“เปิ้ล ไอริณ” ยันเลิฟ “ใบเตย” แต่จวกโปรดิวเซอร์ที่ขโมยไอเดียไปทำเอ็มวี

“เปิ้ล ไอริณ” เผยไม่คิดมีปัญหากับ “ใบเตย” ซ้ำชื่นชม แต่ฉุนที่โปรดิวเซอร์ขโมยไอเดียตนไปทำเอ็มวีเพลงรักต้องเปิด (แน่นอก) ทำให้สูญเงิน 5 หมื่นบาท เพราะต้องรื้อการทำงานใหม่ ยันไม่ฟ้องเพราะไม่มีเงิน เนื่องจากเป็นค่ายเพลงเล็กๆ

ยังคงเปิดศึกน้ำลายกันไม่หยุดเลยทีเดียวสำหรับ “เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว” กับ “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน ที่ก่อนหน้านี้เปิ้ลออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เอ็มวีเพลง “รักต้องเปิด (แน่นอก)” ที่ใบเตยร้องและดังกระหึ่มตอนนี้นั้น เนื้อหาของเอ็มวีดันไปเหมือนกับไอเดียของเปิ้ลที่ก่อนหน้านี้ได้เล่าให้ผู้ที่มารับจ้างผลิตเอ็มวีเพลง “ยังอยากอยู่นะ” ของตนฟัง และพอเล่าจบไม่กี่วันเนื้อหาเหล่านั้นก็ไปอยู่ในฉากของรักต้องเปิด (แน่นอก) ทำเอาเปิ้ลเจ็บจี๊ดที่โดนขโมยไอเดีย

เท่านั้นไม่พอเปิ้ลยังแฉอีกว่านี่ไม่ใช่ความบังเอิญเหมือนครั้งแรก แต่มันเหมือนกันถึง 2 ครั้งแล้ว ครั้งที่แล้วเอ็มวีเพลง “เบนซ์สปอร์ต” ของเปิ้ลออกมาได้ไม่กี่เดือน ใบเตยก็ออกเอ็มวีเพลง “เช็ดแล้วทิ้ง (รกอก)” ที่ใช้โลกเกชันคล้ายกัน มุมภาพเหมือนกัน การแต่งตัวคล้ายกัน และมีการยั่วผู้ชายเหมือนกัน พอครั้งนี้มาโดนขโมยไอเดียอีก ล่าสุดใบเตยก็ปรี๊ดบ้าง บอกถ้าเปิ้ลยังไม่จบมีอะไรให้มาเคลียร์กัน เปิ้ลเลยขอเคลียร์ผ่านสื่ออีกรอบว่า...

“ไม่เคยมีเรื่องกับศิลปินคนไหนหรือค่ายใดทั้งสิ้น ถ้าคนตั้งใจฟังเรื่องเปิ้ลตั้งแต่แรกจะทราบว่ามีปัญหาตรงเส้นเรื่อง และทีมถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเท่านั้น เพราะเปิ้ลเซ็ตทีมเพื่อถ่ายมิวสิกวิดีโอบางส่วนแล้ว แต่ขาดโปรดักชันที่จะถ่ายทำ และบังเอิญไกด์เพลงของเปิ้ลได้หาทีมมาให้ เขาก็ให้เราคุยโทรศัพท์กับทีมนี้ เขาก็บอกว่าอยากร่วมงานกับเปิ้ลมานานแล้ว เราก็เล่าเส้นเรื่องให้ฟัง มีรถเมล์ที่จะชนกัน 2 คน และมีแดนเซอร์ 35 คน เตรียมไว้แล้ว และมีฉากที่เปิ้ลจะกระชากเสื้อตัวเอง และแดนเซอร์ช่วยถอดชุดเปิ้ลทีละชิ้น ซึ่งพอเปิ้ลเล่าให้เขาฟัง เขาก็บอกโอเคเลย เขาบอกว่าวันรุ่งขึ้นจะมาประเมินราคาให้เราฟัง”

“จากนั้นเขาก็หายไป โทร.หาเขาก็ไม่รับสาย ผ่านไปประมาณอาทิตย์กว่าก็กลายมาเป็นมิวสิกวิดีโอตัวหนึ่ง (รักต้องเปิดแน่นอก) เราก็บังเอิญมาเจอพี่นักข่าวคนหนึ่ง ก็ถามเขาว่ารู้จักทีมงานทำมิวสิกทีมนี้ไหม เขาก็เลยโทร.คุย ปรากฏว่าเขาบอกว่าเปิ้ลเคยติดต่อเขาไป เสนอราคาไปแล้ว แต่เปิ้ลหายไป ไม่มีเงิน เราก็เลยโมโหตรงที่คุณเอาเส้นเรื่องเราไปทำ แล้วมาดิสเครดิตบอกว่าเราไม่มีเงิน พี่นักข่าวคนนั้นก็เลยลงข่าวให้”

บอกไม่คิดโกรธใบเตย แถมยังชื่นชมอีกต่างหาก เวลาไปโชว์ตัวยังเอาเพลงใบเตยไปร้องด้วย ส่วนเรื่องฟ้องร้องคงไม่ทำ เพราะเป็นค่ายเพลงเล็กๆ บอกตอนนี้กลายเป็นจำเลยสังคมหาว่าสร้างกระแสอยากดัง
“กับใบเตยโดยส่วนตัวแล้วชื่นชมน้องมาก หลายครั้งที่ไปโชว์ตัวก็ร้องเพลงน้อง เปิ้ลไม่คิดจะเป็นศัตรูกับศิลปินคนไหน ลูกทุ่งเหมือนกันรักกันหมด ถามว่าจะฟ้องเลยไหม เปิ้ลเป็นค่ายเล็กๆ ไม่มีเงิน คงไม่ฟ้องใครหรอก เราอยากตั้งหน้าตั้งตาทำงาน โดยส่วนตัวเราทุกข์มาก 1 ปีที่ผ่านมาเรางดรับงานละครหรือหนัง เพราะอยากเอาเวลามาทุ่มกับเพลง เราไม่ใช่คนเก่ง แต่เรารวบรวมไอเดียทั้งหมดมาเป็นเวลา 1 ปี เงินที่จ่ายมัดจำไปทำหมดเกือบประมาณ 50,000 บาท ทุกอย่างต้องรื้อหมดต้องทำเส้นเรื่องใหม่”

“ตอนนี้กลายเป็นจำเลยสังคม คนหาว่าเราสร้างกระแส แต่อยากให้มองมุมเปิ้ลว่าเราทุกข์จริงๆ เงินมัดจำหมดไปครึ่งแสน แถมโดนขโมยไอเดีย ส่วนจะยกหูเคลียร์กับใบเตยไหม ตัวเราไม่มีปัญหาอะไรกับน้องจริงๆ แค่อยากจะฝากบอกโปรดิวเซอร์เอกสารเสนอราคาอยู่ที่ไหน เคยส่งมาเหรอ ที่บอกเปิ้ลไม่มีงบบอกมาว่ากี่สตางค์ เราไม่เคยเห็น ต่อไปนี้ก็ต้องเพิ่มระวังในการทำงานมากขึ้น”