4 คนบันเทิงพยานปากเอกหนุนช่วย “เมียหลวง ลวงสังหาร” เต็มที่ ธัญญ่าจัดเต็มเดินหน้าลุย “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลอีกครั้งด้วยการ “ฟ้องหย่า” เป็นตัวเลขจำนวน 124 ล้านบาท (ไทย) หมายศาลถึงมือ “เป๊ก” ช่วงหลังสงกรานต์ ขณะที่เขาเพิ่งจะเดินทางกลับจากเยี่ยมลูกเมียครั้งล่าสุดที่อเมริกา งานนี้แยกฟ้อง “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช อีกหนึ่งคดี เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างแก่สังคมด้วยข้อหา “บุคคลที่ทำให้ครอบครัวเสียหายและแตกแยก” ตัวเลขประเมินค่าเสียหายอยู่ที่ 15-20 ล้าน ทนายความเจ้าของคดีคือ ปรีชา ณ เชียงใหม่ ธัญญาเรศ เองตระกูลจะบินกลับไทยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม และเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
365 วันมหากาพย์บันเทิง - “รักพี่เสียดายน้อง”
มหากาพย์ “รักพี่เสียดายน้อง” เรื่องนี้ดำเนินเรื่องราวมาบรรจบครบ1 ปีเต็มในเดือนเมษายน 2554 แม้กราฟชีวิตรักและครอบครัวของ “สัณชัย - ธัญญาเรศ เองตระกูล” ในช่วงหนึ่งจะขึ้นๆ ลงๆ จนเมื่อเกิด “คลิปลวงสังหาร” ขึ้นในวงการ นับจากนั้น ... สถานภาพการคบหาของ “เป๊ก” สัณชัยกับ “พิ้งกี้” สาวิกา ได้เปลี่ยนไป !! บ้างก็ว่า “เลิกกันแล้ว” บ้างก็ว่าทั้งคู่เริ่มถอยห่างและระมัดระวังตัวมากขึ้น และต้องยอมรับในประการหนึ่งว่า หลายเดือนให้หลังมานี้แทบไม่มีข่าวการคบหาและไปมาหาสู่ของ “เป๊ก - พิ้งกี้” เลย มีแต่ข่าวที่“เป๊ก” สัณชัย เดินทางไปที่ประเทศอเมริกาเพื่อเยี่ยมลูกสาวกับเมียถี่และบ่อยขึ้น จนมีข่าวว่าสัมพันธภาพของสามี - ภรรยา คู่นี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ...
กระทั่งมีแนวโน้มว่าทั้งคู่มีโอกาสจะกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกันอีกครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นมา มีข่าวว่าธัญญาเรศจะบินกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวอีกครั้งที่เมืองไทย ซึ่งในเรื่องดังกล่าว … เป็นหนึ่งในความพยายามของครอบครัว “เองตระกูล” ที่หมายมั่นเตรียมต้อนรับ “ธัญญ่า” ครั้งนั้นมี “กี้” สินีนารถ น้องสาว “เป๊ก” สัณชัยเป็นคนเปิดประเด็น ตามมาด้วยการยืนยันของ “เป๊ก” สัณชัยในลำดับต่อมา ในขณะเดียวกันช่วงนี้เองที่ “พิ้งกี้” คู่กรณีของครอบครัวนี้ได้บินไปยังประเทศฟินแลนด์
จู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันอีกจนได้ !! เมื่อธัญญ่าตัดสินใจ “ฟ้องหย่า” !! และเกิดคลิปเสียงคล้ายพิ้งกี้อีกครั้งในช่วงต้นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2554 ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือในกรณี “เสี่ยป.” ถอยรถ BMW ให้ “พลอย” เฌอมาลย์ ซึ่งกรณีดังกล่าวนาวิน ตาร์ได้ออกมาปฏิเสธแทน ทั้ง 2 ข่าวนื้อาจจะเชื่อมโยงให้กรณี “เป๊ก - ธัญญ่า และพิ้งกี้” กลับเข้ามาอยู่ในกระแสอีกครั้งเพื่อนำไปสู่เรื่องราวการฟ้องหย่าในระยะเวลากันใกล้นี้ คาดว่า ในระยะนี้อาจจะเป็นช่วง “ปล่อยของ” จนกว่าธัญญ่ากลับเมืองไทย !?
ฟ้องเป๊ก 124 ล้าน พิ้งกี้โดนด้วย
ธัญญ่าได้ดำเนินการเรื่องการฟ้องร้องมาอย่างเงียบๆ ตั้งแต่คราวที่เธอกลับมาเมืองไทย 6 วันเมื่อตอนต้นปี เพื่อร่วมงานแถลงข่าว Welcome to Paris Grand Opening Diet ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2554 นอกเหนือจากงานนี้แล้ว ภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับการเปิดเผยในเวลาต่อมาคือ 10 มกราคม จากสนามบินสุวรรณภูมิเดินทางไปสักยันต์ 5 แถวกับอาจารย์แดงที่วัดป้อมรามัญ อยุธยา, 11 มกราคม ให้สัมภาษณ์และถ่ายแฟชั่นกับนิตยสาร Woman&Home และอีกหนึ่งภารกิจที่ปิดลับจนเพิ่งจะมาเปิดเผยในวันนี้คือ การพูดคุยกับทนาย เพื่อดำเนินการฟ้องหย่า “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล , 16 มกราคม ทั้งธัญญ่าและสัณชัย เองตระกูลเดินทางไปอเมริกาพร้อมกันเพื่อเยี่ยมลูก
นับจากการกลับเมืองไทยในคราวนั้น ธัญญ่าแทบจะไม่เคยพูดเรื่องหย่ากับ “เป๊ก” อีกเลย จนเป๊กเข้าใจด้วยตัวเองมาตลอดว่าสถานการณ์ทั้งหลายทั้งปวงน่าจะดีขึ้น ถึงขั้นที่ธัญญ่าจะกลับไทยอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ … ไทยรัฐเริ่มต้นจากข่าวซุบซิบว่าธัญญ่ายังไม่มีแนวโน้มใดที่จะกลับเมืองไทยเป็นการถาวร และตามด้วยคอลัมน์ “คนดังนั่งคุย” หน้า 25 ในวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2554 ซึ่งมีการยืนยันครั้งแรกจากการให้สัมภาษณ์ว่า “เตรียมหย่า” และย้ำอีกครั้งในหน้าบันเทิงของหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ในสัปดาห์ต่อมา วันศุกร์ที่ 22 เมษายน ธัญญ่าได้กระชับความชัดเจนอีกครั้งว่า “ขอหย่า”
วันนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ทนายความผู้ดำเนินการในคดีฟ้องหย่าของ “ธัญญาเรศ และสัณชัย เองตระกูล” คือ ปรีชา ณ เชียงใหม่ ในอดีต … ทนายปรีชาผู้นี้เคยว่าความให้สุวรรณรี (ฝ้าย) ไชยมงคล ในคดี “แด๊ก” เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด วงบิ๊กแอส ในคดีพรากผู้เยาว์ นอกจากนี้ยังเป็นทนายให้ “ต้อย แอคเนอร์” เกรียงศักดิ์ สกุลชัยในคดี “น้องโอ๋” เพชรคัมภรณ์ งามช่อชัยพฤกษ์ นักศึกษาฝึกงาน
การฟ้องหย่าในครั้งนี้ เป็นการฟ้องในคดีแพ่งเพื่อขอหย่าจากสัณชัย เองตระกูล ต่อ “ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง” โดยเรียกร้องเป็นเงินจำนวน 124 ล้านบาท สำนวนของเป๊กแยกฟ้องจาก “บุคคลที่ทำให้ครอบครัวเสียหายและแตกแยก” อีกหนึ่งคดีโดยทีมทนายความและธัญญ่าได้ร่วมกันการประเมินรายได้และค่าเสียหายในช่วงระยะเวลาที่มีข่าวดังกล่าว อันเป็นเหตุให้ธัญญ่าต้องบินไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ไม่สามารถรับงานในช่วงเวลาดังกล่าวได้
“บุคคลที่ทำให้ครอบครัวเสียหายและแตกแยก” ตามความหมายนี้ เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช จำนวนเงินความเสียหาย แม้จะไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่น่าจะอยู่ที่ 20 - 50 ล้านบาท !! คดีในส่วนนี้ … เป็นข้อแนะนำจากทนายความที่เห็นว่า สามารถทำได้ !!
ตามกฎหมายได้วางหลักไว้ว่า ในกรณีที่สามีภรรยาหย่ากันเพราะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยา หรือสามีเป็นชู้หรือมีชู้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ โดยเมื่อศาลได้พิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุดังกล่าว ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการฟ้องหย่านั้น สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้และภริยาอาจเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่ แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้
นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการฟ้อง “กิ๊ก” ให้เป็นคดีตัวอย่าง !! ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดมาจากการรวบรวมคลิปเสียงราว 30 คลิป และวิดีโออีก 5-6 คลิป และข่าวสารต่างๆ ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งเห็นแนวโน้มว่าธัญญาเรศต้องชนะในการฟ้องร้องทั้ง 2 คดีแน่ โดยศาลได้ประทับรับฟ้องและส่งถึง “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางความน้อยอกน้อยใจที่ไม่ระแคะระคายเรื่องนี้มาก่อน เพราะเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาเขาก็ยังสวีตหวานกับลูก-เมียที่อเมริกา จนมีโอกาสได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และได้รับหมายศาลในลำดับต่อมา
ตั้งใจ “หย่า” มาแต่แรก
ธัญญาเรศนั้นมีความคิดในเรื่อง “หย่า” มาแต่แรก แม้ตลอดปีที่แล้วธัญญ่าเคยพูดเรื่องหย่ากับเป๊กหลายครั้ง แต่เขาก็มักจะทำเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง เพราะลึกๆ แล้วเขาไม่ต้องการหย่า คิดว่าการหย่าไม่ใช่ทางออกของชีวิตรักระหว่างเขากับธัญญ่า แต่ถ้าเป็นจุดประสงค์ของธัญญ่าในเรื่องนี้ เขาเคยพูดว่า ให้ฟ้องหย่าเอาเอง !! และในเมื่อระยะหลังเขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้ไปข้องแวะกับ “พิ้งกี้” อะไรต่อมิอะไรก็น่าจะดีขึ้น !! ไม่ว่าจะหย่า หรือไม่หย่า เขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงธัญญ่าและลูกลียาไปตลอดชีวิต
การที่ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองไทยกับอเมริกา นอกจากเยี่ยมลูกและเมียตามปกติแล้ว ก็หวังว่าความรับผิดชอบนี้จะทำให้ฝ่ายธัญญ่าเปลี่ยนใจ เขาเคยแม้กระทั่งให้ “แม่” นุชนารถ เองตระกูลไปพักที่อเมริกาชั่วคราวเพื่อ “กล่อม” แต่ก็ไม่เป็นผล !!
ครั้งล่าสุด “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลได้เดินทางไปอเมริกาเมื่อก่อนวันสงกรานต์ ที่นั่น ... ความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะตามประสา พ่อ แม่ ลูก ยังอยู่กันครบถ้วน และธัญญ่าไม่ได้เอ่ยปากเรื่อง “ฟ้องหย่า” ด้วยซ้ำ เขาเดินทางกลับถึงเมืองไทยในช่วงที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐตีพิมพ์เรื่อง “ธัญญ่า” ฝ่ามรสุมครอบครัวเจ็บเกินทน เตรียมหย่า “พี่เป๊ก” หวังจบปัญหา ที่สำคัญที่ทำให้เป๊กช็อก และเสียความรู้สึกก็คือ ภาพถ่ายทุกอิริยาบถของธัญญ่ากับลูกสาว “ลียา” ด.ญ.ลลียา เองตระกูล ที่ใช้เป็นภาพประกอบในหน้า 25 ของคอลัมน์ “คนดังนั่งคุย” ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เขาเป็นคนลั่นชัตเตอร์เองกับมือเมื่อคราวที่ไปอเมริกาครั้งล่าสุด !!
4 พยานในวงการบันเทิง
ในคดีดังกล่าวนี้ จะมีคนบันเทิงที่จะมาเป็นพยานในฝ่ายธัญญ่าทั้งสิ้น 4 คน ซึ่งเดาได้ไม่ยาก … เพราะในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีกลุ่มผองเพื่อนที่เป็นกระบอกเสียงแทน “ธัญญ่า” ที่เมืองไทยอยู่หลายคน เช่น พิตต้า ณ พัทลุง, “กีต้าร์” ศิริพิชญ์ กฤษณะเศรณี, “น้ำฝน” กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ (ชื่อเดิม - กุลณัฐ (ณัฐยา) ปรียาวัฒน์) , “เข็ม” รุจิรา ช่วยเกื้อ เป็นต้น บางทีเรื่องคนในวงการบันเทิง อาจจะตีความรวมถึงคนในวงการสื่อบันเทิงด้วยก็เป็นได้ เพราะอย่าลืมว่า ในระหว่างที่เป๊กและธัญญ่ามีปัญหากันนั้น ครั้งหนึ่งมี “ต้อย แอคเนอร์” ติดอยู่ในบางเหตุการณ์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มายาชาแนล ฉบับประจำวันที่ 5-18 พฤศจิกายน 2553 อยู่ด้วย
อย่างไรซะก็คงไม่พ้นคนกลุ่มนี้แหละที่จะต้องไปเป็นพยานให้ธัญญาเรศ เองตระกูลในกรณีนี้ และต้องไม่ลืมว่า เพื่อนธัญญ่าก็คือเพื่อนเป๊ก ดังนั้น … แนวโน้มและบทสรุปจบสุดท้ายของมหากาพย์เรื่องนี้จึงคาดเดาได้ยาก โดยเฉพาะหัวใจของเมียหลวงในวันที่เข้มแข็งอย่างวันนี้ รายละเอียดทั้งหมด ธัญญาเรศ เองตระกูล จะแถลงข่าวพร้อมทีมทนายอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ...
เปิดใจ “ธัญญ่า” จากไทยรัฐ - คมชัดลึก
จำได้ว่า เมื่อคราวที่แล้วที่ซูเปอร์บันเทิงกล่าวถึงเรื่องของ “เป๊ก - ธัญญ่า” เคยระบุว่า ถ้าเมื่อใดที่ธัญญ่าเปิดใจกับ “ไทยรัฐ” ย่อมแสดงถึงความชัวร์ เนื่องจากธัญญาเรศกับอรพรรณ วัชรพลที่มีสายสัมพันธ์อันดีและแน่นแฟ้นกันมานาน และไทยรัฐได้แสดงจุดยืนเลือกที่จะยืนเคียงข้างกับธัญญ่ามาโดยตลอด ซึ่งก็ไม่ได้ “เพี้ยน” ไปจากคำกล่าวในครั้งนั้น นี่คือ ความบางช่วงตอนที่สำคัญจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และคม ชัด ลึก
+พอมีปัญหาครอบครัว ลูกมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจในการก้าวเดินต่อไป
มีส่วนมากเลย ถ้าไม่มีลูก ธัญญ่าคงตัดสินใจอะไรได้ง่ายมาก อย่างมาอยู่อเมริกา คงมาอยู่แป๊บเดียวแล้วก็กลับไปทำงานใช้ชีวิตของตัวเอง คงจะจบปัญหาได้เร็ว พอมีลูกต้องคิดไปหมด พ่อแม่เลิกกันเด็กจะมีปัญหามั้ย เราเห็นเขาเรามีความสุขแต่เรายิ่งเศร้า ทำไมครอบครัวเราต้องมีปัญหา เราอยากให้ลูกเกิดมาในสภาพครอบครัวที่อบอุ่น
+ตอนแรกที่เกิดปัญหาเคยคิดขอหย่าเพื่อจบปัญหา
คิดค่ะ แต่สภาพจิตใจเรายังไม่เข้มแข็งพอ ถ้าหย่ากันลูกเราจะเป็นยังไง เราก็ยังมีความรักให้สามีเรา ยากที่จะตัดสินใจหย่า ตอนนั้นมันคิดไม่ออกจะก้าวไปทางไหน อยู่ก็ทุกข์ไปก็ทุกข์
ตอนนี้ล่ะ
เราค่อนข้างชัดเจนในตัวเองแล้ว คือทุกวันนี้เราเหมือนแยกกันอยู่ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตอนนี้เกือบปี ความเป็นอยู่ก็ยังโอเค ยังดูแลกัน พี่เป๊กยังมาหาลูกทุกๆ เดือน แต่ความห่างของสามี-ภรรยาเราห่างกันไปแล้ว จากเมื่อก่อนอยู่เมืองไทย เราทำงานโทร.หากันวันละ 5-6 รอบ คุยกันทั้งวัน แต่ตอนนี้เราแทบไม่โทร. คุยกันเลย ใช้บีบี คุยกันเรื่องลูก ในเมื่อเราห่างกันขนาดนี้ ธัญญ่าไม่รู้ว่าปัญหาตรงนั้นจบหรือยังแต่ที่ผ่านมามันยังไม่จบ เพราะฉะนั้น เราอยากที่จะแยกคือหย่าให้มันเรียบร้อยแล้วเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
+เคยคุยกับพี่เป๊กเรื่องหย่ามั้ย
คุยเรื่องหย่ามาหลายเดือนแล้ว พี่เป๊กบ่ายเบี่ยง เดี๋ยวค่อยคุยๆ เขาบอกเลยเขาไม่หย่า ถ้าเราอยากหย่าให้ไปฟ้องเอาเอง ถ้าเกิดคุยกันเองแล้วไม่รู้เรื่อง ธัญญ่าพร้อมที่จะฟ้องหย่าเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เพื่อทะเลาะหรือเพื่อแตกหักนะ ถ้าเปรียบเหมือนธัญญ่า พี่เป๊กเป็นเด็ก ตกลงไม่ได้ ก็ต้องให้ผู้ใหญ่มาช่วยแก้ปัญหามาช่วยเคลียร์ให้ แต่ ณ ตอนนี้ให้พ่อแม่มาเคลียร์ก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะมันเป็นเรื่องของเราสองคน แล้วเราตกลงกันไม่ได้ก็ต้องให้ผู้ใหญ่ตัดสินในเมื่อความต้องการเราไม่ตรงกัน เราต้องการมีชีวิตของเราและให้เขามีชีวิตของเขา แต่เราดูแลลูกกันไป ไม่อยากมาทะเลาะกัน ธัญญ่าก็บอกพี่เป๊กนะว่า ที่ขอหย่าเราไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น โอเค ค่าเลี้ยงลูกแค่นั้น
+พี่เป๊กไม่อยากหย่าเพราะเขายังรักธัญญ่าอยู่หรือเปล่า
เคยคุย เขาก็ถามว่าคืนดีกันมั้ย กลับมาอยู่ด้วยกันมั้ย ธัญญ่าก็อยากจะบอกว่าเราก็ยังรักเขานะ แต่ด้วยปัญหาที่เจอมาตลอดระยะเวลาเกือบปี พอแล้วดีกว่า
+ถ้าวันหนึ่งต้องจบสถานภาพสามี-ภรรยา จะรู้สึกเสียเวลามั้ย
ไม่เสียดาย เรารู้สึกเราได้ลูก ลียาถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา ถ้าเราไม่มีลูกอาจจะเสียดายเวลาก็ได้นะ
+พี่เป๊กให้ธัญญ่าไปฟ้องร้องเป็นการพูดเพื่อประชดเราหรือเปล่า
ไม่รู้นะ ประชดหรือไม่ประชด แต่เราขอหย่ามาหลายเดือนอยู่ แต่เขาไม่หย่าให้ซะที ไม่รู้สิ เราพอแล้ว
นอกจากนี้ ธัญญาเรศ เองตระกูลยังให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ว่า
“ได้พูดเรื่องหย่ากับพี่เป๊กแล้ว อาจจะเป็นเพราะเราแข็งแรงมั้ง เรื่องมันผ่านมานานแล้ว เราอยากจะให้จบ และเราก็พร้อมที่จะหย่า (เหมือนเป๊กไม่ยอมหย่า) พี่เป๊กไม่ยอมอย่า เราคุยกันหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่ลงตัว นี่เขาก็เพิ่งบินมาหาที่อเมริกา แต่ตอนนี้กลับไปแล้ว เพิ่งกลับไปไม่กี่วันเอง เขาบินมาบ่อย มาเยี่ยมลูกด้วย (แต่มีข่าวว่าบินมาเพื่อหย่า) ไม่ได้มาเพื่อหย่าหรอก คือเขามาบ่อย ก็ยังมาเยี่ยมลูก ไปเที่ยว พาลูกไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเดิม (เป๊ก บอกว่าถ้าจะหย่าให้ไปฟ้องเอา) ใช่...ตอนนี้เรายังคุยกันอยู่ ยังเคลียร์ไม่ลงตัว ว่าหย่าแล้วจะยังไง จะแบ่งลูกยังไง”
“สภาพจิตใจโอเคแล้ว แฮปปี้ดี มีความสุขดี แต่คิดถึงเมืองไทย อยากกลับเมืองไทยไปทำงานเหมือนเดิม แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับเมื่อไหร่ อยากเคลียร์ทุกอย่างให้ลงตัว เคลียร์เรื่องหย่าให้จบก่อนที่จะกลับเมืองไทย เรื่องลูกจะแบ่งยังไง แต่พี่เป๊กเขาไม่ยอมหย่า ก็เลยไม่รู้ว่ายังไง” ธัญญ่าแจกแจง พร้อมกับเสริมต่อว่า ตอนนี้ “ลียา” ลูกสาว จะมีอายุครบ 2 ขวบแล้ว
“ตอนนี้ลียาก็เริ่มพูดได้เยอะแล้ว เขาโตขึ้น ตอนนี้เขาเรียก มามี้ แด๊ดดี้ได้แล้ว แต่เขาไม่รู้เรื่องพ่อกับแม่หรอก เพราะเขายังเด็ก ยังไม่ 2 ขวบ จะครบ 2 ขวบเดือนมิถุนายนนี้ ธัญญ่าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ 8-9 เดือนแล้ว แต่ก็อยากกลับเมืองไทยนะ จริงๆ มีคนให้กำลังใจเยอะเหมือนกัน มันทำให้เราแฮปปี้ เราได้อ่านกำลังใจที่คนให้มา ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น (เคลียร์เรื่องส่วนตัวกับเป๊กจบหรือยัง) ไม่ทราบเลย ที่ผ่านมามันไม่เคยจบสักที แต่เราไม่วิ่งตามข่าวแล้ว อยู่แบบนี้ดีกว่า ตอนนี้ความสัมพันธ์ก็อยู่ในฐานะพ่อกับแม่ของลียา” ธัญญ่ากล่าวสรุป
..............................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 82 วันที่ 30เมษายน -6 พฤษภาคม 2554