เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยว ชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น กล่าวต่อรัฐสภาวันนี้ (31) ว่าเขามีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของประเทศ เพื่อผ่อนปรนข้อห้ามในการแก้ไขกฏหมายเพิ่มเติม
“ผมจะเริ่มแก้ไขมาตรา 96 ของรัฐธรรมนูญ ความเคลื่อนไหวที่หลายๆ ฝ่ายให้การสนับสนุน” อาเบะกล่าวกับวุฒิสมาชิก โดยอ้างถึงอนุมาตราที่กำหนดให้การแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายใดๆ ต้องได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของรัฐสภา
ผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่ซึ่งได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กล่าวว่า เขาต้องการศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับเปลี่ยนการนิยามกองกำลังทหารติดอาวุธของประเทศที่ระบุอยู่ในรัฐธรรมนูญ
กองทัพที่พร้อมด้วยเงินทุนและอาวุธยุทโธปกรณ์ของญี่ปุ่น ถูกกำหนดให้เป็นเพียงกองกำลังป้องกันตนเอง โดยห้ามไม่ให้ปฏิบัติการอันแข็งกร้าว และจำกัดบทบาทไว้เพื่อการป้องกันประเทศเท่านั้น
อาเบะกล่าวว่า เขาต้องการเปลี่ยนกองกำลังป้องกันตนเองให้เป็นกองทัพโดยสมบูรณ์ อันเป็นแผนการที่ทำให้หลายประเทศในเอเชียตื่นตัว โดยเฉพาะประเทศที่เคยถูกญี่ปุ่นรุกรานอย่างโหดเหี้ยมในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20
ทั้งนี้ กองกำลังสหรัฐฯ ที่เข้ายึดครองญี่ปุ่นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้บังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยพยายามที่จะผ่อนคลายมาตรา 9 ซึ่งหากตีความแบบเคร่งครัดจะห้ามมิให้ญี่ปุ่นมีกองกำลังทหารโดยสิ้นเชิง
อาเบะ นักการเมืองรุ่นที่ 3 ของตระกูล ผู้ซึ่งปู่ของเขาเคยเป็นรัฐมนตรีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหลังสงครามโลก พยายามเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายมาตรานี้มานานแล้ว
สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายรัฐธรรมนูญใดๆ จำเป็นต้องมีเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของทั้งสภาบน และสภาล่าง ทั้งยังต้องผ่านความเห็นชอบของประชามติด้วย
พรรครัฐบาล ลิเบอรัล เดโมแครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) และพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง นิว โคเมอิโตะ นั้นมีเสียงเกินกว่าเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสภาล่างแล้ว หลังการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ทว่า ในพรรคนิว โคเมอิโตะ และบางกลุ่มในพรรคแอลดีพีนั้นยังชั่งใจเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่
ขณะที่สภาสูง ซึ่งมีอำนาจน้อยกว่า ไม่ได้ถูกครอบครองไว้โดยพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่พรรคฝ่ายค้าน เดโมแครติก ปาร์ตี้ ออฟ เจแปร มีจำนวนที่นั่งในสภามากที่สุด