xs
xsm
sm
md
lg

ปริศนาเบื้องหลังภาพชุดคนกินเด็ก/ต่อพงษ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คราวที่แล้วเขียนแรงบันดาลใจของอุตสาหกรรมหนังในโลกที่เกิดจากการกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเอง นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีอีกคนที่ก่อให้เกิดกระแสเรื่องของการต่อต้านการกินเนื้อมนุษย์อีกคนที่ยังไม่ได้พูดถึง เพราะ ย้อนกลับไปซัก 10 ปีก่อนหน้านี้ เคยมีภาพชุดๆหนึ่งที่เผยแพร่ออกทางอินเตอร์เน็ต และสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่คนที่มีโอกาสได้ดูภาพชุดนั้นเป็นอย่างยิ่ง

เนื้อหาของภาพชุดนั้นเป็นรูปผู้ชายหัวเกรียนร่างใหญ่อยู่คนหนึ่ง กำลังเอาตัวอ่อนของคนมาผัดบ้าง ย่างบ้าง และสุดท้ายก็คือ เขาเอาตัวอ่อนนั้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย เล่นเอาคนที่ตามดูมาเรื่อยๆเกือบอ้วก

ในการแพร่หลายทางอินเตอร์เน็ตนั้นมีคำบรรยายใต้ภาพชุดที่ว่านี้อยู่ 3 แบบด้วยกัน อย่างที่หนึ่งบอกว่า นี่คือ ภัตตาคารของไต้หวันแห่งหนึ่งที่คุณสามารถจะสั่งเนื้อทารกหรือตัวอ่อนมาเป็นอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพให้อายุยืนยาวในราคาไม่เท่าไหร่

ส่วนคำบรรยายอย่างที่สองก็บอกว่า นี่คือประเพณีของชาวญี่ปุ่นบางส่วนที่กำลังย่างเด็กและกินเนื้อเด็กชาวจีนสมัยที่ญี่ปุ่นรุกรานจีนโน่นไปเลย แต่ปัจจุบันสามารถซื้อทานได้ในร้านอาหารญี่ปุ่นในราคาราว 10000 – 12000 เยน คำบรรยายแบบหลังนี่หลายฝ่ายเดาว่า น่าจะเป็นผลงานของคนเล่นเนตชาวเกาหลีใต้ที่หยิบยกอะไรก็ตามแต่มาโจมตีญี่ปุ่นซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยจากการนี้ ที่เขาสงสัยกันว่าอย่างนั้นก็เพราะว่า คำบรรยายมันเป็นภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษนั่นเอง

คำบรรยายแบบที่สาม บอกว่านี่คือเบื้องหลังของภัตตาคารในเมืองจีนแห่งหนึ่งที่เสิร์ฟอาหารพิศดารหรือวิตถารให้แก่คนที่มีรสนิยมในทางดียวกัน และเรียกร้องให้มีการต่อต้านการกินอาหารเหล่านี้ แน่นอนว่า ที่เขาหมายความนั้นไม่ใช่เรื่องของเนื้อมนุษย์อย่างเดียว แต่ไล่มาตั้งแต่การกินสมองลิง อุ้งตีนหมี ไปจนกระทั่งสัตว์หายากที่กำลังจะสูญพันธ์ด้วย

ภาพชุดนี้ทำเอาคนทั่วโลกเชื่อว่าเป็นของจริง เพราะ ข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีโรงพยาบาลขายซากของเด็กที่ถถูกทำแท้งเพื่อเอามาทำเป็นอาหารในไต้หวันและในจีน ตามความเชื่อที่ว่ามันเป็นยาโป๊ว กรรมาธิการของสหรัฐในยุคของคลินตันเคยบอกให้มีการสอบสวนเรื่องการบริโภคซากเด็กอ่อนที่ว่านี้ด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อมีภาพชุดออกมาคนก็ย่อมเชื่อว่ามันเป็นจริง

แต่ไปๆ มาๆ เบื้องหลังของภาพชุดนี้กลับไม่ใช่ในคำบรรยายทั้ง 3 ภาพที่ว่าเลยครับ เพราะแท้ที่จริงภาพชุดเหล่านี้เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของศิลปินชาวจีนชื่อดังคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า จูหยู (Zhu Yu) ชาวเฉิงตูที่เปิดการแสดงผลงานภาพชุด “ Eating People” ขึ้นเมื่อปี 2000 ในนิทรรศการเซี่ยงไฮ้ อาร์ต เฟสติวัล ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนนั่นเอง งานศิลป์ชิ้นนี้ดูเหมือนว่าไม่มีใครเก็ตกันเลย เพราะคนส่วนใหญ่ที่ได้เห็นภาพชุดนี้ ถ้าไม่กรี๊ดแตกตั้งแต่เริ่มต้น ก็เปิดฉากด่ากันทันทีแบบคนทั่วไปที่ไม่ได้อ่านเนื้อหางานเขียน แต่แค่เห็นพาดหัวก็ด่ากันเสียแล้วนั่นเอง

ปี 2001 ภาพชุดดังกล่าวก็เริ่มถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต มันก่อให้เกิดปฏิกิริยากว้างขวางมากจากคนในโลกใบนี้ มันกลายเป็นว่าเกิดกระแสต่อต้านการกินอาหารแปลกหรือโหดๆที่ในเมืองจีนยังมีอยู่ จดหมายลูกโซ่ต่อต้านคนจีนสำหรับการทานอาหารแนวนี้เกิดขึ้นทั่วไป หรือบางคนก็จัดการรณรงค์ของการทารุณกรรมต่อทารกหรือต่อเด็กโดยใช้ภาพชุดนี้มาเป็นตัวเรียกร้อง ที่หนักกว่านี้ก็มีนะครับ เป็นการรณรงค์ให้ลดการทำแท้งและลดการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันไปเลย

ภาพชุดเดียวนี่แหล่ะครับทำให้โลกสั่นสะเทือนได้ถึงขนาดนี้

เพราะไม่ใช่แค่องค์กรภาคเอกชนหรือมูลนิธิต่างๆที่เอาภาพชุดคนกินเด็กมาใช้ มันยังลากเอา เอฟบีไอ ของอเมริกา และ สก็อตแลนยาร์ด ของทางอังกฤษต้องเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ว่า เรื่องของคนกินเด็กนั้นมีจริงๆหรือ

สถานีโทรทัศน์ บีบีซี แชนแนล 4 ถึงกับทำการสืบเสาะเรื่องนี้อย่างจริงจังจนสุดท้ายก็ทราบว่า งานนี้เป็นการสร้างสรรค์ของ จู หยู จนต้องบุกไปสัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ถกเถียงกันดังกล่าว แต่กว่าที่การสืบเสาะจะมาถึงก็ปาเข้าไปปี 2003 ซึ่งออกอากาศในสารคดีชุด Beijing Swings ซึ่งกล่าวถึงงานศิลปะที่ซ่อนเร้นและไม่เปิดเผยต่อโลกมาก่อนโดยศิลปินจีน ตัวสารคดีพยายามจะแสดงให้เห็นว่าศิลปินเหล่านี้สร้างสรรค์ผลงานทำนองนี้ออกมาเพราะความกดดันทางการเมืองและเสรีภาพที่รัฐบาลจีนมีต่อประชาชนในชาติ ในสารคดีเรื่องนี้เรียกมันว่า Extreme Art หรืองานศิลป์แบบสุดโต่ง

รายการที่นำเสนอนี้ออกอากาศตอนเวลา 5 ทุ่มของวันพฤหัสในอังกฤษ ตามปรกติแล้วก็ไม่ได้มีเรตติ้งที่น่าสนใจอะไรมากเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าเมื่อสารคดีเรื่องนี้ออกอากาศไป ปรากฏว่ามีคน 900000 คนดูรายการนี้ แถมยังมีโทรศัพท์เข้าไปด่าทีมงานกันกระจุยด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นรายการที่แสดงภาพที่น่าขยะแขยงมาก แต่กระนั้นเรตติ้งที่พุ่งกระฉูดเกือบๆจะกลายเป็นอันดับหนึ่งของช่อง (อันดับหนึ่งของ บีบีซี 4 ที่ว่ากันว่าคนดูเยอะที่สุดก็คือ หนัง เบเวอรี่ ฮิลส์ ค็อป ภาคสอง ที่แสดงโดย เอ้ดดี้ เมอร์ฟี่ )

แต่สารคดีชิ้นนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของการกินเด็กนะครับ ผู้ชมบางคนบอกว่าอยากจะอ้วกแตกมากเมื่อเห็นภาพของคนจีนกำลังดื่มเหล้าโดยมีชิ้นส่วนของไอ้จู๋ดุ้นหนึ่งใส่ลงมาใส่แก้วเหล้านั้นด้วย

แต่ประเด็นหลักก็คือ การให้สัมภาษณ์ของ จูหยู ที่สัมภาษณ์ประกอบกับภาพการกินเด็กนั้นอยู่ด้วย และเป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ที่ตลกกว่านั้นก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของเขาไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาเลย เขาบอกอย่างนี้ครับ

“ไม่มีศาสนาไหนบอกว่าการกินเนื้อเป็นเรื่องต้องห้าม แม้กระทั่งเนื้อมนุษย์” จูหยู เปิดประเด็นการคุย “ เช่นเดียวกันที่ว่าไม่มีกฏหมายฉบับไหนปกป้องเรากันเองให้พ้นจากการถูกกิน หรือห้ามไม่ให้เรากินคนด้วยกัน ผมสร้างงานศิลป์ชิ้นนี้จากช่องโหว่ของกฏหมายและศีลธรรม ซึ่งเป็นปัญหาของคนในยุคนี้…ความจริงผมเป็นคริสเตียนนะ แต่เนื้อหาของงานชิ้นนี้มันก็มีสาระของศาสนาอยู่ภายใน… เรื่องของศาสนาเป็นเนื้อหาหลักในงานของผมทีเดียวแหล่ะ”

แต่ประเด็นเรื่องคอนเซ็ปต์ของงานกลับไม่ได้สร้างความตื่นตะลึงได้มากเท่ากับเรื่องของภาพที่เขาบอกว่า ศพเด็กที่อยู่ในรูปถ่ายนั้นเป็นศพของจริงแท้แน่นอน เขาไปซื้อตัวอ่อนเหล่านั้นจากมือดีที่โขมยออกมาจากโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง

“เด็กในภาพนั้นเป็นของจริงล้วนๆ” จูหยู ยืนยัน “รสชาติมันแย่มาก ระหว่างถ่ายภาพชุดนี้ ผมอ้วกหลายรอบเพราะต้องกัดมัน มันไม่อร่อยเลย แต่ผมต้องทำเพราะมันเป็นการอุทิศให้กับศิลปะ” แต่ผลจากสารคดีและการให้สัมภาษณ์นั้น มีคนออกมาตั้งข้อสังเกตุมากมายว่า มันอาจจะไม่ใช่ศพจริงก็ได้ บาร์บาร่า มิคเคลเซน แห่ง Snopes.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชุมชนที่ว่าด้วยเรื่องราวของเรื่องร่ำลือและความจริง บอกว่ามันน่าจะเป็นหัวของตุ๊กตาที่เอามาเสียบกับเป็ดสดๆมากกว่า

ปัจจุบันจูหยูมีแกลเลอรี่แสดงผลงานของเขาที่ Xin Beijing Art Gallery ในปักกิ่ง งานของเขานอกจากภาพถ่ายแล้ว ก็ยังมีงานประเภทภาพสีน้ำมันอีกด้วย โดยผลงานของจูหยูที่แสดงมาโดยตลอดเป็นคอนเซ็ปต์ว่าด้วยเรื่องของเนื้อ อาหารการกิน และ การทำให้การรับประทานของมนุษย์เป็นเรื่องขยะแขยงสุดๆไปเลยครับ



กำลังโหลดความคิดเห็น