พยานเผยนาทีคนร้ายยิง “สุทิน” ดับหน้าวัดศรีเอี่ยม - เจ้าของกระบะยันไม่มีอาวุธ

เจ้าของรถกระบะ วีโก้ คันที่ถูกคนร้ายบุกเข้าทุบยตีรถจนเสียหายขณะ “สุทิน” แกนนำ กปท.ถูกยิงเสียชีวิต ที่หน้าวัดศรีเอี่ยม บางนา พร้อมพยานเห็นเหตุการณ์เข้าให้ปากคำตำรวจ ที่โรงแรมนิรันดร์แกรนด์ อุดมสุข 17 โดยเจ้าของรถกระบะยืนยันไม่มีการพกพาอาวุธไปในรถขณะเกิดเหตุแน่นอน พร้อมวอนขอรถคืนเพราะต้องขับไปทำงาน ด้าน “ธวัชชัย” เผยนาที “สุทิน” ถูกยิงเผยเห็นชายใส่ชุดลายพรางทหารจริงแต่ไม่มั่นใจว่าเป็นคนยิงหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ชุลมุน อัดตำรวจในหน่วยเลือกตั้งใกล้ที่เกิดเหตุเยอะแยะหายหัวหมด

เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (30 ม.ค.) ที่โรงเเรมนิรันดร์แกรนด์ อุดมสุข 17 นายธวัชชัย พรหมจันทร์ คณะกรรมการ กปท.เป็นตัวแทน นพ.ระวี มาศฉมาดล พานางธัญชนก ขวัญรอด อยู่บ้านเลขที่ 238 หมู่ 2 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ยล 8509 นครศรีธรรมราช เพื่อให้ปากคำกับ พ.ต.ท.ศักดิพัฒน์ พลิคามินทร์ พงส.ผนพ. สน.บางนา เพื่อยืนยันว่ารถคันดังกล่าวไม่มีอาวุธอยู่ภายใน เเละขอรับรถคืน จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ม.ค.เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า เขตบางนา บริเวณวัดศรีเอี่ยม จนเป็นเหตุให้ นายสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท.เสียชีวิต จากนั้นเมื่อตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ถูกทุบจนกระจกแตกเสียหายและถูกทุบรอบคัน และตรวจสอบภายในรถ พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง 2 นัดกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 นัด มีดสปาต้า 1 เล่ม และจึงเก็บหลักฐานไว้ตรวจสอบที่สน.บางนา

นางธัญชนก กล่าวว่า ในวันที่ 26 มกราคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุนั้น ตนได้นำรถของตนเข้าร่วมการชุมนุม เพื่อเดินทางไปยังจุดรับเลือกตั้งล่วงหน้า โดยมีคนอาสาเป็นผู้ขับรถให้ ในส่วนตอนหน้าของรถนั้นจะมีคนขับอาสา และผู้หญิง นั่งอยู่ด้วยกัน ขณะที่ส่วนตอนหลังนั้นจะมีคนนั่งอยู่ด้วยกัน 7 คน ซึ่งรวมตนอยู่ในนั้นด้วย ขณะที่ขับรถห่างมาจากหน้าวัดศรีเอี่ยมเเล้ว มีชายใส่เสื้อสีแดง ชุดขาว ชุดดำ กำลังดักอยู่ข้างหน้า จากนั้นมีคนตะโกนบอกว่ามาเเล้วๆพวกตนทั้ง 7 คน ตกใจ จึงกระโดดลงจากรถหนีเข้าไปหลบตามบ้านเช่า จากนั้นมีคนตะโกนบอกว่าเสื้อเเดงไปแล้ว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันพวกตนอยู่ให้ออกมา พวกตนจึงกระโดดขึ้นมานั่งรถรอบ 2 แต่ขับรถออกไปไม่ได้ เนื่องจากคนขับรถหนีหายไปแล้วตั้งแต่รอบแรก จากนั้นจึงมีเสียงปืนรัวมาเป็นชุด ไม่นานก็มีชายชุดดำเดินมาทุบรถ และล้อมรถ พร้อมกับมีคนถือมีดสปาต้าเดินมาวนรอบรถ พร้อมข่มขู่ว่า “จะแทงแม่..ง” ในขณะที่อีกคนเดินมาตบหน้าผู้ชายซึ่งเป็นคนแก่ ที่นั่งอยู่ในรถมาด้วยกันหลายครั้ง และอีกคนก็เคาะศีรษะของผู้หญิงอีกคน ตนกลัวมาก จึงนั่งอยู่ภายในกระบะไม่กล้าขยับตัว กระทั่งมีชายแก่ๆ ซึ่งเป็นพวกเดียวกับที่มาทุบรถตนตะโกนบอกว่า “อย่าทำสุภาพสตรีๆ” จากนั้นพวกตน จึงวิ่งหนีกันลงมาแล้วเรียกรถแท็กซี่กลับ และหลังจากนั้นก็ได้รับข่าวว่ารถของตน ถูกยึดเป็นของกลาง และมีการแถลงข่าวว่าพบอาวุธภายในรถ อย่างไรก็ตามตนยังไม่เห็นว่าอาวุธที่พบนั้นมีอะไรบ้าง เเต่ขอยืนยันว่าภายในตัวรถมีเพียงเสื้อผ้าของสามี และส่วนหลังมีลำโพงเท่านั้น ไม่มีอาวุธดังที่เป็นข่าวแต่อย่างไร

“มาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้พกอาวุธอะไรไปเลย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามีด สปาต้าที่เจอนั้นใช่เล่มเดียวกับที่เขาถือมาขู่เราหรือไม่ แต่เราไปอย่างสันติ ไม่ได้ไปมีเรื่องอะไรเเละรถนั้นก็เป็นรถส่วนตัวที่เราต้องใช้ทำมาหากิน วันนี้เลยจะมาขอรถคืน เพราะต้องนำไปใช้ทำงาน” นางธัญชนกกล่าว

ด้าน นายธวัชชัย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนยืนอยู่บนรถ 6 ล้อ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยมีชั้น 1 คือ ชั้นพื้นของรถ 6 ล้อ และชั้น 2 ซึ่งยกสูงขึ้นเป็นเวที เพื่อให้แกนนำ ยืนปราศรัย โดยพวกตนกำลังจะกลับแล้ว เนื่องจากจุดที่วัดศรีเอี่ยมเป็นจุดสุดท้ายแล้ว จากนั้นเมื่อผ่านหน้าวัดศรีเอี่ยม ประมาณ 50 เมตร จึงรู้ว่ารถพวกตนนั้นมาผิดทาง เป็นเหตุให้พลัดหลงกับมวลชน จึงเลี้ยวหัวกลับระหว่างนั้นมีชายชุดดำกว่า 50-60 คน มาล้อมไว้ แล้วตะโกนว่า “ขี้ข้าไอ้เทือกๆๆ” ตนจึงรีบสั่งให้กลับรถด่วน เมื่อมารวมกับมวลชนได้ ก็พบว่ามีรถกระบะขวางอยู่ข้างหน้า แต่ไม่มีคนขับ จึงรีบให้คนขับ เบี่ยงซ้ายอ้อมรถไป จากนั้นก็มีเสียงปืนรัวมาเป็นชุดเพียงไม่กี่วินาทีตนได้ยินเสียง คนร้องตะโกนว่านายสุทินถูกยิง ไม่หายใจเเล้ว เมื่อหันไปดูพบเลือด และคนล้มลงไปกองกับพื้นชั้น 1 ตนจึงรีบนั่งลงเพื่อหลบกระสุน พร้อมตะโกนบอกให้คนขับรถไป รพ.ที่ใกล้ที่สุด นายธวัชชัย กล่าวอีกว่าสำหรับชายใส่ชุดลายพรางซึ่งถูกกล่าวว่าน่าจะเป็นหนึ่งในมือปืนที่ยิงนายสุทินนั้น ตนยอมรับว่าในวันและเวลาที่เกิดเหตุนั้น ตนเห็นชายคนหนึ่งใส่ชุดลายพรางจริง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใช่มือปืนที่ยิงหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ชุลมุนมาก เเละเกิดเพียงเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น วันนั้นเราไม่คิดเลย ไม่ได้เตรียมการหรือรองรับอะไรเลย เป็นวันที่เราชะล่าใจมาก ทุกทีจะมีการ์ดตลอด วันนั้นก็ไม่มีเราไม่คิดว่าจะมีเหตุรุนเเรงอะไร แต่อยากจะ ร้องขอไปถึงตำรวจว่าให้ช่วยตามจับคนร้ายมาให้เร็วที่สุดและสิ่งที่ติดใจคือ ในวัน และเวลาที่เกิดเหตุนั้นมีตำรวจอยู่ในจุดเลือกตั้งที่วัดศรีเอี่ยมและบริเวณโดยรอบจำนวนมาก แต่ทำไมถึงไม่มีสักนายที่เข้ามาช่วยดูสถานการณ์ตอนนั้น ซึ่งมีความรุนแรงมาก

ด้าน พ.ต.ท.ศักดิพัฒน์ พลิคามินทร์ พงส.ผนพ.กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลัง รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย จึงขอความร่วมมือผู้เสียหายและ พยานในที่เกิดเหตุมาให้ปากคำ ซึ่งหากไม่สะดวกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ก็สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปพบดังสถานที่ที่มั่นใจว่าจะปลอดภัยได้ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่นายธวัชชัย และนางธัญชนก เลือกโรงแรมนิรันดร์แกรนด์อุดมสุข 17 เป็นสถานที่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจเเทนการไปที่ สน.เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย อีกทั้งโรงเเรมดังกล่าวยังเป็นของนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะปลอดภัยกว่า