อาจจะไม่มีชื่อเข้าชิงในสายนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของเวทีออสการ์ แต่ทว่าก่อนหน้านี้ นักแสดงผู้แจ้งเกิดมาจากหุบเขาเร้นรัก “โบร๊กแบ็ค เมาท์เท่น” อย่าง “เจค จิลเลนฮาล” ก็มีชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และนั่นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บทบาทนี้ของเขาควรค่าแก่การกล่าวถึง ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า นี่เป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของนักแสดงหนุ่มคนนี้เลยก็ว่าได้
...จากไอ้จิ๊กโก๋กระจอกๆ คนหนึ่ง ซึ่งกำลังถังแตก ตกงาน และเที่ยวลัดเลาะไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหยิบยืมสิ่งของของชาวบ้านโดยไม่บอกกล่าวกับเจ้าของ แล้วนำไปขายต่อ “ลูอิส บลูม” บังเอิญได้พบเห็นช่องทางทำเงินที่ดีกว่านั้น คือการเป็นช่างภาพอิสระ เขาเริ่มต้นด้วยการหากล้องกระจอกๆ ได้ตัวหนึ่ง (ก็จากการลักจักรยานชาวบ้านไปขายต่อนั่นล่ะ) แล้วตระเวนท่องไปตามท้องถนนในยามค่ำคืน เที่ยวบันทึกภาพอุบัติเหตุและอาชญากรรมเพื่อส่งขายตามสถานีข่าวที่ต้องการ สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคนร้ายบุกยิงฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว ก็คือว่า ลูอิส บลูม ทำงานของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพและกลายเป็นช่างภาพข่าวผู้มีผลงานเป็นที่ต้องการ สถานะของเขาโตวันโตคืน และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครหยุดเขาอยู่...
แม้จิลเลนฮาลจะไปไม่ถึงออสการ์ แต่ทว่า “ไนท์ครอว์เลอร์” กลับได้รับการเสนอเข้าชิงในสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะจากพล็อตที่ดูเหมือนดาษดื่นทั่วไปอันว่าด้วยไอ้จิ๊กโก๋โจรกระจอกที่พลันพบหนทางที่ดีกว่า หนังเรื่องนี้พาเราก้าวเข้าไปในประเด็นทางสังคมร่วมสมัยที่เกี่ยวกับโลกของสื่อ จรรยาบรรณ ศีลธรรม รวมไปจนถึงกฎหมาย ที่เอาเข้าจริง ดูเหมือนสิ่งเหล่านี้มักจะพ่ายแพ้เสมอๆ เมื่อต้องประหมัดกับความทะยานอยากอันเป็นด้านหยาบของมนุษย์
ความยอดเยี่ยมอันดับแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เชื่อว่าคนดูทุกคนจะสัมผัสได้ชัดเจน คือพัฒนาการของตัวละครที่น่าติดตาม อีกทั้งยังมีชั้นเชิงความเก๋าที่ยากจะคาดเดาได้ว่าพฤติการณ์ของตัวละครจะเป็นเช่นใดต่อไป ลูอิส บลูม นั้น ว่าอันที่จริง แม้จะมีรากมาจากโจรกระจอก แต่วิถีโลกทัศน์ของเขานั้นหาได้กระจอกไม่ จุดที่เขายืนอยู่อาจเป็นใต้ถุนสังคมที่แทบจะมองหาแสงสว่างไม่พบ แต่ด้วยความขวนขวายกระหายรู้ ทำให้เขาแตกต่าง แนวทางความคิดของเขา เมื่อถึงจังหวะหนึ่ง สามารถฟัดเหวี่ยงกับคนใหญ่คนโตที่เป็นถึงระดับผู้บริหารสถานีข่าวได้อย่างสง่าผ่าเผย ผมเชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาเทศนาในประเด็นที่เป็น “สาระ” ไม่ว่าใครก็ต้องเอียงหูฟัง และอาจถึงขั้นเคลิบเคลิ้มไปกับมนต์ขลังแห่งถ้อยคำของเขาเสียด้วยซ้ำ
ลูอิส บลูม เป็นคนที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ พรแสวง ขณะเดียวกันก็ร้อนแรงด้วยความทะเยอทะยานไขว่คว้าเพื่อบรรลุผลสำเร็จตามที่มุ่งหวังตั้งใจ ในแบบที่น้อยคนนักยากจะกระทำได้ ขณะที่เจค จิลเลนฮาล ผู้รับบทเป็นลูอิส ก็ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ออกมาได้น่าเชื่อถือ เขาลงทุนลดน้ำหนักไปหลายกิโลกรัมเพื่อความสมบทบาทในหนัง เราจึงเห็นเจคที่แก้มตอบ หน้าซีด นัยน์ตาอิดโรย ราวกับคนไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการเป็น “ไนท์ครอว์เลอร์” หรือ “หนอนราตรี” ที่ต้องคอยล่าหาข่าวในยามค่ำคืน ใบหน้าแววตาลักษณะนี้ เมื่อบวกรวมกับความมุ่งมั่นแบบแข็งกร้าว จึงทำให้บทของลูอิส บลูม แลดูสะพรึงอย่างน่าประหลาด
ผมไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร บทบาทนี้ของเจคถึงหลุดโผจากออสการ์ ทั้งที่น่าจะได้ชิง บางที...ดูจากนักแสดงทั้งห้าที่เข้าชิงในปีนี้ แทบทั้งหมดเป็นตัวละครในแบบที่ค่อนข้างสง่างาม น่าสงสารแต่ส่งพลังด้านดีถึงคนดู แม้กระทั่งบทของสตีฟ คาร์เรล ในเรื่องฟ็อกซ์แคทเชอร์ (Foxcatcher) ที่แม้จะกระทำการอันอุกอาจ ทว่าโดยพื้นฐาน กลับเป็นมนุษย์ที่น่าสงสารเวทนาเป็นอย่างยิ่ง ตรงกันข้ามกับบทนี้ของเจค จิลเลนฮาล ที่ไม่ว่าพลิกมองด้านไหน เราจะรู้สึกกังขาสงสัยในความเป็นมนุษย์ของเขาอยู่แทบตลอดเวลา ปีนี้ รู้สึกจะมีนักแสดงอีกคนที่ใกล้เคียงกับบทนี้ของเจคและได้เข้าชิงออสการ์ด้วย คือ “โรซามุนด์ ไพค์” จากเรื่อง Gone Girl “เอมี่” ผู้มากับความมืดและหม่นจนน่าสะพรึง
ไม่ว่าจะอย่างไร...ไม่ว่าใครก็คงปฏิเสธได้ยากในความยอดเยี่ยมของไนท์ครอว์เลอร์ รายการวิวไฟน์เดอร์ ทางช่องซูเปอร์บันเทิง มักถามผมเสมอๆ ว่าหนังเรื่องนี้เรื่องนั้นเหมาะกับใคร ซึ่งสำหรับไนท์ครอว์เลอร์ ผมว่าเหมาะกับทุกคนในสังคม ยิ่งในยุคที่ถูกแวดล้อมด้วย “ข่าว” อย่างเช่นทุกวันนี้ หนังสะท้อนเห็นถึงวิถีแห่งการทำข่าวของคนข่าวบางสำนักเพื่อช่วงชิงพื้นที่ในการเป็นผู้นำ โดยมุ่งเน้นข่าวที่เป็น Human Interest หรือข่าวที่ชาวบ้านทั่วไปสนใจ ซึ่งไม่ว่าจะในหนังหรือในโลกความจริง ข่าวที่ขายได้และขายดีก็หนีไม่พ้นข่าวอาชญากรรมเลือดสาดหรืออุบัติเหตุรุนแรงที่กระตุ้นความสนใจใคร่รู้ของผู้คน
“ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเลือดสาดไปตามถนน
กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเพราะเธอเพิ่งถูกปาดคอมา
นี่แหละคือข่าวที่เราต้องการ"
โปรดิวเซอร์รายการข่าว บอกกับลูอิส บลูม อย่างนี้ ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เขาเริ่มสวมหมวกเป็นเหยี่ยวข่าว...
แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่มันน่าวิตกก็เพราะมีใครบางคนได้ “ล้ำเส้น” ไปไกลเกินกว่าการทำหน้าที่นำเสนอ คำถามเกี่ยวกับศีลธรรม จรรยาบรรณ ไปจนถึงกฎหมาย จึงถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นที่หนังพยายามโยนให้คนดูถกคิดหาคำตอบ...
สิ่งที่ทำให้หนังดูสนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก คือความเขี้ยวกับความเขี้ยวที่มาปะทะกันระหว่างตัวละครหลักๆ ที่ทำให้เรื่องราวมีมิติ อำนาจ การหลอกล่อ การต่อรอง ความรู้สึกถูกดูแคลน ความอยากจะเอาชนะ สิ่งเหล่านี้เป็นบรรยากาศที่โอบล้อมหนังทั้งเรื่องไว้ ซึ่งไม่เพียงทำให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โต หากแต่ยังเป็นอรรถรสอันแสนสนุกของการดูหนังด้วย โดยเฉพาะยิ่ง การต่อปากต่อคำระหว่าง “ลูอิส บลูม” กับผู้บริหารสถานีข่าวซึ่งเป็นสาวแก่ ทั้งสองคนนี้เข้าฉากด้วยกันทีไร เป็นต้องได้ครื้นเครงและขำขื่น เป็นตลกร้ายที่ไม่รู้จะหัวเราะหรือร่ำไห้กับมันดี
ไนท์ครอว์เลอร์ อาจไม่ใช่หนังที่เน้นเอฟเฟคต์อะไรอลังการงานสร้าง แต่โปรดักชั่นที่ดูดิบๆ กลับดูสมจริงและสื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณด้านมืดของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี แสงสีในหนัง ออกโทนหม่นเทา ราวกับกำลังส่งเสียงบอกกล่าวถึงภาวะของตัวละคร ขณะเดียวกัน ไดอะล็อกหรือบทพูดที่ฉลาดและเปี่ยมด้วยชั้นเชิง มีสองฉากที่นับเป็นความเจ็บปวดสูงสุดที่จำเป็นต้องจารึกไว้ คือฉากสนทนาบนโต๊ะอาหาร (ลูอิสกับโปรดิวเซอร์ข่าว) และฉากสนทนาในรถคันนั้น (ลูอิสกับลูกทีม) นั่นคือความเยี่ยมยอดของคนเขียนบทที่สามารถสร้างสรรค์บทสนทนาซึ่งแหลมคม คุกคามและเชือดเฉือน ชนิดที่ทำให้รู้สึกถึงการเลือดสาดอยู่ในใจ ยิ่งกว่าข่าวเลือดสาดที่ขายได้และขายดี
ยอดเยี่ยมครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้!
** หมายเหตุ: ไนท์ครอว์เลอร์ จะจัดฉายเพียงรอบเดียว วันเดียว เท่านั้นที่โรงภาพยนตร์สกาล่า สยามสแควร์ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ รอบเวลาฉาย 14.15 น. บัตรราคา 120 เริ่มจำหน่ายบัตรที่หน้าโรง ตั้งแต่เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป
_______________________________________________________________________
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |