หนังเอวีได้กลายเป็นความบันเทิงของหนุ่มๆ ทั้งชาวญี่ปุ่น และต่างชาติ มานานหลายปี ย้อนหลังกลับไปในยุค 80s อันเป็นช่วงตั้งไข่เริ่มต้นของวงการหนังวาบหวิวจากแดนอาทิตย์อุทัย มีดาราหญิงหลายคนที่กลายเป็นดาวเด่นขึ้นมา กลายเป็นราชินีเอวีรุ่นแรกของวงการ
เมื่อช่วงปี 80s ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ในวงการบันเทิงมีการตรากฎหมายว่าด้วยการจัดเรตภาพยนตร์ฉบับใหม่ ที่ทำให้ลมหายใจของ “พิงค์ฟิล์ม” ความบันเทิงสำหรับเพศชายอันเก่าแก่ต้องถึงกาลอวสาน แต่กลับมีเป็นจุดเริ่มต้นของความบันเทิงประเภทใหม่ที่มีชื่อว่า “วิดีโอสำหรับผู้ใหญ่” หรือ “Adult Video” ที่คราวนี้ไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงภาพยนตร์กันอีกแล้ว แต่ความเซ็กซี และปลุกอารมณ์ทางเพศได้เดินทางมาถึงที่บ้านในรูปแบบของม้วนวิดีโอ
ในยุคแรกของหนังเอวี ส่วนใหญ่ทั้งผู้กำกับ และนักแสดงนำ ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ก็คือบุคลากรที่โยกย้ายแหล่งทำมาหากินมาจากพิงค์ฟิล์มนั่นเอง เพราะส่วนใหญ่คุ้นเคยกับงานแสดงที่ไม่ต้องสวมเสื้อผ้ากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเอวีเริ่มต้นไปได้ซักระยะก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น
หลังแฟนๆ เริ่มเบื่อหน่ายกับใบหน้า, รูปร่าง และ ลีลา ของดาราหน้าเก่า ทำให้มีการค้นหาสาวหน้าใหม่มาประดับวงการเอวี มีหญิงสาวหน้าใหม่หันหน้าเข้าสู่วงการเอวีมากขึ้น หลายๆ คนไม่เคยมีประสบการณ์ในวงการบันเทิงสาขาใดมาก่อนเลย เพราะเอวีดูจะเป็นประตูที่เปิดกว้างมากที่สุด สำหรับหญิงสาวที่ใฝ่ฝันถึงงานในวงการบันเทิงนั่นเอง
ขณะเดียวกับที่วงการเอวีเองก็ต้องการหญิงสาวที่มีความสดใหม่ ไม่เคยมีใครเห็นหน้าค่าตามาก่อนอยู่ตลอดเวลา จนเริ่มต้นมีการค้นหาสาวสวยหน้าใหม่จากทั้งย่าน รปปงหงิ, ชินจูกุ และ ชิบูยะ ขณะเดียวกันก็มีสาวๆ อีกหลายคนที่เดินมาเข้าสมัครเป็นดาราเอวีด้วยตัวเอง
ช่วงเวลาของยุค 80s จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เมื่อวงการเอวีค่อยๆ ปรับตัวเปลี่ยนโฉมมาจากยุคสมัยของพิงค์ฟิล์ม เข้ามาสู่แนวทางและรูปร่างหน้าตาอย่างที่เราคุ้นเคยกันในยุคปัจจุบัน กับการเป็นเวทีของหญิงสาวหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก และในเวลาเดียวกันก็เป็นโอกาสสุดท้ายของหญิงสาวที่เคยมีงานอยู่ในวงการบันเทิงกระแสหลัก จนกลายมาเป็นอุตสาหกรรมหนังโป๊ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
“เคโกะ นากาซาวา” ตำนานบทแรกที่หายสาบสูญ
ในยุคเริ่มต้นของอุตสาหกรรมเอวีมีดาราสาวหลายคนที่กลายเป็นดาวเด่นขึ้นมา บางคนย้ายข้ามมาจากฝากของพิงค์ฟิล์ม ขณะที่บ้างคนก็ก้าวขึ้นมาจาธุรกิจสายอื่น “เคโกะ นากาซาวา” คือ หนึ่งในนักแสดงหญิงผู้โด่งดังในยุคเริ่มต้นของหนังเอวี
สาวจากอิวาเทะคนนี้ เคยทำงานเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ในภัตตาคารในแถบโตเกียว และได้รับฉายาว่า “Downtown Sun” จากบรรดาแขกที่ติดอกติดใจสาวเสิร์ฟคนนี้ จนกลายเป็นขาประจำของร้าน
ด้วย ผิวสีแทน, หุ่นนักกีฬา และรูปร่างผอมเพรียว นากาซาวา เป็นขวัญใจของบรรดาแขกของร้าน จนความสวยไปเข้าตาเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์เข้า ทำให้เธอได้เริ่มเล่นหนังพิงค์ฟิล์ม ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคหนังเอวี เธอได้กลายเป็นดาราแม่เหล็กคนแรกๆ มีผลงานมากมายในแนวนี้โดยเฉพาะหนังชุด “Bocky” ที่มีออกมาหลายภาค
ในปี 1988 นากาซาวา ยังกลายเป็นนักแสดงหญิงในวงการเอวีคนแรกๆ ที่ยอมเล่นฉาก “anal sex” หรือร่วมรักทางประตูหลัง แม้จะเป็นเรื่องปกติของทุกวันนี้ไปแล้ว แต่ก็ถือว่าค่อนข้างล่อแหลมไม่น้อยในยุคนั้น เธอมีผลงานมากมายอยู่ในช่วงปลายยุค 80s ก่อนจะทิ้งให้ Ecstasy 5 เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนจะออกจากวงการ AV ไป ได้แต่งงานแต่งการและให้กำเนิดลูกน้อย เริ่มต้นสร้างครอบครัวมีชีวิตแบบหญิงสาวชาวญี่ปุ่นทั่วๆ ไป
หลังกลายเป็นแม่คนดาราเอวีคนดังได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับนิตยสาร Goro ถึงประสบการณ์การให้กำเนิดลูกน้อย ที่เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความกดดัน ใช้เวลาเบ่งท้องนานเป็น 10 ชั่วโมง แม้สุดท้ายจะได้รับรางวัลเป็นลูกตัวน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่เธอยมรับว่าหนักหนาสาหัสมาก นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ เคโกะ นากาซาวา ปรากฏโฉมในหน้าสื่ออย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นชื่อของเธอจึงหลงเหลือเป็นเพียงตำนานคนแรกๆ ของวงการเอวีเท่านั้น
เอวีปัญญาชน “คาโอรุ คุโรกิ” ผู้เปลี่ยนแปลงภาพดาราเอวี
อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวถึงหญิงสาวที่เปลี่ยนแปลงวงการเอวีไปมากที่สุด ก็คงต้องกล่าวถึง “คาโอรุ คุโรกิ” เป็นคนแรกๆ
นักแสดงหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็น “นักแสดงระดับดาราดังคนแรก” นอกจากจะเป็นดาวเด่นในวงการหนังโป๊แล้ว อดีตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยโยโกฮามาคนนี้ ยังเป็นแขกรับเชิญของรายการโทรทัศน์ในภาคดึก และเป็นพรีเซนเตอร์ในโฆษณาที่หลายๆ ชิ้นถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศ เป็นสาวเอวีได้รับการยอมรับในสื่อกระแสหลักเป็นคนแรกๆ
นอกจากความโด่งดัง และความสำเร็จในวงการแล้ว การแสดงจุดยืนที่ว่าเธอเดินเข้าสู่ถนนเอวีในฐานะเป็นทางเลือก ไม่ใช่ความจำเป็นในชีวิต ก็ยิ่งทำให้หญิงสาวคนนี้ได้รับการจดจำขึ้นไปอีก
หญิงสาวผู้มีการศึกษาชื่นชมงานของผู้กำกับชั้นครูไม่ว่าจะเป็น นางิสะ โอชิมะ, อิงมาร์ เบิร์กแมน และแบร์นาร์โด แบโตลุคคชี แต่เธอยืนยันว่าในมุมมองของตัวเอง หนังเอวีนั้นแตกต่างจากภาพยนตร์โดยทั่วไป ...
“เอวีมีบรรยากาศที่แตกต่างออกไปค่ะ มันไม่ได้เป็นเรื่องราวของเหตุผลอะไรนัก จริงๆ แล้วเป็นสิ่งพื้นฐานมากๆ สำหรับคนเรามากกว่า เหมือนเปรียบเทียบกับการที่คุณไปร้านอาหารสั่งอะไรมากินตามเมนู กับเวลาที่คุณหิวมากๆ เลยตัดสินใจเข้าร้านบะหมี่ไป สั่งมากินซักชาม ความอยากต่อวิดีโอโป๊ก็เป็นสิ่งประเภทเดียวกัน คุณไปที่ร้าน เช่าอะไรก็ได้ที่กระตุ้นอารมณ์ได้มาซักม้วน ก็เหมือนกับอาหารที่คุณสามารถใช้วัตถุดิบง่ายๆ มาปรุงได้นั่นแหละ คุณสามารถบำบัดความอยากของตัวเองได้จากม้วนวิดีโอพวกนี้”
คุโรกิ เข้าสู่โลกของเอวีในวันที่ 2 ต.ค.1986 กับสังกัด Crystal-Eizou ภายใต้การทำงานกับ โทรุ มุระนิชิ ผู้กำกับหัวก้าวหน้า ที่ทั้งสองได้ร่วมกับพัฒนาแนวทางการถ่ายทำเลียนแบบหนังสารคดีขึ้นมา จนกลายเป็นวิธีสร้างหนังเอวีที่สำคัญอย่างยิ่งในเวลาต่อมา
ทั้งสองได้ร่วมงานกันไปอีกหลายปี รวมถึงเมื่อ มุระนิชิ ก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง คุโรกิ ก็ตามไปเป็นนางเอกให้กับเขาอีก หนังเอวีที่เธอแสดงมักจะเริ่มต้นด้วยการนั่งพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ คุโรกิ จะเริ่มต้นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ มีช่วงการถ่ายแบบทั้งในชุดว่ายน้ำ และนู้ด ก่อนจะถึงฉากการแสดงบทรักอันหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภท S&M
นักแสดงหญิงรายนี้ตัดสินใจถอนตัวจากวงการไปในปี 1994 จนกระทั่งอีก 8 ปีต่อมาจึง Shukan Post ได้ตีพิมพ์ภาพและเรื่องราวของเธอ ที่ตอนนี้ใช้ชีวิตแบบผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งไม่ได้อยู่ในสายตาของสาธารณะอีกต่อไป อย่างไรก็ตามบทความดังกล่าวกลับเป็นที่มาของการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันวุ่นวาย เมื่อฝ่ายอดีตดาราเอวียืนยันว่าเธอยังไม่ได้อนุญาตให้นิตยสารตีพิมพ์เรื่องราวของเธอ และเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินถึง 22 ล้านเยน
ซึ่งแม้จะออกจากวงการไปหลายปีแล้ว งานเก่าๆ ของ คาโอรุ คุโรกิ ยังคงเป็นสินค้าขายดีต่อไป แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือบทบาทในการเปลี่ยนโฉม “ดาราเอวี” ของเธออย่างที่ โรสเมรี คาวามูระ ได้ให้ความเห็นไว้ว่า คาโอรุ คือผู้เปลี่ยนแปลงภาพของสาว ๆ เอวี เธอไม่ได้เล่นวิดีโอประเภทนี้เพราะชีวิตอับจนหนทาง แต่มองมันคือทางเลือกหนึ่งของชีวิต ลบภาพของสาวๆ ที่มีชีวิตริ้นไร้ไม้ตอก หรือถูกบีบบังคับด้วยกำลัง ที่เป็นภาพจำดั้งเดิมของวงการได้พอสมควร
การกล้าเผชิญหน้ากับสื่อสาธารณะ ออกความคิดเห็นเรื่องการเซ็นเซอร์ หรือเรื่องเซ็กส์ได้อย่างตรงเป้า, แหลมคม ก็ยิ่งทำให้เธอโด่งดังขึ้นไปอีก จนเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่าอดีตดาราเอวีผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ คือผู้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพาเอวีขึ้น “บนดิน” และมีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ ดาราเอวีรุ่นน้องรุ่นหลาน ได้รับการยอมรับมากขึ้น
ต้นแบบสาวไซส์ใหญ่ “เอริ คิคุจิ”
“เอริ คิคุจิ” ถือเป็นดาราเอเชียที่มีจุดขายด้าน “มหึมา” คนแรกของวงการ กับหน้าอกหน้าใจขนาด “คัพอี” โดยหลังจากเริ่มรับงานประเภท “ใต้ดินมาก่อน”
คิคุจิ เริ่มเปิดตัวในวงการเอวีกระแสหลักครั้งแรกในปี 1986 ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะการออกงานในแบบม้วนวิดีโอเท่านั้น แต่เธอยังมีงานถ่ายแบบในนิตยสาร และเล่นภาพยนตร์สำหรับฉายในโรงด้วย ด้วยวัย 47 ปี คิคุจิ ยังคงกลับไปรับเล่นหนังเอวีอยู่เป็นระยะ
คิคุจิ นับว่าเป็นนักแสดงเอวีคนแรกๆ ที่สร้างชื่อได้ด้วยการมีหน้าอกหน้าใจใหญ่โตเป็นพิเศษ (อย่างน้อยก็สำหรับญี่ปุ่นในยุคนั้น) ถึงขั้นเป็นหนึ่งในผู้สร้างกระแส “เคียวเนียวบูม” หรือ “สาวอกโต” ในช่วงปลายยุค 1980s จนในปี 1989 มี คิมิโกะ มัตสึซากะ มาช่วยสร้างกระแสให้ชื่นชอบสาวทรงโต จะกลายเป็นหนึ่งในรสนิยมกระแสหลักของวงการเอวีในตลอดยุค 90s ไปโดยปริยาย
หลังจากถอนตัวออกจากวงการไปซักระยะ คิคุจิ จึงหวนคืนสู่วงการเอวีอีกครั้งในยุค 2000s ทั้งกับบทบาท “อาจารย์” ที่คอยให้ความรู้กับ คนทำหนังรุ่นใหญ่ ที่สนใจอยากลองงานในวงการหนังสำหรับผู้ใหญ่อย่างที่เธอเชี่ยวชาญดู ที่ “โรงเรียนสอนทำหนังเอวี” ชื่อดังของ อดีตนักแสดงหนังโป๊ นอกจากนั้น คิคุจิ ก็ยังกลับมาเป็นดาราหน้ากล้องอีกครั้งด้วย กับบทบาทนักแสดงสาวใหญ่สำหรับผู้มีรสนิยมหญิงสูงวัย และมีงานต่อเนื่องไปอีกหลายปี
ราชินีเอวี “ฮิโตมิ โคบายาชิ” ที่ปฏิเสธการเล่น “จริง”
ฮิโตมิ โคบายาชิ คือดาราเอวีคนสำคัญแห่งยุค 80s อีกคน เป็นหนึ่งในผู้ที่สมควรได้รับตำแหน่ง “ราชินี” แห่งวงการมากที่สุดคนหนึ่ง ว่ากันว่า การกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่น ไม่สามารถปล่อยผ่านข้ามชื่อของเธอไปได้อย่างเด็ดขาด
Mainichi Shimbun เรียกเธอว่า เป็น “หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์หนังสำหรับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่น” ขณะที่คนในวงการยกให้เธอเป็น “ควีนออฟเอวี” ในช่วงการก่อร่างสร้างตัวของวงการ และ Shukan Shincho ยกให้เธอเป็นผู้วางรากฐานให้กับยุคทองของเอวี
ฮิโตมิ โคบายาชิ เกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ย.1963 (ที่ระหว่างอยู่ในวงการเธอยอมรับว่าโกงอายุ เปลี่ยนปีเกิดไปเป็น 1965) มีความฝันในวัยเด็กที่อยากจะเป็นนักแสดง เมื่อเข้าสู่วัยสาวก็ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนการแสดง และยังลงทะเบียนกับเอเยนซีดาราด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องเข้าวงการด้วยทางลัดกับการถ่ายแบบเซ็กซี และหนังวับๆ แวมๆ
หลังเปิดตัวในงานแนววาบหวิวกับอัลบั้มเซ็กซี และออกม้วนวิดีโอถ่ายแบบ โคบายาชิ จึงก้าวเข้าสู่วงการเอวีในปี 1986 มีผลงานมากมาย โด่งดังถึงขั้นที่ว่าได้งานแสดงภาพยนตร์แนวซอฟคอร์ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงอีกด้านของ โคบายาชิ ก็คือการเป็นนักแสดงเอวีที่ปฏิเสธการ “เล่นจริง” เธออ้างว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างหัวเก่า เสียพรหมจรรย์เมื่ออายุได้ 18 ปีเต็มถือว่ามากพอสมควรเมื่อเทียบกับสาวๆ คนอื่นๆ และไม่ค่อยมีประสบการณ์ทางเพศมากนัก
จุดเริ่มต้นในวงการของ โคบายาชิ เกิดขึ้นอย่างที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจนัก เมื่อได้รับการติดต่อให้เล่นหนังเรื่อง Kinjirareta Kankei (Forbidden Relationship) ของทางสตูดิโอ VIP ที่เธอคิดว่ามีเพียงฉากรักธรรมดา ๆ และบทนู้ดในระดับภาพยนตร์เรตอาร์ทั่วๆ ไป แต่กลายเป็นว่านี่คือหนังเอวี สุดท้ายมีการเจรจาตกลงกันว่าเธอจะยอมแสดงก็ต่อเมื่อ “ฉากรัก” ใช้วิธีถ่ายทำโดยไม่ต้อง “ร่วมรัก” จริงๆ เท่านั้น แต่สุดท้ายหนังเรื่องนี้กลับประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ชื่อของ โคบายาชิ จึงกลายเป็นดาวเด่นของวงการนับตั้งแต่ตอนนั้น
กฎหมายเซนเซอร์ในญี่ปุ่น ยังช่วยให้ โคบายาชิ ทำงานในหนังเอวีได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น เพราะเธอไม่ต้องร่วมรักจริงๆ ในการถ่ายทำฉากรักแต่อย่างใด เพียงใช้การแสดง และเทคนิคทางภาพยนตร์ก็สามารถทำให้เธอประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ทำงานอยู่ในวงการ ตัวของเธอเองยังกล่าวว่าการแสดงหนังเอวีคือการ สาขาของการแสดงแบบหนึ่งของตนเอง ที่ต้องใช้เทคนิคหลายๆ อย่างในการช่วยสร้างความสมจริงสมจัง รวมถึงการให้ผู้กำกับช่วย “จั๊กจี้” เท้าเพื่อแสดงฉากถึงจุดสุดยอด
ต่อมาในยุคที่เริ่มมีหนังประเภท “อันเซนเซอร์” ออกจำหน่ายในตลาดใต้ดิน อาชีพของ โคบายาชิ ก็เดินทางมาถึงจุดสุ่มเสียงอีกครั้ง เมื่อมีหนังประเภทอันเซนเซอร์เรื่องหนึ่งของเธอหลุดไปสู่ตลาด จนอาจทำให้ “ราชินีเอวี” ถูกตั้งคำถาม และโดนโจมตีว่าไม่ได้ “แสดงจริง” ในหนังของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่มีสิ่งใดที่จะทำอะไร ฮิโตมิ โคบายาชิ ได้ เพราะเธอยังคงโด่งดังต่อเนื่องไปอีกหลายปี
ฮิโตมิ โคบายาชิ ถอนตัวจากวงการไปแบบชั่วคราวหลังปี 1989 แต่ก็กลับมาออกผลงานอีก ในหนังแนวสาวใหญ่ และมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์ และม้วนวิดีโอ ในปี 2001 ยังร่วมกับสามีเปิดไนท์คลับในร็อปปงหงิด้วย จนกระทั่งเมื่อปี 2003
ด้วยการปล่อยผลงานที่ชื่อว่า Hitomi Kobayashi FINAL ออกมาซึ่งว่ากันว่าจะเป็นผลงานชิ้นสุดท้าย ที่จะประกอบไปด้วย หนังเอวี 2 ตอนความยาวร่วม 2 ชั่วโมงครึ่ง มีการเชิญนักลงทุนจำนวนถึง 35 คนมาร่วมดินเนอร์สุดพิเศษ ที่ทุกคนจะได้มีชื่ออยู่ในเครดิตของหนัง และได้สิทธิ์ชมภาพในวิดีโอก่อน แลกกับเงินคนละ 500,000 เยน แต่สุดท้ายกลับมีรายงานว่าผู้ลงทุนหลายราย ไม่ได้รับเงินเงินเมื่อหนังออกจำหน่าย พร้อมกลับข่าวที่ว่าสามีของเธอนำเงินจำนวนหนึ่งไปใช้จ่ายในเรื่องอื่น และใช้หนี้ส่วนตัว กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่ทำให้ "ราชินีเอวี" ออกจากวงการไปอย่างไม่ค่อยสวยนัก
“เคียวโกะ ไอโซเมะ” เจ้าแม่ฮาร์ดคอร์
มีดาราเอวีหลายคนที่ได้ชื่อว่าเป็น “คนแรก” และ “ราชินี” เช่นเดียวกัน เคียวโกะ ไอโซเมะ ที่มีฉายาว่า เป็น ราชินีเอวีคนแรก สำหรับในแนวทางหนังฮาร์ดคอร์
หญิงสาวจากเมือง โนะดะ จังหวัดจิบะ เคียวโกะ ไอโซเมะ เติบโตขึ้นมาในบ้านที่เต็มไปด้วยปัญหา พ่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มักจะตบตีภรรยา ที่เป็นแม่ของเธออยู่เป็นประจำ จนเมื่ออายุได้ 16 ปี พ่อแม่ก็แยกทางกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เธอจบการศึกษาพอดี หลังจากนั้นไม่นานจึงได้เข้าสู่วงการบันเทิงหลังความสวยน่ารักไปเข้าตาแมวมอง จนได้งานเป็นนางแบบภาพนู้ดสำหรับนิตยสารสำหรับผู้ใหญ่
ไอโซเมะ กลายเป็นนักแสดงในหนังพิงค์ฟิล์ม ได้ทำงานกับผู้กำกับดังหลายคนไม่ว่าจะเป็น ชินยะ ยามาโมโตะ ใน Molester's Subway หรือ ยาซึฮารุ ฮาเซเบะ เจ้าพ่อหนังพิงค์ฟิล์มแนวขายความรุนแรงที่เลือกเธอให้รับบทำในหนัง Raping! เมื่อปี 1978 และยังได้เล่นหนังดังอย่าง Angel Guts ของ ทานากะ โนบุโระ ด้วย
เท็ตซึจิ ทาเคจิ เป็นอีกคนที่เห็นแววของ ไอโซเมะ กับโครงการหยิบเอาหนังสุดดังในอดีตของเขาเรื่อง Daydream กลับมาสร้างใหม่ แต่ในฉบับที่เรียกว่า “ฮาร์ดคอร์” เต็มไปด้วยฉากการร่วมเพศอันรุนแรง ตัวของดาราสาวก็ยอมรับว่าเธอ “เล่นจริง” ในหนังเรื่องนั้น ผลสุดท้าย Daydream ฉบับปี 1981 จึงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม Asahi Shimbun ถึงกับขนานนามหนังเรื่องนี้ว่าเป็น “หนังโป๊ฮาร์ดคอร์เรื่องแรกของญี่ปุ่น” กันเลยทีเดียว
เมื่อยุคสมัยของเอวีเดินทางมาถึง ไอโซเมะ คือ นักแสดงคนหนึ่งที่ได้ก้าวผ่านไปพร้อมกันด้วย เธอเปิดตัวในวงการเอวีทันทีในปี 1981 หนังหลายๆ เรื่องถึงกับใช้ชื่อของเธอไปตั้งเป็นชื่อเรื่องไม่ว่าจะเป็น Kyōko Aizome's Somber Reminiscence หรือ Kyōko Aizome's Widow's Boarding House หลังถอนตัวจากวงการไปในปี 1994 ไอโซเมะ จึงผันตัวไปเต้นระบำเปลื้องผ้า ก่อนจะกลับมามีชื่อในสื่ออีกครั้ง หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่เธอถูกแจ้งความว่าทำร้ายร่างกายญาติ ก่อนที่ ไอโซเมะ จะสารภาพในเวลาต่อมาว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเธอสงสัยว่าญาติคนนี้ จะมีพฤติกรรมมาแย่งแฟนหนุ่มของเธอ แต่สุดท้ายเรื่องราวกลับเลยเถิดเป็นคดีความโดยที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจ
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
