“เฮียฮ้อ” อาร์เอส เปิดแถลงข่าว ไม่เห็นด้วยกับกฎ must have ของ กสทช. เพราะจะทำให้กลไกการตลาดเสีย เผยเงินค่าชดเชยลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 427 ล้านบาท เป็นการได้ไม่คุ้มเสีย ไม่มั่นใจจะประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครั้งหน้าอีกหรือไม่
หลังจากที่มีข่าวว่า บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้รับเงินชดเชยค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกจาก กสทช. 427 ล้านบาท เพื่อให้ถ่ายทอดสดออกอากาศช่องฟรีทีวีได้ ก็เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วว่างานนี้อาร์เอสได้อานิสงส์ไปเต็มๆ เพราะไหนจะได้ค่าชดเชย ได้ค่าโฆษณาที่ขายไปก่อนหน้านี้ รวมถึงรายได้ช่องทางอื่นๆ ที่เกี่ยวกับฟุตบอลโลก
ล่าสุดวันนี้ “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ผู้บริหารอาร์เอสก็ได้เปิดแถลงข่าวถึงผลการตัดสินของตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่ให้อาร์เอสชนะคดี กสทช. กรณีที่อาร์เอสฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศของ กสทช. ซึ่งบังคับใช้ให้อาร์เอสในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ถ่ายทอดครบ 64 คู่ผ่านฟรีทีวี แต่ทางด้านอาร์เอสต้องการถ่ายทอดสดเพียง 22 คู่เท่านั้น กระทั่งเป็นที่มาของการเจรจากันระหว่าง กสทช. และอาร์เอส ถึงการชดเชยรายได้ให้อาร์เอส 427 ล้านบาท เพื่อให้มีการถ่ายสดฟุตบอลช่องฟรีทีวีครบ 64 คู่ ซึ่งอาร์เอสยืนยันว่าค่าชดเชยดังกล่าวนั้นได้ไม่คุ้มเสีย และไม่เห็นด้วยกับกฎ must have ของ กสทช. เพราะจะทำให้กลไกการตลาดเสีย
“ช่วงที่ผ่านมาที่เราไม่สามารถออกมาพูดอะไรได้ ก็ต้องเรียนว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยุ่งและมีหลายๆ เรื่องเข้ามายังไม่มีความชัดเจนในหลายๆ เรื่อง อาร์เอสเลยยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอที่จะมาแถลงให้ความกระจ่าง ก่อนอื่นขอขอบคุณตุลาการศาลปกครองกลาง ตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่ท่านได้พิจารณาวินิจฉัยคดีอย่างรอบคอบทุกประเด็น และให้ความเป็นธรรม ที่สรุปได้จากคำพิพากษาว่า”
“1. การนำกฎ must have มาใช้กับ rs bs (บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด (RSBS - อาร์เอสบีเอส)) ในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2014 ไม่ได้ เพราะอาร์เอสยืนยันมาตลอดเวลาว่า เราได้สิทธิฟุตบอลโลก 2014 มาก่อน และเราคิดว่ากฎนี้ไม่เป็นธรรมกับเรา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราเรียกร้องความเป็นธรรมมาตลอดปีเต็มๆ”
“2. การที่ กสทช. ออกประกาศกฎ must have และให้มีผลบังคับใช้กับ Rs Bs ด้วย ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า rs bs ได้สิทธิอยู่ก่อน จึงไม่เป็นธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเหตุแห่งการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย่อมหมายถึงการใช้ดุลพินิจด้วย นี่ก็เป็นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด”
“อีกประเด็นหนึ่งที่ศาลปกครองสูงสุดได้กรุณาให้คำวินิจฉัยก็คือ หาทางออกที่จะให้ rs bs ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ในฟรีทีวี ก็ควรจะต้องกำหนดมาตรการชดเชยและเยียวยาให้ จึงเป็นที่มาของหลังจากที่ได้มีการตัดสินคดีแล้ว ทางผมเองก็ได้รับการประสานอย่างเร่งด่วนจากทางท่านเลขา กสทช. คุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ ได้ติดต่อมาว่าต้องการหารือด่วนเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ โดยมองว่านี่เป็นบทบาทหน้าที่ของทาง กสทช. ที่จะทำอย่างไรให้นำคอนเทนต์ฟุตบอลโลก เป็นคอนเทนต์ที่ประชาชนเข้าถึงได้โดยทั่วกัน”
“ซึ่งเมื่ออาร์เอสได้รับการติดต่ออย่างนั้น ผมเองก็ยินดีให้ความร่วมมือครับและเข้าใจว่าใช้เวลา 2 - 3 วันนี้ ทุกฝ่ายก็พยายามอย่างเต็มที่นะครับ เพื่อจะหาข้อสรุปที่คิดว่าทุกๆ ฝ่ายพอจะยอมรับได้ ซึ่งต้องเรียนว่าเป็นช่วงเวลา 2 - 3 วันที่ค่อนข้างยุ่งมากและมีตัวแปลเยอะมาก เราเองเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วก็คิดว่า เมื่อมีการประสานงานขนาดนี้และมีเจตนาที่ดี ผมก็คิดว่าอาร์เอสเองก็ยินดีให้ความร่วมมือ”
“ความสำเร็จส่วนหนึ่งก็ต้องขอขอบคุณทาง ททบ.5 โดยท่าน ผอ. พลโท ชาติอุดม ตติขศิริ และทีวีช่อง 7 คุณพลากร สมสุวรรณ ซึ่งเป็น 2 ท่านที่ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน เพื่อจะทำให้มันทันกับเวลา จนเป็นข้อสรุปที่ยอมรับร่วมกันได้ทุกฝ่าย”
เผยเงินที่ กสทช. ชดเชยให้อาร์เอส 427 ล้านบาทนั้นได้ไม่คุ้มเสีย
“ส่วนประด็นเงินชดเชยจำนวน 427 ล้านบาทที่มีการอนุมัติมาเพื่อชดเชยให้อาร์เอส ในกรณีของการชดเชยรายได้ที่ควรจะได้นั้น ผมอยากจะเรียนว่าในมุมของเราวันนี้ เงิน 427 ล้านนั้นได้ไม่คุ้มเสีย เพราะเมื่อเทียบกับคาดการณ์รายได้ที่เราคาดการณ์ไว้มันเทียบกันไม่ได้ รวมถึงว่าเงินจำนวนนี้อาร์เอสเองก็ต้องกันไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อจะไปเยียวยาลูกค้าของเราที่ซื้อกล่องบอลโลกไปแล้ว รวมถึงลูกค้าที่สมัครดูช่องเวิลด์คัพ”
“ซึ่งในสถานการณ์อย่างนั้นเราคิดว่าเมื่อมาถึงจุดนั้นแล้ว การตัดสินใจของบริษัทก็คงเอาเรื่องธุรกิจมาเป็นเรื่องรอง เพราะเห็นความตั้งใจจริง ในเหตุการณ์ที่กระชั้นเราจึงตัดสินใจยอมรับในเงื่อนไขนี้ และยอมให้มีการถ่ายทอดฟรี 64 แมตช์”
อาร์เอสยินดีจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกค้าที่ซื้อกล่องอาร์เอสเพื่อชมฟุตบอล
“ส่วนเรื่องการเยียวยา ณ วันนี้พอทุกอย่างนิ่งเราก็ไม่ได้ละเลยนะครับ เรารับผิดชอบกับลูกค้าหรือประชาชนที่ซื้อสินค้า หรือบริการของอาร์เอส วันนี้มาตรการเยียวยาทางลูกค้าที่ซื้อกล่องบอลโลก หรือลูกค้าที่สมัครดูช่องเวิลด์คัพ เรามีมาตรการเรียบร้อยแล้ว และทางทีมบริหารของเราก็จะนำมาตรการเหล่านี้ไปหารือกับทางอนุกรรมการที่ กสทช. เพื่อจะได้ข้อสรุปร่วมกัน และนำมาเผยแพร่ให้กับลูกค้าของเราเร็วที่สุด แต่ก็ต้องเรียนว่า จริงๆ แล้ว ณ วันนี้ช่องเวิลด์คัพแชนแนลของอาร์เอสก็ยังดำเนินการอยู่ เป็นช่องพิเศษที่ไม่ได้ดูแค่ถ่ายทอดสดได้อย่างเดียว เรายังมีรีรันมีรายการพิเศษมีภาพเบื้องหลัง ซึ่งเป็นช่องพิเศษจริงๆ และชี้แจงนิดหนึ่งว่าจริงๆ แล้ววันนี้เองก็เป็นส่วนน้อย ในปัจจุบันเองก็ยังมีลูกค้าหลายๆ รายจำนวนมากที่ยังสมัครเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
“ส่วนเรื่องมาตรการเยียวยาเรื่องรายละเอียดคงจะประกาศได้เป็นทางการเร็วที่สุด อย่างช้าก็คงวันจันทร์ที่จะถึงนี้ครับ แต่เรียนว่าเราก็เยียวยาลูกค้าทุกประเภทนะครับ ทั้งลูกค้าที่ซื้อกล่องไปแล้วหรือลูกค้าที่อยากเก็บกล่องไว้ แต่อาจจะไม่ประสงค์ใช้บริการช่องเวิลด์คัพแล้ว หรือลูกค้าที่ต้องการจะยกเลิกการใช้บริการช่องเวิลด์คัพ ก็มีมาตรการครบทุกด้านสำหรับลูกค้าทุกประเภทครับ ก็คงจะเป็นแพ็คเก็ตชดเชยในแต่ละกลุ่มครับ”
“วันนี้คงจะไปหารือในรายละเอียดกันแต่ในหลักการผมยืนยันว่าอาร์เอสออกมารับผิดชอบ และเยียวยาลูกค้าของเรา ก็เป็นไปตามความสมัครใจนะครับ จากเท่าที่เราเช็คก็มีบางส่วนที่แสดงความจำนงมา และทำความเข้าใจกับลูกค้าก่อนว่า คุณสมบัติหรือสิทธิพิเศษของกล่องบอลโลกนั้นมีอะไรบ้าง เราก็ให้ลูกค้าตัดสินใจจริงๆ ว่าถ้าจะคืนเราก็ยินดีครับ แต่มาตรการต่างๆ เดี๋ยวรอวันนี้เข้าไปประชุมกับทางคณะอนุกรรมการที่ กสทช. ก็คงจะประกาศได้ภายในวันจันทร์”
“ซึ่งในส่วนที่จะคืนเงินก็จะไม่เกินกล่องละ 1,590 บาท แต่ผมก็ไม่คิดว่าผู้บริโภคต้องการจะคืนกล่องเราทั้งหมด เพราะกล่องบอลโลกก็มีความชัดเจนว่า นอกจากจะดูช่องเวิลด์คัพซึ่งเป็นช่องพิเศษดูบอลโลกได้ และดูรีรันได้ที่เดียว และมีรายการพิเศษจากฟีฟาแล้ว ยังดูลาลีกาสเปนซีซันหน้าได้ตลอดปี และยังสามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้ อีกอย่างหนึ่ง ณ วันนี้ฟีตแบ็กที่มีมามันก็มีทั้งสองอย่าง ก็มีบางส่วนที่อยากจะคืน แต่บางส่วนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็ยังคิดว่ายังคุ้มค่าและอยากจะดูช่องเวิลด์คัพแชนแนลอยู่ และตอนนี้กล่องบอลโลกเราก็ยังขายอยู่ที่ราคาเดิม เราก็ให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง”
“ส่วนทางด้านฟีฟาคือไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่เราต้องแจ้งให้ฟีฟาอนุมัติครับ ฉะนั้นทุกๆ ขั้นตอนในช่วงที่มันเร่งด่วนจริงๆ เราก็ต้องทำทุกอย่างด้วยมาตรการที่เร่งด่วน ส่วนสปอนเซอร์ก็ไม่มีปัญหาเลยครับ ในมุมของสปอนเซอร์ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย เพราะว่ามันถูกปิดการขายไปหมดแล้ว”
ยืนยันไม่เห็นด้วยกับกฎ must have ของ กสทช. เพราะเป็นการทำลายกลไกการตลาด และอาจไม่มีใครกล้าไปประมูลบอลโลกเพราะกลัวไม่คุ้มค่า
“ผมเรียนว่าผมไม่เห็นด้วย นั่นคือความเห็นส่วนตัว ในอดีตเมื่อแสดงความคิดเห็นนี้หลายๆ คนอาจจะคิดว่าผมมีส่วนได้เสีย แต่วันนี้ชัดเจนว่าเราไม่ได้มีส่วนได้เสีย ผมขอแสดงความเห็นในฐานะนักธุรกิจที่บริหารเรื่องลิขสิทธิ์กีฬา ผมว่าการมีกฎนี้มันแทรกแซงกลไกตลาด และผมเชื่อว่าในอนาคตจะมีปัญหาตามมา เราอาจจะเห็นคอนเทนต์ฟุตบอลโลกซึ่งเป็นคอนเทนต์อันดับหนึ่งของโลกหารายได้ได้น้อย คอนเทนต์อันดับสอง อันดับสาม กลไกตลาดจะผิดเพี้ยนหมด ต่อไปทุกคนจะวิ่งไปซื้อบอลยูโร เพราะบอลยูโรสามารถหาช่องทางได้มากกว่า ราคายูโรอาจจะสูงกว่าฟุตบอลโลก”
“ประเด็นที่สองคือต่อไปจะมีนักธุรกิจรายใดกล้าเข้าไปประมูลฟุตบอลโลก และจะดูว่ามันจะคุ้มค่ามั้ย ส่วนอาร์เอสจะประมูลฟุตบอลโลกครั้งต่อไปหรือไม่ ก็คงต้องดูต่อไปแต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว และความน่าสนใจของตัวคอนเทนต์ ยังไงบอลโลกก็เป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ความน่าสนใจของการที่จะเข้าไปเอามาเพื่อจะบริหารธุรกิจมันลดน้อยลง”
เผยลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกยังเป็นของอาร์เอส แม้ว่าขณะนี้จะเผยแพร่ได้ทางฟรีทีวีก็ตาม
“ขอเรียนว่ากฎหมายลิขสิทธิ์ก็ยังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่เราดำเนินการกันอยู่คือเรื่องการเผยแพร่ฟรีทีวีกับช่องพิเศษ ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ก็ต้องเรียนว่า ลิขสิทธิ์ของฟุตบอลโลก 2014 ยังเป็นสิทธิสมบูรณ์แบบของอาร์เอสในการบริหารจัดการครับ”