเปร่าร่วมสมัย ที่ในชุดนี้มีความพิเศษด้วยการคัดสรร 15 บทเพลงคลาสสิกจากละครเวทีมาขับร้องใหม่ในสไตล์ของเขา กับบทเพลงชั้นนำ อาทิ “Over The Rainbow” เพลงอมตะจากละครเรื่อง The Wizard of Oz, “All I Ask of You” เพลงจากละครเพลง The Phantom of the Opera ที่ได้“เคลลี คลาร์คสันมาร้องคู่, หรือเพลง “You'll Never Walk Alone” จากละครเรื่อง Carousel ที่ตอนหลังได้กลายไปเป็นเพลงประจำทีมหงส์แดง-ลิเวอร์พูล นอกจากนี้ยังมีเพลงโบนัสอย่าง“Empty Chairs At Empty Tables” จากละครเพลง Les Misérables ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มฟังสบายๆ ไพเราะจับใจ และชวนให้ดื่มด่ำในอารมณ์ไม่น้อยเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น