xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัว “เจด้า” ผู้คิดท่า “แน่นอก” ชม “ใบเตย” ซี๊ดถึงใจทำให้ดัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เปิดตัว " เจด้า” ผู้คิดท่าเต้น “แน่นอก” บอกท่านี้ดังได้เพราะ “ใบเตย” ยันต้องทำหน้าซี๊ดซ๊าดประกอบท่าเต้นเพื่อเป็นฟิลลิ่ง เผยจริงๆ แล้วใบเตยเป็นคนเต้นไม่สวยแต่เป็นคนกล้าและเต็มที่สุดฤทธิ์ ประกอบกับชุดรัดรูป ทุกอย่างก็เลยออกมาลงตัวดัง

ฮอตข้ามประเทศเลยทีเดียวสำหรับเพลง “รักต้องเปิด(แน่น)” ของทรีทูวันที่ได้ “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน มาฟีซเจอริ่งเต้นท่าแน่นอกเขย่าๆ และทำหน้าซี๊ดซ๊าดจนเอ็มวีตัวนี้ดังระเบิด ภายในไม่กี่วันมียอดคนดูเป็นสิบล้าน แถมมีคนเต้นเลียนแบบถ่ายลงยูทิวป์เต็มไปไหมด ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติ

กระแสความแรงดังกล่าว นอกจากจะยกความดีความชอบให้ศิลปินแล้ว ก็ต้องยกนิ้วให้กับ “เจด้า อภิสราฐ์ เพชรเรืองรอง” ผู้คิดท่าเต้นแน่นอกนี้ด้วย ซึ่งเจด้าคนนี้นี่แหละที่เคยคิดท่าเต้น ยัง El Nin-Yo! และเพลง Sexy Naughty Bitchy ให้ “ทาทา ยัง” ด้วย

เจด้าบอกว่าใช้เวลาคิดท่าเต้นแน่นเพียง 2 ชม. เท่านั้น บอกที่มันดังแลฮิตเพราะท่าจะขำๆ บอกกับฟิลลิ่งของใบเตยที่ใส่เต็มเหนี่ยวมาก ทั้งที่ใบเตยเต้นไม่ถูกใจแต่ความถูกต้องใช้ไม่ได้เสมอไป บอกใบเตยความเต็มที่ของใบเตยประกอบเสื้อผ้าทำให้ทุกอย่างออกมาลงตัว

“พอฟังเพลงนี้ก็ทำให้เราคิดว่า คำว่าแน่นอกต้องทำท่าอะไรที่อยู่บริเวณอก ท่านี้มันมาจากจากคำร้องของเพลง และจังหวะดนตรีที่มันบิวท์เรา ทำให้เรารู้สึกคิดท่าออกมาได้แบบนั้น เนื้อหาของเพลงเข้าใจง่ายรวมทั้งความเป็นใบเตยที่หลายๆ คนพอได้ยินชื่อก็ต้องนึกถึงความเด้งแรงๆ"

“ทั้งเพลงก็ใช้เวลาคิดประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะถือว่าเร็วมาก คือในท่าแน่นอกใช้เวลาไม่นานเพราะเนื้อเพลงเข้าใจง่าย และเราก็แค่เลือกท่าให้มันเข้ากับจังหวะคำของเพลงให้มันโดนกัน พอเราคิดได้ปุ๊บก็ทำท่าเต้นให้น้องๆ ดูว่าชอบไหม ถ้าชอบปุ๊บเราก็ส่งให้ทางค่ายเลือกเลยและทางค่ายก็ชอบค่ะ”

“จริงๆ แล้วจะบอกว่าท่านี้ไม่จำเป็นต้องเด้งมากหรอก แต่มันเป็นความสุดฤทธิ์ของเขา(ใบเตย) มันก็ยิ่งง่ายกับการจะใส่อะไรเข้าไป มีความกล้าด้วย มันคือทุกอย่างมารวมตัวกันแล้วสำเร็จ และอาจเป็นเสื้อผ้าที่ใส่มันเห็นรูปร่างมากขึ้นทำให้ทุกอย่างลงตัว ด้วยความที่ทุกอย่างมันโชว์สัดส่วนหมด การทำท่าของเขามันก็เลยดูแรง ดูล้น ดูเต็มมาก สมมุติว่าใบเตยมาใส่เสื้อยืดเต้นก็แรงอยู่ แต่อาจจะดูไม่น่าสนใจเท่ากับชุดที่เขาใส่ในเอ็มวี”

เผยเวลาเต้นต้องทำท่าซี๊ดซ๊าดเพราะมันเป็นฟิลลิ่ง
“คือมันเป็นฟิลลิ่งมากค่ะ มันส่งผลให้ทุกอย่างดีเกินคาดหรือดีเกินไปไหม ถึงบอกไงว่ามันไปโดนใจสาวประเภทสองมาก แล้วด้วยความที่สาวประเภทสองเต้นเลียนแบบปุ๊บเขาก็อยากจะแรงแข่งกับใบเตย มันก็ทำให้ทุกอย่างดังขึ้นอีก พอกระแสไปถึงคนพวกนั้นก็ยิ่งแรงเข้าไปอีก”

“ทุกอย่างลงตัวศิลปินเป็นเขาก็ยิ่งประสบความสำเร็จถือว่าโอเค เขาไม่ได้เป็นคนเต้นสวยแต่เป็นคนที่กล้าแสดงออกเต็มที่ สามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมได้ คือเอาเป็นว่าเวลาสอนเต้นบางทีเขาเต้นไม่ถูกใจเรา แต่สิ่งที่ดีมากและดีเกินคือความตั้งใจและความเต็มที่ อันนี้มันก็เลยฆ่าทุกอย่างทำให้จุดเด่นของเขาออกมา ส่วนตัวก็รู้สึกว่าดีกว่าที่คิดเกินคาด คือความแรงของใบเตยโดยส่วนตัวเราก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ทำให้ทุกอย่างมันโอเวอร์”

“ความสุดฤทธิ์ของเขาก็เอาชนะใจคนดูนะ คนต้องการสิ่งที่ดึงดูดความสนใจและถูกใจ บางครั้งความถูกต้องก็ใช้ไม่ได้หมด แต่ทั้งหมดมันอยู่ที่การแสดงออกของคนๆ นั้นทำให้เราเรียนรู้มุมนั้นจากใบเตย คือความสุดฤทธิ์ของเขาทำให้ท่ามันเด่นขึ้นอีก ถ้าเป็นคนอื่นเต้นที่ก็อาจจะโอเคดี แต่ใบเตยกับท่ามันเหมือนแมชท์กันได้อย่างลงตัว ซึ่งทำให้ถูกใจสาวประเภทสองมาก”

“จริงๆ ตัวใบเตยมีส่วนมากที่ทำให้ท่านี้ดัง ตอนแรกๆ ก็ตกใจนิดนึง ก็แอบขำๆ ที่มีคนทำตาม แต่เราก็ดีใจในสิ่งที่เราไม่เคยคาดหวัง ก็ไม่คิดว่าต่างประเทศจะเอาไปทำคัฟเวอร์ คือมีคนโพสต์ลงยูทิวป์บอกสาวไต้หวัน 2 คนทำท่าแน่นอกแล้วยกอกออก ก็ดีใจนะทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำงานมากขึ้นมีกำลังใจมากขึ้น”

“กับการคิดท่าเต้นต่อไปไม่กดดันค่ะ เราบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่เพราะถ้าเต้นอย่างเดียว แต่มันเป็นเพราะเพลงด้วย บางทีท่าเต้นอาจจะดีมากแต่ถ้าเพลงไม่เหมาะกันมันก็ไม่ดัง เราเชื่อเรื่องลัคกี้ที่มันประจวบเหมาะทุกอย่างเหมือนดวงมันสมพงษ์ ทั้งเพลงทั้งท่าเต้นและศิลปินด้วย”





กำลังโหลดความคิดเห็น