xs
xsm
sm
md
lg

“ธัญญ่า” พึ่งไสยศาสตร์ขย่มศัตรูหัวใจ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

10 มกราคม 54  ธัญญ่าสักยันต์ 5 แถว
หนึ่งในภารกิจของธัญญาเรศ เองตระกูลในช่วงที่กลับเมืองไทยเมื่อตอนต้นปีนี้ ภาพเบื้องหน้าคืองาน “บียองเซ..เวลคัม ทู ปารีส” เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้น 2 วันถัดมา 16 มกราคม ทั้งธัญญ่า และ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลบินไปเยี่ยมลูกที่อเมริกาด้วยกัน แต่ภารกิจเบื้องหลังที่เป็นไฮไลต์ของธัญญาเรศในช่วงนั้นกลับอยู่ที่ “วัดป้อมรามัญ” ของอาจารย์แดง
 
และนี่เองกลายเป็นเรื่องให้โจษจันว่า ธัญญ่าเข้าวัดพึ่งไสยศาสตร์ ใช้เมตตามหานิยมขย่มศัตรูเรียกผัวคืนรัง … ณ วันนี้ ทั้ง “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช กับ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลกลับไม่มีข่าวคราวเรื่อง “หาสู่” ขณะที่ฝ่ายชายกำลังขะมักเขม้นกับการหาฤกษ์ดีเตรียมบวช หลังจากที่ผัดผ่อนมาถึง 3 ครั้ง 3 วาระ เพราะมัวแต่ยุ่งกับเรื่องคาวๆ มากมายในชีวิตเมื่อปีที่ผ่านมา

ตามติดสถานการณ์ 6 วันกับธัญญาเรศ เองตระกูลที่เมืองไทยเมื่อตอนต้นปี วันนี้ปรากฏชัดเจนแล้วว่าเธอมีโปรแกรมต่างๆ ในช่วงนั้น ดังนี้

10 มกราคม ลงจากเครื่อง เดินทางไปวัดป้อมรามัญ จ.พระนครศรีอยุธยา
11 มกราคม - สัมภาษณ์และถ่ายแฟชั่นกับนิตยสาร woman&home
14 มกราคม - แถลงข่าวงาน Welcome To Paris Grand Opening Catier Diet โรงแรมรามาการ์เด้นส์
16 มกราคม - ธัญญาเรศ , สัณชัย เองตระกูล เดินทางไปเยี่ยมลูกที่สหรัฐอเมริกาพร้อมกัน

ธัญญ่าบอกไม่เกี่ยวกับเรียกใครกลับมา
หลังจากที่ธัญญ่าเหินฟ้าจากอเมริกาสู่เมืองไทยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภารกิจแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2554 (วันขึ้น 6 ค่ำเดือน 2) ทันทีที่ลงจากเครื่องคือไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา !!

“ยันต์ห้าแถวนี้เพิ่งไปสักมาก่อนถ่ายแฟชั่นเพียง 1 วัน เป็นพระที่อยุธยาสักให้ ตัวธัญญ่าเป็นคนที่ชอบเรื่องสักอยู่แล้ว แต่ด้วยลุคเรามันไม่เข้า พอดีไปทำบุญ เขาถามว่าสักมั้ย ตอนแรกสักน้ำมันซึ่งจะมองไม่เห็น เขาบอกเอาสีมั้ย สวยดีนะ เราก็จะดีเหรอ พรุ่งนี้ถ่ายแบบนะ เออ ไม่เป็นไรหรอก สักก็ได้ ก็เลยตัดสินใจสักเลย แต่ละแถวมีความหมายดีๆ อย่างเช่น แถวหนึ่ง เมตตา แถวสอง เศรษฐี อะไรทำนองนี้ ไม่มีนัยอะไรเลยค่ะ ไม่เกี่ยวว่าจะเรียกให้ใครกลับมา” นี่เป็นถ้อยความที่ธัญญ่าเปิดใจไว้กับนิตยสารwoman&home เล่มที่ 027 เดือนกุมภาพันธ์ 2011

ชอบเรื่องสัก แต่ลุคไม่เข้า ทว่า หนนี้กลับสักอย่างเต็มใจ เกิดอะไรขึ้นกับ “เมียหลวงลวงสังหาร” คนนี้ !?

แม้ว่าธัญญ่าจะไม่ได้ระบุ “แหล่งสัก” อย่างชัดเจน แต่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ยืนยันว่าธัญญ่าไปสักยันต์ 5 แถวนี้ที่วัดป้อมรามัญ โดยมีพระครูเกษมจันทวิมล หรือ “อาจารย์แดง” เจ้าอาวาสฯ เป็นผู้ประสิทธิ์วิทยาคมให้ … แม้เธอจะบอกว่า ไม่เกี่ยวกับมนต์เรียกผัว แต่ทว่าวันนี้ … ต้องบอกว่า หลังสักยันต์แล้ว การเจรจากับ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลในครั้งล่าสุดนั้นเต็มไปด้วยความราบรื่น แตกต่างจากหลายครั้งที่ผ่านมา !!

อาจารย์แดง เกจิเรืองวิทยาคมแห่งอยุธยา
อาจารย์แดงมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่หลายวงการ วงการบันเทิงคนที่ประกาศตัวชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไรคือ “น้าแอ๊ด” สมบัติ เมทะนี หรือเมื่อตอนที่มีข่าวว่า “ลีเดีย” ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา กับแมทธิว ดีน ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์เมื่อปี พ.ศ. 2551 ด้วยการเสริมชะตาด้วยการปล่อยนก, เต่า, ปลาไหล และหอยขม ประเภทละ 9 ตัว จำนวน 9 วัดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น วัดป้อมรามัญ ถือเป็นวัดแรกของพิธีกรรมนี้
คนอื่นๆ ในวงการบันเทิงที่ขึ้นอยู่กับวัดนี้ เช่น “อาหรั่ง” ไพรัช สังวริบุตร, รอง เค้ามูลคดี, สุรชัย สมบัติเจริญ, บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์, เอกราช สุวรรณภูมิ, สุนารี ราชสีมา เป็นต้น ในแวดวงโหราศาสตร์ มี พ.ต.อ.ดร. อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา และในสายทหารเช่น พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ และ พล.อ.หาญ ลีลานนท์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ลูกศิษย์ลูกหาและคณะทัวร์ที่ไปวัดนี้นิยมเครื่องรางที่มีชื่อเสียงเช่น แหวนเศรษฐี, ชูชกมหาเศรษฐี เป็นต้น ส่วนการลงอาคมนั้น คนส่วนใหญ่นิยมให้อาจารย์แดงลง “นะเมตตา และกระเป๋าเศรษฐี”
ส่วนกรณีของการสัก “ยันต์ 5 แถว” ซึ่งเป็นการลงอักขระขอมที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจพุทธคุณ เพื่อเอามาหนุนชะตาให้ดีขึ้น พลิกร้ายให้กลายเป็นดี โดยยันต์ 5 แถว (หนุนดวง เสริมโภคทรัพย์) ของแต่ละสำนักจะมีรายละเอียดในการใช้หัวใจพุทธคุณต่างกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับเมตตามหานิยม, เสริมราศี, หนุนชะตา, เพิ่มเสน่ห์, ประสิทธิ์ความสำเร็จ การสักของวัดฯ นี้ ลูกศิษย์จะเป็นคนสัก โดยมี “อาจารย์แดง” ลงอาคมประสิทธิ์ให้ เพราะพระครูเกษมจันทวิมล หรือ “อาจารย์แดง” เป็นพระนักพัฒนาที่มีเมตตาจิตสูง เป็นเจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ทั้งยังเป็นเกจิผู้เรืองวิทยาคมแห่งอยุธยา
พื้นเพของท่านนั้นเป็นชาวนครราชสีมา จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนที่จะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ได้นุ่งห่มขาว ถือศีลกินเจ และเป็นร่างให้กับพ่อปู่ฤษี หลังอุปสมบทร่ำเรียนวิชาต่างๆ จากจิตสัมผัสและเกจิอาจารย์หลายรูป เช่น เรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อผล (ศิษย์หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี) , เรียนจิตกรรมฐานกับพระอาจารย์กิติศักดิ์ กิตติสาโร (ลูกศิษย์อาจารย์ธรรมโชดก อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน วัดมหาธาตุ กทม.) ท่านเคยโด่งดังขึ้นหน้า 1 ด้วยการทำพิธีกรรม “ตัดเป็นตัดตาย” ช้างพังนาตาลีดุร้าย ทำร้ายคนเสียชีวิตมาแล้วถึง 7 คน อาจารย์แดงทำพิธีกรรมและแขวนตะกรุดว่านมหาเมตตาจนสยบความดุร้ายได้อย่างราบคาบจนถึงวันนี้

เมียหลวงใช้ “สติ” ข้ามกองทุกข์
ธัญญาเรศ เองตระกูล เริ่มทุกข์เมื่อเดือนมีนาคม แยกกันอยู่กับ “เป๊ก” สัณชัย เมื่อเดือนมิถุนายน โดยย้ายตัวเองไปอยู่ที่บ้านของพ่อสามี สมใจนึก เองตระกูล ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน วันที่ 16 สิงหาคมตัดสินใจไปอเมริกา ที่นั่น เธอร้องไห้ 2 ครั้ง ครั้งแรก … หลังจากที่เธอมาอยู่ได้เดือนครึ่ง ครั้งต่อมาเป็นครั้งที่ 2 และเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกันยายน ชีวิตความทุกข์ตามวาระนั้นก้าวล่วงหลุดพ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม … เธอเรียนรู้ว่าจะข้ามกองทุกข์ได้ต้องมีสติ !!

“สิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทเรียนครั้งนี้คือเราต้องมีสติเป็นทางออกในการแก้ปัญหา ซึ่งแรกๆ ยากเหมือนกันนะที่จะมีสติ บางทีที่เราเจอเรื่องอะไรร้ายๆ แล้วคุมสติไม่ได้ก็มีหลุดๆ อะไรไป เพราะเราฟุ้งซ่าน มือไม้สั่น ทำอะไรไม่ถูก จิตใจมันร้อนรน ไม่นิ่ง แต่เมื่อไรที่เรานิ่งได้มันโอเค

แต่ทุกข์มากๆ ยังไงก็ไม่เคยคิดสั้น ช่วงประชดชีวิตก็ไม่มี เพียงแต่เข้าใจอารมณ์ของคนที่คิดสั้นเพราะเรื่องนี้ เข้าใจความรู้สึกที่มันเศร้ามาก Deep มาก เหมือนหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ซึ่งเรายังไม่ขาดสติถึงขั้นที่จะทำอะไรแบบนั้น

ธัญญ่าว่าการคิดสั้นไม่ใช่ทางออกที่ดี ถ้าเราคิดสั้น เราตายไปแล้วพ่อแม่เรา คนที่รักเรา ลูกเราอีกล่ะ จะอยู่ยังไง ถ้าเราคิดสั้นมันคือการที่เราเห็นแก่ตัวมากกว่า ก็ไม่เป็นไร อยู่ไปกับปัญหานี่ล่ะ อยู่ไปเดี๋ยววันหนึ่งมันก็ต้องหลุดออกมาได้

ช่วงนั้นก็อาศัยทำบุญเยอะ จากปกติที่ทำบุญเยอะอยู่แล้ว จริงๆ ธัญญ่าเป็นคริสต์ แต่ก็มาทำบุญทางพุทธด้วย ช่วงที่เราอยู่เมืองไทยมีปัญหาก็จะถวายสังฆทานทุกอาทิตย์ เข้าโบสถ์ เข้าวัด ทำอะไรก็ได้ที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจ ไปบ้านคนพิการ ไปบ้านคนชรา เหมือนไปให้ความสุขแก่คนที่เขาทุกข์กว่าเราก็ดีขึ้น

ถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นมันจะดูเป็นเรื่องใหญ่สำหรับลูกผู้หญิงทุกคน แต่พอเราเข้มแข็งขึ้นเราไม่เฮิร์ตกับมันแล้ว มองย้อนกลับไปตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องเล็กสำหรับเราไปแล้ว

เพียงแต่ตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะ กินข้าวยังกินไม่ลงเลย กินก๋วยเตี๋ยวได้หนึ่งเส้นพะอืดพะอม กินข้าวไปร้องไห้ไปอะไรอย่างนั้น ซึ่งเราเคยเห็นเพื่อนเราเป็น เขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่แต่งงาน มีลูก แล้วสามีไปมีเมียน้อย มานั่งกินข้าวกับเราแล้วร้องไห้ แล้วเราดันไปหัวเราะ เขาว่า เฮ้ย พี่ อะไรมันจะขนาดนั้นเลยเหรอ พอมาถึงตาเราบ้าง เป็นไงล่ะ เข้าใจแล้วใช่มั้ย หัวเราะฉันดีนัก แต่ในที่สุดคู่นั้นก็รอดนะ พี่คนนั้นอดทนมาก สามปี สุดท้ายเขาก็เลิกกับผู้หญิงอีกคน มาอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ถือเป็นเคสหนึ่งที่ต้องมีความอดทนมากๆ แต่ธัญญ่าคงจะไม่อดทนขนาดนั้น”

หลังฝนซาฟ้าสดใส
“เรื่องนี้ธัญญ่าเชื่อค่ะ จากตอนแรกไม่เชื่อนะ ตอนแรกถามว่า แล้วเมื่อไรล่ะ(หัวเราะ) ฝนตกอยู่ได้ทุกวัน แต่ตอนนี้เชื่อแล้ว เพราะชีวิตตัวเองตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงฟ้าหลังฝนที่ยังอาจจะคลุมเครือนิดหนึ่ง เพราะเรายังไม่ได้คุยกัน ยังไม่ได้หย่าขาดจากกันอย่างเป็นทางการ แต่แสงรำไรเริ่มมาให้เห็นแล้ว เริ่มยิ้มได้ เริ่มใช้ชีวิตตามปกติแล้ว

ถ้าถามใจตัวเองตอนนี้ ตอบได้ว่ามีความสุขค่ะ วัดจากการที่เราไม่ย้อนกลับไปนึกถึงวันนั้น วันนี้ วันโน้น ไม่รู้สึกหดหู่นะ รู้สึกตื่นมาแล้วสดใสกับสิ่งที่เราจะทำในแต่ละวัน ไม่นึกย้อนกลับไปวันที่เราเศร้าอีกต่อไป

และความสุขของธัญญ่าตอนนี้คือการได้อยู่กับลูกแบบเต็มที่ ได้เลี้ยงเขา ได้ดูแลเขาตลอดเวลา ตอนนี้เขาเริ่มพูดได้เป็นคำๆ กำลังเรียกหม่ามี้ ก็หม่ามี้ๆ ๆ ๆ ทั้งวัน”

ข้อความนี้ ถูกหรือผิด !!
เธอให้คำตอบ “ถูก” กับประโยคเหล่านี้ = เมื่อชีวิตคู่ถึงทางตัน จบกันแค่นี้ดีกว่า / เวลาเยียวยาได้ทุกเรื่อง / รักแท้แพ้มือที่สาม / เข้าใจ ให้อภัย อดทน นิยามของภรรยายุคใหม่? / ตัดบัวยังเหลือใย ถ้าจะตัดใจต้องหย่าขาด / มีสติอยู่กับตัว ไม่ต้องกลัวทุกข์หนัก / ครอบครัวคือที่พึ่งเสมอ / จากเวิร์กกิ้งมัมสู่แม่บ้านเต็มเวลา / หลังฝนซาฟ้ามักจะสดใส
และให้คำตอบว่า “ผิด” กับประโยคเหล่านี้ = เสียทองท่วมหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร / แต่งงานกับผู้ชายเจ้าชู้ รู้อยู่แล้วว่า ต้องทำใจ / ย้อนเวลากลับไปได้ ขอไม่แต่งงานดีกว่า / ชีวิตคู่เหมือนการเสี่ยงโชค แทงผิดครั้งแรกก็แทงใหม่ได้ / ยอมหย่าเท่ากับยอมแพ้

ขณะเดียวกัน ส่วนที่ต้องอธิบายปละกำกับด้วย “True - False” ประกอบด้วย

ลูกสาวข้าใครอย่าแตะ - False
จริงๆ แล้วธัญญ่าไม่ได้หวงลูกสาวขนาดนั้นนะ แต่ (ลงน้ำหนักเสียง) บุคคลที่สามอย่ามาแตะ อย่ามายุ่งกับลูกฉัน สำหรับคนอื่นไม่เป็นไร

เมียหลวงลวงสังหาร - False
เราไม่ได้สังหารใคร อาจจะลวงบ้างนิดๆหน่อยๆ ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่คิดจะสังหารใครเลย ใครมีความสุขยังไงก็อยู่อย่างนั้นไปแล้วกัน

ผุ้ชายทุกคนเจ้าชู้ - True
มันเป็นเรื่องธรรมดา ไปวอกแวกนิดๆ หน่อยๆ ไม่เป็นไรหรอก ธัญญ่าเป็นคนไม่คิดเยอะอยู่แล้ว แต่ว่ามันก็ไม่ควรที่จะมีแบบเป็นตัวเป็นตน

ชีวิตคู่ต้องมีเมียเดียว - True
เพราะรับให้มีหลายเบอร์ไม่ได้ ถึงต้องออกมานี่ไง ครอบครัวธัญญ่าเป็นครอบครัวฝรั่ง ถือเรื่องรักเดียวใจเดียว จะให้สามีไปมีเมียน้อยได้ไง เรื่องอะไรล่ะ ฮึ เราก็ไม่อยากจะใช้สามีร่วมกับใคร ผู้หญิงบางคนอาจจะโอเคนะ ขอให้เลี้ยงดูเราดี ดูแลเราดี ทำอะไรก็ทำไป แต่นั่นไม่ใช่นิสัยเรา

ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นยังไง สุดท้ายก็ต้องกลับเมืองไทย - True
ในอนาคตอันใกล้นี้คงจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกที่อเมริกา ยังตอบไม่ได้เลยว่านานแค่ไหน อาจจะสักหนึ่งปี แต่ไม่ถึงขั้นไปปักหลักอยู่ที่นั่น ยังไงก็ต้องกลับเมืองไทยอยู่แล้ว ไม่แน่นะคะ อีกสามเดือนหกเดือนอาจจะกลับมาแล้วก็ได้

เจรจาที่อเมริกาล่าสุด (อีกครั้ง)
การเดินทางไปอเมริกาครั้งหลังสุดนั้น เรื่องส่วนใหญ่ที่คุยกันเป็นเรื่องอนาคตของลูกลียาเป็นหลัก ไม่ได้ให้น้ำหนักกับการหย่าร้างอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยตัวธัญญ่านั้นมีแค่ “บางเงื่อนไข” ซึ่งส่วนใหญ่เธอได้ยืนยันในเรื่องเดิมๆ คือ สนุกได้ แต่ห้ามมีเป็นตัวเป็นตน !! เพราะไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กมีปัญหา ชีวิตที่อเมริกาครั้งล่าสุดนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของพ่อ - แม่ -ลูก โดยไม่พูดถึงบุคคลที่ 3 โดย “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล กล่าวแก่ภรรยาเพียงสั้นๆ ว่า ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ !! เรื่องทั้งหมด ...

ความสุขฉบับพกพาของ “เป๊ก” สัณชัย … หลังจากกลับเมืองไทย มีคนเห็นว่าเที่ยวเตร่อยู่กับเพื่อนฝูงร่วมก๊วนตามปกติทั้งย่าน RCA และทองหล่อ และยังไม่มีข่าวคราวข้องแวะกับอดีต หรือผู้หญิงคนอื่น !! มีเพียงเรื่องที่เขาต้องเตรียมตัวที่จะไปหาฤกษ์อุปสมบทอีกครั้ง หลังจากที่เลื่อนครั้งที่ 3 กับฤกษ์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 และครั้งนี้จะเป็นการหาฤกษ์บวชในครั้งที่ 4 ตามความตั้งใจเดิม “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลจะไปศึกษาพระธรรมจากเกจิอาจารย์ทางตอนเหนือของประเทศ

ขณะเดียวกัน ณ วันนี้บอกได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวและไปมาหาสู่ของ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล กับ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ผิดกับเมื่อก่อน ขณะเดียวกัน ตัว “พิ้งกี้” เองก็มีข่าวเรื่องเทียวไปเทียวมาระหว่างกรุงเทพฯ - นครปฐม จนเป็นเหตุให้เธอต้องนำ “เต้” ช่างแต่งหน้าที่ควบดำรงตำแหน่ง “ผู้จัดการส่วนตัว” ของพิ้งกี้ออกมาชี้แจงว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เพราะบังเอิญว่าผู้จัดการส่วนตัวเอาวิกของเธอไปใส่ คนก็เลยจำผิด คำถามก็คือ คนแถวนครปฐมแยกไม่ออกหรือว่า หนังหน้าและหุ่นของพิ้งกี้กับเต้ต่างกันอย่างไร !?

บางทีเรื่อง “ฝนซาฟ้าใส” อาจจะมีและเกิดขึ้นจริงกับคนคู่นี้ก็ได้
..............................

ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 72 วันที่ 19 - 25 กุมภาพันธ์ 2554
11 มกราคม 54 ถ่ายแฟชั่นกับนิตยสาร woman&home


14มกราคม แถลงข่าวที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์
16 มกราคมบินกลับอเมริกา หลังสักยันต์ ชีวิตรัก “เป๊ก – ธัญญ่า” แนวโน้มดีขึ้น
“น้าแอ๊ด” สมบัติ เมทะนี ลูกศิษย์ตัวจริงของหลวงพ่อ (อาจารย์) แดง วัดป้อมรามัญ อยุธยา
“ลีเดีย” ศรัณย์รัชต์ กับครอบครัว และแมทธิว ดีน ก็ขึ้นอยู่กับวัดนี้
พิธีกรรม “ตัดเป็นตัดตาย” ช้างนาตาลี 7 ศพที่ดุร้ายจนเชื่องถึงวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น