xs
xsm
sm
md
lg

“แกรนด์เอ็กซ์” วงไข่ใหญ่ ผู้สร้างตำนานล้านตลับ/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
สมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ในยุครุ่งโรจน์
“...อยากบอกให้รู้ว่าฉันชอบเธอ หัวใจมันเพ้อรักเธอเต็มทรวง อยากได้เธอนั้นมาเป็นคู่ควง แสนสุดจะหวงรักเดียวตลอดไป...”

เพลง “เพียงสบตา” : วงแกรนด์เอ็กซ์

........................

“ล้านแล้ว...จ้า”

สมัยก่อน เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว หากภาพยนตร์เรื่องใดของ“ดอกดิน กัญญามาลย์” ทำรายได้เกินล้านขึ้นไป เขาจะออกมาโฆษณาว่า “ล้านแล้ว...จ้า” ซึ่งตอนหลังได้กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาเรื่อยมา ตราบจนลาลับโลก

ยุคนั้น ล้านแล้ว...จ้า ในวงการหนังไทยต่อเรื่อง ไม่ใช่เรื่องยากเย็นแต่อย่างใด เพราะเป็นการฟันเงินในหลักล้านบาท แต่ถ้าล้านแล้ว...จ้า ในวงการเพลงไทยนี่สิ หนักหนาสาหัสเอาเรื่อง เพราะล้านแล้ว...จ้า ในวงการเพลง หมายถึงการทำยอดขายเกินล้านตลับที่หากคิดเป็นเม็ดเงินก็อยู่ในหลัก 60-70 ล้านบาท

ดังนั้นถ้านักร้องคนไหนหรือวงดนตรีวงไหน สามารถพาผลงานเพลงชุดนั้นๆขึ้นไปทะลุหลักล้านตลับได้ ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ไม่ธรรมดาเอามากๆ

จนหลายๆคนบันทึกให้ผลงานขายเทปเกินหลักล้านตลับพวกนี้เป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย ไม่ว่าจะเป็น ผลงานชุด“หนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือ”ของ สรเพชร ภิญโญ และ น้องนุช ดวงชีวัน,“ความรักเหมือนยาขม” ของสายัณห์ สัญญา,”รักครั้งแรก”ของชาตรี,“เมด อิน ไทยแลนด์” ของคาราบาว เป็นต้น

และแน่นอนว่างานนี้ย่อมพลาดชื่อวง“แกรนด์เอ็กซ์” ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คือวงที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ทำยอดขายเทปได้ถล่มทลายเกินล้านตลับเป็นครั้งแรกในเมืองไทย กับอัลบั้ม “ลูกทุ่งดิสโก้(1)” ผลงานชุดแรกของพวกเขาที่เปิดตัวอย่างสวยงาม ก่อนจะตอกย้ำชื่อเสียง ความสำเร็จ ตามต่อกันมา ให้แกรนด์เอ็กซ์กลายเป็นตำนานมาจนทุกวันนี้

“แกรนด์เอ็กซ์” ชื่อนี้ได้แต่ใดมา?

ช่วงที่วงแกรนด์เอ็กซ์รุ่งโรจน์สุดๆเมื่อราว 30 ปีที่แล้ว พวกเขาโด่งดังไปทั่วฟ้าเมืองไทย และความดังสุดๆของพวกเรานี่เอง ทำให้ตลกบางคณะเกาะกระแสด้วยการนำความเป็นแกรนด์เอ็กซ์ไปเล่นสร้างสีสันความฮาบนเวที ไม่ว่าจะเป็น บทเพลงของแกรนด์เอ็กซ์ การเลียบแบบนักร้องนำอย่างพี่แจ้ หรือแม้กระทั่ง การเล่นมุกให้ทายที่มาของชื่อวงแกรนด์เอ็กซ์ว่ามาจากอะไร?

เมื่อ“ผู้ทาย”(ตลกลูกคู่)พยายามทายอยู่ 3-4 ครั้ง ปรากฏว่าตอบผิดตลอด จึงต้อง(แกล้ง)ยอมจำนน “คนทาย”(ตลกตัวนำ)จึงเฉลยด้วยมาดมีภูมิความรู้ในภาษาอังกฤษว่า

...“แกรนด์” หมายถึง“ใหญ่” ส่วน“เอ็กซ์” เพี้ยนมาจากคำว่าเอ้ก(Egg) ที่แปลว่า“ไข่” เพราะฉะนั้น วงแกรนด์เอ็กซ์ ก็คือ “วงไข่ใหญ่” นั่นเอง...ตึง โป๊ะ!?!

ครับ ความที่มุกนี้เล่นเมื่อสมัยผมเป็นเด็ก จึงจำไม่ได้ว่าตลกคณะไหนเป็นคนเล่นมุกนี้(จากความทรงจำเลาๆน่าจะเป็น คณะ“เด๋อ ดู๋ ดี๋”)

แต่ที่จำได้แม่นก็คือ“แกรนด์เอ็กซ์คือวงไข่ใหญ่”นี่แหละ ส่วนจะเป็น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่นก ไข่ห่าน ไข่เหี้ย(ขนม) หรือไข่คน(ออมเล็ตนะอย่าคิดมาก) ตลกคณะนั้นไม่ได้ขยายความต่อ แต่คนฟังก็รู้ๆกันอยู่แล้ว เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ขำกันอุจาระแตกอุจาระแตน ส่วนวงแกรนด์เอ็กซ์จะฮาด้วยหรือเปล่าผมมิอาจทราบได้ แต่ที่ทราบก็คือ ที่มาของชื่อวงแกรนด์เอ็กซ์อย่างเป็นทางการนั้นมีที่มาที่ไป ถือเป็นชื่อที่นำความรุ่งโรจน์แห่งยุคสมัยมาผสมกันได้อย่างลงตัวทีเดียว

แกรนด์เอ็กซ์ ชื่อนี้ต้องมองกันในภาษาอังกฤษคือ “Grand Ex’ “ ถึงจะเห็นภาพชัดเจน

Grand Ex’ ชื่อวงดนตรีวงนี้ นำมาจากอิทธิพลของ 2 วงร็อคชื่อดังแห่งยุค 70’s ได้แก่วง “Grand Funk Railroad”(แกรนด์ฟังก์ เรลโรด) หรือที่นิยมเรียกสั้นๆว่า “Grand Funk” เจ้าของเพลงดัง “ดิอเมริกันแบนด์” กับวง “The Jimi Hendrix Experience”ของ ”จิมิ เฮนดริกซ์” สุดยอดเทพแห่งกีตาร์ผู้เป็นตำนาน ซึ่งเป็นการนำชื่อแรกกับชื่อสุดท้ายของวงทั้งสองมาผสมกัน เป็น“วง Grand Experience” แต่ด้วยความที่ชื่อยาวและเรียกยาก กอปรกับช่วงนั้นมีงานแสดงสินค้า “Japan Expo’70” ในญี่ปุ่น ที่ในโปสเตอร์โปรโมทงานเขียนสั้นๆว่า Ex’70 ทางสมาชิกวงจึงนำชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อวงว่า “Grand Ex’ “
ลูกทุ่งดิสโก้1,2
กำเนิด

วงแกรนด์เอ็กซ์ รวมตัวกันก่อตั้งในปี พ.ศ. 2513 โดยกลุ่มนักเรียนชั้น ม.ศ. 5 วิทยาลัยบพิตรภิมุข นำโดย นคร เวชสุภาพร : ในตำแหน่งกีตาร์โซโลและหัวหน้าวง ร่วมด้วยเพื่อนๆวิทยาลัยเดียวกัน คือ กำธร จิ้มลิ้มจินดา : กีต้าร์คอร์ด, วราวุธ หิรัญวรรณ : เบส, ดำรง ชื่นเจริญสุข : โฆษกและนักร้องนำ,ณรงค์ เผือกห้าวหาญ : นักร้องนำ,ประสิทธิ์ ไชยะโท : กลอง และ สมมาตร ธูปจินดา : ออร์แกน

สมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ยุคแรกแย้ม เข้าร่วมประกวดวงสตริงคอมโบ้ชิงแชมป์ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2515 ประเภทนักเรียนนักศึกษา ซึ่งการประกวด 2 ครั้งก่อนหน้านั้น คือ ปี 2512,และ 2513 (ปี 2514 งดเพราะเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง) วงรุ่นพี่ระดับตำนานอย่าง “ดิอิมพอสสิเบิ้ลส์” ซิวแชมป์ไปครองทั้งสองครั้ง รวมถึงครั้งที่ 3 ในปี 2515 ด้วย

ผลการประกวดในประเภทนักเรียนนักศึกษาปีนี้ วงมัมมี่ได้เป็นแชมป์ ส่วนแกรนด์เอ็กซ์ได้รางวัลรองชนะเลิศคู่กับรางวัลขวัญใจสื่อมวลชนมาครอง ด้วยแนวทางการแต่งตัวที่เข้าตาสื่อ คือแม้จะเล่นเพลงร็อคดุๆ แต่พวกเขาแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเนคไท สวนทางกับวงอื่นๆ

หลังการประกวด สมาชิกวงคนเรียนจบ แต่ละคนแยกย้ายกันไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา แต่กระนั้นวงแกรนด์เอ็กซ์หาได้ยุบวงตามไปไม่ เพราะพี่ต้อง : นคร ยังสานวงแกรนด์เอ็กซ์ต่อด้วยการ รวบรวมเพื่อนพ้องทั้งใหม่-เก่า เล่นดนตรีกันต่อ โดยลงทุนถึงขนาดสละสิทธิ์ไม่เรียนในมหาวิทยาลัยที่เอ็นท์ติด แต่เลือกที่จะเรียนในมหาวิทยาลัย(เปิด)ที่เพื่อนๆนักดนตรีส่วนใหญ่กันอยู่ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการซ้อมดนตรีและการทำวง

วงแกรนด์เอ็กซ์นับจากนี้ได้ก้าวเดินเข้าสู่วงการดนตรีอาชีพ เดินสายเล่นตามคลับ บาร์ และตามต่างจังหวัด อยู่สักพักหนึ่งประมาณ 8 เดือน ก่อนที่เพื่อนๆบางคนในวงจะลาออกไป

งานนี้พี่ต้องผู้หลงใหลในเสียงดนตรีหาได้ย่อท้อไม่ เขาเดินหน้าต่อด้วยการหาสมาชิกใหม่ พร้อมกับปรับแนวทางของวงแกรนด์เอ็กซ์ใหม่เพื่อให้เป็นวงสตริงคอมโบ้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเสริมทัพทีมเครื่องเป่า คือ ชาย แสงชะอุ่ม : แซกโซโฟน, เสน่ห์ ศุภรัตน์ : ทรัมเป็ต และ สมศักดิ์ อภิวัฒน์วีรกุล : ทรอมโบน เข้ามาในราวปี 2517 และการเข้ามาของนักร้องนำคนใหม่ คือ วสันต์ แต้สกุล(นามสกุลขณะนั้น) หรือ พี่ “ตี๋” วสันต์

ปี 2519 มือเบสในยุคก่อตั้งกับมือคีย์บอร์ดลาออกไป พี่ตี๋ จึงต้องหันไปเล่นคีย์บอร์ดอีกทาง ส่วนมือเบสได้พี่แอ๊ด-ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ”มาเป็นสมาชิกคนใหม่

ในปีเดียวกันนี้ แกรนด์เอ็กซ์ได้ พี่จ๋าย-จำรัส เศวตาภรณ์ มาเพิ่มในฐานะนักร้องนำและกีตาร์คอร์ด ก่อนออกซิงเกิ้ลแรก“คู่นก”ตามมาในปี 2520 อันถือเป็นการเดินทางเข้าสู่ยุทธจักรวงการเพลงไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของวงนี้

สร้างตำนาน

หลังซิงเกิ้ลคู่นกออกมา ชาย มือแซกโซโฟนคนเก่าลาออกไป แทนที่ด้วยมือแซกโซโฟนคนใหม่ คือ พี่รัก-พนัส หิรัญกสิ ผู้มีฝีมือในการเรียบเรียงเสียงประสานเป็นเลิศ

ด้วยความยอดเยี่ยมด้านการเรียบเรียง บวกกับไอเดียบรรเจิดของพี่ต้อง นคร ที่ต้องการฉีกหนีความจำเจของยุคสมัย ที่หลายวงส่วนใหญ่นิยมเล่นเพลงต่างประเทศ หรือไม่ก็นำเอาทำนองเพลงสากลมาใส่เนื้อไทย แกรนด์เอ็กซ์จึงของเลือกความแตกต่างด้วยการนำความเป็นไทยในเพลงลูกทุ่งมาทำใหม่ในแบบสตริง พร้อมกับใส่ความเป็นร็อคและจังหวะดิสโก้สนุกๆที่เป็นเทรนด์นิยมของยุคนั้นลงไป เกิดเป็นผลงานอัลบั้มชุด “ลูกทุ่งดิสโก้ 1“ ขึ้นมาในปี 2522

ลูกทุ่งดิสโก้ ประสบความสำเร็จเกินคาด สร้างชื่ออย่างแรงให้กับแกรนด์เอ็กซ์ พร้อมกับยอดขายเทปถล่มทลาย เป็นอัลบั้มชุดแรกที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านตลับ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเพลงไทย

ปี 2523 แกรนด์เอ็กซ์ส่ง “บันทึกการแสดงสดที่ Manhutton Club”(ก.พ.23) ออกมา เป็นการผสมระหว่างเพลงสากลกับเพลงไทยโดยมีเพลง“คู่นก” ซิงเกิ้ลแรกของวงเคียงคู่มาด้วย แล้วตามติดด้วยการตอกย้ำความสำเร็จจากการแจ้งเกิดอีกครั้งใน “ลูกทุ่งดิสโก้ 2 “(มี.ค.23)

แม้เส้นทางเดินของแกรนด์เอ็กซกำลังไปได้สวย แต่สมาชิกอย่าง พี่จ๋าย-จำรัส กับพี่สมศักดิ์ มือทรอมโบน มีความจำเป็นต้องลาออกไป ทำให้วงแกรนด์เอ็กซ์ต้องช่วยกันเฟ้นหาสมาชิกใหม่ ได้ “พี่เต๊ะ-โชคดี พักภู่”(ชื่อเดิมบุญยัง ฟักภู่)เข้ามาเล่นทรอมโบน และได้นักร้องเสียงดีที่ถนัดร้องเพลง สไตล์ Bee Gee มาร่วมสร้างตำนานอีกหน้าหนึ่งให้กับวงการเพลงไทย นั่นก็คือ “พี่แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์” ผู้ที่เคยเป็นที่สุดของที่สุดแห่งนักร้องในวงการเพลงไทยมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ติดลมบน

เส้นทางดนตรีของแกรนด์เอ็กซ์หลังการเข้ามาของพี่แจ้ถือว่าเข้าสู่ยุคฮอตฮิตติดลมบน โดยในอัลบั้ม “เขิน”(ก.ค. 23) ผลงานชุดที่ 4 ของพวกเขา แกรนด์เอ็กซ์ได้ฉีกแนวมาสร้างสรรค์ผลงานเพลงของตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพิงเพลงเก่า และไม่ต้องพึ่งพาทำนองต่างประเทศ เขินมีปรากฏการณ์ที่สร้างความเป็นครั้งแรกให้กับวงนี้หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งเอาไว้ถึงตอนลงลึกลงไปในเรื่องของอัลบั้มและบทเพลงเด่นๆของพวกเขา ผมจะนำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง

ผ่านพ้นจากเขิน แกรนด์เอ็กซ์ออกผลงานชุดถัดมาแบบไม่เขินด้วยอัลบั้ม“ผู้หญิง”(มี.ค. 24) ที่มีเพลงเพื่อชีวิตอย่าง “แม่ใจร้าย” เป็นเพลงนำ ก่อนตามด้วย ซิงเกิ้ลชุดที่ 2 ของวงคือ “หัวใจมีปีก” ที่สร้างชื่ออย่างมากให้กับพี่แจ้ แล้วจึงปล่อยผลงาน”บันทึกการแสดงสดที่หอประชุมจุฬาฯ” ตามมาเป็นอัลบั้มชุดที่ 6 ในเดือน มิ.ย. 24

ไม่กี่เดือนถัดจากชุดที่ 6 แกรนด์เอ็กซ์ปล่อยผลงานชุดที่ 7 ออกมา ในชื่อชุด“แกรนด์เอ็กซ์โอ”(ต.ค.24)

แกรนด์เอ็กซ์โอ สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเพลงไทยอีกครั้ง เมื่อแกรนด์เอ็กซ์นำเพลงลูกกรุงอมตะเก่าๆ มาเล่นและร้องใหม่ในสไตล์ของพวกเขา ผลก็คือแกรนด์เอ็กซ์โอมาเหนือกว่าลูกทุ่งดิสโก้ 1 เสียอีก สามารถสร้างความถล่มทลายไม่ยั้งยิ่งด้วยผลงานยอดขายเทปกว่า 1 ล้าน 5 แสน ตลับ นับเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของวง

ผลความสำเร็จสูงปรี๊ดของแกรนด์เอ็กซ์โอ มีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์เกิดขึ้น เมื่อทางวงได้รับผลตอบแทนแบบไม่สมน้ำสมเนื้อกับยอดจำหน่ายเทป ทำให้แกรนด์เอ็กซ์เลือกย้ายสังกัดใหม่มาอยู่ใต้ชายคาของ บริษัท ที เอส อี กรุ๊ป จำกัด (T.S.E. Group : Trirath Service Enterprise) ที่อยู่ในการดูแลของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในยุค ผอ.กำพล วัชรพล

หลังจากเปลี่ยนบ้านใหม่ แกรนด์เอ็กซ์เดินตามสูตรเดิมผสมสูตรใหม่ด้วยการส่ง 3 อัลบั้ม 8-9-10 ออกมาไล่เลี่ยกันในปี 2525 ได้แก่ “บุพเพสันนิวาส”(มี.ค.),”นิจนิรันดร์”(ก.ย.) และ “พรหมลิขิต”(ต.ค.) ที่เป็นการนำเพลงลูกกรุงเก่าๆอมตะมาเล่นใหม่ ผสมกับเพลงใหม่ๆที่พวกเขาแต่งขึ้นเอง

3 ชุดนี้แม้ไม่ดังถล่มทลาย แต่ก็ขายได้แบบเกินคุ้มต่อการลงทุนลงแรง นอกจากนี้ในชุดที่ 10 แกรนด์เอ็กซ์ยังได้ พี่อ๊อด-ศรายุทธ สุปัญโญ ที่เคยไปร่วมแจมเล่นคีย์บอร์ดเป็นแขกรับเชิญแบบไม่เขินในชุดเขิน มาเป็นสมาชิกใหม่ของวง

งานเพลงในชุดพรหมลิขิตที่ออกมาจึงเจือไปด้วยกลิ่นความเป็นฟิวชั่นแจ๊ซ(ตามสไตล์ถนัดของพี่อ๊อด) พร้อมกับการเรียบเรียงดนตรีที่สวยงามละเมียดละไม นับเป็นการเดินเข้าสู่สีสันใหม่ทางดนตรีของวงแกรนด์เอ็กซ์
เพชร อัลบั้มที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดของวงแกรนด์เอ็กซ์
เพชรย่อมเป็นเพชร

การเข้ามาของพี่อ๊อด-ศรายุทธ ได้ชื่อว่าเป็นยุคสุดยอดของวงแกรนด์เอ็กซ์ ทั้งความลงตัวในเรื่องของฝีมือและการทำเพลง โดยสมาชิกในชุดสุดยอดนี้มี 9 คนประกอบด้วย

พี่ต้อง-นคร เวชสุภาพร : กีตาร์,หัวหน้าวง,พี่เบิ้ม-ประสิทธิ์ ไชยะโท กลอง,พี่ตี๋-วสันต์ สิริสุขพิสัย(แต้สกุล) : คีย์บอร์ด,พี่แดง-เสน่ห์ ศุภรัตน์ : ทรัมเป็ต,พี่แอ๊ด-ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ : เบส,พี่รัก-พนัส หิรัญกสิ : แซ็กโซโฟน, พี่เต๊ะ-โชคดี พักภู่ : ทรอมโบน,พี่แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ : ร้องนำ และพี่อ็อด -ศรายุทธ สุปัญโญ : คีย์บอร์ด, ซินธิไซเซอร์

สมาชิกทั้งหมดนอกจากพี่แจ้ที่ร้องนำเป็นหลักแล้ว ทุกคนยังสามารถร้องเพลงได้หมด และมีเพลงดังๆเป็นลายเซ็นของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตามหลังชุดพรหมลิขิต ทิศทางใหม่ในบทเพลงของแกรนด์เอ็กซ์ยังไม่แสดงตัวออกมาชัดเจน เพราะมีผลงาน “บันทึกการแสดงสดวาเลนไทน์ เลเซอร์คอนเสิร์ต” เข้ามาแทรกในช่วง ก.พ. 26

จากนั้นแกรนด์เอ็กซ์ส่งอัลบั้ม“เพชร” ตามมาในเดือน ก.ย. ปีเดียวกัน

เพชร ชื่ออัลบั้มนี้ไม่รู้ใครเป็นคนตั้งแต่มันช่างเหมาะสมกับผลงานชุดนี้ยิ่งนัก เพราะนี้มันคือผลงานที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดของวงแกรนด์เอ็กซ์ เป็นเพชรแห่งวงการเพลงไทยที่ยังคงความคลาสสิคมาจนทุกวันนี้

อัลบั้มเพชร แกรนด์เอ็กซ์ทำเพลงเอง แต่งเพลงเอง มีบทเพลงที่เป็นตำนาน อย่าง “เพียงสบตา”, “เพื่อน”, “รักในซีเมเจอร์”,“น้ำค้าง” ร่วมด้วย“ทราย”เพลงบรรเลงชั้นเยี่ยม ที่ตอนหลังกลายเป็นเพลงเปิดประจำวงของพวกเขาไป

ถัดจากอัลบั้มที่ 12 เพชร อัลบั้มลำดับ 13 ที่ออกตามมาในเดือน เม.ย.ปี 27 คือ “บริสุทธิ์” ที่ดูเหมือนว่าแกรนด์เอ็กซ์จะยืนพิงฝาด้วยการอิงสูตรความสำเร็จมาจากชุดเพชร

กระนั้นในชุดบริสุทธิ์ก็ถือเป็นผลงานอัลบั้มที่ดีอีกชุดหนึ่งของแกรนด์เอ็กซ์ โดยที่มาของชื่อชุดนี้มาจากการเกิดของหนูน้อย โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ที่เมื่อโตขึ้นเขาได้กลายเป็นนักร้อง นักดนตรี ขวัญใจสาวๆอยู่ในทุกวันนี้

แยกทาง

เป็นธรรมดาของโลกเมื่องานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา วงดนตรีก็ย่อมมีวันแยกวง

แกรนด์เอ็กซ์เมื่อเดินมาถึงจุดอิ่มตัว สมาชิกจำนวนหนึ่งได้ขอแยกวงไปด้วยแนวคิดและเหตุผลที่เห็นต่างกัน นั่นจึงเป็นที่มาของอัลบั้มที่ 14 "ดวงเดือน" อัลบั้มสุดท้ายอำลาแกรนด์เอ็กซ์ยุคคลาสสิค

จากนั้นสมาชิก 5 คน ของแกรนด์เอ็กซ์ ได้แยกทางไป นำโดย พี่อ๊อด -ศรายุทธ ที่ชิงลาออกไปก่อน ต่อมาจึงถึงคิวของการแตกตัวครั้งใหญ่ ด้วยการลาออกของ 4 สมาชิก คือ พี่แอ๊ด-ทนงศักดิ์,พี่ตี๋-วสันต์,พี่รัก-พนัส และ พี่แดง-เสน่ห์ ที่ออกไปร่วมกับเพื่อนนักดนตรีกลุ่มหนึ่งตั้งวง“เพื่อน”ขึ้นมา สร้างผลงานที่ดังเปรี้ยงปร้างให้กับวงการเพลงไทยได้พักหนึ่ง ก่อนจะแผ่วและเงียบหาย

ด้านอีก 4 สมาชิกที่เหลือ คือ พี่ต้อง-นคร,พี่เบิ้ม-ประสิทธิ์,พี่แจ้ ดนุพล และพี่เต๊ะ-โชคดี ยังคงสานต่อความเป็นแกรนด์เอ็กซ์ ด้วยการปรับชื่อเป็น “แกรนด์เอ็กซ์-แฟมิลี่” ซึ่งฟังแล้วเหมือนต้องการบอกอะไรเป็นนัยๆ

ปี 28 แกรนด์เอ็กซ์ ประคองวงส่งผลงานลำดับ 15 ออกมาในชื่อชุด“หัวใจสีชมพู”(มี.ค.28) แกรนด์เอ็กซ์ ในยุคที่วงการเพลงไทยถูกวงเพื่อชีวิตอย่าง“คาราบาว” ยึดหัวหาด ทำให้ชื่อเสียงและยอดขายของวงแกรนด์เอ็กซ์ไม่เปรี้ยงปร้างอีกแล้ว

ในยุคขาลงของแกรนด์เอ็กซ์ มีข่าวร่ำๆว่าพี่แจ้น่าจะลาออกภายในอีกไม่นาน แต่ทางวงก็ส่งผลงานหมายเลข 16 ชุด “สายใย”(ก.ค.28)ออกมา พร้อมกับการเปิดตัวของสมาชิกใหม่คือ โอ๋ : ไอศูรย์ วาทยานนท์ ที่เสียงร้องของเขาถูกแฟนเพลงแกรนด์เอ็กซ์เก่าๆที่ติดหูกับเสียงพี่แจ้วิจารณ์อย่างหนัก ขณะที่พี่แจ้เอง หลังจากชุดนี้เขาก็โบกมืออำลาจากแกรนด์เอ็กซ์ไปสร้างฝันของตัวเองกับอัลบั้ม “ฝันสีทอง” (2529) ที่สร้างชื่อ สร้างยอดขายได้เกิน 1 ล้านตลับ ก่อนจะมีอัลบั้มอื่นๆตามมา และแผ่วพลิ้วหายไป
แกรนด์เอ็กซ์ยุคผลัดใบกับขวดโหล 1,2
ขาลง

หลังการจากของพี่แจ้ วงแกนด์เอ็กซ์ผลัดใบด้วยการ ดึง จอนนี่-จอนนี่ แอนโฟเน่,เอ-อริชัย อรัญนารถ และไก่-สุธี แสงเสรีชน เข้ามาเสริมทีม ส่งอัลบั้ม “ขวดโหล 1-2” ออกมา ตามด้วยผลงานชุด“นิรันด์กาล” ที่ปล่อยตามมาอีกไม่นานในปี 2529

ดนตรีของแกรนด์เอ็กซ์ในช่วงท้าย แม้จะสร้างสรรค์ออกมาแบบไม่ขี้เหร่ ด้วยคุณภาพในระดับที่น่าพึงพอใจ มีอะไรสอดแทรกให้ค้นผา ผิดกับบทเพลงอิงการตลาดสุกเอาเผากินจำนวนมากในสมัยนี้ แต่ด้วยความเป็นขาลงแบบฉุดไม่อยู่ของวง ทำให้ชื่อเสียงของแกรนด์เอ็กซ์นับวันยิ่งมายิ่งแผ่วลงไปเรื่อยๆ

ปิดตำนาน

ปี 2530 แกรนด์เอ็กซ์ส่งผลงานเพลงชุด “อยากให้ความรัก(แก่คนทั้งโลก)” ออกมา ตามด้วยการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาขับร้องในชุดพิเศษ “ดวงใจกับความรัก”(ธ.ค.30)

จากนั้นในปลายปี 2531 แกรนด์เอ็กซ์ออกอัลบั้ม “ได้ไหม”ออกมา โดยพี่ต้อง-นคร ส่งน้ำหนักการทำเพลงไปให้คลื่นลูกใหม่อย่าง พี่ไก่-สุธี

งานเพลงชุดนี้มีเพลง“เกิดเป็นผู้ชาย” เป็นเพลงเด่น ที่คงความคลาสสิคและกลายเป็นลายเซ็นของพี่ไก่มาจนถึงทุกวันนี้

ขณะที่ความเป็นวงแกรนด์เอ็กซ์หลังจากชุดนี้ก็ได้ยุติวงลงอย่างเป็นทางการ ทิ้งตำนานอดีตวงดนตรีอันยิ่งใหญ่ผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์เอาไว้ สมดังชื่อวง“แกรนด์เอ็กซ์” ที่ไม่ใช่วงไข่ใหญ่อย่างมุกของตลกบางคณะในสมัยก่อน

หากแต่นี่คือวงที่“ยิ่งใหญ่” สมคำว่า“Grand” และมากไปด้วยฝีมือและประสบการณ์ สมคำว่า “Experience” ตามชื่อวงในแนวคิดแรกเริ่ม ก่อนถูกย่อยเป็นวง“แกรนด์เอ็กซ์” (Grand Ex’) ที่กลายเป็นหนึ่งในตำนานของวงการเพลงไทยมาจนถึงทุกวันนี้
*****************************************

หมายเหตุ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

- ปี พ.ศ. 2545 สมาชิกแกรนด์เอ็กซุ์คสุดยอดกลับมารวมตัวกันเล่นคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้ง ท่ามกลางการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งของแฟนเพลง ทำให้หลังจากนั้นพวกเขาได้มีการรวมตัวกันในแบบเฉพาะกิจอีกบ้าง ตามแต่วาระอันสมควร
- ข้อมูลส่วนหนึ่งอ้างอิงจาก เว็บไซต์แกรนด์เอกซ์ แฟนคลับ
- เรื่องราวของแกรนด์เอ็กซ์ยังไม่จบง่ายๆเพียงแค่นี้ ตอนต่อไปผมจะนำผลงานเพลงดังๆของวงพวกเขามาบอกเล่าสู่กันฟัง

*****************************************

บทความแนะนำเพลงน่าสนใจย้อนยุค จะนำเสนอสัปดาห์เว้นสัปดาห์ สลับกับบทความแนะนำเพลงน่าสนใจในสมัยนิยม
*****************************************

คอนเสิร์ต

“Concerto for Orchestra”

วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย(TPO)ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลไทยในการดูแลของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำเสนอคอนเสิร์ต “Concerto for Orchestra” พบบทเพลงไทย “เขมรปากท่อ เถา” และผลงาน world premier ของ Kazunori Miyake นักประพันธ์ชาวญี่ปุ่นที่จะนำเพลง Concerto for Marimba มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกของโลก โดยมี Momoko Kamiya นักมาริมบ้าชาวญี่ปุ่นมาบรรเลง พร้อมกันนี้ยังมีผลงาน Concerto for Orchestra ของ Béla Bartók อันเลืองชื่ออีกด้วย

คอนเสิร์ตครั้งนี้อำนวยเพลงโดย Claude Villaret จัดขึ้น ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล 2 รอบ คือ วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2554 เวลา 19.00 น. และวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2554 เวลา 16.00 น. บัตรราคา 500, 300 และ 100(นักเรียนนักศึกษา) บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งกรุณาโทร. 0 2800 2525 - 34 ต่อ 153-154 หรือ www.music.mahidol.ac.th, www.thailandphil.com
กำลังโหลดความคิดเห็น