“บี้” ครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม
ดีใจ จีทีเอช เลือกเล่นหนัง “คิดถึงวิทยา”
“บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว” ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง โด่งดังทั้งจากงานเพลง ละคร ละครเวที ครั้งนี้ บี้ พลิกบทบาท รับบทครูสอง เล่นหนังครั้งแรกในชีวิต กับภาพยนตร์รัก โรแมนติก คอเมดี้ “คิดถึงวิทยา” ของผู้กำกับหนังรักอันอบอุ่น “ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร” ประชันบทบาทกับ นางเอกสุดฮอต “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์”
บี้ มาเล่นหนัง คิดถึงวิทยา ได้อย่างไร
“จีทีเอช ติดต่อผมมาครับ ผมดีใจมากเพราะเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต วันที่พี่ต้น โทรมา ผมตะโกนลั่น เย้ๆๆๆ ได้เล่นหนังแล้ว ผมไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่า รับบทเป็นอะไร เนื้อเรื่องเป็นยังไง ขอเล่นไว้ก่อน ก็แหม ผมนะแฟนคลับ จีทีเอช ตัวยง ดูมาแล้วเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่มหาลัย’เหมืองแร่ ตอนนั้นมีพี่สน เดอะสตาร์เป็นไอดอล ใครจะคิดว่า วันนึง หวยก็มาตกที่เรา หลังจากที่ไปงานไหนๆ งานประกาศรางวัล เจอพี่ๆ ทีมงาน จีทีเอช ก็จะบอกเขาไปว่า ผมอยากเล่นหนัง ขอหนังเล่นบ้างซิ จนกระทั่งพี่ต้น ก็ทำฝันของผมให้เป็นจริง หนังเรื่องแรก ให้รับบทครูสอง แถมยังมีพี่เก้ง-จิระ มะลิกุล ไอดอลของใครหลายๆ คน และของผมด้วย มานั่งเล่าเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ให้ผมฟังด้วยตัวเอง แค่ได้ฟังผมอินเลยนะ เพราะเราเป็นติ่ง จีทีเอชอยู่แล้ว รับเล่นเลยครับ”
มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
“ผมเริ่มไปเวิร์คช้อปกับครูเงาะ ครูจะมีคลาสละลายพฤติกรรมนักแสดงทุกคน ทำให้เราเข้าถึงกันง่ายขึ้น เพราะผมกับพี่พลอย ไม่เคยเจอกันมาก่อน ครูก็จะมีวิธีการสอน เล่นเปะแข็งบ้าง เอากระดาษมาให้เราเขียนบรรยายตัวละครบ้าง ผ่านไปหลายๆ ครั้ง ผมกับพี่พลอย และนักแสดงคนอื่นๆ เริ่มเข้ากันได้ดี เป็นวิธีการที่ดีมากๆ ครับ”
เข้าฉากวันแรกเป็นอย่างไรบ้าง
“เข้าฉากวันแรก ยากเหมือนกันนะ ผมเตรียมพร้อมมาเต็มที่ แต่พี่ต้น กับครูเงาะ จะบอกว่า ผมเล่นใหญ่ รัชดาลัยเธียเตอร์ ทุกครั้งที่ผมมั่นใจว่าเราเล่นแบบนี้แหละ เราผ่านแน่ อัยยะ!! พี่ต้นปรับตกทุกครั้ง บอกว่ามันไม่ใช่นะบี้ ต้องประมาณนี้ แบบนี้ ผมคิดในใจก็นี่ไงมุมมองของมือโปรจีทีเอช ที่เขามักจะนำพาคนดูไปสู่สิ่งที่คาดไม่ถึง เวลาผมดูหนังของเขา ผมจะสนุกไปด้วย แต่ก็มีคำถามไปด้วย มุขนี้คิดมาได้ไงอ่ะ กล้าคิดนะ แต่ทำไมทุกครั้งที่เป็นผม มาเข้าฉากแล้วเอาอะไรมาเสนอ มันถึงถูกปรับตกตลอด จนผมเริ่มเชื่อในมุมของพี่ต้น ผมคล้อยตามพี่ต้น และนำพาตัวละครครูสอง ไปในแบบที่ผมและพี่ต้น เห็นพ้องต้องกัน ผมเชื่อพี่แล้วครับ”
การทำงานยากมั้ย
“การทำงานยากมากครับ โดยเฉพาะซีนดราม่า เพราะผมเป็นคนคอมเมอดี้ ก่อนเข้าฉากต้องทำอารมณ์เหมือนกันครับ และแต่ละฉากเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ในกองถ่ายจะมีกฏเหล็ก ห้ามนักแสดงเรียกชื่อจริง ให้เรียกชื่อตัวละคร ทุกครั้งที่ไปถ่ายหนังเรื่องนี้ ทุกคนจะเรียกผมว่าครูสอง มันน่าภูมิใจมากเลยใช่มั้ยครับ แต่ด้วยความเป็นคนชอบแกล้ง ผมก็จะแกล้งเด็กๆ หมึก เก๋า ช่อน ทอง ทูน่า ให้เรียกชื่อผม ไม่เรียกครูสอง เด็กๆ ก็จะโดนทำโทษ ถูกดีดมะกอก เด็กๆ ทุกคนน่ารัก และแสดงดีมากครับ มันเป็นบรรยากาศการทำงานที่อบอุ่น มันเหมือนครอบครัว ยิ่งนับวัน ผมยิ่งหลงรักตัวละครตัวนี้”
ฉากไหนยากที่สุด
“มีหลายฉากมากครับ มหาโหดมากคือฉากพายุเข้า ฉากขับเรือ ฉากว่ายน้ำคู่กับพี่พลอย โอ้ว!! ตอนแรกที่พี่ต้นบอกว่ามีฉากว่ายน้ำกับพี่พลอย ผมดีใจเลยนะ คิดว่าแหม ก็จะได้ใส่ชุดว่ายน้ำลงสระกัน แต่พอพี่ต้น บอกว่า ไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำนะ และให้พลอยว่ายอยู่ข้างบน บี้ว่ายอยู่ข้างล่าง ให้ผมว่ายน้ำแบบหงาย พี่ต้นบอกว่ามันจะโรแมนติกมาก ผมคิดในใจ มันโรแมนติกตรงไหน ใครจะทำได้ แค่พยุงตัวไม่ให้จมน้ำยังยากเลย นี่ต้องมาหงายตัวว่ายน้ำอีก เรียกว่างานเข้าครับ ผมต้องไปเรียนว่ายน้ำกับนักกีฬาทีมชาติ ลองให้โค้ชว่ายให้ดู พอเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ซิ และผมก็ทำได้จริงๆ เล่นหนังเรื่องนี้จบ ผมได้ขับเรือเป็น สอนหนังสือได้ ว่ายน้ำนอนหงาย และเชื่อในความรักของคนที่ไม่เคยได้เจอกัน เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดีจริงๆ กับหนังเรื่องแรกของผม”
ร่วมงานกับพลอยเป็นอย่างไรบ้าง
“พี่พลอยเป็นคนน่ารักมาก เราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แต่เจอกันครั้งแรกพี่พลอยจะให้ความเป็นกันเอง เราเล่นด้วยก็จะไม่เกร็ง พี่พลอยเป็นคนเก่งมาก แสดงเก่ง ส่งผ่านอารมณ์ให้เราตลอด คอยเป็นกำลังใจให้ผม เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากครับ ผมยอมรับเลยว่า พี่พลอยเป็นนักแสดงที่สุดยอดมากๆ ครับ”
หนังเรื่องแรกที่ได้เล่นรู้สึกอย่างไรบ้าง
“เป็นหนังที่ผมประทับใจมาก ประทับใจนักแสดงทุกคน ผู้กำกับ ทีมงานจีทีเอช พวกเราผูกพันกันมาก เราทำงานกันเป็นทีมตลอดระยะเวลา 3 เดือน วันที่หนังใกล้ปิดกล้องเข้ามาทุกที ไดอารี่ในหนัง เล่มนี้ เริ่มผูกพันกับผมจริงๆ ทุกครั้งที่ผมเป็นครูสอง ผมรู้สึกถึงความเหงา สัมผัสได้ถึงตัวอักษรของครูแอน ที่ช่วยให้เราคลายเหงา ท่ามกลางบรรยากาศมืดมิด มีเพียงเสียงจิ้งหรีด แสงดาว และผืนน้ำ โรงเรียนกลางน้ำ กลางเขื่อน กลางหุบเขาแห่งนี้ มีเพียงไดอารี่ ที่เข้าใจถึงความเหงาของเรามากที่สุด ทันที่ที่ผู้กำกับสั่งคัทสุดท้าย ความคิดถึงมันพุ่งเข้าสู่หัวใจผมทันที เพราะต่อไปนี้ เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว นี้คือความประทับใจที่ผมมีต่อหนังเรื่องนี้ และทีมสร้างหนังเรื่องนี้ทุกคนครับ”
ฝากถึงหนังเรื่อง คิดถึงวิทยา
“คิดถึงวิทยา เป็นหนังรัก โรแมนติก คอเมดี้ มีครบทุกอารมณ์ เป็นหนังที่ผม นักแสดงทุกคน รวมถึงทีมงาน และพี่ต้น ผู้กำกับ ตั้งใจทำเพื่อมอบความสุข ความสนุก ความอิ่มเอมใจให้กับผู้ชม ผมเชื่อว่า หนังเรื่องนี้จะส่งผ่านความรู้สึกคิดถึงให้กับทุกคน ได้มีความสุข มีรอยยิ้ม มาให้กำลังใจพวกเราด้วยนะครับ คิดถึงวิทยา ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์”
“คิดถึงวิทยา” โรงเรียนที่อบอวลไปด้วยความคิดถึง ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์