ภูมิใจไทยเปิดตัว 2 ดารา “ต้น ตระการ-ตฤณ เศรษฐโชค” ลงชิง ส.ส.กทม. “ศุภชัย” จวกเพื่อแม้วใช้วิชามารถล่มเว็บไซต์ภูมิใจไทย เรียกร้องเป็นลูกผู้ชายต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา พร้อมวอนแก๊งแดงเลิกก่อกวน “มาร์ค” ตามคำสั่ง “ณัฐวุฒิ” หัวหน้าตัวจริง เมิน “เป็ดเหลิม” ไม่ให้ร่วมงานหากได้เป็นรัฐบาล เย้ยแค่เด็กในพรรคไร้ราคา ซัด “ชูวิทย์” มั่วถล่มแอร์พอร์ตลิงก์ ชี้โครงการเกิดสมัย นช.แม้ว เป็นนายกฯ ภูมิใจไทยเข้าไปแก้ปัญหา
ที่พรรคภูมิใจไทย วันนี้ (23 พ.ค.) นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วย นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวเปิดตัว 2 นักแสดงชื่อดังที่จะสมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในนามพรรคภูมิใจไทย หรือนายโชคชัย ตันประเสริฐ ที่ใช้ชื่อในการแสดงว่า “ตฤณ เศรษฐโชค” และนายตระการ พันธุมเลิศรุจี
นายศุภชัยกล่าวว่า นักแสดงทั้ง 2 คนจะมาลงสมัคร ส.ส.ในระบบเขตกรุงเทพฯ ทางพรรครู้สึกยินดีที่มีกลุ่มหลายหลากอาชีพโดยเฉพาะสาขาการแสดง ซึ่งทั้ง 2 คนไม่เคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคมีพระเอกตลอดกาล 2 คนที่สมัคร ส.ส. คือ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ และนายรณฤทธิชัย คานเขต ผู้สมัครส.ส.ยโสธร ดังนั้น เมื่อมีนักแสดงระดับพระเอกเข้ามาอีก 2 คน ถือว่าพรรคภูมิใจไทยคือที่ชุมนุมของดารา แสดงให้เห็นว่าการเมืองเกี่ยวข้องกับคนทุกคนและทุกอาชีพ
ด้าน นายโชคชัย หรือ “ตฤณ เศรษฐโชค” นักแสดง กล่าวถึงเหตุผลที่มาสมัครเข้าพรรคภูมิใจไทย ว่าเพราะอยากทำงานรับใช้ประชาชนอีกรูปแบบหนึ่ง อยากเห็นความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และชื่นชมในนโยบายพรรคที่เห็นว่าสามารถทำได้จริง ส่วนจะลงเขตไหนแล้วแต่คณะกรรมการบริหารพรรคจะเป็นตัดสินใจ แต่โดยส่วนตัวตนสนใจที่จะลงสมัครในเขตบึงกุ่ม เพราะตนเกิดที่นี่
ส่วน “ต้น ตระการ” กล่าวว่า ขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่ให้โอกาสเพราะตนยังเป็นน้องใหม่ ไม่มีความรู้ทางการเมือง แต่มีความสนใจในนโยบายด้านกีฬาของพรรคที่มีการผลักดันให้เกิดนักกีฬาอาชีพ เพราะโดยส่วนตัวกำลังเรียนดุษฎีบัณฑิต ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จึงมองหาว่าถ้าจะต่อยอดจากสิ่งที่ตนเรียนรู้มา สามารถทำให้เกิดประโยชน์ ในการที่จะสร้างอาชีพและความเจริญด้านนักกีฬา ซึ่งก็คือนโยบายของพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรฯ ได้นำเสื้อของพรรคภูมิใจไทย มาสวมให้กับดาราทั้ง 2 คนด้วย
นายศุภชัยกล่าวว่า ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองได้หาเสียงกันในโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมามีการไช้วิชามารชั่วร้ายมาถล่มเว็บไซต์ของพรรคภูมิใจไทย ด้วยข้อความที่หยาบคาย คนที่มีความรู้เป็นบัณฑิตไม่น่าจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะถ้าไม่ชอบพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ควรโพสต์ข้อความที่ไม่สมควรลงไป เพราะตนมั่นใจว่าคนที่ใช้เวบไซต์ได้จะต้องเป็นคนที่มีความรู้และมีการศึกษา แต่ดูเหมือนว่าการกระทำที่แสดงออกมาท่านเป็นคนที่มีการศึกษา แต่ไม่มีอารยะ เพราะถ้อยคำที่แสดงออกมานั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกคุณเป็นเสื้อแดง และในทางกลับกันถ้ามีคนไปโพสต์ข้อความต่อว่าเสียๆ หายๆ ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย ก็คงไม่มีใครชอบเหมือนกัน ดังนั้นขอเรียกร้องให้สู้กันแบบตรงไปตรงมาจะดีกว่า
นายศุภชัยกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกเสื้อแดงไล่ในระหว่างการหาเสียงช่วยลูกพรรคว่า ต้องขอขอบคุณนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งถือเป็นผู้บัญชาการเสื้อแดงตัวจริงได้โทรศัพท์ไปสั่งการกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาประธาน นปช.ว่าให้คนเสื้อแเดงหยุดก่อกวน ดังนั้นก็ขอให้ฟังผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าไปก่อเหตุอะไรกับนายกรัฐมนตรี ก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อพรรคเพื่อไทย และประเทศชาติ เพราะในเมื่อคนเสื้อแดงประกาศยึดพรรคเพื่อไทยไปแล้ว ก็ควรหยุดสักพักหันมาช่วยกันหาเสียงดีกว่า
อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องความเป็นสุภาพบุรุษจากคนเสื้อแดงว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไปปราศรัยที่ จ.เชียงใหม่ ก็ขอให้ต้อนรับด้วยดี อย่าไปปาอะไร เพราะช่วงนี้ไข่แพง
นายศุภชัยกล่าวด้วยว่า กรณีที่มีหัวคะแนนบางพรรคออกมาบอกว่าถูกข่มขู่และถูกรังแก ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ นั้น อยากให้ไปย้อนดูประวัติศาสตร์ของคนๆ นี้ ที่มักจะออกมาร้องเรียนเป็นประจำว่าถูกรังแก วิชาเรียกร้องความสงสารแบบนี้ไม่ต้องเอาออกมาใช่ เพราะยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย ที่ จ.บุรีรัมย์ไม่ได้ทำอย่าวงแน่นอน เพราะยังไงคะแนนของพรรคภูมิใจไทย ที่จ.บุรีรัมย์ ก็ถล่มทลายอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปข่มขู่ หรือไปข่มเหงรังแกใคร
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่าผลโพลที่ออกมาพรรคเพื่อไทยนำโด่งในภาคเหนือและภาคอีสาน ชนะพรรคภูมิใจไทยขาดลอยนั้น โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและ ร.ต.อ.เฉลิม ได้เลขสวยๆ งามๆ ก็นั่งฝันเคลิบเคลิ้มกันไป แต่การเลือกตั้งจะมีขึ้นอีกใน 40 วัน ดังนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็ฝากถึง ร.ต.อ.เฉลิม ที่ไปไหนก็ข่มขู่ข้าราชการ มีแนวคิดอำนาจนิยมที่ล้าสมัยตกไปจากโลกเป็นสิบๆ ปีแล้ว ไป จ.เชียงใหม่ ก็ไปขู่ผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านมีศิลปะทำลายมิตร สร้างศัตรู ขอให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบนี้ได้แล้ว เพราะผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดเป็นกลาง เชื่อว่าตรงนี้คงเป็นสูตรเดิมๆ ที่หากพรรคเพื่อไทยแพ้ ก็จะบอกว่าเป็นเพราะผู้ว่าฯ ดังนั้นขอให้ยุติพฤติกรรมเช่นนี้ได้แล้ว
“ฝากเตือนไปถึง ร.ต.อ.เฉลิมด้วยว่า หากไปพูดในลักษณะหมิ่นประมาทใครๆ แม้จะเป็นถึง ดอกเตอร์ แต่ก็มีสิทธิถูกดำเนินคดีได้ วันนี้การใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นขอให้เลิกได้แล้ว เพราะถ้าคนอื่นมาพูดใส่ร้าย ร.ต.อ.เฉลิม ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง ท่านก็คงไม่ชอบเหมือนกัน ในเรื่องการว่าคนอื่นทุจริตนั้น ถ้าย้อนหลังไปดูก็จะพบว่ากรณีที่มีการทุจริตจริงและ ป.ป.ช.ชี้ว่าทุจริต รวมถึงมีการสั่งยึดทรัพย์จริง และมีการดำเนินคดีไปแล้วก็มีเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นการที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะไปว่าคนอื่นก็ขอให้ย้อนดูตรงนี้ด้วย” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลจะไม่เอาพรรคภูมิใจไทย นายศุภชัยกล่าวว่า ตนไม่ถือ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะเชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้มีอำนาจอะไรในพรรค มีเสียงในพรรคเพียงแค่ครึ่งเสียงเท่านั้น ซึ่งเราคงไม่ไปฟังเสียงเด็กๆ ในพรรค เพราะถ้า ร.ต.อ.เฉลิม แน่จริงคงได้เบอร์ 1 ไปแล้ว และการที่พรรคภูมิใจไทยจะตัดสินใจไปร่วมรัฐบาลกับใครนั้นก็ขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะเอาหรือไม่เอา และเด็กๆ แบบ ร.ต.อ.เฉลิม เราก็ไม่คุยด้วยอยู่แล้ว เพราะท่านไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงอะไรในพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว
นายศุภชัยแถลงถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ย่านมักกะสัน โดยโจมตีว่าเป็นโครงการที่ทำแล้วเสียเปล่าว่า นายชูวิทย์ต้องเข้าใจก่อนว่าโครงการนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.คมนาคมในขณะนั้น ซึ่งนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในโครงการแอร์พอร์ตลิงก์เพียงแต่เข้ามาทำงานต่อจากรัฐบาลชุดที่แล้ว รวมถึงเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วย
ส่วนที่นายชูวิทย์เสนอว่าควรแก้ไขและพัฒนาโครงการนี้ด้วยการให้บริษัทเอกชนเข้ามาบริหารและพัฒนานั้น โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า เรื่องนี้จะมาดูที่ผลกำไรเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะต้องคำนึงถึงลูกจ้าง พนักงาน สหภาพฯ ที่มีอยู่ด้วย นายชูวิทย์ควรดูปัญหาให้รอบด้านมากกว่านี้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าโครงการแอร์พอร์ตลิงก์เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด