เอเจนซีส์ - สถานการณ์ในเอเชียตะวันออกตึงเครียดอีกครั้ง หลังผู้นำญี่ปุ่นประกาศ “ใช้กำลังขับไล่” หากจีนขึ้นเกาะที่เป็นกรณีพิพาทกัน ขณะเรือตรวจการณ์จีนเล่นเกมแมวจับหนูกับเรือหน่วยยามฝั่งและกองเรือของนักชาตินิยมญี่ปุ่น อีกด้าน ส.ส.แดนอาทิตย์อุทัยเกือบ 170 คน เดินทางไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิ โดยไม่สนใจการประท้วงและโจมตีจากเพื่อนบ้านที่เคยถูกกองทัพญี่ปุ่นรุกราน
โตเกียวเรียกเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบเพื่อประท้วงในวันอังคาร (23) หลังจากเรือของทางการจีนแต่ไม่ใช่เรือรบกองทัพเรือจำนวน 8 ลำ แล่นเข้าสู่น่านน้ำรอบๆ หมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งญี่ปุ่นเห็นว่าเป็นการรุกล้ำอาณาเขตของตน กองเรือแดนมังกรที่เข้ามาครั้งนี้นับว่ามีจำนวนมากที่สุด ตั้งแต่ที่ทางการญี่ปุ่นซื้อกรรมสิทธิ์หมู่เกาะเหล่านี้จากเอกชนของตนในเดือนกันยายนปีที่แล้ว
หมู่เกาะเล็กๆ มีชื่อว่า “เซงกากุ” ในภาษาญี่ปุ่น และ “เตี้ยวอี๋ว์” ในภาษาจีนนี้ อุดมด้วยสัตว์น้ำและเชื่อว่ามีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ใต้ทะเล
วันอังคารเช่นกัน นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น ยังได้ตอบกระทู้ในสภาโดยประกาศว่าจะ “ใช้กำลังขับไล่” หากฝ่ายจีนส่งคนขึ้นไปบนหมู่เกาะเซงกากุ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาจะใช้ “การปฏิบัติการที่เด็ดขาด”
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา จีนส่งเรือเข้ามายังน่านน้ำรอบๆ หมู่เกาะนี้อยู่บ่อยครั้ง นำไปสู่ข้อพิพาททางการทูตระหว่างสองประเทศ
สำหรับครั้งล่าสุด หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นรายงานว่า เรือตรวจการณ์ของจีนเข้าสู่บริเวณ 12 ไมล์ทะเลของหมู่เกาะเซงกากุ ในเวลาประมาณ 08.00 น. (ตรงกับเวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย)
ทางด้านโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตำแหน่งทรงอิทธิพลอย่างยิ่งในระบบการเมืองของแดนอาทิตย์อุทัยนั้น ก็ได้ออกมาประณามการกระทำของจีนคราวนี้ว่า น่าตำหนิและยอมรับไม่ได้
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า กลุ่มชาตินิยมญี่ปุ่นได้ส่งเรือ 9 ลำพร้อมนักเคลื่อนไหวราว 80 คนไปยังบริเวณรอบหมู่เกาะดังกล่าว ส่งผลให้ หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกคำแถลงประท้วงบ้าง
บรรยากาศอันระอุในบริเวณทะเลจีนตะวันออกคราวนี้ ยังเกิดขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่พวกชาติเพื่อนบ้านของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาหลีใต้และจีนกำลังแสดงความโกรธกริ้วจากการที่พวกผู้นำทางการเมืองของแดนอาทิตย์อุทัย แสดงการสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิ ในกรุงโตเกียว ศาลเจ้าสงครามในศาสนาชินโตแห่งนี้เป็นที่ระลึกผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งต่างๆ ของญี่ปุ่น รวมถึงผู้นำทางทหารในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกศาลสัมพันธมิตรตัดสินว่ามีความผิดฐานเป็นอาชญากรสงคราม
ทั้งนี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีอาเบะส่งต้นสนเป็นเครื่องเซ่นไหว้ไปยังศาลเจ้า และรัฐมนตรี 3 คนรวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง ทาโร อาโสะ เดินทางไปสักการะด้วยตนเองที่ศาลเจ้ายาสุคุนิในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตลอดจนสื่อจีน ขณะที่เกาหลีใต้ยกเลิกแผนการเยือนโตเกียวของ ยูน บยุง-เซ รัฐมนตรีต่างประเทศ
ปรากฏว่าในตอนเช้าวันอังคารได้มีสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่มากถึง 168 คนเดินทางไปไหว้ศาลเจ้าดังกล่าวอีก ซึ่งนับว่าเป็นการไปสักการะของสมาชิกรัฐสภากลุ่มใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาแถลงในวันอังคารว่า การเดินทางไปสักการะศาลเจ้าดังกล่าวของบรรดาผู้นำญี่ปุ่นไม่ว่ารูปแบบใด ล้วนเป็น “ความพยายามในการปฏิเสธความก้าวร้าวรุกรานในอดีตของญี่ปุ่น”
“มุมมองที่ญี่ปุ่นมีต่อประวัติศาสตร์ และการดำเนินการกับศาลเจ้ายาสุคุนิเป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับเพื่อนบ้านในเอเชียและประชาคมนานาชาติในการสังเกตและทำความเข้าใจบทบาทของญี่ปุ่นในอนาคต”
ขณะที่ โช ไต-ยัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ก็เรียกร้องโตเกียว “คิดให้ถ้วนถี่” เกี่ยวกับการเยือนศาลเจ้าดังกล่าว โดยเขาชี้ว่า “ศาลเจ้ายาสุคุนินั้นเป็นสถานที่ยกย่องให้เกียรติแก่สงครามและสักการะอาชญากร”
กระนั้น ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังคงยืนกรานว่า การไปสักการะดังกล่าวเป็นกิจส่วนตัว และรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด
ขณะที่รองนายกฯอาโสะก็บอกว่า ตนไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิตั้งแต่ปี 1953 และเดินทางไปไหว้เป็นประจำปีละ 2-3 ครั้งนับจากนั้น
“นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ และผมไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศอื่น”