"บันเทิง ออนไลน์" สำรวจหนังไทยไตรมาสแรก มากมาย หลากหลาย แต่ห่วยด้วยคุณภาพและต่ำด้วยรายได้ พบ "หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก" ทำสถิติใหม่รายได้ต่ำสุดแซง "หล่อลากไส้" ที่ 2.9 หมื่นบาท
อาจจะไม่แรงเท่าที่ใครหลายคนแอบหวังไว้ แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ขี้เหร่แต่อย่างใดกับรายได้ล่าสุด 44.66 ล้านบาท ณ วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมารวม 7 วันนับตั้งแต่การเข้าฉายเมื่อวันที่ 20 มีนาคมของภาพยนต์ไทยเรื่อง "คิดถึงวิทยา" จากค่าย "จีทีเอช" กับการร่วมงานกันของ 2 นักแสดงดัง "พลอย เฌอมาลย์" และ "บี้ สุกฤษฎิ์" ผลงานการกำกับของ "นิธิวัฒน์ ธราธร"
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมาต้องบอกว่ากระแสหนังไทยของบ้านเรานั้นโดยรวมต้องบอกว่าคึกคักทีเดียวหากนับจากจำนวนเรื่องที่เข้าฉายทั้งหมด 15 เรื่องเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่มีหนังเพียง 7 เรื่องเท่านั้นที่เข้าฉายในช่วงเวลาเดียวกัน
ไล่ไปตั้งแต่เดือนมกราคม ประกอบไปด้วย "ร่าง" (9 มกราคม) จากค่าย Golgen A Entertainment / “ตีสาม คืนสาม3D” (16 มกราคม) ค่ายไฟว์สตาร์ / “สี เรียง เซียน โต๊ด” (30 มกราคม) สหมงคลฟิล์มฯ / “Until Now กาลครั้งหนึ่ง...จนวันนี้” (30 มกราคม) ค่าย เดอะ ริเวอร์ แคว บริดจ์ ฟิล์ม
เดือนกุมภาพันธ์ มี "ตายโหง ตายเฮี้ยน" (6 กุมภาพันธ์) ค่ายพระนครฟิล์ม / "Timeline จดหมาย-ความทรงจำ" (13 กุมภาพันธ์) สหมงคลฯ / "พี่ชาย My Bromance" (20 กุมภาพันธ์) ค่ายวายุฟิล์มโปรดักชั่น จำกัด / "รักเราเขย่าขวัญ" (27 กมภาพันธ์) ค่ายกลองชัย ภาพยนตร์ / "Love’s Coming ใช่รักหรือเปล่า" (27 กุมภาพันธ์) ค่ายมั่งมี โปรดักชั่นส์ / "แก๊งปรี๊ดจะREADใจเธอ" (27 กุมภาพันธ์) ค่าย D.O.A. FILM / "หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก" (27 กุมภาพันธ์) ค่าย วี ไอ พี เอนเตอร์เทนเมนท์
ขณะที่เดือนมีนาคม มี "เธอเขาเราผี" (13 มีนาคม) ค่ายสหมงคลฯ / "รักฝังเขี้ยว" (13 มีนาคม) ค่ายบริษัท 108 สยามฟิล์ม จำกัด/ "The Cheer Ambassadors" (13 มีนาคม) จาก A Single Production Company และ "คิดถึงวิทยา" (20 มีนาคม) ของจีทีเอช
โดยนอกจากจะมากด้วยปริมาณแล้ว ยังเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ได้มีผู้สร้างหน้าใหม่รวมถึงหนังที่เป็นทางเลือกให้กับคนดูหนังเฉพาะกลุ่มเกิดขึ้นมาไม่น้อยทีเดียว อาทิ "พี่ชาย My Bromance" จากค่ายวายุฟิล์มโปรดักชั่น จำกัด ที่ทำรายได้รวมถึงวันที่ 19 มีนาคมไปถึง 3.99 ล้านบาท รวมถึงหนังที่พระเอกนักแสดงหนุ่ม "บอล วิทวัส" ลงทุนควักเงินทำกับเพื่อนอย่าง "Love’s Coming ใช่รักหรือเปล่า" ในนาม "มั่งมี โปรดักชั่นส์" ก็ได้รับคำชมไปพอสมควร
นอกจากนี้ก็ยังมีหนังสารคดี "The Cheer Ambassadors" ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวครูผู้ฝึกสอนทีมเชียร์ลีดเดอร์ทีมชาติไทยที่เปี่ยมด้วยความฝันและผลักดันจนทำให้ให้นักกีฬาที่ไม่มีใครรู้จักให้กลายเป็นทีมระดับโลกด้วยการคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน World Cheerleading Championships ปี 2009 และ 2011 ผลงานการกำกับของ Luke Cassady-Dorion ที่ไปกวาดรางวัลมาแล้วหลายรางวัล และตัวหนังเองยังมีโปรแกรมการฉายอยู่ในโรงหนังเฮ้าส์ อาร์ซีเออยู่ในตอนนี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม แม้จะเยอะด้วยปริมาณและความหลากหลาย แต่หากพิจารณากันถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตลอดจนเรื่องรายได้ของหนังไทยในช่วงไตรมาสแรกโดยรวมเป็นอะไรที่น่าพูดถึงเป็นอย่างยิ่ง
โดยที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจนั้น นอกจาก "คิดถึงวิทยา" แล้ว ก็ยังมีหนังอย่าง "Timeline จดหมาย-ความทรงจำ" ทำรายได้จนถึงวันที่ 19 มีนาคม ที่ 50.86, “ตีสาม คืนสาม3D” ของค่ายไฟว์สตาร์ ที่แม้ช่วงเข้าฉายจะมีการชุมนุมทางการเมืองแทบจะทั่วกรุงเทพๆ แต่ก็ยังสามารถเก็บไปได้ถึง 20 กว่าล้านบาทเลยทีเดียว
ส่วนที่อยู่ในข่ายที่น่าผิดหวังนั้นต้องบอกว่าเพียบเลยทีเดียว ทั้ง "ตายโหง ตายเฮี้ยน" ของ "พจน์ อานนท์" ผู้กำกับที่ได้ชื่อว่าการันตีเรื่องการทำหนังไม่ขาดทุน แต่กับเรื่องนี้กลับทำรายได้ไปเพียง 9.4 ล้านบาท หรือจะเป็นหนังของผู้กำกับมือล่ารางวัล "กอล์ฟ ธัญญ์วาริน" อย่าง "เธอ เขา เรา ผี" ที่ทำรายได้เปิดตัววันแรก 0.87 ล้านบาท และทำรายได้รวมจนถึงวันที่ 23 มีนาคม ที่ 7 ล้านบาท
นอกจากนี้ก็ยังมีหนังที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เสียเละเทะรวมถึงหนังที่หลายคนอาจจะแทบไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีหนังเรื่องนี้เข้าอยู่ในโรงด้วยหรือ และที่สำคัญในไตรมาสแรกของปี 2557 นี้ได้มีหนังไทยที่อยู่ในกลุ่มหนังที่สร้างสถิติรายได้น้อยที่สุดของวงการหนังบ้านเราไปแล้วถึง 2 เรื่องด้วยกัน
เริ่มกันตั้งแต่ "รักฝังเขี้ยว" หนังคอมเมดี้แวมไพร์สไตล์ไทยๆ ที่เปิดตัววันแรกด้วยรายได้ 1.2 หมื่นบาท จากนั้นในหนึ่งสัปดาห์หนังเรื่องนี้ก็ถูกถอดออกจากโรงรวมรายได้ 63,000 บาท อย่างไรก็ตาม "รักฝังเขี้ยว" ก็ยังสามารถทำรายได้มากกว่าภาพยนตร์ไทยเรื่อง "หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก" ที่ทำรายได้เพียง 29,000 บาทเท่านั้น และทำให้หนังไทยเรื่องนี้กลายเป็นหนังไทยที่ทำรายได้น้อยที่สุดในรอบหลายสิบปีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้มีข้อมูลระบุว่าที่ผ่านมาภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้เรื่อง “สมานฉัน” ซึ่งออกฉายในปีพ.ศ. 2553 เคยเป็นหนังไทยที่ทำรายได้ต่ำสุด 60,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่พอๆ กับภาพยนตร์เรื่อง “เด็กสาว” และ “เก๋าเกรียน” ในปี 2555 ทำไว้ ก่อนที่หนังทั้งสามจะถูกทำลายสถิติด้วยภาพยนตร์ในปีถัดมาอย่าง "หล่อลากไส้" กับสถิติรายได้ 50,000 บาท และสุดท้ายกับ "หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก" ในปีนี้นั่นเอง
...
หมายเหตุ : ตัวเลขรายได้อ้างอิงจาก
GTH channel
Bioscope Magazine
http://content.insidedara.com/movie-chart
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส