“ชุดาภา จันทเขตต์” ย้อนอดีตทองประกายแสด 3 เวอร์ชั่นใครเล่นก็ดังทุกคนเพราะบทแรงหวือหวา เผยสมัยที่ตนเป็นนางเอกก็เคยถูกฟัดมาเหมือนกัน ส่วนยุคนี้ปรับบทประพันธ์ใหม่ให้นางเอกเป็นโคโยตี้แทนเด็กนั่งดริ้งค์ เพื่อความเหมาะสมของยุคปัจจุบัน มั่นใจ “พิ้งกี้” คือคนที่เหมาะสมทั้งวินัยการแสดงและมีความสามารถในการเต้น
ทองประกายแสด บทประพันธ์ของ “สุวรรณี สุคนธ์เที่ยง” ที่ถูกนำมาผลิตเป็นภาพยนตร์แล้วถึง 3 ครั้ง และก็ได้รับความฮือฮาทุกครั้ง ใครสวมบท “ทองดี” นางเอกของเรื่องเป็นต้องโด่งดังมีชื่อเสียง เพราะบทแรงเล่นเป็นสาวนั่งดริ้งค์ทำงานในค็อกเทลเล้าจ์ ผ่านการมีสามีมาถึง 8 คน ใครเล่นก็ฮือฮาเพราะต้องเปลืองตัวเลิฟซีนกระจาย
ปัจจุบันนี้ทองประกายแสดงได้ถูกนำผลิตใหม่อีกครั้ง โดยมีบริษัทโซนิคยูสเป็นผู้ผลิต ภายใต้การกำกับของ “ชุดาภา จันทเขตต์” อดีตนางเอกทองประกายแสดที่แจ้งเกิดจากบทมากผัวนี้ไปเต็มๆ เมื่อ 20 ปีก่อน โดยจะออกอากาศทางช่อง 8 ซึ่งเป็นเคเบิ้ลทีวีค่ายอาร์เอส
แต่ที่ฮือฮาไปกว่านั้นก็คือ การหวนกลับคืนวงการอีกครั้งของ “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ในบททองดีเวอร์ชั่น 2011 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกช่อง 3 ปลดจากละครเพลิงพราย เพราะมีข่าวฉาวพัวพันกับ “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” สามีของ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ รามณรงค์” และภายหลังธัญญ่าก็ได้เลิกรากับสามี ต่อมาค่ายกันตนาอดีตต้นสังกัดของพิ้งกี้ที่อุ้มชูปั้นกันมาตั้งแต่เด็ก ก็ได้เสนอชื่อพิ้งกี้ให้เล่นละครอิเหนาให้กับช่อง 9 แต่สุดท้ายช่อง 9 ก็ทนแรงเสียดทานจากกระแสการแบนของสังคมไม่ไหวต้องปลดพิ้งกี้ในที่สุด
พอมีข่าวว่าพิ้งกี้จะมาเล่นบททองประกายแสด ก็กลายเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ขึ้นมาทันที เพราะบทนี้มันช่างกร้านโลก ประกอบกับข่าวเรื่องมือที่สามธัญญ่า-เป๊ก ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของพิ้งกี้ดูแรงขึ้นไปอีก ทองประกายแสด 2011 จะเป็นแบบไหน และแรงแค่ไหน คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่า ชุดาภา จันทเขตต์ ผู้ที่เคยสวมบทนี้และกำกับเรื่องนี้เป็นแน่
“นี่เป็นงานกำกับครั้งแรกของชุ และทองประกายแสดก็เป็นงานแสดงภายนตร์เรื่องแรกของชุ พอทางอาร์เอสให้บริษัทโซนิคยูสที่ชุมีหุ้นด้วยผลิตละครเรื่องนี้ พี่ก้อง(ปิยะ เศวตพิกุล) หุ้นส่วนของบริษัทก็เลยมีความเห็นว่า เราน่าจะกำกับได้เพราะเราเองก็เป็นครูสอนแอคติ้งโค้ชของกบ สุวนันท์ และก็ชลลัมพี เป็นนักเรียนการแสดงของช่อง 3 และมีประสบการณ์ในการทำงานมา 20 กว่าปี ประกอบกับเราเองก็เคยเล่นละครเรื่องนี้ ทุกคนเลยมองว่าเราสุดคือคนที่เหมาะสมที่สุด”
“ซึ่งมันเป็นอะไรที่ชุไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะรับหน้าที่ผู้กำกับ ก่อนหน้านี้หม่อมน้อย(ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) ก็เคยชวนให้มาช่วย แต่เราก็ไม่ได้จริงจัง เพียงแต่เราเป็นคนแบบแมนๆ จะชอบนั่งอยู่หน้ามอนิเตอร์ ชอบดูเขาทำงาน และก่อนหน้านี้ที่บริษัททำละครเราก็จะเป็นคนที่ทำเรื่องย่อเอง พอทำไปเสนอแล้วมันก็ผ่าน แม้กระทั่งเรื่องนี้เราก็เป็นคนทำเอง บริษัทก็เลยคิดว่าน่าจะทำได้”
“พอตัดสินสินใจทำก็มีการไปปรึกษาผู้กำกับปรึกษาทีมงานเพื่อดูจุดแข็งจุดอ่อนของเรา จุดแข็งของเราก็น่าจะเป็นเรื่องของแอ็คติ้ง จุดอ่อนน่าจะเป็นเรื่องเครื่องมือกับเทคนิค ก็ต้องให้ทีมงานมาซัพพอร์ทตรงนั้น ส่วนเรื่องของการคัดเลือกนักแสดงต้องบอกเลยว่านักแสดงพระเอกนางเอกส่วนใหญ่จะมีค่าย มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เขามาเล่น แต่ตัวทองประกายแสดทางอาร์เอสเป็นคนวางตัวพิ้งกี้มาให้ ถ้าถามชุในแง่ของผู้กำกับเราก็ไม่มีปัญหา”
“ชุเป็นคนที่ไม่ค่อยติดตามข่าวสารซักเท่าไหร่ แต่ก็พอจะทราบมาบ้างว่าอาจจะมีเรื่องกระแสหรือว่าอะไร เราก็พร้อมยอมรับเพราะเราตัดสินใจที่จะทำงานๆ หนึ่งแล้ว แต่ในส่วนของการทำงานเท่าที่เราเจอพิ้งกี้เขาก็เป็นเด็กที่มีวินัยในการทำงาน 5 ครั้งที่มาซ้อมเขาเป็นคนรับผิดชอบตรงเวลาดี ชุมองว่าถ้านักแสดงมีวินัยในการทำงานแค่นี้ผู้กำกับก็แฮบปี้แล้ว”
“สำหรับกระแสการแบนพิ้งกี้มันเป็นเรื่องปัจเจกมันมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ มันมีคนคิดลบก็มีคนคิดบวก เพราะฉะนั้นผลที่ออกมามันจะรุนแรงขนาดไหนเราก็ไม่ทราบมันเหนือความคาดเดา มันเกินจุดที่อยู่ในส่วนของเราแล้ว เราก็รับผิดชอบในส่วนของเราไปดีกว่า”
แค่เริ่มต้นก็ดังแล้ว เพราะนอกจากละครจะแรงด้วยบทประพันธ์อยู่แล้ว ผู้ที่สวมบท “ทองดี” สาวมากรักล้วนเกี่ยวข้องกับการทองประกายแสดง 2011 ไม่ว่าจะเป็น “ชุดาภา” ผู้กำกับของเรื่องก็เคยสวมบททองดีเวอร์ชั่น 2 “ธัญญ่า” คู่กรณี “พิ้งกี้” ก็เคยสวมทบทนี้เช่นกัน และวันนี้พิ้งกี้ก็มาซ้ำรอยธัญญ่า ช่างเหมาะเจาะกับข่าวกุ๊กกิ๊ก “เป๊ก สัณชัย” ซ้ำรอยธัญญ่าเช่นกัน ซึ่งชุยืนยันว่าเป็นแค่ความบังเอิญไม่ได้โหนกระแส
“บอกได้เลยว่าทุกอย่างมันเป็นความบังเอิญ เราเองก็ไม่ได้คิดว่าจะมากำกับ เพราะเคยปฏิเสธงานกำกับมาแล้วหลายครั้ง เพราะเรามีงานบริษัทต้องดูแลอีกหลายอย่าง และโดยส่วนตัวก็เป็นคนที่ทำธุรกิจเยอะมาก มีทั้งธุรกิจสปา และก็งานอสังหาริมทรัพย์สร้างตึกขาย แต่พอมาเป็นเรื่องนี้มันเป็นงานของบริษัทจะเอาคนอื่นมากำกับก็ไม่ใช่เรื่องง่าย สุดท้ายเราโอเคตกลงกำกับพอมารู้เรื่องนักแสดง มาเชคว่าใครเคยเล่นมาบ้างก็เนาะ....เรายังขำเลย(หัวเราะ) ว่าทำไมจะต้องเป็นเรื่องนี้ ทำไมต้องเป็นคนนี้ ทุกอย่างไม่ได้ถูกเซ็ทขึ้นเพื่อให้เกิดกระแส แต่มันเป็นอะไรที่บังเอิญมาประจวบเหมาะกันพอ
ย้อนอดีตทองประกายแสดยุค ยุ้ย วันทนา บุญบันเทิง , ชุดาภา จันทรเขต และ ธัญญาเรศ รามรงศ์
“ก่อนที่ชุจะเล่นเรื่องทองประกายแสด พี่ยุ้ย วันทนา บุญบันเทิง ก็เคยเล่นเรื่องนี้มาก่อน ซึ่งตอนนั้นก็ฮือฮามาก พระเอกก็มีอาหนิง(นิรุตติ์ ศิริจรรยา) และก็อีกหลายๆ คนที่เป็นพระเอกดังของยุค พี่ยุ้ยเขาเป็นนางเอกมาก่อนและก็มาเล่นเรื่องนี้ซึ่งในยุคนั้นแรงกว่าเดี๋ยวนี้อีก เพราะในยุคนั้นนางเอกก็คือนางเอก แต่พอนางเอกมาเล่นแบบมีสามีหลายคนมันรุนแรงกว่ายุคนี้ ทำให้มันฮือฮาแรงมาก ชุดที่พี่ยุ้ยใส่และเป็นที่พูดถึงมากๆ ในยุคนั้นก็คือเสื้อตาข่ายเอวลอยฮือฮามาก”
“พอมายุคของชุก็แรง แต่ของพี่ยุ้ยจะแรงกว่าเพราะของพี่ยุ้ยเขาเป็นนางเอกมาก่อน แต่ของชุเราเป็นดาราใหม่เลยแต่ก็ฮือฮาเหมือนกัน เรียกว่าทุกยุคทุกสมัยที่เรื่องนี้ถูกทำขึ้นจะฮือฮาตลอด ตอนนั้นพระเอกก็จะมีพี่หนุ่ม สันติสุข พรหมศิริ ,ตฤณ เศรษฐโชค , รอน บรรจงสร้าง , พี่เจี๊ยบ ศักราช(ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) และก็มีนายแบบในยุคนั้น”
“สมัยก่อนทองประกายแสดจะแต่งตัวสวยทำงานค็อกเทลเล้าจ์นั่งดริ้งค์แต่งชุดยาว ในยุคของชุจะเป็นชุดเสื้อใยแมงมุมและก็โนบรา ส่วนบทเลิฟซีนกับพระเอกหลายคนจะเป็นที่พูดถึงมากของทองประกายแสด ในยุคพี่ยุ้ยเป็นไงชุไม่ทราบ แต่ในยุคของชุไม่มีจูบจริงแต่โดนจูบจริงบ้าง(หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ มันไม่ต้องจูบจริงมันบังได้แต่ด้วยความที่มีนักแสดงชายบางคนเล่นเกินกว่าเหตุก็เจอฟัดจริงไปเหมือนกัน(หัวเราะ) แต่ไม่ใช่นักแสดงที่อยู่ในปัจจุบันนี้นะคะ ซึ่งเราก็เด็กมากด้วยตอนนั้น ต่างคนก็ต่างใหม่ก็เลยอาจจะหลบไม่เป็น”
“ส่วนในยุคของธัญญ่าเขาก็มีสไตล์ของเขา แต่ทองประกายแสดฮือฮาทุกยุค ดังทุกยุค”
ทองประกายแสด 2011 เปลี่ยนจากนั่งดริ้งค์เป็นโคโยตี้ แรงไม่แพ้ผู้หญิงยุคปัจจุบัน
“ทองประกายในการตีความของชุในฐานะที่เคยแสดงเรื่องนี้ และจะกำกับเรื่องนี้ ชุว่าทองดีจะเป็นคนปากไวปากจัด และก็เป็นคนที่หูตาแพรวพราวเพราะรู้ว่าตัวเองสวยมีเสน่ห์ชอบแต่งตัวเซ็กซี่ และเขาก็มีความสุขที่จะให้ผู้ชายมอง แต่ในเรื่องความรักเธอค่อนข้างจะอ่อนหัด และก็เป็นคนขยันเป็นคนประหยัดเหมือนเตี่ย เป็นคนซื่อเป็นคนตรง คำจำกัดความสั้นๆ 4 ประโยคคือ สวย แสบ ซื่อ เซ็กซี่”
“ชีวิตของทองประกายแสดจริงๆ มันเหมาะกับยุคนี้มากๆ ผู้หญิงที่ผ่านการมีแฟนมาหลายคน ทำทั้งเรื่องที่ถูกและผิด มันคือมนุษย์น่ะค่ะ จนตอนจบท้ายของเรื่องจะเป็นแบบตัวละครตัวนี้ได้อะไรมาและเสียอะไรไป เราไม่ได้ทำออกมาเข้าข้างตัวละครให้ประสบความสำเร็จ แต่เขาทำดีเรื่องอะไรก็จะได้รับผลเรื่องนั้น ถ้าทำไม่ดีเรื่องอะไรก็จะได้รับผลไม่ดีเช่นกัน”
“อย่างช่วงหนึ่งของชีวิตทองดีจะมีเสี่ยมาพัวพันเขาก็ปฏิเสธ แต่ตอนหลังต้องยอมเป็นเมียเก็บรัฐมนตรีเพราะทำเพื่อลูก และรัฐมนตรีก็รักตอนหลังคุณหญิงภรรยาใหญ่ตาย ตัวทองดีก็เลยได้ขึ้นมาเป็นบ้านใหญ่ แต่ก็มาเจอวิบากกรรมคือรัฐมนตรีตาย ทองดีได้สมบัติร่ำรวยแต่สิ่งที่ทองดีเสียคือ วิถีชีวิตที่ผ่านผู้ชายมาแต่ละคน มาจนกระทั่งคนสุดท้ายได้ความร่ำรวยแต่ไม่เหลือความรัก ไม่เหลือใครเลย กลับไปหาแม่ แม่ก็ไม่เอา ตรงนี้คนดูจะเห็นเป็นตัวอย่างได้ว่า เงินไม่ได้ทำให้มีความสุข แต่การมีครอบครัวที่อบอุ่นน่าจะดีที่สุด”
“ทองประกายแสดเวอร์ชั่นนี้จะเป็นยุคปัจจุบันไม่ใช่พีเรียด ยุคปัจจุบันจะเป็นค็อกเทลเล้าจ์ไม่ได้ ยุคนี้มันต้องผับมีโคโยตี้ ก็เลยมีการไปขอบทประพันธ์ว่าจะปรับบทจากทำงานค็อกเทลเล้าจ์เป็นโคโยตี้ เรื่องนี้มันก็จะกลายเป็นแดนซ์โคโยตี้ ซึ่งพิ้งกี้ก็มีพื้นฐานทางด้านการเต้นอยู่แล้วเขาเป็นคนที่เต้นเก่งก็เหมาะสมกับเรื่องนี้มาก ถ้าได้คนอื่นมาที่เต้นไม่ได้มันก็ไม่ใช่ แต่เราก็จะมีการให้ครูมาสอนเต้นเพิ่ม มันต้องเต้นให้เซ็กซี่ทำงานเราต้องทำให้เต็มที่ก็เอาให้เต็มเหนี่ยวกันไปเลย”
“ส่วนชุดของทองดีในยุคนี้ชุก็จะเอาแบบปัจจุบัน ตอนนี้เขาแต่งตัวยังไงเปรี้ยวยังไงก็เอาแบบปัจจุบัน ก็จะมีเว้ามีเซ็กซี่แต่ไม่เกินขอบเขตของทีวีอยู่แล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องทองประกายแสดทุกคนก็จะนึกถึงความเซ็กซี่นึกถึงเลิฟซีน ซึ่งเรื่องนี้เราก็ได้คุยกับพิ้งกี้แล้ว ก็มีการแจ้งไปว่าเราจะทำให้ภาพออกมาแบบนี้นะๆ ต้องคุยกันก่อนเคลียร์กันตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเขาก็รับฟังและยอมรับ”
“เลิฟซีนกับหนุ่มๆ ทั้ง 7 - 8 คนต้องมีอยู่แล้ว แต่ละคนก็แตกต่างกันไป ถามว่าพิ้งกี้ยอมจูบจริงไหม อันนี้เราไม่ได้คุยกัน เพราะเราไม่ได้ต้องการให้เนื้องานมันฮือฮาตรงนี้ ไม่อยากเอาตรงนี้มาขาย มันมีวิธีการที่หลบเลี่ยงได้ด้วยภาพด้วยวิธีการอื่น ชุไม่ได้ซีเรียสว่าต้องจูบจริงหรือไม่จริงแต่เราสามารถนำเสนอภาพได้”
เรียกว่า ทองประกายแสด 3 ยุคที่ผ่านมาก ค่อนข้างประสบความสำเร็จเพราะเป็นบทประพันธ์ที่แรงและหวือหวา แต่ในยุคปัจจุบันที่สังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงทำตัวแรงหรือจะเรียกว่าแรดไม่แพ้ตัวละคร การเปลี่ยนคู่เปลี่ยนแฟนดูจะเป็นเรื่องปกติ ประกอบกับการที่ทองประกายแสดเวอร์ชั่นล่าสุดออกอากาศในช่องเคเบิ้ล อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนยุคที่ผ่านมา
“ในเรื่องของเนื้อหาของทองประกายแสดจะดราม่ามาก แต่ชุจะไม่นำเสนอให้ดราม่าจะทำให้มัน มันตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งไปเป็นโคโยตี้จนสุดท้ายของเรื่อง แต่จะประสบความสำเร็จเหมือนยุคต่างๆ หรือเปล่าก็ต้องรอดู แต่แค่เปิดตัวว่าพิ้งกี้เล่นก็ค่อนข้างฮือฮาแล้ว”
“ทองประกายแสดในยุคไหนมันก็แรงและฮือฮา แต่จะบอกว่าพอทำให้ยุคนี้แล้วมันยากนะ เพราะทองประกายแสดมันไม่ต่างกับสังคมในยุคปัจจุบัน คนดูอาจจะดูปกติธรรมดาเพราะสังคมยุคนี้มันแรงอยู่แล้ว แต่ก็ดีเราได้ตีแผ่สังคมยุคปัจจุบัน แต่ด้วยตลาดมันเป็นเคเบิ้ลมันได้แค่ไหนก็ต้องแค่นั้น แต่ถ้ามันทำให้ตลาดเคเบิ้ลเพิ่มยอดคนดูขึ้นมาได้เราก็แฮบปี้แล้วในแง่ของคนทำงาน แต่ถ้ามันจะเงียบไปบ้างก็ต้องยอมรับว่าเราทำให้เคเบิ้ลนะ แต่ชุว่าตลาดของเคเบิ้ลทุกวันนี้มันกว้างนะ”
“อยากจะให้ทุกคนได้ติดตามกัน ละครเรื่องนี้มันสอนอะไรหลายๆ อย่าง ผู้หญิงทุกคนเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ แต่ในสิ่งที่เลือกจะเป็นบางคนก็เลือกถูกบางคนก็เลือกผิด ทองดีเองไม่ได้เลือกถูกทุกเรื่องแต่ก็ไม่ได้ผิดทุกเรื่อง บทเรียนที่ไม่ดีก็เป็นบทเรียน เรื่องที่ดีก็เป็นบทเรียน มันคือสังคมเราจะตีแผ่ออกมาให้เห็น”