ต่อให้อาศัยอยู่หลังเขาหรือจำศีลอยู่แต่ในรูก็ยากที่จะปฏิเสธกระแส “คุณชายพุฒิภัทรฟีเวอร์” ไม่ได้ เพราะนาทีนี้ต้องยกให้ “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” เป็นพระเอกน้องใหม่ที่มาแรงที่สุดถึงขนาดทุกกระแสในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก คลั่งไคล้ใหลหลง คนติดตามอินสตาแกรมกับทวิตเตอร์ของเจมส์พุ่งทะยานไปแตะที่หลักแสน หลังจากที่ก่อนหน้าที่ละครคุณชายพุฒิภัทรจะออกอากาศมีคนฟอลโลอินสตาแกรมกับทวิตเตอร์ของเจมส์อยู่ที่หลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ปัจจุบันกลายเป็นดาราน้องใหม่ที่มาแรงสุดๆ จนอดีตคนเคยฮอตอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” อาจจะต้องหนาวๆ ร้อนๆ เลยทีเดียว
ฮอตที่สุดนาทีนี้คงไม่มีใครเกิน “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” ดาราหนุ่มน้องใหม่ที่มาประเดิมละครเรื่องแรกก็รับบทหินเป็นคุณชายหมอ “พุฒิภัทร” หนึ่งในห้าพี่น้องแห่งวังจุฑาเทพที่ต้องแสดงเป็นศัลยแพทย์ที่เก่งที่สุดแล้วยังต้องแสดงเป็นหนุ่มที่อายุมากกว่าอายุจริงหลายปี และด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกันทั้งรูปร่าง หน้าตา บทตัวละครที่ส่งสุดๆ ความทุ่มเทตั้งใจ การเคี่ยวกรำของผู้กำกับอย่าง ”ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์” และจังหวะเวลาต่างๆ ทำให้คุณชายพุฒิภัทรกลายเป็นละครตอนที่โด่งดังที่สุดนับตั้งแต่ละครชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพลงจอฉายมาเลยทีเดียว
เบื้องหลังความฮอต
ก่อนจะมาเป็น “คุณชายพุฒิภัทร” ที่ทำให้สาวๆ ทั่วประเทศเคลิบเคลิ้มอย่างทุกวันนี้ “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” เป็นเพียงเด็กผู้ชายอายุ 18 ปีธรรมดาๆ ที่อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ที่จังหวัดพิษณุโลก เจมส์เรียนชั้นมัธยมปลายอยู่ที่โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม และวางแผนว่าจะเข้ามาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ “ปิ๊ก ฌาณฉลาด ทวีทรัพย์” แมวมองนักแสดงชื่อดังซึ่งเคยปั้นนักแสดงมากฝีมืออย่าง “ปิ๊ป รวิชญ์ เทิดวงส์” , “ดอม เหตระกูล” , “จ๊อบ นิธิ สมุทรโคจร” จนโด่งดังได้พบกับเฟซบุ๊คของเจมส์เข้าโดยบังเอิญและรู้สึกถูกชะตากับหน้าตารูปร่างของเจมส์จนพยายามสืบหาเบอร์ติดต่อกับพ่อของเจมส์และขอเข้าไปพบที่บ้านในวันรุ่งขึ้นทันที แม้จะใกล้กับช่วงสงกรานต์ปีที่แล้วและพ่อของเจมส์จะบอกว่ารอให้พ้นเทศกาลสงกรานต์ไปก่อนก็ได้ แต่ปิ๊กก็ไม่รอช้าเพราะแม้จะหยุดปั้นนักแสดงหน้าใหม่มานานหลายปีแล้ว แต่เขาก็เชื่อมั่นในเซนส์ของตัวเองว่าเจมส์จะกลายมาเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่โด่งดังได้อย่างแน่นอน
เจมส์บอกว่าตอนที่อยู่ต่างจังหวัด เขากับเพื่อนๆ ค่อนข้างจะซนและซ่ามากเป็นพิเศษ ยามว่างจากการเรียนก็รวมตัวตั้งวงดนตรีเล่นเพลงป็อป เพลงร็อกที่กำลังฮิตในช่วงนั้น โดยเจมส์รับหน้าที่เล่นกีตาร์เบสประจำวง และเขาก็เป็นนักดนตรีที่สาวๆ กรี๊ดมากที่สุดของวงอีกด้วย นอกจากเล่นดนตรีแล้วก็มักจะไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ที่สนามฟุตบอล เพราะที่พิจิตรเป็นเมืองเล็กๆ ไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่โตชีวิตของเจมส์จึงหมกหมุ่นอยู่กับดนตรีและกีฬา โดยไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงแต่อย่างใด
แต่เพราะมีรูปร่างและหน้าตาที่โดดเด่นมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มทำให้ครอบครัวและคนรอบข้างคอยเชียร์ให้เขาเข้าประกวดเวทีต่างๆ จนกระทั่งได้รับรางวัลชนะเลิศ The Idol Friday 2011 และนั่นก็ทำให้ชื่อของเจมส์เริ่มเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กชนิดปากต่อปาก จนกระทั่งนักปั้นดาราชื่อดังอย่าง “ปิ๊ก ฌาณฉลาด” พบเฟซบุ๊กของเจมส์และสนใจมากถึงขนาดสืบหาเบอร์ติดต่อที่บ้านและเบอร์มือถือของพ่อของเจมส์และเดินทางไปพบถึงที่บ้านในวันรุ่งขึ้น
จาก “ปิ๊ก” ถึง “ป้าแจ๋ว”
การชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิงของปิ๊กทำให้เจมส์เริ่มมีงานในวงการบันเทิง แต่ก็ยังถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับงานที่นักปั้นดาราชื่อดังรายอื่นป้อนให้เด็กในสังกัด ส่วนหนึ่งเพราะปิ๊กว่างเว้นจากการปั้นเด็กป้อนวงการบันเทิงไทยมานานหลายปี และอีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะ “ปิ๊ก ฌาณฉลาด” ได้ชื่อว่าเป็นนักปั้นที่ขยันทำเด็กให้ดังด้วยผลงานมากกว่าข่าวฉาว เขาจึงบอกให้เด็กในสังกัดพิสูจน์ฝีมือและอยู่อย่างถ่อมตัวเสมอ
“ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์” และทีมผู้สร้างละครคุณชายพุฒิภัทรเฟ้นหาตัวนักแสดงที่จะมารับบท “คุณชายพุฒิภัทร” พี่คนที่สามของห้าสิงห์แห่งวังจุฑาเทพกันอย่างเข้มข้น หลังจากที่ “เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” ที่ถูกวางตัวให้มารับบทคุณชายหมอในตอนแรกคิวไม่ลงล็อกกับการถ่ายทำละครชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ เนื่องจากเป็นละครยาวที่มีหลายพาร์ตนักแสดงจึงต้องมีคิวให้ตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ แต่ช่วงนั้นเคนติดถ่ายละครแรงเงาจึงไม่สามารถปลีกตัวมาถ่ายละครเรื่องนี้ได้ทำให้บทคุณชายพุฒิภัทรไร้ซึ่งคนมาสานต่อ และนั่นก็ทำให้ป้าแจ๋วต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาตัวนักแสดงที่เหมาะกับบทคุณชายพุฒิภัทรให้เจอก่อนเปิดกล้อง
และทันทีที่เห็นรูปถ่ายเจมส์ เซนส์บางอย่างก็บอกป้าแจ๋วว่านี่คือคนที่จะมาทำให้บทคุณชายพุฒิภัทรสมบูรณ์ขึ้น ป้าแจ๋วไม่รีรอที่จะเรียกตัวเจมส์มาพูดคุยเพื่อแคสต์บทนี้ แม้ในตอนแรกที่พบเจอ “แหม่ม ฐิติมา สังขพิทักษ์” ในฐานะผู้จัดจะยังไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มวัยเพียง 18 ปีแถมยังมีบุคลิกทะเล้นทะลึ่งจะมารับบทคุณชายหมอที่สุขุมนุ่มลึกและเป็นคนเรียบร้อยเช่นนี้ได้ แต่ป้าแจ๋วกลับมั่นใจในเซนส์ของตัวเองถึงขั้นยืนยันกับแหม่มว่า “ห้ามปล่อยให้เด็กคนนี้หลุดมือไป เพราะถ้าเราไม่เอาไว้คนอื่นจะนำไปอย่างแน่นอน”
จากวันที่ป้าแจ๋วตัดสินใจเลือกเจมส์มาแสดงเป็นคุณชายพุฒิภัทรก็ต้องยอมรับว่าเขาตัดสินใจไม่ผิด ก่อนหน้าที่จะมาแสดงเจมส์เข้าคอร์สเรียนการแสดงกับ “ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ” และ “หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล” หรือ “หม่อมน้อย” แต่ก็เป็นเพียงคอร์สสั้นๆ ที่ใช้เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น เมื่อมาลงกองถ่ายทำจริงๆ ป้าแจ๋วที่ได้ชื่อว่าละเอียดก็เคี่ยวกรำจนเจมส์สอบผ่านในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งมีผลงานการแสดงเป็นครั้งแรกจากทุกคนที่ได้ชม
นอกจากรูปร่าง หน้าตา และฝีมือการแสดงแล้ว ทางด้านนิสัยส่วนตัวของเจมส์ก็เป็นอีกเรื่องที่บรรดาแฟนคลับทั้งหลายปลาบปลื้ม แม้จะดังเปรี้ยงปร้างในชั่วข้ามคืนแบบนี้ แต่เจมส์ก็ไม่เคยลืมตัว เขายังเป็นคนเฟรนด์ลี่ เฮฮากับทุกคน และถ่อมตัวตามที่ปิ๊กสอนเอาไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ถึงขนาดที่ “ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์” พิธีกรชื่อดังยอมรับว่าเป็นเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตนและมีอนาคตไกลอย่างแน่นอน หลังจากที่เขาไปนั่งให้ต๋อยสัมภาษณ์ในรายการทูไนท์ โชว์ ที่ผ่านมา
แม้จะดังขนาดนี้แต่เจมส์ก็ยังถ่อมตัว หลังจากเห็นแฟนคลับจำนวนมากมานั่งเชียร์พร้อมป้ายไฟที่มีชื่อ “เจมส์” ในรายการทูไนท์ โชว์ เจมส์หันไปกระซิบถามทีมงานว่าจ้างมาเหรอครับ และทำหน้าเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังออตขนาดไหน ทั้งหล่อ น่ารัก นิสัยดี แบบนี้คงเป็นขวัญใจแฟนคลับทุกวัย และคงนำเทรนด์ “กินเด็ก” กลับมาแน่นอน ใช่ไหมจ๊ะ บรรดาแม่ยกน้องเจมส์ทั้งหลาย
..........................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 189 วันที่ 18-24 มิถุนายน 2556