xs
xsm
sm
md
lg

ถามผู้กำกับ "หอย" สาระแน "โอเซกไก" ตลกตรงไหน?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หอย เกียรติศักดิ์
อาจจะได้รับความนิยมในระยะแรกๆ แต่ดูเหมือนช่วงหลังมานี้ผลผลิตที่มีที่มาจากทีมตลก "สาระแน" โดย "วิลลี่ - เปิ้ล - หอย" ดูจะเงียบๆ ไปพอสมควร

แถมบางครั้งบางคราก็มีข่าวในด้านลบออกมาให้ได้เห็นอีกต่างหาก

วันนี้ สาระแน กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ฉลอง 15 ปีที่ใชื่อว่า "โอเซกไก" ผลงานร่วมทุนระหว่าง "M๓๙" กับ "ลักษ์ 666" ซึ่งเตรียมจะลงโรงให้ได้ยลกัน "นัดคุย" เลยอดไม่ได้ที่จะขอคุยกับ "หอย เกียรติติศักดิ์ อุดมนาค" ในฐานะผู้กำกับสักหน่อยว่าหนังเรื่องนี้มันตลกพอที่จะคุ้มกับการเสียเงินไปดูหรือไม่?

"จุดเริ่มต้นก็คือครบ 15 ปีสาระแน วิลลี่เขาก็บอกต้องทำหนัง แล้วจะเอาใครดีมากำกับล่ะ ก็ไม่มีใคร ก็มาลงที่เรา ก็ถามกูมั้ยว่าเป็นเปล่าก่อนมั้ย (หัวเราะ) แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะมันเป็นสิ่งที่เราก็ทำๆ อยู่แล้ว ก็คิดพล็อตเรื่องคิดอะไรเสร็จแล้วก็ไปร่วมกับบริษัทM๓๙ เพราะถ้าทำธรรมดาเนี่ยมันคงเหมือนกับรายการทีวีที่เราทำอยู่แล้ว"

"แล้วก็มาคิดกันว่าต้องให้เหนือกว่านั้นนะ เราน่าจะไปฝึกวิชาเพิ่มขึ้น ทำแคนดิดให้เจ๋งสุด เพราะฉะนั้นเราก็ต้องไปที่ออริจินัลก็คือญี่ปุ่น ก็เลยไปรู้จักกับบริษัท โยชิโมโต้ ก็มาร่วมงานกับเรา คือนอกจากใช้โปรดักชั่นของญี่ปุ่น ถ่ายที่ญี่ปุ่นแล้ว เรายังได้นักแสดงญี่ปุ่นมาเป็นหน้าม้าทั้งหมด จากนั้นก็เลือกแขก คนแรกที่เราคิดถึงก็คือน้องตั๊ก (บริบูรณ์) ซึ่งเขาได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่ามันเป็นคนบ้า เราก็เลยอยากพิสูจน์ว่าเขาบ้าแบบนั้นหรือเปล่า"

"คือน้องตั๊กเขาติดท็อปวันในการแคนดิดของเราเลยนะ ทีนี้พอมีแขกก็ต้องมีหน้าม้าที่คอยหลอกว่าให้เขาไปไหนมาไหนก็คือจ็อบ นิธิ เราก็ให้หลอกตั๊กไปถ่ายรายการสมุทรโคจร เขาเข้าใจตลอดว่าถ่ายที่ญี่ปุ่นกับทีมงานญี่ปุ่นเพื่อถ่ายรายการสมุรโคจรนะ คือของน้องตั๊กเนี่ยเป็นแคนดิดแอ็กชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อมเลย แล้วก็มีแจ๊ส ชวนชื่นด้วย"

"พอตั๊กเสร็จเราก็อยากได้ดารากำลังดัง น่ารักๆ เออ เราจะเอาไงดี นึกถึงเคน ภูภูมิ ขึ้นมา ซึ่งตอนแรกเขาเคยมาแคนดิดกับเราแล้วเราพบว่าเขาคิวเยอะมาก ก็เลยต้องไปเข้าเฝ้าคุณเอ ศุภชัยสักนิดนึง (หัวเราะ) ก็ต้องไปด้วยตนเอง คลานต่ำไป แล้วก็ต้องเอ่อๆ แต่แค่เอ่ยปากเขาก็บอกเลยนะ ณเดชน์ไม่ว่างนะครับ ผมก็บอกไม่ใช่ ไม่ได้เอาณเดชน์ จะเอาเคน ภูภูมิ เขาก็บอกอย่างนั้นโอเค เลย"

"เราให้เขาหลอกเคนว่าไปถ่ายโฆษณาซึ่งเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์มอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่งอยู่แล้ว เราก็เลยสวมรอย ก็หลอกเขาไปโดยที่เอไม่ได้ไปด้วย ก็นำเคนไปญี่ปุ่นแล้วเจอเหตุการณ์ต่างๆ นานา จริงๆ แล้วเราต้องการลักษณะท่าทางที่ไม่ได้แสดงของเขา คือตอนที่ถ่ายโฆษณาก็แสดงนะ แต่หลังคัตเนี่ย เราก็กดเรคคอร์ดไปเรื่อย แล้วเขาก็จะโดนผู้กำกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นตุ๊ดมาลวนลามบ้าง อะไรบ้าง"

"ได้มาสองวิลลี่ก็บอกพอแล้วแต่ผมบอกว่าในหนังมันต้องมีความอ่อนช้อย ความหวานบ้าง ก็เลยเอาหนังสือแพรวไปให้เขาดู มันมีเนโกะจั้มป์อยู่ อันนี้แหละที่ทำให้นังเราดูซอฟท์มาก แล้วทั้งสองคนเขาเคยทำงานเคยออกเทปกับทางญี่ปุ่นมาแล้ว เราก็เลยติดต่อให้เนโกะจั้มป์เป็นตัวแทนประเทศไทยไปเล่นเกมโชว์กับดาราของเขา ไอ้สองคนนี้พอได้รับติดต่อปั๊บ ก็เสิร์ชหาข้อมูลด้วย...ซึ่งระหว่างทั้งสองเล่นเกมโชว์ไปก็จะโดนแกล้งไปด้วย"

แต่ละคนที่โดนแกล้งหนังก็จะแยกไม่เกี่ยวกันเลย?
"จริงๆ แล้วมันเป็นหนังเรื่องเดียวกันทั้งหมดเนี่ยแหละครับ มันคือหนังแคนดิดที่มีเส้นเรื่องบางๆ ที่จะนำไปสู่แคนดิดทั้งสามตัวนั้น...แล้วในหนังก็จะมีสองพาร์ท ที่เป็นแคนดิดกับที่เราแต่งตัวย้อนยุคเป็นสมัยเอโดะ ซึ่งจะมีผม วิลลี่ อ้น ศรีพรรณ กับน้องชาย แล้วก็พายไก่"

ได้เห็นโปรดักชั่นการทำงานของญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง?
"ต้องบอกก่อนว่าโครงสร้างของเขาเหมือนกับบริษัทเรานะ ทำพวกคอมเมดี้ ทำรายการทีวี ทำหนัง หนังสือ เหมือนกันเลย คุยยากมั้ย คือเราไปอย่างชุ่ยๆ โปรดักชั่นเลย คือเราไม่ต้องการเนี้ยบมากเพราะงานเราเป็นแบบแคนดิดไง แต่พอทำงานกับเขาผมบอกได้เลยว่าคนทำงานญี่ปุ่นทำแบบซีเรียส ละเอียดทุกอย่าง อย่างตอนที่วิลลี่กับผมแต่งหน้าเป็นซามูไรพ่อลูกอ่อนเราก็ถามวิลลี่มันแต่งเราอย่างนี้ใช่หรือวะ คือถ้าเป็นคนไทยก็จะแต่งหน้าใสๆ แต่นี่ไม่ใช่ เพราะมันดำมากเลย เขาก็บอกจริงๆ ซามูไรมันมีหลายชนชั้น...ซึ่งพอมันถ่ายออกมานะ เฮ้ย! มันพอดีว่ะ"

ทางนั้นได้แสดงความคิดเห็นหรือเปลี่ยนแปลงงานของเราบ้างมั้ย?
"ไม่เปลี่ยนนะ ก็พล็อตตามที่เราคิด แต่เขาก็จะถามหนังอะไรของมึง (หัวเราะ) หนังอะไรของมึง เขาไม่เคยเห็น เราก็ถามเขาว่าเอาไปฉายในญี่ปุ่นมั้ย เขาก็ส่ายหน้าเลยนะ เออ แต่พอมทำเสร็จเขาเห็นธรรมชาติของพวกเรา แบบสนุกกันได้ขนาดนี้เลยหรือ เขาก็อยากจะลองเอาไปฉายในญี่ปุ่นบ้าง อาจจะลองไปฉายในฟิล์มเฟสติวัลที่เกี่ยวกับหนังคอมเมดี้ดู ก็เป็นนิมิตรหมายอันดี"

อุปสรรคในการทำงานมีบ้างมั้ย?
"ก็ต้องบอกว่ามีปัญหาเรื่องการสื่อสารนะ แล้วอีกอันคือเรื่องงบเราน้อย เราประชุมกับทางM๓๙ แล้วไปคุยกับทางญี่ปุ่น แบบว่าต้องประมาณนี้นะ เขาแทบจะถุยน้ำลายใส่หน้าเลย (หัวเราะ) เพราะเงินที่เราบอกแค่ค่าตัวดาราของเขาสองคนก็หมดแล้ว เขาก็อึ้งๆ กับงานเรานะ แต่เราก็บอกว่าเราอยากทำจริงๆ คุยไปคุยมาก็โอเค เขาก็อยากจะเปิดตลาดโดยผ่านพวกเราด้วย"

จะยังไงว่า "ว้ากกิ" กับ "ฮิเดะ" เป็นตลกที่ดังมากในญี่ปุ่น?
"เอาเป็นว่าถ้าเป็นพวกซีรี่ส์ดูในทีวีนี่พวกนี้จะออกเยอะมาก ก็ลองเปิดทีวีในญี่ปุ่นดูนะ แม่งออกทุกช่องน่ะ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วก่อนไปถ่ายหนัง เจอผู้หญิงคนไทยมากับแฟนคนญี่ปุ่น ผมก็เลยลองเทสต์ดู เออ...เนี่ยผมกำลังจะไปถ่ายหนังที่ญี่ปุ่นนะ เขาก็เหรอๆ เรื่องอะไรสาระแนนะ เหรอๆ มีว้ากกิกับฮิเดะด้วยนะ เท่านั้นแหละแฟนเขาหันเลย แล้วเดินมาหาเลย แล้วก็ถามแฟนว่าเมื่อกี๊เขาพูดชื่ออะไรนะ เขาบอกจริงหรือเปล่าว้ากกิกับฮิเดะมาเล่นหนังกับเรา เขาบอกเป็นไปได้ไง เป็นไปไม่ได้ เขาพูดเลยเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกนี้มันไม่มีทางน่ะ จริงๆ"

อะไรคือเสน่ห์ของหนังแคนดิด?
"คือหนังแคนดิดมีโอกาสแค่ครั้งเดียวนะ แล้วที่เราดีใจเพราะน้องทุกคนพูดเหมือนกันหมดเลยว่าพี่ทำกับหนูขนาดนี้เชียวหรือ หลอกผมขนาดนี้เลยหรือ ที่ผมได้ตังค์เป็นค่าตัวเป็นหนังเนี่ยถ่ายวันเดียวเลยเหรอ คุณไปญี่ปุ่นแต่ถ่ายจริงๆ วันเดียว หนึ่งชั่วโมงก็เสร็จ แล้วมันคือพิเศษกว่าคนอื่นมันคือได้เห็นธรรมชาติของดาราทุกคน เพราะถ้าแอบอินเสิร์ช หรือเมกขึ้นมาคนก็จะรู้นะ คนจะรู้ทันที"

"แต่ต้องขอบอกเลยว่าของญี่ปุ่นเทคนิคการแอบถ่ายของเขาระดับเทพ คุณจะได้เห็นงานแคนดิด แอบถ่ายที่ชัดที่สุดที่ไม่เคยเห็นมา ผมก็ไม่คิดว่าจะชัดขนาดนั้นนะ มันชัดเกิ๊น คนดูเขาบอกว่าเซ็ตแน่ ซึ่งผมจะดีใจที่พูดแบบนั้น เพราะผมรู้ว่ามันไม่ได้เซ็ต (ยืนยัน?) ยืนยัน ดาราที่เชิญมาไม่มีใครรู้ตัว จะมารู้ตัวตอนผมกับวิลลี่เดินออกไปเฉลย ถามตั๊ก แจ๊ส เคน ภูภูมิว่ารู้ตัวมั้ย ไม่รู้ตัว เพราะเราไม่ได้ติดต่อเอง ไม่มีทางเลย"

กดดันมั้ย เพราะดูเหมือนหนังตระกูลสาระแนจะรายได้ลดลงมาโดยตลอด ตั้งแต่ "สาระแนห้าวเป้ง" 100 ล้าน, "สาระแนสิบล้อ" 70 ล้าน และ "สาระแนเห็นผี" 41.2 ล้าน?
"คือผมลองรีเสิร์ชแล้วว่าคนชอบเราแบบไหน อย่างถ้าเป็นหนังตลกเราจะสู้จีทีเอชได้มั้ย หรือสู้พี่ยอร์ช (ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์) ได้มั้ย ซึ่งสิ่งที่เรามีอยู่สิ่งที่เราถนัดแล้วM๓๙ เห็นเราเนี่ยก็คือหนังแคนดิด กดดันมั้ย ผมขอบอกว่าไม่ เพราะผมทำไม่เป็น (หัวเราะ) ถ้าถามว่ายากมั้ยผมก็จะบอกว่าไม่ยาก เพราะมันเป็นสิ่งที่เราถนัด อีกอย่างเรามีทีมงานที่คอยเตรียมงานให้อย่างดีอย่างM๓๙"

"ผมทำงานสนุกมาก พอทำหนังเรื่องนี้แล้วผมติดใจ ผมหลงเสน่ห์ของมันแล้วและก็อยากจะทำต่อไป แล้วสิ่งที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้ก็คือ ความหมายของโอเซกไกซึ่งมันแปลว่าสาระแนจริงๆ คือคำๆ นี้ผมเลยอยากจะค้นหาให้ทั่วว่าแต่ละประเทศมันเรียกว่าอะไร อาจจะมีสาระแน ซาเลาะเก๊าะ อะไรทำนองนี้"

ทันทีที่เห็นหนังตัวเองเสร็จสมบูรณ์พร้อมฉายแล้วรู้สึกอย่างไร?
"ผมบอกตามตรง ผมอยากจะบอกว่าทำได้ขนาดนี้เลยหรือวะ (หัวเราะ) ผมต้องขอบคุณเลยนะM๓๙ ที่เขามองเราอย่างเข้าใจ ซึ่งถ้าเราทำกันเองเราก็อาจจะรู้สึกว่าคนข้างนอกเขามองว่าเออ พวกเราตลกกันเองหรือเปล่าวะ ถ้าไม่ได้M๓๙ หนังเรื่องนี้จะไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ คือมันเหมือนคนทำอาหารน่ะ พี่ยอร์ชเป็นกุ๊ก ผมเป็นคนหาของหาผักที่คุณภาพดีมาให้พี่คอยปรุง ทางโยชิโมโต้ เอาโปรดักชั่นดีๆ มาให้เรา...กระซิบเลยว่าหนังมันไม่จบแค่นั้น มันมีอะไรต่อ ไอ้แก๊งนี้มันหนังจบมันยังไม่จบ แต่บอกไม่ได้"

โปรเจ็กต์นี้เกี่ยวกับการออกไปของ "เปิ้ล นาคร" หรือเปล่า?
"หนังเรื่องนี้คิดตั้งนานแล้วครับ พี่เปิ้ลถอนหุ้นตั้งแต่กันยาปีที่แล้ว ผมคิดหนังเรื่องนี้เสร็จตอนธันวาฯ เขารู้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีเขาอยู่แล้ว ก็ไม่ได้เกี่ยวกัน..."

ตั๊ก-แจ๊ส ถูกหลอกไปถ่ายรายการทีวี
เคน ภูภูมิ ถูกหลอกไปเป็นพรีเซ็นเตอร์
เนโกะ จั้มพ์ ถูกหลอกไปถ่ายเกมโชว์
ว้ากกิ-ฮิเดะ
อ้น-พายไก่
กำลังโหลดความคิดเห็น