xs
xsm
sm
md
lg

“ไมเคิล บูเบลย์” เท่ครบรส กับบทเพลงคริสต์มาสอันดับหนึ่ง/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ปกหน้าอัลบั้ม Christmas
คนที่มีหน้าตาเป็นอาวุธ ประเภท หล่อ สวย ดูดี น่ารัก เท่ ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อวงการบันเทิง หนัง เพลง(รวมถึงวงการกีฬายุคใหม่)

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าที่ทำให้พวกเขาขึ้นมาโดดเด่นโด่งดังยิ่งใหญ่ได้ก็คือความสามารถ

ในต่างประเทศอย่างอเมริกา อังกฤษ และยุโรปนั้น เขายกฝีมือความสามารถมาก่อนหน้าตา ถ้าฝีมือดีหน้าตาหล่อสวย งานบันเทิงก็จะไปรุ่งได้อย่างไม่ยากเย็น สวนทางกับบ้านเราที่เน้นหน้าตาเป็นหลัก ความสามารถเป็นรอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เรามักจะเห็นดาราท่อนไม้ ดาราสากกะเบือ ดาราท่องบท นักร้องเสียงชักโครก นักร้องหลงคีย์ นักร้องเสียงเพี้ยน นักร้องไทยกายใจเกาหลี นักดนตรีมีแต่ท่า นักดนตรีห่วยแตก นักดนตรีแอ๊คอาร์ต และดารา นักร้อง นักดนตรี ที่ไร้ความสามารถ โด่งดังขึ้นมาในยุทธจักรบันเทิงบ้านเราได้อย่างไม่ยากเย็น

สำหรับนักร้องหนุ่มแคนนาเดี้ยน “ไมเคิล บูเบลย์”(Michael Bublé) ที่กำลังรุ่งสุดๆในยุคนี้ พ.ศ.นี้ หมอนี่นอกจากจะหล่อลากเลือดจนสาวเหลียวแล้ว ยังเป็นหนุ่มเสียงทองและมากไปด้วยทักษะความสามารถทางการร้องเพลง เขากับยอดโปรดิวเซอร์มือทอง “เดวิส ฟอสเตอร์”(Davis Foster) ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขับเคลื่อน ดนตรีป็อบ-แจ๊ซ แนวเรโทร สวิง บิ๊กแบนด์ และสแตนดาร์ดในยุคอเมริกันซองบุ๊ค ให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่ง

ไมเคิล มีผลงานสตูดิโออัลบั้มออกมา 4 ชุดด้วยกัน คือ Michael Bublé (2003), It’s Time (2005), Call Me Irresponsible (2007) Crazy Love (2009) และล่าสุดกลับผลงานชุด “Christmas”(สังกัด Warner Music) ที่เป็นดังธรรมเนียม(ของฝรั่ง)ไปแล้วว่าพอถึงช่วงปลายปีก่อนเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาสของทุกๆปี จะมีผลงานอัลบั้มคริสต์มาสจากจากนักร้องนักดนตรีมากหน้าหลายตาออกมา
ปกในอัลบั้ม Christmas
งานเพลงชุดนี้ไมเคิลยังคงควงคู่พ่อมด “เดวิด ฟอสเตอร์”(David Foster)มาเป็นโปรดิวเซอร์เหมือนเดิม สมทบด้วย “บ็อบ ร็อก”(Bob Rock)อีกคน รายหลังนี่แม้จะโดดเด่นทางด้านงานเพลงร็อก แต่ก็ดูเหมือนจะถูกโฉลกกับไอ้หนุ่มเสียงทองมาตั้งแต่ชุด Crazy Love แล้ว

Christmas แม้เป็นอัลบั้มพิเศษสดุดีเทศกาลคริสต์มาสของไมเคิล และเป็นดังจารึกของเขาไปกลายๆว่า ฉันมีอัลบั้มคริสต์มาสเป็นของตัวเองเหมือนกับศิลปินดังๆทั่วไปแล้ว แต่ว่าด้วยชื่อชั้นความแรงของไมเคิล มันก็สามารถหนุนส่งขึ้นไปครองบัลลังก์อันดับใน 1 บิลบอร์ดชาร์ต Top200 และอันดับ 1 ในบิลบอร์ดแจ๊ซได้อย่างไม่ยากเย็น

อัลบั้มนี้มีทั้งหมด 15 บทเพลง เบิกฤกษ์เปิดตัวกันด้วย “It's Beginning To Look A Lot Like Christmas” ที่ฟังเนิบนุ่มล่องลอย น้ำเสียงของไมเคิลนั้นนุ่มลึก มีไลน์เครื่องสายเท่ๆเล่นเป็นแบ๊คกราวน์ชวนฟัง และชวนให้นึกถึงสายลมหนาว หิมะ ซานตาคลอส กวางเรนเดียร์ ไก่งวง กันด้วย

ต่อกันด้วย “Santa Claus Is Coming To Town”(แทรค 2) เร่งจังหวะคึกคักขึ้นมาหน่อยกับสวิงแจ๊ซ วงบิ๊กแบนด์ เด่นด้วยเสียงทรัมเป็ตเป่าแผดสูงปรี๊ด ไมเคิลปรับน้ำเสียงให้สนุกแบบทีเล่นทีจริงไปตามอารมรืเพลงได้อย่างถึงอารมณ์

“Jingle Bells”(แทรค 3) มาในอารมณ์บรอดเวย์ จังหวะสวิงเร็วจี๋ มี 3 สาวประสานเสียง The Puppini Sisters มาฟีเจอริ่งสร้างสีสัน ฟังแล้วชวนให้นึกถึงละครเพลงที่พ่อหนุ่มไมเคิลวิ่งออกหน้าเวทีมาร้องเพลงโชว์หน้าหล่อๆเสียงเท่ๆ แล้ว 3 สาว พวกวิ่งไล่จับรุมทึ้งกันจนบนเวทีแทบจะกลายเป็นสนามตี่จับไป

“White Christmas”(แทรค 4) มีเจ๊ “ชาเนีย ทเวน”(Shania Twain) เพลงคริสต์มาสอมตะนิรันดร์กาลของบิง ครอสบี้ ที่ได้เจ้าแม่คันทรีมาร่วมฟีเจอริ่งในอารมณ์สนุก เจ๊แกบีบดัดได้ใจ ฟังฉีกหนีอารมณ์เพลงของเก่าได้เป็นอย่างดี

“All I Want For Christmas Is You”(แทรค 5) เพลงดังของสาวอึ๋ม มารายห์ แครีย์ ที่นำมาร้องแนวป็อบช้าๆ ให้ไมเคิลโชว์น้ำเสียงตามสไตล์ถนัดของเขา ภาคดนตรีมีไลน์เครื่องสายเล่นรองพื้น ฟังไพเราะเพราะพริ้ง
ปกหลังอัลบั้ม Christmas
ส่วน “Christmas (Baby Please Come Home)”(แทรค 9) เป็นแจ๊ซร็อคสนุกๆ ไมเคิลร้องถ่ายทอดเพลงนี้ออกมาแบบสบายๆ มีไลน์เครื่องสาย เครื่องเป่า แน่นมาช่วยเติมเต็มอารมณ์ พร้อมด้วยลูกโซโลกีตาร์ ทางเปียโนที่เล่นสั้นๆง่ายๆ แต่เจ๋งโคตร เพลงนี้ฟังแล้วมันอดไม่ได้ที่จะต้องโยกตัวขยับแข้งขยับขาตามไปด้วย พับผ่าสิ

สลับอารมณ์มาฟัง“Silent Night”(แทรค 10) บทเพลงช้าเนิบ เปิดนำกันด้วยเสียงเครื่องบราสหนาๆ มีฮาร์พ ดีดคลอไปตลอด ช่วงส่งจินตนาการให้เห็นภาพหิมะตกขาวโพลนในค่ำคืนอันเงียบงัน เหงาหงอยไม่ได้ ท่อนท้ายมีเสียงคอรัสเย็นๆมาร่วมเติมสีสันให้อารมณ์เคลิบเคลิ้ม ล่องลอย แต่ไม่ชวนหลับ น้ำเสียงและวิธีการร้องของไมเคิลในเพลงนี้ ฟังแตกต่างจากเพลงที่แล้วโดยสิ้นเชิง แสดงให้เห็นถึงความเจนจัดในการร้องที่สอดรับกับอารมณ์เพลงได้อย่างยอดเยี่ยม

ส่วน “Blue Christmas”ในแทรคถัดไป(แทรค 11) เป็นการสลับอารมณ์อีกครั้ง ด้วยทางดนตรีแบบนิวออร์ลีนแจ๊ซ เปิดพื้นที่ให้ ทรัมเป็ต ทรอมโบน แคลริเน็ต เล่นปรี๊ดปร๊าด ปร๊าด ป๊าด ใส่กันอย่างสนุก ก่อนที่จะจัดหนักจัดเต็มใส่กันอย่างเต็มที่ในช่วงโซโลกลางเพลง ขณะที่พี่ไมเคิลแกเปลี่ยนสไตล์การร้อง ฟังแล้วชวนให้นึกถึงเอลวิส เพลสลีย์ ราชาร็อคแอนด์โรลไม่น้อยเลย

“Cold December Night” (แทรค 12) บทเพลงที่ไมเคิลร่วมกับ กับ Alan Chang มือเปียโนคู่ใจ แต่งขึ้นมาใหม่เพื่องานนี้ เป็นป็อบร็อกร่วมสมัย ฟังเพลินดีทีเดียว

“Mis Deseos / Feliz Navidad” (แทรค 15) เพลงจากการแสดงสด ไมเคิลดูเอทกับนักร้องสาว “ธาเลีย”(Thalia) เพลงนี้เป็นสเปนจ๋า ฟังสนุก คึกคัก พ่อหนุ่มไมเคิลโชว์ให้เห็นว่าเจาก็ร้องเพลงภาษาสเปนได้ในท่อนนำ ก่อนที่จะมาสลับกันร้อง โดยสาวเจ้าร้องในภาษาสเปนเป็นหลัก ส่วนพ่อหนุ่มไมเคิลร้องในภาษาอังกฤษตามถนัด ช่วงท้ายมีคอรัสมาร้องเติม เสริมความแน่นให้เพลงน่าฟังยิ่งขึ้น ก่อนปิดท้ายกันด้วยเสียงปรบมือก้อง

หลังบทเพลงทั้ง 15 ผ่านพ้นไปแล้ว อัลบั้มนี้ยังไม่จบ เพราะยังมีของแถมเป็นคำอวยพรคริสต์มาสของไมเคิลปิดท้าย

Christmas นับเป็นผลงานเพลงคริสต์มาสที่น่าฟังไม่น้อย โดยส่วนของภาคดนตรีภายใต้การอะเร้นจ์และการโปรดิวของเดวิด ฟอสเตอร์ ร่วมด้วยบ็อบ ร็อกนั้น ทำออกมาได้อย่างมีสีสัน มิติ มีความหลากหลาย ฟังเพลิน ไม่น่าเบื่อ ในขณะที่ฝีมือการร้องเพลงของไมเคิลในนั้น นับวันยิ่งมาหมอยิ่งดูเก๋าเกมมากขึ้น เพราะสามารถถ่ายทอดน้ำเสียงออกมาให้เข้ากับอารมณ์เพลงได้อย่างยอดเยี่ยม และดึงอารมณ์ร่วมของคนฟังให้ สนุก สุข เศร้า เหงา ซึม ไปกับบทเพลงได้เป็นอย่างดี เรียกว่าหมอเอาอยู่

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อัลบั้มนี้จะขึ้นไปครองแชมป์อันดับ 1 บิลบอร์ดท็อป 200 ได้นานหลายสัปดาห์

และนี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า ไมเคิล บูเบลย์ นั้นเป็นนักร้องประเภท ความสามารถเป็นต่อ รูปหล่อไม่เป็นรอง
*****************************************

แกะกล่อง

ศิลปิน : Dave Koz
อัลบั้ม : Ultimate Christmas

อัลบั้มคริสต์มาสที่จัดหนักกันมาถึง 18 บทเพลงของ Dave Koz ที่มีคนดนตรีมากหน้ามาร่วมฟีเจอริ่ง เช่น Brenda Russell,Peter White,David Benoit เป็นต้น

งานเพลงโดยรวมเป็นเพลงบรรเลงแซ็กโซโฟนหวานๆ สลับอารมณ์ด้วยเพลงร้องเพราะๆ(บ้าง) โดยมีเพลงชวนฟังอย่าง “Santa Claus Is Comin' To Town”, “Sleigh Ride”,“Little Drummer Boy”, “Silent Night”

อัลบั้มนี้แม้ยังคงอวลไปด้วยความหวานในสไตล์ถนัดของเดฟ แต่ว่าฟังไม่เลี่ยน ไม่น่าเบื่อ เพราะดนตรีมีสีสันความหลากหลายทั้ง บอสซาโนว่า,ป็อบ,ป็อบแจ๊ซ,โฟล์ค,อาร์แอนด์บี และไลท์มิวสิค เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเสียงแซกหวานๆหรือชื่นชอบดนตรีฟังเพลินๆสบายๆ

ข่าวดนตรี

ปฐมคอนเสิร์ตต้อนรับปีใหม่ ของวง TPO

วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดคอนเสิร์ตครั้งแรกแห่งฤดูกาลที่ 7 ของวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (Thailand Philharmonic Orchestra sหรือ TPO) หลังจากสิ้นสุดเหตุภัยน้ำท่วม โดยมี Christopher Hughes วาทยกรชาวอเมริกันมาควบคุมวงนำเสนอบทเพลงของราชาเพลงวอลทซ์ Johann StraussII ได้แก่“Die Fledermaus” Overture, Emperor Waltz, Eljen a Magyar Polka Op.332, และวอลทซ์ยอดนิยม The Blue Danube Waltz

นอกจากนี้ยังมี Qing Lin นักโอโบชาวจีน แชมป์ประกวดโอโบจากหลายประเทศ มาเป็นโซโลอิสท์ในบทเพลง Oboe Concerto in C major K.314 ของ Wolfgang Amadeus Mozart

คอนเสิร์ตจัดขึ้นเพียง 2 รอบ คือ วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2554 เวลา 19.00 น. และ วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2554 เวลา 16.00 น. ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา บัตรราคา 500, 300 และ 100 บาท (สำหรับนักเรียนนักศึกษา) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งกรุณาโทร. 0 2800 2525 - 34 ต่อ 153-154 หรือ www.music.mahidol.ac.th, www.thailandphil.com
กำลังโหลดความคิดเห็น