เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเพิ่งจะมีการประกาศผลรางวัลของสมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกงออกมาครับ รางวัลสถาบันนี้อาจจะไม่ได้ใหญ่โต มีงานเดินพรมแดงหรูหราอะไรเหมือน "ม้าทองคำ" หรือ "ตุ๊กตาทองฮ่องกง" แต่ผลรางวัลแต่ละปีก็สะท้อนความเป็นไปของวงการหนังฮ่องกงได้ดี และชัดเจนไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยในปีนี้หนังแอ็กชั่นอาชญากรรม Motorway เป็นผลงานที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง ตัวของผู้กำกับ เจิ้งเปาชุ่ย ก็คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมแห่งปี (ได้รับรางวัลคู่กับ ดังเต้ แลม จาก The Viral Factor) ด้วย เป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าฮ่องกงมองเห็นหนังอาชญากรรม และงานประเภทแอ็กชั่นเป็นเหมือนจิตวิญญาณของพวกเขาอย่างแท้จริง เพราะเรียกว่าได้รางวัลใหญ่ต่าง ๆ กันแบบปีเว้นปีเลยทีเดียว แตกต่างจากออสการ์ที่หนังแบบนี้เป็นได้แค่ตัวประกอบ
สำหรับรางวัลในสาขานักแสดงเป็น ตู้เหวินเจ๋อ จากหนังที่เล่าเรื่องในแวดวงบันเทิงเรื่อง Diva ของผู้กำกับหญิง เฮย์เวิร์ด มั๊ก ที่ได้รางวัลไปครอง สำหรับการแสดงเป็นผู้จัดการนักร้องได้แบบคนดูทั้งรักทั้งเกลียดเลย
แต่ที่น่าสนใจกลับเป็นรางวัลนักแสดงนำหญิง ที่ในปีนี้ไม่มีดาราหญิงคนไหนได้รางวัลไปเลย โดยทางสมาคมฯ อธิบายว่าไม่มีดาราหรือบทบาทฝ่ายหญิงใด ๆ ที่โดดเด่นพอสำหรับรางวัล แตกต่างจากปีที่แล้วโดยสิ้นเชิงที่การแสดงของ เยี่ยเต๋อเสียน ใน A Simple Life คว้ารางวัลแบบไร้คู่แข่ง หลังโดดเด่นจนกวาดเกียรติยศเวทีต่าง ๆ ทั้งจากสถาบันในฮ่องกง และต่างประเทศมากมาย
นอกจากรางวัลในสาขาต่าง ๆ แล้วสมาคมนักวิจารณ์ยังจะเลือกยกย่องหนังโดดเด่นประจำปีอีก 8 เรื่องในแต่ละปีด้วย ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจกว่ารางวัลสาขาต่าง ๆ ซะอีกสำหรับปีนี้หนังฮ่องกงที่เหล่านักวิจารณ์ยกย่องกันก็ประกอบไปด้วย
The Viral Factors หนังแอ็กชั่นเข้มข้นที่มี เซียะถิงฟง กับ เจย์ โจว แสดงนำ ผลงานของคนทำหนังที่เรียกว่าโดดเด่นมากใน 3 - 4 ปีมานี้อย่าง ดังเต้ แลม ที่หนัง 3 เรื่องหลังได้รับคำชมต่อเนื่อง ชนิดที่ว่าแม้ The Viral Factors จะไม่ได้โดดเด่นเท่าหนัง 2 เรื่องก่อนหน้านี้ของผู้กำกับคนนี้อย่าง The Beast Stalker และ The Stool Pigeon แต่ก็ยังได้รับการยกย่องอยู่ดี
The Bullet Vanishes ของ หลอจื่อเหลียง ที่มี เซียะถิงฟง (อีกแล้ว) กับ หลิวชิงหวิน ในเรื่องราวของตำรวจเซียงไฮ้ยุค 1930s ที่ต้องเข้าสืบสวนคดีฆาตกรรมปริศนา ก็ได้รับคำชมว่าเป็นหนังตลาดที่มีคุณภาพ ด้วยเนื้อหาที่กล่าวถึงเรื่องของศีลธรรมที่ถูกบิดเบือนไปเพราะสภาพแวดล้อมของสังคม และตัวละครสีเทาไม่มีใครดีใครเลวเพียงแต่อย่างเดียว
The Four หนังกำลังภายในที่ดัดแปลงมาจากนิยายดัง "4 ยอดมือปราบ" ที่หลายคนอาจจะงง ๆ ว่าติดอันดับมาได้ยังไง ให้ผมเดาก็เชื่อว่าน่าจะเพราะหนังมีกลิ่นแบบ "กำลังภายในฮ่องกง" ค่อนข้างจะแรงก็เลยได้รับการยกย่องเหนือหนังแนวนี้เรื่องอื่น ๆ ครับ โดยเฉพาะการผสมผสานหนังแนวต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันมีทั้ง แฟนตาซี, โรแมนติก, สืบสวนสอบสวน แถมยังมี ซอมบี้ โผล่มาในหนังด้วย บางคนอาจจะบอกว่าทำให้หนังดู "มั่ว ๆ" แต่นักวิจารณ์ฮ่องกงเค้าว่า "กล้าหาญดี" นอกจากนั้นภาพการรวมตัวของกลุ่มตัวละครที่เต็มไปด้วยความ "ไม่สมบูรณ์แบบ" และ "ข้อบกพร่อง" ก็ยังถูกมองว่าสะท้อนภาพสังคมฮ่องกงซึ่งรวมตัวของผู้คนอันหลากหลายได้ดีด้วย
ด้านหนังสายโรแมนติก-ดรามาก็มีงานอย่าง Love Lifting หนังที่ว่าด้วยชีวิตของนักกีฬายกน้ำหนักหญิง หนังมีนักร้องสาว เจียงยั่วหลิน แสดงนำติดเข้ามาด้วย
Love Lifting พูดถึงนักกีฬาสาวที่ต้องหันหลังให้กับความฝัน กีฬาโอลิมปิกเพราะอาการป่วย จนเธอยอมแพ้ และพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่งงานมีครอบครัว มีชีวิตที่ดูเผิน ๆ ก็เหมือนมีความสุขดีแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถสลัดความฝันไปโอลิมปิกได้เสียที หนังเป็นผลงานของ เฮอร์มัน เหยา ผู้กำกับรุ่นใหญ่ที่ทำงานมาตั้งแต่ยุค 80s แล้ว และโด่งดังเป็นตำนานจากหนังโหด ๆ อย่าง "ซาลาเปา เนื้อคน" แต่จริง ๆ เขาทำหนังหลายแนวมาก และทำหนังมายาวนานต่อเนื่องไม่แพ้ใครในฮ่องกง ได้รับการยกย่องเป็นพิเศษว่าเป็นคนทำหนังที่ค่อนข้างเชื่อใจได้ มักจะเล่าเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวของคนฮ่องกงเอง โดยเฉพาะชีวิตของบรรดาคนธรรมดาสามัญ
My Sassy Hubby หนังรักเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคู่แต่งงาน ที่ถือว่าเป็นภาคต่อของ My Wife is 18 (สาว 18 อลวนหัวใจฉ่ำรัก) หลังตลกโรแมนติกที่หลาย ๆ คนแทบจะลืมไปแล้ว แต่ภาคใหม่ที่สร้างหลังภาคแรกร่วม 10 ปี กลับสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยในภาคแรก เจิ้งอี้เจี้ยน กับ ไช่จั๊วเหยียน (อาซา แห่งวง Twin) รับบทเป็นหนุ่มสาวต่างวัยที่ยอมแต่งงานกันด้วยเหตุผลของครอบครัว แน่นอนตามสูตรทั้งสองตกหลุมรักกันจริง ๆ ขึ้นมาในตอนท้าย แต่ในหนังภาคต่อที่เล่าเรื่อง 10 ปีหลังจากนั้น ผกก. เลือกที่จะพูดถึงชีวิตคู่ที่ไม่ได้สวยหรูอย่างทีคิด ถือว่าหนังเป็นงานเซอร์ไพรซ์อีกเรื่องของปี 2012 ครับ
McDull: The Pork of Music หนังตลกเรื่องราวหมูน้อยที่สะท้อนภาพชีวิตของคนฮ่องกงที่สร้างติดต่อกันมาหลายภาค ที่คราวนี้มาในแบบหนังเพลง ก็ยังคงติดอันดับ นอกจากนั้นก็ยังมี Romancing in Thin Air หนังรักของ ตู้ฉีฟง ที่มี เจิ้งซิ่วเหวิน แสดงกับ กู่เทียนเล่อ ก็ได้รับการยกย่องแบบงง ๆ ทั้ง ๆ ที่ตัวหนังก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันอะไรเท่าไหร่ แต่นักวิจารณ์ฮ่องกงบอกว่า การเล่าเรื่องรักบนฉากหลังโรงแรมบนภูเขาสูงที่หยุนหนาน ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะ และความอันหนาวเหน็บ ก็ถือว่าสร้างบรรยากาศอันแตกต่างจากหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่น ๆ จนหนังมีความพิเศษในตัวเอง
แน่นอนว่าสมาคมนักวิจารณ์ฯ ยังเหลือที่ว่างให้กับหนังเล็ก ๆ ซึ่งไม่มีใครรู้จัก อย่าง One Tree Three Lives หนังสารคดีที่เล่าเรื่องการเดินทางของนักเขียนหญิงเชื้อสายจีนที่ตอนนี้ไปใช้ชีวิตอยู่ในไอโอวา ผ่านทั้งประสบการณ์ของความสำเร็จ และเรื่องเศร้าต่าง ๆ มากมาย เป็นหนังที่สะท้อนถึงชีวิตชาวจีนอพยพ ซึ่งแน่นอนว่าชาวฮ่องกงค่อนข้างมีอารมณ์ร่วมเป็นพิเศษกับประเด็นแบบนี้
มีข้อสังเกตเล็กน้อยว่าหนังฮ่องกงที่ทำเงินสูงสุดแห่งปีอย่าง Cold War ไม่ได้ติดอันดับหรือได้รับรางวัลใด ๆ จากสมาคมนักวิจารณ์ฯ แต่อย่างใด เช่นเดียวกับผลงาน 2 เรื่องของ เผิงเฮ่าเสียง ผู้กำกับแห่งยุคขวัญใจคนรุ่นใหม่ ทั้ง Love in the Buff ที่ว่าด้วยการเริ่มต้นชีวิตคู่ของคนยุคใหม่ และ Vulgaria หนังเกรด 3 สุดฮิตที่ไม่ได้ขายเพียงความวาบหวิว ไร้รสนิยม แต่ยังมีบทฉลาด ๆ และเรื่องราวน่าสนใจด้วย สงสัยว่าหนังของ เผิงเฮ่าเสียง คงจะถูกใจคนดูและนักวิจารณ์ต่างชาติมากกว่า แต่ไม่ค่อยถูกจริตนักวิจารณ์ฮ่องกงเองเท่าไหร่
โดยภาพรวมผลรางวัลชี้ให้เห็นว่า นอกจากการคัดเลือกและยกยองผลงาน ที่โดดเด่นประจำปีแล้ว สมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกงยังพยายามดิ้นรนในการรักษาความเป็นตัวเอง และขีดเส้นเขตแดนให้กับวงการหนังฮ่องกง ให้แยกขาดจากหนังจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ตอนนี้เริ่มกลืนกันไปเรื่อย ๆ แล้ว …
สำหรับแฟนหนังชาวไทยน่าจะได้ผ่านตา Motorway, The Viral Factor และ The Four กันทางโรงภาพยนตร์ (ซึ่งตอนนี้ก็ออกแผ่นมาให้หาซื้อกันทั้ง 3 เรื่องแล้ว) ส่วนเรื่องอื่น ๆ นอกจากหนังแอ็กชั่น The Bullet Vanishes ก็มี My Sassy Hubby ที่น่าจะพอมีโอกาสได้ดูกันอยู่บ้าง เพราะ เจิ้งอี้เจี้ยน ก็พอมีแฟน ๆ ในบ้านเราอยู่บ้าง แต่สำหรับเรื่องที่เหลือก็ต้องยอมรับว่ายากครับ ก็คงต้องพึ่งพาแหล่งอื่น ๆ กันไป
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม