ช่วงระยะเวลานี้ … จนถึงวันแถลงข่าวที่กำหนดไว้ในสัปดาห์หน้า … เรื่องของ คณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว เองตระกูลคงจะออกมาเป็นระยะๆ “เสี่ยแป๋ง” สมใจนึก พ่อของ “เป๊ก” สัณชัย ถึงกับเปรยในหมู่คนสนิทว่า จะขอคุยเป็นการส่วนตัวกับธัญญ่า ลูกสะใภ้ของ “เองตระกูล” สักรอบ เผื่อสถานการณ์ของครอบครัวลูกชายจะดีขึ้น หลังจากที่เคยส่ง “เมีย” นุชนารถ เองตระกูลไปเคลียร์หนหนึ่งแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ด้าน “เป๊ก” ยังมีความพยายามเคลียร์เพื่อให้ธัญญ่าถอนฟ้อง ยันพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า “ไม่มีใคร”
เป๊กบอก “ผมไม่มีใคร” !?
ทันทีที่ “ธัญญ่า” ธัญญาเรศ ตัดสินใจฟ้องหย่า “เป๊ก สัณชัย” เป็นจำนวนเงิน 142 ล้านบาท เล่นเอาครอบครัว “เองตระกูล” ถึงกับเครียด ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องชื่อเสียง ณ วันนี้ … ทนายความปิดปากเงียบ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลในการฟ้องร้อง โดยอ้างว่า เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ฝ่ายธัญญ่าบอกจะเปิดเผยในวันแถลงข่าวในคราวเดียวพร้อมกัน ส่วนพ่อของพิ้งกี้ สมาน ไชยเดช ปิดปากเงียบในกรณีที่ลูกสาวโดนหางเลข ถูกฟ้อง 20ล้านในฐานะ “บุคคลที่ทำให้ครอบครัวเสียหายและแตกแยก”
ขณะที่ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล คู่กรณีโดยตรงในคดี “ฟ้องหย่า” นี้ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ตนได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่มีใคร หรือไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่นที่ไหน โดยเฉพาะที่ผ่านมานั้น ตนได้เดินทางไปอเมริกา เพื่อเยี่ยมเมียและลูกสาวเป็นประจำสม่ำเสมอ เรื่องดังกล่าว ไม่ได้ทำให้ “เป๊ก” สัณชัยท้อใจ และยังคงเชื่อว่า น่าจะมีช่องทางในการเคลียร์กับธัญญ่า ผู้เป็นภรรยาได้ และถ้าจะว่าไปแล้ว … การฟ้องหย่าในคราวนี้นั้น แท้ที่จริง อาจจะเป็นการขยาย “ข้อมูลเก่า” ที่ผ่านไปแล้ว ณ ปัจจุบันขณะ ดูเหมือนว่า “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล และ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ทั้งคู่ได้ยุติความสัมพันธ์ไปแล้ว
พ่อแป๋งบอก ลูกชายเครียด
“เสี่ยแป๋ง” สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง พ่อของ “เป๊ก” สัณชัย บอกว่า ถ้าธัญญ่ากลับเมืองไทยในช่วงกลางเดือนนี้ ตนจะขอพูดคุยกับลูกสะใภ้เป็นการส่วนตัว โดยทิ้งประโยคเด็ดในหมู่เพื่อนว่า
“ เงินน่ะมีจ่าย แต่ (กู) อายมาก” …
ขณะเดียวกัน เสี่ยแป๋งได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการว่า ตนรู้สึกแปลกใจที่ครอบครัวต้องมีข่าวในทำนองนี้ เพราะก่อนหน้านี้เท่าที่ทราบ ธัญญ่าและเป๊กมีการพูดกันดีมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา เป๊กก็พยายามที่จะเข้าไปสานสัมพันธ์เพื่อที่จะให้ชีวิตกลับมาเหมือนเดิม และขณะนี้เป๊กมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าเขาเป็นคนรักลูกมาก หากเรื่องหย่าเป็นจริง ผลกระทบต่างๆจะเกิดกับเด็กมากที่สุด เรื่องเงินที่ฟ้องร้องกัน คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา ปัญหาสำคัญที่สุดน่าจะอยู่ที่ลูก ดังนั้นจึงอยากให้เป๊กและธัญญ่าได้ไตร่ตรองถึงผลที่จะกระทบต่อตัวเด็ก
ครั้งนี้ … ถือเป็นครั้งแรกที่เสี่ยแป๋งออกมาเปิดใจเรื่องลูกชายและลูกสะใภ้เป็นครั้งแรก ถึงขนาดที่จะลงมือออกหน้าในการเคลียร์ครั้งนี้ ถ้าธัญญ่าเดินทางมาเมืองไทยในสัปดาห์หน้า
“ลียา” แก้วตาดวงใจ “พ่อเป๊ก”
อย่างที่ทราบว่า ลูกสาวคนนี้เกิดจากการอุ้มบุญของพี่สาว (ลูกของน้า) ธัญญ่า !! และนี่คือเรื่องราว ...ที่ธัญญ่าเคยให้สัมภาษณ์ไว้กับนิตยสาร Who? … แล้วจะรู้ว่าเป๊กรักลูกสาวคนนี้มาก
“รู้สึกท้อ เหนื่อยและเสียใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ สงสัยจะมีลูกไม่ได้แล้วมั้ง ทีนี้เลยปรึกษาหมอว่าจะลองทำหลอดแก้ว คือไม่ต้องท้องเอง ทำเป็นวิทยาศาสตร์ไปเลย ก็หยุดงานเป็นปีเลยด้วยความที่อยากมี สรุปว่าไม่ได้อีก เลยทำใจแล้ว (ถอนหายใจ) ว่ามีลูกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อัลตราซาวนด์มดลูกจะบางมาก แต่ว่าเรื่องรังไข่สมบูรณ์มาก กระตุ้นไข่ออกมาได้เยอะ แข็งแรงดี ก็เลยคุยกันว่า อยากใช้วิธีอุ้มบุญ”
“ธัญญ่าจะไม่อะไรมาก ปล่อยเขาสบายๆ แต่พี่เป๊กเขาจะค่อนข้างซีเรียส อาจจะเป็นลูกคนแรกหรืออะไรก็ไม่รู้ คือเรารู้สึกว่าไปประคบประหงมมาก อย่างไม่ให้ลูกโดนแดดต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอด กลัวลูกร้อน เหงื่อแตกไม่ได้ คือเยอะอ่ะ ตอนที่ธัญญ่าเลี้ยงเองแทบไม่ได้ต้องมานั่งสะอาดอะไรมากมาย แต่พี่เป๊กนี่พอลูกแหวะปุ๊บ ชุดเลอะนิดเดียว จะต้องเอาไปซัก แต่เราแค่เช็ดๆ ก็พอแล้ว กลัวลูกจะขี้โรคเพราะประคบประหงมมากเกินไป ชาวบ้านทั่วไปเขายังเลี้ยงกันปล่อยๆ แต่ลูกเขาก็ยังแข็งแรงดี”
“เมื่อก่อนเวลาจะไปไหนมาไหนก็จะสบายๆ ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรมาก แต่เดี๋ยวนี้เวลาไปไหน อย่างเช่นไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนๆ ก็จะเป็นกังวลแล้ว จะคอยโทร.มาถามพี่เลี้ยงน้อง ตื่นไหม กินนมหรือยัง อะไรแบบนี้ค่ะ ยิ่งพี่เป๊กนี่สุดๆ ห้ามลูกใส่สายเดี่ยว (หัวเราะ) มีวันหนึ่งพี่เลี้ยงเขาใส่เสื้อสายเดี่ยวให้ลียา พอพ่อเขาเห็นก็บอกให้ไปเปลี่ยนใหม่ บอกมันโป๊ไป อะไรเนี่ยเวอร์ไปหรือเปล่า ลูกยังไม่ขวบเลยนะ เนี่ยเขาจะเป็นแบบนี้”
เรื่อง “รักลูกเป็นที่หนึ่ง” ไม่มีใครเกินพ่อเป๊กคนนี้ แม้แต่คลิปเสียงในคราวที่แล้ว บทสนทนาระหว่าง “เป๊ก” กับ “ธัญญ่า” แม้ว่าบางส่วนของบทสนทนานั้นจะมีอารมณ์ยั่วของธัญญ่าและเสียงเกรี้ยวกราดของเป๊ก แต่ต้องยอมรับว่า บทสนทนานั้นแสดงให้เห็นว่า เป๊กรักและเป็นห่วงลูกเพียงใด !! ที่สำคัญ “จุดแข็ง” กลายเป็น “จุดอ่อน” ให้ธัญญ่าคิดที่จะเอาลูกไว้เป็นตัวประกันตลอดมา โดยอ้างความเป็นแม่ที่รักลูก บางขณะก็ลืมคิดไปว่า แท้ที่จริง เป๊กก็เป็นพ่อที่รักลูกไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าธัญญ่าเลย
“แม่นุชนารถ” ทูตเจรจาแต่ไม่สำเร็จ
แม้ที่ผ่านมา … ครอบครัว “เองตระกูล” จะยอมรับในตัว “ธัญญ่า” ในฐานะเมียของลูก แม่ของหลานแบบไม่มีเงื่อนไข และไม่เคยยอมรับในตัว “ผู้หญิงอื่น” ของลูกชายแต่อย่างใด !! ดังนั้น ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ยกแรก … “นุชนารถ เองตระกูล แม่ของเป๊ก ได้ออกมาแสดงการยอมรับในตัวลูกสะใภ้ด้วยการสัมภาษณ์และถ่ายรูปคู่กันในนิตยสาร“เปรียว” ฉบับ 672 งานชิ้นนี้ได้นำแม่ผัวและลูกสะใภ้หลายคู่มาเจอกัน เช่น อรุณี - นิสามณี และวรนุช ภิรมย์ภักดี, , ภัทรา - พิมพิศา - มณีสุดา และ ปนิษฐา ศิลาอ่อน, ลี - สุวดี และกัญช์ณิชา พึ่งบุญพระ, นุชนารถ - ธัญญาเรศ เองตระกูล เป็นต้น
ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ระบุว่า ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายนนั้น … “เป๊ก” สัณชัย พร้อมกับคุณแม่นุชนารถได้เดินทางไปอเมริกาเพื่อที่จะให้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายมาช่วยกันเคลียร์ท่ามกลางพยาน แต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งได้ฟังการสัมภาษณ์ครั้งหลังสุดในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และ คม ชัด ลึก ทำให้เราทราบว่า ธัญญ่าไม่เคยเปลี่ยนใจเรื่องการฟ้องหย่าเลย เพียงแต่รอเก็บเกี่ยวหลักฐานให้มีความชัดเจน และความพร้อมเท่านั้นเอง
“ฟ้องหย่า” สะใจหรือลำบาก
การฟ้องหย่าในครั้งนี้ หากดูอย่างผิวเผินเหมือนจะเป็นเรียกร้องศักดิ์ศรีเมียหลวงให้กลับคืนมาอีกครั้ง แต่อีกด้านหนึ่งน่าจะมี “แรงแค้น” ที่อาบฉาบอยู่บนความ “สะใจ” หลายคนอาจจะนึกถึงบท “เจ้าสีเกด” ในเรื่อง “สาปภูษา” ที่เธอเคยแสดงไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
“ทุกฝีเข็ม ทุกเส้นไหม ทุกลมหายใจ...ข้าขอพยาบาทจองเวรมันไปจนชั่วลูกชั่วหลาน...ขอสาปขอแช่งพวกมันไปจนชั่วนิรันดร์...” …
ขณะเดียวกันก็มีข่าวในบางกระแสว่า เวลานี้ สถานะทางการเงินของธัญญ่าอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากเงินทุนที่มีอยู่ได้ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตัวธัญญ่าเองก็ไม่มีรายได้เข้ามา มีแต่รายจ่ายที่ต้องควักออกไป เพื่อนสนิทคนหนึ่งของธัญญ่าบอกว่าตอนนี้ธัญญ่าได้นำเอาทรัพย์สมบัติต่างๆ ที่มีอยู่ออกมาขายจนเกลี้ยง เนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวและพ่อกับแม่ที่อาศัยอยู่ร่วมกันทั้งหมด 4 ชีวิต ปัจจุบันเงินที่เธอสะสมไว้ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการได้หมดไปกับการเลี้ยงลูกและคนในครอบครัว อีกทั้งยังถูกคนรู้จักยืมเงินไปเป็นจำนวนถึง 5 ล้านบาทและยังไม่มีท่าว่าจะได้คืนอีกด้วย
เรื่องดังกล่าวเมื่อนำมาโยงกับคดีฟ้องร้องที่ธัญญ่าเรียกเงินจากฝ่ายชายเป็นจำนวนถึง 124 ล้านบาทยิ่งทำให้เชื่อได้ว่าเธอกำลังตกที่นั่งลำบากและร้อนเงินจริง !! (ก็เป็นได้)
ว่ากันว่า กุนซือสำคัญของธัญญ่าคือ เพื่อนนักแสดง 2 คนที่ร่วมกันปฏิบัติการตลอด 1ปีที่ผ่านมา … ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมหลักฐานต่างๆ รวมถึงกระบวนการ “ปล่อยของ” เป็นครั้งคราว ทั้งนี้เพื่อรอจังหวะให้ธัญญ่าเข้มแข็งพอที่จะปฏิบัติทวงคืน “ความแค้น” !?
ขณะที่ธัญญ่าเริ่มเข้มแข็งขึ้น เธอฉลาดพอที่ยังไม่ลงดาบสุดท้ายในการเชือด “เป๊ก” สัณชัย ผู้เป็นสามี และพ่อของลูก เธอประวิงเวลาเพื่อดูสถานการณ์จนเป็นที่แน่ใจว่า คนในบ้านเองตระกูลและหลายฝ่ายเข้าใจไปเองว่า เป๊กกับธัญญ่าส่อเค้าไปในทางที่ดีแล้ว
“เป๊ก” สัณชัย นอกจากจะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้ว ยังพยายามปรับปรุงตัวเอง ขยันพบปะพูดคุยกับธัญญ่ามากขึ้น ไปเยี่ยมลูกสาวบ่อยขึ้น และมีกิจกรรมทำร่วมกันประสาพ่อแม่ลูกมากขึ้น โดยที่ไม่เคยเฉลียวใจเลยว่า ในขณะที่เหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มส่อเค้าไปในทางที่ดีขึ้นนี้ ธัญญ่าเองกำลังวางแผนเตรียมจะลงดาบสุดท้ายเขาอยู่
เมื่อถึงจุดที่เธอเข้มแข็งดีแล้ว ประกอบกับหลักฐานที่ทยอย”หลุด” เพื่อถามทาง ก็ปรากฏว่า เรื่องทั้งหลายนั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานหลายเดือนก็ยังอยู่ในความสนใจของคนในสังคม และกระแสสังคมก็เชียร์เธออย่างออกนอกหน้า … ที่สุด … เดือนมกราคมที่ผ่านมา เธอตัดสินใจที่จะปรึกษาทนายเพื่อ “ฟ้องหย่า” ด้วยเรียกเงิน 124 ล้านบาทจาก “เป๊ก” สัณชัย รวมไปถึงจะเรียกเงินจำนวน 20 ล้านบาทจากพิ้งกี้ด้วยความสะใจ !! เธอเชื่อว่า การตัดสินใจของเธอจะส่งผลดีต่อตัวเธอและลูกสาว
งานนี้ …. ผู้ที่จะโดนผลกระทบเต็มๆ ไม่ใช่ใครทั้งสิ้น หากแต่เป็น “ลลียา เองตระกูล” ลูกสาวที่ทั้งพ่อและแม่ต่างอ้างคำว่า “รัก” อย่างเต็มปาก
เรื่องนี้ยังมีเวลาตัดสินใจกับเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะธัญญ่าจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในกลางเดือนนี้ ...
...................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 83 วันที่ 7-13 พฤษภาคม 2554