xs
xsm
sm
md
lg

เอเชียรามา: ไซบอร์กสัญชาติฮ่องกง - กระห้ำ (แล้วโลกจะรู้จัก)

เผยแพร่:   โดย: ฟ้าธานี


นอกจากผีสาวแสนสวย, จอมยุทธ์มือกระบี่, หรือ “โจวเหวินฟะ” ในแว่นตาดำกับปืนสองมือ โลกแห่งภาพยนตร์ฮ่องกงยุค 80s ในความทรงจำของหลาย ๆ คน น่าจะพอมีที่ว่างให้กับหุ่นยนต์สาวสวย “มาเรีย” แห่ง I Love Maria อยู่บ้าง

เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่ยังต้องตื่นมารอดูหนังจีนวันสุดสัปดาห์ทางช่อง 7 สีทุกเช้า ผมเคยมีโอกาสได้ชมหนังเรื่องหนึ่ง เป็นแนวแอ็กชั่นไซไฟที่ดุเดือดเผ็ดมัน มีทั้งหุ่นยนต์สาวสุดเซ็กซี่ และหุ่นยนต์ตัวใหญ่ที่เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นยังไงอย่างงั้น ที่แน่ ๆ คือเป็นหนังจากผู้สร้างชาวฮ่องกง …

ตอนนั้นก็ไม่ทราบหรอกนะครับ ว่าหนังที่ว่าชื่อเรื่องอะไรกันแน่ และมีใครเป็นผู้สร้าง แถมยังไม่ได้ดูตั้งแต่ตอนต้นเรื่องด้วย ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้หลายปี ต้องยุควีซีดีครองเมืองนั่นแหละถึงได้มีโอกาสหามาชมอีกครั้ง และได้ทราบซะทีถึงชื่อเรื่องที่ว่า I Love Maria หรือคนไทยเราอาจจะคุ้นกับชื่อ “กระห้ำ (แล้วโลกจะรู้จัก)” กันมากกว่า ชื่อไทยของหนังฮ่องกงในความทรงจำอีกชื่อ ซึ่งมีคำอธิบายถึงคำว่า “กระห้ำ” ว่าคือขั้นสุดยอดของ “กระหึ่ม”, “ระห่ำ และ “ขย่ำ” นั่นเอง

I Love Maria เป็นผลงานการกำกับของ เดวิด ชุง คนทำหนังที่ไม่ได้โด่งดังเป็นที่จดจำอะไรนัก แต่ด้วยชื่อของ “ฉีเคอะ” ที่ควบทั้งตำแหน่ง โปรดิวเซอร์, เขียนบท และร่วมแสดง ก็พอจะทำให้เดาได้ว่า งานชิ้นนี้คงไม่ธรรมดา

เนื้อเรื่องคราว ๆ ของหนังว่าด้วย “แก๊งฮีโร่” กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ใช้หุ่นยนต์สุดไฮเทคอย่าง “หุ่นรบหมายเลข 1” เป็นอาวุธสำคัญในการสร้างความปั่นป่วน ชนิดที่ว่าตำรวจฮ่องกงไม่สามารถตอบโต้ หรือแก้ไขสถานการณ์อะไรได้เลย และทุกอย่างอาจจะยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก เมื่อ “หุ่นรบหมายเลข 2” กำลังถูกพัฒนาขึ้นมา หุ่นยนต์ที่ทันสมัยอันตรายยิ่งกว่าตัวแรก และมีรูปร่างเป็นสาวสวย ซึ่งใช้ “มาเรีย” แฟนสาวของหัวหน้าแก๊งฮีโร่เป็นต้นแบบในการสร้าง …

แต่แล้วหุ่นหมายเลข 2 กลับตกไปอยู่ในมือของ “วิสกี้” (ฉีเคอะ) อดีตผู้ก่อการร้าย และ “เจ้าฟู” (ปอมฟู) นักวิทยาศาสตร์แห่งกรมตำรวจ ที่ได้มาแท็คทีมร่วมหัวจมท้ายกันแบบไม่ได้ตั้งใจ และนำหุ่นยนต์สาวสวยมาดัดแปลงแก้ไขสมองกล เพื่อโต้กลับพวกแก๊งฮีโร่ โดยได้นักข่าวหัวเห็ด (เหลียงเฉาเหว่ย) มาร่วมสร้างความวุ่นวายด้วย

ด้วยเรื่องราวที่พอจะมีความลึกซึ้งอยู่บ้าง อย่างการเสนอภาพความหวาดกลัวต่อการถูกเครื่องจักรแทนที่ของมนุษย์ เป็นสิ่งที่พอจะทำให้ I Love Maria ไปได้ไกลกว่าความเป็นหนังไซไฟที่หาสาระอะไรไม่ได้เลยสไตล์ฮ่องกงอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามภาพโดยรวมของหนังยังเน้นไปที่ฉากแอ็กชั่นและมุขตลกเป็นหลักเหมือนเดิม



นักร้องสาว เยี่ยเชี่ยนเหวิน คือดาวเด่นตัวจริงของหนังเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เธออาจจะเคยร่วมแสดงในหนังดังอย่าง “โหดตัดโหด” หรือ “เผ็ดสวยดุ ณ เปไก๋” มาแล้ว แต่ถ้าจะพูดถึงภาพของเธอ ที่ทุกคนจดจำได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้น I Love Maria อย่างแน่นอน ซึ่งเยี่ยเชี่ยนเหวินต้องสวมบทบาทเป็นถึงสองตัวละคร ทั้งหุ่นยนต์สุดเซ็กซี่ และสาวแสบแห่งขบวนก่อการร้าย เรียกว่าเป็นทั้งนางเอกและนางอิจฉาในหนังเรื่องเดียว ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะบทหลัง ที่เป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่เป็นตัวร้ายที่น่าเห็นอกเห็นใจอยู่ไม่น้อย และมีชะตากรรมค่อนข้างหน้าเศร้า

ฝ่ายดารานำชายมีอยู่ด้วยกัน 3 คน เหลียงเฉาเหว่ย มากับบทฮา ๆ เรียบ ๆ ที่ไม่ค่อยโดดเด่น ส่วน "ปอมฟู" ก็รับบทเดิม ๆ เป็นหนุ่มสติเฟื่องเหมือนกับที่เคยแสดงมาในหนังทุกเรื่อง ... คนที่ดูน่าสนใจอยู่บ้างกลับเป็นตัวละครของ ฉีเคอะ ผู้อำนวยการสร้างของเรื่อง

ฉีเคอะ รับบทเป็น "วิสกี้" อดีตผู้ก่อการร้ายกลับใจ ที่เกิดไปหลงรักแฟนสาวของหัวหน้ากลุ่มจนต้องตัดสินใจถอนตัวจากพวกพ้อง และสุดท้ายกลับกลายมาเป็นฝ่ายที่ต่อสู้กับแก๊งฮีโร่เสียเอง วิสกี้ เป็นตัวละครที่ดูแล้วไม่น่าจะประสบความสำเร็จกับอาชีพผู้ก่อการร้ายเอาเสียเลย เขาดูเป็นคนหมกมุ่นอยู่กับเรื่องส่วนตัว และโลเลตัดสินใจอะไรไม่ค่อยจะได้ ดูมีความเป็นมนุษย์ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเหนือจริง เป็นบทคนขี้แพ้ที่น่าเห็นใจ และคนดูเผลอที่จะเอาใจช่วยไม่ได้ ที่สำคัญเป็นข้อพิสูจน์ว่า ฉีเคอะ เอาดีกับการเป็นนักแสดงได้อยู่เหมือนกัน

I Love Maria เข้าฉายที่ฮ่องกงในเมื่อปี 1988 ตามหลังหนังดังอย่าง RoboCop อยู่ปีเดียว แม้จะดูออกง่าย ๆ ว่าเป็นหนังตามกระแสหนังดังจากฝั่งอเมริกาเรื่องนั้น ฉีเคอะยังใช้ความประทับใจโดยส่วนตัวต่อผลงานต่าง ๆ จากหลากหลายแหล่งที่มา ในการดีไซต์สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้

ทั้งตัวละครเด่นของหนังไซไฟคลาสสิก Metropolis ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหุ่นยนต์สาวสวยของเขา (แต่คนไทยเราอาจจะดูแล้วนึกไปถึงโฆษณาสามเคแบ็ตตารีเสียมากกว่า) ส่วนหุ่นสงครามหมายเลข 1 สุดเหี้ยมเกรียม ก็ดูแล้วชวนให้นึกถึงหุ่นยนต์สัญญาติญี่ปุ่นอย่าง GUNDAM หรือไม่ก็ V.O.T.O.M. ขึ้นมาทันที

โดยเทคนิคพิเศษทั้งหมดเป็นผลงานจากบริษัททำเทคนิคพิเศษสัญชาติฮ่องกง Cinefex Workshop Co., Ltd. ที่ ฉีเคอะ ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อรองรับจินตนาการอันบรรเจิดของเขาในหนังแต่ละเรื่องในช่วงนั้น

ตามข้อมูลแล้ว I Love Maria ทำรายได้เพียงแค่ 5 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งในยุคที่หนังฮ่องกงกวาดเงินระดับ 20 ล้านเหรียญฯ กันได้ง่าย ๆ จะเรียกว่าเจ๊งก็คงไม่ผิดนัก ... แต่อย่างน้อยหนังก็ยังถูกซื้อไปฉายในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งเอเชียอันเป็นตลาดใหญ่ของหนังฮ่องกง และได้ไปฉายในประเทศแถบตะวันตกภายใต้ชื่อ Roboforce ด้วย

จากหนังที่ดูไฮเทคล้ำยุคมาก ๆ ในยุคเมื่อร่วม 20 ปีก่อน เมื่อกลับมาดูเอาใหม่ในช่วงนี้ ที่ซีจีกลายเป็นเวทมนต์ในการเนรมิตภาพเหนือจินตนาการให้กลายเป็นความจริงได้อย่างเหลือเชื่อ I Love Maria จึงต้องกลายสภาพเป็นงานตกยุคตกสมัยไปอีกเรื่องอย่างช่วยไม่ได้ … แต่คนที่เกิดทันในยุคที่หนังเข้าฉายอย่างผม ก็อดที่จะตื่นเต้นที่ได้รำลึกความสนุกวัยเด็กไม่ได้ครับ

ดูมาแล้ว



Gantz : Perfect Answer

หนังแอ็กชั่นไซไฟที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดัง เล่าเรื่องของสองหนุ่มอดีตเพื่อนสนิทสมัยวัยเด็ก (เคนจิ มัตสึยาม่า และ นิโนะมิยะ คาซึนาริ) ที่กลับมาจากโลกแห่งความตาย เพื่อรับภารกิจจากลูกบอลลึกลับ ในการไล่ล่ามนุษย์ต่างดาวที่แผงตัวอยู่บนโลก แลกกลับโอกาสกลับไปใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ธรรมดาอีกครั้ง …

Gantz : Perfect Answer เป็นภาคสองและเป็นตอนจบของหนัง ซึ่งอัดฉากแอ็กชั่นกันแบบเต็มสูบ โดยไม่ต้องเสียเวลาเล่าเรื่องอธิบายความอะไรกันมากนัก ก่อนจะปิดท้ายด้วยบทสรุปของเรื่องราว (โดยไม่ต้องรอตอนจบของหนังสือการ์ตูน ที่ยังตีพิมพ์อยู่ในขณะนี้) อย่างไรก็ตามผู้ชมอาจจะหงุดหงิดอยู่บ้าง เมื่อ Gantz : Perfect Answer ไม่ได้ตอบคำถามทุกข้อที่ยังอยู่ในความสงสัย ชะตากรรมของตัวละครอาจจะได้บทสรุปไปเรียบร้อยแล้ว แต่โลกอันลึกลับของ Gantz ก็ยังดำเนินต่อไป

ผลงานของผู้กำกับ ชุนซูเกะ ซาโตะ อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็แสดงเอกลักษณ์แบบหนังไซไฟจากญี่ปุ่น (ที่โดยมากดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูน) ที่นำเสนอทั้งเรื่องราว และจินตนาการอันแปลก,แตกต่าง และหาไม่ได้จากหนังฮอลลีวูด

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก














กำลังโหลดความคิดเห็น