19 มิถุนายนนี้ วันคล้ายวันเกิดของ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช อายุเต็มเบญจเพสพอดี จะมีการ “สะเดาะห์เคราะห์ - ล้างบาป และเสริมเสน่ห์ครั้งใหญ่” ในแบบมุสลิมที่มัสยิด โดยให้ผู้ประกอบพิธีอาวุโสอ่านดูอาร์อำนวยพร ด้วยหวังว่าจะพลิกชะตากลับมายืนในวงการบันเทิงอีกครั้ง หลังจากถูกถล่มจนระเนระนาดจากกณีศึกรักสามเส้า “แย่งผัวเขา”อ ชีวิตที่กำลังจะร่อแร่ มีเพียง “ยุวดี บุญครอง” ที่เข้ามาถือหาง “ชู” พร้อมๆกับเอาพิ้งกี้มาช่วย “ โหมและเชิด” ธุรกิจที่ไปได้ไม่สวยนัก เพราะมีเสียงร่ำลือว่า 3 เดือนจ่ายเงินเดือนพนักงานครั้ง !?
เรียกว่าอึกทึกครึกโครมพอสมควรสำหรับการออกทีวี รายการ "ราตรีสโมสร" ของเครือโพลีพลัส ของ "ธัญญ่า" กรณีหย่าร้างสามี ออกอากาศทางช่อง 3 ฟากของพิ้งกี้ มีเจ๊ยุวดี บุญครอง เป็นกุนซือพาไปตรวจเลือด ลดกระแสธัญญ่าในวันเดียวกัน และแทบจะพูดแทนพิ้งกี้ทุกกรณี ก่อนจะบินไปเปิดตัวหนังที่อินเดียด้วยกันเพื่อนำรายได้เข้าประเทศชาติตามที่เจ๊ยุได้กล่าวไว้ในการแถลงข่าวในครั้งนั้น โดยที่พิ้งกี้เดินทางไปก่อนพร้อมครอบครัว
ก่อนไปในวันที่ 19 มิ.ย.นี้พิ้งกี้จะมีอายุครบ 25 ปี เบญจเพสพอดิบพอดี "แม่อ้อย สรินยา ไชยเดช" จึงทำพิธีแบบชาวมุสลิมสวดมนต์ขอพรให้เรียกว่าสวด "ดูอาร์" เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของลูกสาวหลังผ่านข่าวร้อนฉ่ามือที่สามมาตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา แม้ว่ากระแสตอบรับในเมืองไทยจะส่อแววมืดมน แต่พิ้งกี้ก็ยังได้เปิดตัวหนังที่อินเดียลบคำสบประมาทไปได้ 1 ข้อครหา ที่เคยโดนมองว่าโม้แบบ "นาธาน โอมาน" แต่ความจริงเธอได้เล่นหนังอินเดียจริงๆ
โดยแม่อ้อยของเธอเอ่ยถึงสภาพจิตใจของพิ้งกี้ ณ เวลานี้ว่า หลายอย่างต้องเข้มแข็งและต้องใช้ชีวิตดำเนินต่อไป และหวังใจว่าข่าวลือทั้งหลายทั้งปวงจะจบสิ้นลงเสียที
"สภาพจิตใจของน้องก็ต้องเข้มแข็งนะ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เราก็ไม่คิดว่าเรื่องอะไรแล้วล่ะ เราก็จะคิดแต่เรื่องของเรา เรารู้ว่าเราจะต้องทำอะไรข้างหน้า ณ วันนี้กี้ก็ไม่เชิงสบายใจหรอกค่ะ มันต้องทำใจเพราะมันต้องใช้เวลา เดี๋ยวพอเรื่องนี้ลือจบก็จะมีเรื่องอื่น ก็ไม่รู้จะมีเรื่องอะไรตามมาอีก มันก็เป็นแบบนี้น่ะ แม่ก็อยากขอให้มันจบๆเถอะหมายถึงว่าให้เราไปทำงาน ในส่วนของเราเถอะ ข่าวลืออะไรทั้งหลายก็ให้มันจบๆไปเถอะ"
แม่พิ้งกี้ดูเหนื่อยหน่ายใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และพยายามไม่ตอบโต้ ไม่ฟ้องกลับกับเรื่องราวใดๆ เพียงแต่ขอโอกาสให้พิ้งกี้ได้กลับไปทำงานที่อินเดีย ซึ่งโดยหน้าที่แม่ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมเจ้าตัวบอกว่าได้ทำพิธีทางศาสนาเพื่อให้
พิ้งกี้รอดพ้นจากเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมา อีกทั้งถือว่าสะเดาะเคราะห์กรรมในช่วงเบญจเพสด้วย
"พอดีปีนี้น้องเบญจเพสพอดี เต็ม 25 ด้วย ก็หลัง19 มิ.ย. นี้ก็หวังว่าชีวิตน้องจะดีขึ้นแหละ แม่เป็นมุสลิมเขาก็ทำในส่วนของศาสนาเรานั่นแหละ มันไม่ใช่ทำพิธี อย่างน้อยเหมือนกับเขาเรียกว่าให้ผู้อาวุโสมาอ่านดูอาร์อวยพรให้แบบนี้น่ะค่ะ ศาสนาเราก็เป็นอย่างนั้นแล้วเราอาจจะไปทำบุญให้คนชรา ไปทำบุญที่สุเหร่าในส่วนของเราก็คิดอยู่ว่าจะทำอะไรบ้าง ก็ยังไม่ได้ชวนแฟนคลับหรือใครเพราะแม่กับกี้จะไปอินเดีย ก็อาจจะทำเงียบๆไม่ให้มันเอิกเกริกก็ทำๆไปกับพี่ๆ น้องๆ แบบครอบครัว" ....แม่พิ้งกี้เปิดเผยกับสื่อบางฉบับแบบนั้นก่อนเดินทางไปอินเดีย
สำหรับเรื่องข่าวต่างๆ นั้นมี "สื่อ" โยงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผู้เป็นแม่ออกตัวแทนพิ้งกี้ว่าอยากให้ปล่อยพิ้งกี้ไป และขอพูดภาษาแบบชาวบ้านๆว่า...."ให้กี้มันไปทำงานเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่มันเถอะ" เป็นคำทิ้งท้ายที่แม่อ้อยพูดไว้ก่อนเดินทางไปเปิดตัวหนังอินเดียกับลูกสาวและครอบครัว พร้อมด้วย "ยุวดี บุญครอง"
จับตา "พิ้งกี้" ดังจริงหรือ ที่อินเดีย?
ทุกครั้งที่มีข่าวฉาวอินเดียจะเป็นประเทศที่พิ้งกี้เดินทางไปหลบข่าวเสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้น อินเดียยังจ้างเธอเล่นหนังและเอาดีด้านนี้ ซึ่งหนังของเธอเปิดตัวในวันที่ 15 มิ.ย.2554 ที่บอลลีวูด ประเทศอินเดีย ครั้งนี้ถือเป็นการไปแบบแก้ข้อครหาให้กับพิ้งกี้ได้แล้ว เนื่องจากว่าวันที่ 15 มิ.ย.2554 จะเป็นการเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ หนังที่เธอไปเล่นไว้ และแน่นอนว่าเธอและครอบครัวรวมทั้งทีมงานของยุวดี บุญครอง รวมทั้งสื่อมวลชนบางส่วนเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย ซึ่งพิ้งกี้เคยเผยเอาไว้ว่า เธอมีงานที่อินเดียติดต่อมาหลายชิ้นแต่เพราะเธอไม่ได้ดังที่อินเดียมาก่อน และการขอร้องของผู้กำกับทำให้เธอยังรับงานต่อไม่ได้ นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าหากหนังเรื่องล่าสุดของเธอโด่งดัง เธออาจจะมีงานที่อินเดียต่อทันที แต่อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามกันต่อไปว่า งานที่ติดต่อเข้ามานั้นเธอจะได้รับการตอบรับอย่างไรต่อคนดูที่อินเดีย
แต่สำหรับในเมืองไทยนั้นพิ้งกี้และแม่ ร่วมกับ "เจ๊ยุ-ยุวดี บุญครอง" กุนซือของเธอช่วยออกมาแถลงข่าวในขณะที่พิ้งกี้เจอข่าวรุมทึ้งว่าเธอท้อง ซึ่งกุนซือคนดังกล่าวคือหุ้นส่วนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของพิ้งกี้ที่เธอและเจ๊ยุร่วมหุ้นกัน โดยมีพิ้งกี้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ งานนี้จึงไม่แปลกที่เธอจะออกมาทั้งวิ่งทั้งเต้นออกโรงต่อสู้ด้วยกัน จึงไม่แปลกที่การไปอินเดียครั้งนี้ ทีมงานของเจ๊ยุจะตามไปด้วย เพราะได้ก้าวเข้ามาเป็นหุ้นส่วน มีส่วนได้ส่วนเสียกันไปแล้วในเวลานี้ จะบอกว่าช่วยพิ้งกี้ หรือกู้วิกฤตตัวเองก็ต้องใช้วิจารณญาณในการชม เพราะเงินเดือนพนักงานในบริษัทนั้น ออก 3 เดือนต่อครั้ง ถ้าไม่กู้วิกฤตนี้ผลิตภัณฑ์ก็จะไม่มีคนใช้ กระทบตัวสินค้าโดยตรง
สำหรับละครไทยนั้นแม่อ้อยยืนยันว่าพิ้งกี้ยังมีละครติดต่อเข้ามามากมายเช่นเคย แต่ที่ยังไม่ได้รับเนื่องจากต้องการไปสานต่องานหนังที่อินเดียและยังอยู่ในช่วงที่ไม่สบายใจ หากแต่หลังจากนี้ พิ้งกี้จะกลับมาเล่นละครในเมืองไทยแน่นอนแต่ตอนนี้ ขออุบไว้ก่อน แต่ยืนยันว่าติดต่อมาเป็นจำนวนมาก
แต่สำหรับ "วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา" แล้ว เขาได้เปิดโหวตให้แฟนคลับในรายการของเขาโหวตให้กับพิ้งกี้ หากแม้นว่าสมมติว่าพิ้งกี้ได้กลับมาเล่นละคร ในเมืองไทย แฟนคลับรายการ "เช้าดูวูดดี้" จะให้เธอรับบทบาทไหนจากละครเรื่องใด นั้น 5 อันดับที่ว่ามีดังต่อไปนี้ 1.ดอกส้มสีทอง 2.ระบำดวงดาว3. ดาวพระศุกร์ 4. สงครามนางฟ้า5. กว่าจะรู้เดียงสา
ซึ่งวู้ดดี้ยืนยันว่า เขาทำโพลนี้ขึ้นมา แต่ไม่อยากให้ฝ่ายไหนคิดมาก เพราะแค่ขำๆ แต่ไม่รู้ว่าพิ้งกี้กับแฟนคลับของเธอจะขำด้วยหรือไม่ แต่ไม่ว่าข่าวจะรุมเร้าพิ้งกี้สักเพียงไหน แต่คนรักพิ้งกี้ยังตามไปส่งเธอขึ้นเครื่องไปอินเดียนับสิบคนทีเดียว
วัยเบญจเพสอาจทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับ "เพศ" รุมเร้าจนต้องลี้รักไปไกลถึงต่างบ้านต่างเมือง เรื่องผัวๆ เมียๆ ละเหี่ยใจ เมียน้อยเมียหลวงในวงการบันเทิงคาวให้คละคลุ้ง ไหนๆ ทำบุญสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาไปแล้วต้องมารอดูว่าจะเสริมเสน่ห์ให้เธอกลับมาดังที่เมืองไทยได้อีกครั้งหรือไม่ ต้องดูว่าใครแบนใครไม่แบนอีกที ภายใต้การจับตามองทั้งเรื่องรักเรื่องงาน กองเชียร์เมียหลวงเยอะจริงๆ ไม่รู้ว่าในวงการบันเทิงไทยลมหายใจของนางเอกที่ชื่อ "พิ้งกี้" ยืนต่อหรือไม่ ตอบแทนไม่ได้จริงๆ...เพราะคนที่หาประโยชน์จากเรื่องพิ้งกี้ มีอยู่จริงแน่นอน....
นี่คือบรรยากาศการเปิดตัวของทีมงาน และพิ้งกี้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่อินเดีย
........................................
ที่มา นิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับ 89 วันที่ 18 - 24 มิถุนายน 2554