xs
xsm
sm
md
lg

“สุทธิชัย” ปัดตอบ “ปราบดา” แกนนำล่ารายชื่อถอน ม.112 บอกไม่มีอะไรจะพูด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุทธิชัย” งดตอบ “ปราบดา” ลูกชายเป็นแกนนำล่ารายชื่อให้แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 โดยหาว่าเป็นข้อกฎหมายที่ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นด้านการเมือง บอกไม่มีประเด็นอะไรจะพูด แต่ขอโปรโมทช่องอาเซียน ทีวีที่ทำร่วมกับอสมท. โดยเป็นสถานีโทรทัศน์ภาษาอังกฤษ 24 ชั่วโมงช่องแรกของไทย มั่นใจต้องเป็นช่องที่คนดูมากที่สุดในโลก

หลังจากที่เกิดกรณีกลุ่มนักเขียนและกวีซีไรท์ทั่วประเทศไทยนำโดย “คุ่น ปราบดา หยุ่น” และนักเขียนอีก 6 คนคือ “บินหลา สันกาลาคีรี, ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง, ซะการีย์ยา อมตยา, กิตติพล สรัคคานนท์, วรพจน์ พันธุ์พงศ์ และ วาด รวี” รวมตัวกันล่ารายชื่อบรรดานักเขียนจากทั่งประเทศ เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญาของราชอาณาจักรไทย มาตรา 112 ที่มีข้อบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่3-5ปี” ซึ่งคุ่นและพองเพื่อนต้องการให้แก้ไขด้วยเหตุผลที่ว่าข้อกฎหมายนี้ปิดกั้นการแสดงออก ความคิดเห็น เสรีภาพในการนำเสนองานเขียนของพวกตนโดย เชื่อว่าเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น คือหัวใจสำคัญของการเป็นนักเขียนในสังคมประชาธิปไตยที่ถือเป็นพื้นฐานสำคัญเบื้องต้นเพื่อให้นักเขียนสามารถได้มีพื้นที่ มีอิสรภาพ และมีโอกาสในการพัฒนาทั้งคุณภาพผลงาน และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่โดยเท่าเทียมกัน

โดยก่อนหน้านี้แกนนำทั้ง 7 คนได้มีการจัดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พร้อมกับบันทึกคลิปวีดีโอเพื่อนำเสนอผ่านอินเตอร์เน็ตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีหัวข้อหลักคือ “จดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนนักเขียนไทยทั่วประเทศ เรื่อง: ขอเชิญร่วมลงชื่อในการเรียกร้องให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และยุติการใช้ข้อกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพปิดกั้นการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมือง” และมาจนถึงตอนนี้ตัวแกนนำทั้ง 7 คนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสนใจกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมในขณะนี้ หรือแม้กระทั่งไม่ยอมออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณะเพื่อชี้แจงเรื่องราวเหล่านี้แต่อย่างใด

ล่าสุดได้เจอตัว “สุทธิชัย หยุ่น” ประธานกรรมการ บริษัทเนชั่นบรอดแคสติ้ง คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)พ่อของ “คุ่น ปราบดา” ที่งานเปิดตัวช่องอาเซียนทีวี ณ โรงแรม โฟร์ซีซัน กรุงเทพ ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปขอสอบถามถึงกรณีนี้ แต่เจ้าตัวรีบปฏิเสธไม่ขอตอบเรื่องลูกชายสุดที่แต่อย่างใด และบอกว่าไม่มีประเด็นอะไรที่จะพูด โดยอ้างว่าขอตัวไปทานข้าวพร้อมกับเดินหัวเราะจากไป

แต่ทั้งนี้สุทธิชัยได้เผยถึงที่มาที่ไปของช่องอาเซียนทีวีในครั้งนี้ว่า ในฐานะบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ NBC ที่ได้มีการร่วมมือกับอสมท. ครั้งนี้ จะยิ่งทำให้ช่องอาเซียนทีวีที่เป็นช่องภาษาอังกฤษ 24 ชั่วโมงช่องเดียวของประเทศไทยแข็งแกร่งมากขึ้น และเชื่อว่าต่อไปคนดูทั่วโลกจะต้องหันมาชมช่องนี้กันอย่างกว้างขวาง ไม่แพ้ช่องข่าวชื่อดังอย่าง CNN หรือ BBC แน่นอน

“ต้องบอกว่าช่องอาเซียนทีวีนี้มีมาร่วม 2 ปีแล้ว และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาครับ เพราะว่าทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งอสมท. ทั้ง NBC เนชั่น บรอสแคสติ้งนี้ก็เป็นมืออาชีพมานาน ความจริงเราร่วมมือกันหลายโครงการก่อนหน้านี้นะครับ เรียกว่าเปิดศักราชทำทีวีกว่า 20 ปีก่อน เริ่มตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซีย ทำข่าวเลือกตั้งภาษาไทยสดจากห้องส่งวันเลือกตั้งก็ร่วมมือกันมาแล้ว ฉะนั้นนี่ก็เป็นอีกครั้งนึงที่เราจับมือกันระหว่างอสมท. กับเนชั่น กรุ๊ปที่จะเปิดศักราชใหม่ ข่าวภาษาอังกฤษช่องอาเซียน แล้วก็ไม่ใช่แค่ช่องธรรมดาในประเทศไทย มันเป็นช่องที่เราเรียกอาเซียน ทีวี ซึ่งรับชมได้ทั่วโลก 120 กว่าประเทศ ผมคิดว่านี่มันเป็นเสียงจากประเทศไทยที่เป็นภาษาอังกฤษที่พูดแทนอาเซียนไปสู่ประชาคมโลกทีเดียวครับ”

“3 ปีจากนี้ไปอาเซียนก็จะประกาศตนเป็นประชาคมอาเซียน (AEC) ASEAN Economic Community 10 ประเทศจะเป็นหนึ่งเหมือนกับสหภาพยุโรป(EU) เลย แต่ EU นี่ยังไม่มีทีวีช่องที่เรียกว่า EU Channel นะ แต่ของอาเซียนมีแล้ว ฉะนั้นผมเชื่อว่านี่เป็นจุดสำคัญมากที่ประเทศไทยเราจะเป็นศูนย์กลางข่าวสารได้ เพราะว่าเสรีภาพทางด้านข่าวสารของเราเทียบกับอาเซียนอื่นแล้วของเรายังใช้ได้ และฝีไม้ลายมือการทำข่าวไม่แพ้ใคร ผมยังบอกท่านผอ. เลยว่าจากนี้ไปข่าวที่มาจากประเทศไทย มาจากอาเซียน ไม่ว่าเป็น CNN, BBC, อัลจาซีรา ก็ต้องมาควบข่าวของเราเพราะว่าเรามีรายละเอียดมากกว่า เรามีต้นตอข่าวที่ชัดเจนกว่า ฉะนั้นน่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เห็นว่าเรายกระดับของการทำข่าวภูมิภาค เริ่มที่เมืองไทยนี่แหละครับ”

“ซึ่งสิ่งที่เราจะได้เห็นก็คือข่าวที่รวดเร็วทันใจ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง การท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แล้วเราจะสามารถดึงเอาความคิดเห็นในด้านต่างๆ เช่นเศรษฐกิจอาเซียนจากทุกประเทศเลย เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้เราสามารถจะผ่านดาวเทียมก็ดี จะผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ที่จะสัมภาษณ์พร้อมกัน หรือสัมภาษณ์หลายๆ ประเทศ โดยตั้งคำถามเดียวกันที่จะให้อาเซียนตอบ ส่วนเป้าหมายในการเติบโตท่านผอ. กับเราก็คุยกันไว้ว่าจะต้องไปถึงคนดูมากที่สุดทั่วโลก และจะให้เป็นเสียงอาเซียนจากประเทศไทย และจะให้ทั้งคนไทย คนอาเซียน คนต่างชาติที่อยู่ในอาเซียนได้รู้ว่าถ้าจะรู้ข่าวเกี่ยวกับอาเซียนในมุมมองของอาเซียนต้องเปิดที่อาเซียนทีวีช่องนี้แหละ”

“อนาคตทีวีดาวเทียมในประเทศไทยต่อไปจะคึกคักมาก ทุกวันนี้ก็เห็นแล้วว่าทีวีดาวเทียมขึ้นมามากมายขนาดไหน แต่แค่ความเป็นดาวเทียมมันไม่พอ จุดเด่นคือมันเป็นภาษาอังกฤษช่องเดียว เป็นทีวีภาษาอังกฤษ 24 ชั่วโมงช่องเดียวในประเทศไทย และแม้กระทั่งในอาเซียนเราก็ดูอยู่ทุกประเทศที่มี 24 ชั่วโมงก็มีบ้าง แต่ว่าที่สามารถจะสะท้อนตัวเองว่าเราจะทำข่าวอาเซียนเลย ไม่ใช่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่งผมว่ายังไม่มีนะ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซียก็มีช่องภาษาอังกฤษ แต่ว่าเขาไม่เรียกอาเซียน เพราะว่าเขายังทำข่าวจากประเทศเขาอยู่ แต่ของเราใจกว้างพอที่จะให้เขามาทำข่าวจากมุมมองอาเซียนให้ได้ เพราะว่าเราเปิดกว้าง เราจะส่งนักข่าวเราไปอาเซียนเลย ให้เขาพูดเลยจากในแง่มุมของข่าว”

ทางด้าน “นายธนวัฒน์ วันสม” กรรมการผู้อำนวยใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) เผยว่าเชื่อในศักยภาพในสื่อของตนที่มี รวมทั้งได้พันธมิตรอย่างเนชั่น กรุ๊ป มั่นใจจะเป็นช่องที่เทียบกับสำนักข่าวชั้นนำของโลกได้

“ช่องอาเซียนทีวีเป็นช่องสถานีโทรทัศน์ 24 ชั่วโมงภาษาอังกฤษช่องแรกของประเทศไทยนะครับ เริ่มต้นประมาณ 2 ปีที่แล้ว สมัยที่ประเทศไทยยังเป็นประธานอาเซียน โดยทางอสมท.เล็งเห็นว่าน่าจะมีสื่อกลางที่จะทำการสนับสนุนให้ 10 ประเทศในอาเซียนปูทางเป็นหนึ่งในอาเซียนตามกรอบของอาเซียน ก็ควรจะมีสื่อกลางในการทำหน้าที่นอกเหนือจากการทำข้อมูลข่าวสาร มีการประชาสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนแนวความคิดระหว่างประเทศด้วย ก็เป็นที่มาของช่องอาเซียนทีวีที่เริ่มมาประมาณ 2 ปีที่แล้ว วันนี้ก็ถือว่าเป็นการขยายศักยภาพของช่องอาเซียนทีวี ซึ่งวันนี้สามารถรับชมได้ใน 120 กว่าประเทศใน 4 ทวีปผ่านโทรทัศน์ดาวเทียม และสามารถชมผ่านทางช่องทางสื่อใหม่ๆ ได้ทั่วโลกเลย”

“วันนี้เราก็ได้รับเกียรติจากทางเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC ที่เป็นผู้ผลิตช่องข่าวสถานีโทรทัศน์ข่าว 24 ชั่วโมงช่องแรกของประเทศไทย แล้วทางกลุ่มเนชั่นเองก็มีศักยภาพในการผลิตข่าว โดยเฉพาะข่าวภาษาอังกฤษ เราก็คิดว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่าง 2 องค์กรที่มีความชำนาญ ก็จะทำให้ตัวเนื้อหาหรือรายการต่างๆ ของอาเซียน ทีวีนั้นเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นครับ”

“จุดเด่นของช่องผมคิดว่าเป็นเรื่องศักยภาพของทีมงานที่มีบก. คือคุณสุทธิชัย หยุ่นก็เป็นที่ยอมรับอยู่แล้วในระดับโลก ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยนะครับ แล้วก็มีเทคโนโลยีที่เพียบพร้อมในการนำเสนอข่าวสารอย่างรวดเร็ว ฉับไว ครบถ้วน มีพันธมิตรที่เป็นเครือข่ายของเรา ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าวชั้นนำระดับโลกเลย หรือแม้แต่ระหว่างอสมท. กับกลุ่มเนชั่น เรามีศักยภาพค่อนข้างเต็มเปี่ยม แล้วก็มีประสบการณ์ในการผลิตรายการในหลายๆ รูปแบบด้วยนะครับ ก็คิดว่าทั้งสองอย่างผสมกันก็จะทำให้ช่องอาเซียน ทีวีเป็นช่องที่ทุกคนในอาเซียนต้องติดตามชมครับ”

7 แกนนำกลุ่ม “คุ่นแอนด์เดอะก๊วนสมอลล์รู กูแนว”
สัญลักษณ์ยื่นเรื่องแก้ ม.112
ผอ.ธนวัฒน์ วันสม และ สุทธิชัย หยุ่น ร่วมแถลง

กำลังโหลดความคิดเห็น