“มิค-เบนซ์” หวานชื่นฉลองสมรสพระราชทาน ฟุ้งชีวิตคู่แฮปปี้มากรู้แบบนี้แต่งนานแล้ว ด้านมิคชมภรรยาเปลี่ยนไปมากไม่ดุเหมือนเมื่อก่อน แถมตื่นเช้ามาทำหน้าที่แม่บ้านทั้งทำอาหาร-ปอกผลไม้ดูแลตนอย่างดี แพลนมีลูกปีหน้า 2 คนเป็นอย่างต่ำ พร้อมเผยเหตุการณ์โดนทุบรถว่ายังจับโจรไม่ได้ วอนเอาเอกสารสำคัญมาคืน ส่วนเงินและของมีค่ายกให้เอาไปเลย
เพิ่งเจอเรื่องร้ายๆ โดนคนร้ายทุบรถฉกทรัพย์สินร่วมแสนระหว่างจอดทานอาหาร เมื่อคืนที่ผ่านมา มาวันนี้ (26 เม.ย.) คู่สามี-ภรรยาคนดังของวงการ “เบนซ์ พรชิตา” กับ “มิค บรมวุฒิ หิรัษยัติฐิติ” ก็ได้ฤกษ์ดีจูงมือกันจัดงานฉลองมงคลสมรสพระราชทาน ขึ้นที่ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี หลังเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้งคู่ได้เข้าพิธีวิวาห์และจดทะเบียนสมรสกัน พร้อมกับได้เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ อาคารชัยพัฒนา พระตำหนักสวนจิตรลดา เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศในวันนี้บ่าว-สาวกำหนดให้เป็นธีมแบบครอบครัวเน้นความอบอุ่นเป็นกันเองสบายๆ ซึ่งก่อนที่พิธีการต่างๆ จะเริ่มขึ้น “เบนซ์-มิค” ได้ควงกันออกมาเปิดใจถึงงานในวันนี้ พร้อมเผยถึงชีวิตหลังแต่งงานว่าแฮปปี้สุดๆ ถ้ารู้แบบนี้แต่งไปนานแล้ว
มิค : “เชื่อไหมว่าไม่ตื่นเต้นเลย เพราะของเราเสร็จพิธีทุกอย่างมาแล้วตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เพราะเราได้ฤกษ์เร็วดังที่พี่ๆ รู้ ยังไงเราก็สัญญาว่าเราจะมีวันนี้ แต่พอผ่านงานนั้นมาจนถึงวันนี้ ไม่ตื่นเต้นเลย มันเหมือนกับการทำอะไรเป็นครั้งที่ 2 เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่เมื่อเช้ายังสั่นไม่หยุดจนถึงตอนนี้ ก่อนหน้านี้เป็นเดือนนั่งชิลล์มาก พอเราได้ทีมพี่วิน (ออแกไนเซอร์) มาช่วยเราก็เลยหายห่วง ตอนนี้มีปัญหาอะไรก็โยนมาให้เขาตลอด”
เบนซ์ : “จะเป็นแนวกังวลมากกว่า สำหรับเบนซ์งานที่นี่จะรู้สึกกังวลมากกว่า เพราะที่โน่นจะมีแต่ญาติๆ คนกันเอง ผิดพลาดอะไรก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แต่งานวันนี้มีแขกเยอะมากกว่าเดิม ความรู้สึกเราก็ห่วงว่าอันนั้นอันนี้จะพร้อมมั้ย ทันมั้ย ก็กังวลเยอะมาก ธีมงานจริงๆ แล้วไม่ได้มีธีมงานอะไรเป็นเรื่องราว เราจะทำให้มันอยู่ในธีมของการ์ดที่เราทำขึ้นตั้งแต่ตอนแรก คือเรื่องของครอบครัว ความอบอุ่น”
มิค : “จะเห็นว่าหน้าแรกเป็นต้นกล้า มีคำว่า You and Me ก็เหมือนกับคู่ของเราที่กว่าจะผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็ผ่านอะไรมาเยอะ ตอนแรกอาจจะเปราะบางเหมือนต้นกล้าใบเล็กๆ จนสุดท้ายมันมาเป็น US เป็นต้นไม้ใหญ่ เป็นครอบครัวใหญ่ เป็นต้นไม้ที่แข็งแรง เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ครอบครัวเราแข็งแรง มีพ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนๆ รวมอยู่ในนี้”
เบนซ์ : “ซึ่งทุกคนที่มาในงานวันนี้จะเป็นคนที่เรารัก และคนที่รักเรา เราอยากให้เป็นงานที่สบายๆ ก็เลยจะไม่มีธีม อะไรก็ได้ อยากใส่อะไรก็ใส่กันมา”
มิค : “ตอนแรกตั้งใจจะจัดงานให้เป็นงานที่ช่างไฟก็มาได้ สวัสดิการกองถ่ายก็มาได้ เพราะเราอยากให้เขามา ด้วยความที่เราสนิทกันมาก แต่พอเชิญแล้วไม่มีใครกล้ามา เป็นโจทย์อยู่หลายเดือนที่เถียงกับเบนซ์ว่าเราจะทำยังไงดีให้เขามาร่วมงานได้ โดยที่เขาไม่รู้สึกเขิน จะให้ไม่มีธีมแล้วไม่ต้องแต่งสูทก็ไม่ได้อีก ก็เลยจบตรงที่ว่างั้นพิธีการคงต้องมี แล้วพวกพี่ๆ เขาก็มาอัฟเตอร์ปาร์ตี้แล้วกัน เราอยากให้ทุกคนได้มาร่วมยินดีกับเราจริงๆ”
สุดหวานบอกถ้าแต่งงานดีแบบนี้แต่งไปตั้งนานแล้ว
มิค : “ถ้ารู้ว่าการแต่งงานดีอย่างนี้แต่งงานไปนานแล้ว”
เบนซ์ : “เหรอ”
มิค : “ใช่ นี่เขายังบอกว่าเหรอ แสดงว่าจริงๆ เขาต้องทำได้ดีกว่านี้ เขาตื่นมาดูแล ทำอาหาร ปอกผลไม้ เหมือนก่อนหน้านี้เขาจะยั้งๆ ไม่กล้าแสดงออกมาก เพราะว่ามีแม่คอยคุม ทำอะไรก็จะเกรงใจแม่ แต่ตอนนี้พอเต็มตัวแล้วก็เต็มที่เลย เรื่องฮามากคือแต่งงานกัน 1-2 เดือนแรก แม่ยังโทร. มาตาม โทร. มาถามว่าเธอนอนบ้านไหน นอนบ้านมิคเหรอ ใครให้นอน แล้วเขาก็เพิ่งนึกออก อุ๊ย! ตาย ลืมไปเขาแต่งงานกันแล้ว”
เบนซ์ : “คู่เราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา”
มิค : “เรายังสนุกกับการทำงาน เรายังแฮปปี้มากกับการอยู่ 2 บ้าน แต่ช่วงแรกๆ ที่ใครได้สัมภาษณ์เราแล้วบอกว่า เรายังปรับตัวไม่ได้ ต้องแยกกันนอน อยากจะบอกว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว ตอนนี้นอนบ้านเดียวกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่านอนบ้านไหน แต่การใช้ชีวิตคู่อยู่กันแค่สองคนยังไม่ได้ใช้ แค่เริ่มยังไม่เต็มตัว”
เผยมีลูกปีหน้าเพราะปีนี้ “เบนซ์” รับละครไว้แล้ว
มิค : “ก็อยากจะมีเลย แต่ไม่รู้ว่าจะมีความสามารถมีรึเปล่า”
เบนซ์ : “ต้องปีหน้า เพราะปีนี้รับละครมาแล้ว ปลายปีนี้น่าจะจบ ก็คงจะเริ่มได้ที่ต้นปีหน้า เพิ่งจะเปิดเรื่องใหม่ สุดแค้นแสนรัก แล้วก็กำลังจะเปิดอีกเรื่องนึง ก็เลยแน่นไปหมด น่าจะสิ้นปี”
มิค : “อยากได้ลูกชายกับลูกสาวอย่างละ 1 เป็นอย่างต่ำ ก็จะมี 2 คนเป็นอย่างต่ำ”
เบนซ์ : “จริงๆ ก็มีปรึกษาเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เขามีประสบการณ์เกี่ยวกับการมีลูกยาก ก็ถามเขาดูว่ามันต้องทำยังไง ต้องดูแลยังไง ต้องปรึกษาใคร ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงลังเลว่าจะไปหาหมอคนไหนดี เบนซ์ยังกังวลอยู่นะกับการมีลูกธรรมชาติ ยังนอยด์อยู่ แล้วคิดว่าต้องไปปรึกษาคุณหมอว่าสามารถทำได้มั้ย ถ้าเลือกได้ก็อยากเลือกให้มันสบายใจ”
บอกแต่งงานมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วแต่จนป่านนี้ยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลย
มิค : “จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ไปเลย ยุโรปก็ไกล ทะเลก็ชอบ มัลดีฟส์ก็อยากไป แต่ถ้าทิ้งไว้นานจากวันที่แต่งมาแล้ว ก็ยิ่งจะมีข้ออ้าง ยิ่งทำให้อยากไปที่ๆ อยากไปมากขึ้น จริงๆ อยากไปมัลดีฟส์อีกรอบหนึ่ง”
เบนซ์ : “จริงๆ ไปที่ไหนก็ได้ คือปัญหาอยู่ที่เวลาไม่ตรงกัน จะมีตรงกันก็แค่ 2 วัน มันก็ยังไม่ได้พักเลย”
มิค : “เอาจริงๆ ตอนนี้ไปไหว้พระที่ฮ่องกงให้ได้ก่อน ก็ถือว่าดีมากแล้ว มีแพลนไว้อันดับแรกก็คงต้องไปประเทศใกล้บ้านเราก่อน ก็คงจะไปฮ่องกง อยากไปไหว้พระ เพราะไปขอพระที่ฮ่องกงไว้ว่าขอให้กลับมาขอแต่งงานกับเบนซ์กับแม่สำเร็จ ก็ได้กลับไปขอบคุณแล้ว 1 รอบแต่อยากจะไปอีก”
ส่วนคำมั่นสัญญาที่มีให้กันคือจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมจากที่เป็นอยู่
มิค : “สัญญาสำหรับเราอาจจะไม่มี แต่เราก็สัญญากันไว้ลึกๆ ว่าเราจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมจากที่เป็น ก่อนหน้านี้เราจะมองเป็นเพื่อนเสมอ เพื่อนทำให้เราเสียใจ เราก็อภัยให้เพื่อน แต่ถ้าเป็นแฟน เราจะงอนนานมาก เราก็จะมองกันเป็นเพื่อนแบบนี้ต่อไป แต่ก็จะมองข้ามเป็นเพื่อนอีกสเต็ปนึง เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปมากเลย ใจดีมาก สมัยก่อนแค่มองผู้หญิงก็โกรธมากแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ถามพี่ทำอะไรอ่ะ ก็อยู่บ้านไง พี่นัดเพื่อนไว้จำไม่ได้เหรอ ไปสิเพื่อนรอ ถามหนูไปด้วยกันมั้ย ไม่ไป ไปเลย ก็เลยเริ่มงงว่ามันแอบติดจีพีเอสตามเรารึเปล่า เลยใจดีนัก”
เบนซ์ : “ก็ค่อยๆ ปล่อยค่ะ ไม่ดุเหมือนแต่ก่อนแล้ว”
ด้านเจ้าสาวบอกหลักในการใช้ชีวิตคู่คือกลัวเมียไว้แล้วจะเจริญ
เบนซ์ : “ง่ายสุดๆ เลยนะคะ กลัวเมียเข้าไว้แล้วชีวิตจะเจริญ อะไรก็ได้ที่ถูกตลอด ชีวิตถึงจะอยู่ด้วยกันได้ ก็แค่นั้นแหละ เหมือนพอรู้จักกันมานานพอสมควร ก็เลยรู้ว่าจะต้องทำอะไรตอนไหนมากกว่า ไม่ใช่ว่าเราจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตลอด ตอนนี้มันจะไม่มีคำนั้น มันกลายเป็นความเข้าใจว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เวลานี้ควรจะต้องทำอะไร มันอยู่ที่จังหวะและความเข้าใจ”
มิค : “สมัยก่อนพอเบนซ์โกรธเราอาจจะต้องโกรธตามว่ามาโกรธเราทำไม แต่ตอนนี้ข้ามไปอีกสเต็ปว่าถ้าเราเลือกที่จะนิ่งไม่เปิดปาก นั่งนิ่งๆ สัก 1 นาทีเฉยๆ เราก็อาจหายโกรธแล้วก็ได้ ก็เลยไม่ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเขาขึ้นเราถอย ถ้าเราขึ้นเขาถอย จะไม่ขึ้นพร้อมๆ กัน มันก็เลยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”
พร้อมกันนี้ทั้งคู่ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ซวยๆ ที่เจอมาตั้งแต่งานแต่งงานเมื่อปลายปีที่แล้ว กระทั่งเมื่อวานนี้ที่โดนทุบกระจกรถฉกทรัพย์สินไปแสนกว่าบาท ว่า…
เบนซ์ : “จริงๆ ก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน ที่หัวหิน พายุเข้าไฟดับน้ำท่วม พอปัจจุบันนี้โดนรถชน แล้วก็ผิดคิวบู๊หน้าแหก เมื่อวานก็ยังมาโดนทุบรถอีก”
มิค : “เอาตั้งแต่รถชนครั้งแรก โดนชนตอนไปทำงานที่กำลังจะไปทำงานมอเตอร์โชว์ ติดไฟแดงกำลังจะขึ้นไฟเขียว รถเมล์ก็มาชนท้ายรถ รถก็เพิ่งเอาไปซ่อม แล้วก็มาผิดคิวเรื่องรอยรักหักเหลี่ยมตะวันก่อนที่จะไปรับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งจริงๆ วันนั้นทุกคนช่วยกันดูอย่างเต็มที่แล้ว ทุกคนประกาศในงานว่าอย่าทำให้มิคหน้าเสีย เพราะพรุ่งนี้เช้ามีงานใหญ่ ทุกคนก็บู๊อย่างระมัดระวังมาก จนดอกสุดท้ายก็มาเกิดอุบัติเหตุ ไม้หลุดมาฟาดหน้า”
“กองถ่ายก็น่ารักมาก รีบเอาน้ำแข็งมาประคบ ช่วยกันอย่างเต็มที่ประดุจเราเป็นพระเอก แต่โชคดีมากวันรุ่งขึ้นแผลก็ลอกออก ก็ฟลุคไป ส่วนเมื่อคืนก็ทิ้งทวนไปกินส้มตำหน้าปากซอยบ้าน ก็จอดรถทิ้งไว้ห่างจากร้านที่เรานั่งไม่เกิน 10 เมตร แล้วเป็นร้านที่เรานั่งประจำ นั่งได้แป๊บเดียวก็มีคนเดินมาบอก ว่ารถถูกทุบรึเปล่า ก็ไปทั้งกระเป๋าเลย มีทุกอย่างในนั้น บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ ใบขับขี่ สมุดบัญชี รวมทั้งหมดแสนกว่าบาท”
“แล้วเมื่อวานโชคดีมาก จริงๆ แล้วต้องกดเงินสดออกมาเยอะ เพื่อที่จะเอาออกมาจ่ายในงานวันนี้ ก็ตั้งใจที่จะเบิกเงินมาเคลียร์ทุกอย่างทั้งหมด แต่ไปถึงห้างแล้วไปไม่ทัน ธนาคารปิด ไม่งั้นเงินทั้งหมดก็จะอยู่ในกระเป๋านั้น กองพิสูจน์หลักฐานก็รีบเอาลายมือทั้งหมดไป เกรงใจเพราะรถที่โดนทุบไม่ใช่ของเรา เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ผมไปเป็นพิธีกรให้งานรถอีซูซุที่งานมอเตอร์โชว์ แล้วเจ้าของศูนย์ที่มาขายรถ ดันเป็นพี่ที่ผมรู้จัก พอเขารู้ว่าเรารถชน ไม่มีรถกลับ เขาก็ให้มาเลย เขาบอกพี่ให้เอาไปใช้เล่นก่อน น้องซ่อมรถเสร็จเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืนพี่ ผมเกรงใจยิ่งกว่า”
“พอเกิดเรื่องพี่เขาก็บอกว่ากำลังจะส่งรถคันใหม่มาให้ เดี๋ยวพี่เอารถคันนั้นไปซ่อมก่อน แถมยังขอโทษว่าที่ส่งรถมาให้เป็นป้ายแดง น้องอาจจะใช้ไม่สะดวก เดี๋ยวพี่จะซ่อมรถเดโม่ที่เป็นป้ายขาวให้ แล้วรีบเอามาให้ใช้เร็วที่สุด ก็ขอบคุณมากครับ แล้วตำรวจก็มาถามว่าทำไมไม่ติดฟิล์มรถ เราก็ต้องไปอธิบายเขาว่ามันไม่ใช่รถผม พี่เขาเอามาให้ใช้ ตอนนี้ตำรวจกำลังสืบอยู่ โชคดีมากที่ตรงบริเวณที่จอดมีกล้องวงจรปิด”
“พูดตรงนี่เลยว่าเงินในกระเป๋าไม่ได้หวัง เก็บไปเลยผมให้ ไม่ว่าจะเงิน แหวน นาฬิกา ผมขอแค่เอกสารส่วนตัวผมคืน จะเอากระเป๋าผมก็ให้ ถ้าสงสารสักนิดนึงเอามาคืนที่ร้านส้มตำตรงนั้นก็ได้ ตอนนี้มันก็ตลก แต่เมื่อวานน้ำตาผมคลอ ทั้งชีวิตอยู่ในกระเป๋าในนั้น ทุกคนก็บอกว่าถือว่าฟาดเคราะห์ ก็ไม่รู้จะเคราะห์อะไรนักหนา”
เบนซ์ : “เกิดปีเดียวกันนะ แต่เบนซ์ไม่โดนอะไรเลย มีก็ได้แต่งงานกับมันนี้แหละ (หัวเราะ) โชคดีมากเลย”
มิค : “ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทักเลย ก็คิดว่าคงจะเป็นแค่ช่วงนี้แหละ หลายคนในไอจีส่งข้อความมาให้กำลังใจ และคำอวยพรว่าถือว่าฟาดเคราะห์ พวกเขาก็เคยโดนเหมือนกัน ตอนที่เขาจะบวชหรือมีเหตุการณ์สำคัญในชีวิต มีงานมงคลเขาก็เคยโดน แต่ต่อไปก็จะดีขึ้น ก็ขอบคุณทุกกำลังใจมากครับ”