xs
xsm
sm
md
lg

"เต๋อ" ใจบุญ มอบ 1 แสน ช่วยผู้ประสบภัยสึนามิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขอบคุณภาพจากรักดารา
"เต๋อ" โล่ง กลับถึงไทยอย่างปลอดภัย หลังติดสึนามิถล่มที่โอซาก้า สุดปลื้ม “กวนมึนโฮ” คว้ามา 2 รางวัลจากเทศกาลหนังญี่ปุ่น ใจบุญแบ่งเงินรางวัล 1 แสนบาทให้ผู้ประสบภัยสึนามิ พร้อมบอก ทำการมอบให้กงสุลที่ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว

อกสั่นขวัญแขวนเมื่อพระเอกหนุ่ม “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” และผู้กำกับ “โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล” ที่ต้องเดินทางไปร่วมเทศกาลหนังโอซาก้า อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ที่ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะตัวแทนจากภาพยนตร์เรื่อง “กวนมึนโฮ” ของค่ายจีทีเอช โดยขณะที่เจ้าตัวอยู่ที่เมืองโอซาก้านั้นก็ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์และได้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา จนหนุ่มเต๋อได้ทวิตข้อความในว่ารู้สึกได้ว่าจะมีแผ่นดินไหว ทำเอาคนที่เมืองไทยที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ความรุนแรง จึงอดเป็นห่วงพระเอกหนุ่มและผกก.โต้ง ไม่ได้

โดยเมื่อเวลา21.30 น.(14 มี.ค.54)ทั้งสองหนุ่มได้เดินทางกลับถึงไทยด้วยเที่ยวบินJL727พอเท้าแตะเมืองไทยปุ๊บทั้งคู่ก็ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงรางวัลที่สามารถคว้ากลับมาได้ถึง2รางวัล ว่า

“สำหรับหนังกวนมึนโฮได้ 2 รางวัลครับ รางวัลแรกก็คือที่ผมได้ เป็นเหมือนกับรางวัลคนทำหนังในเอเชียที่น่าจับตามอง อีกรางวัลนึงเป็นของกวนมึนโฮ ชื่อรางวัลว่า ABC Awards The Most Entertaining flim ก็เป็นเหมือนกับหนังที่เขาดูแล้วให้ความบันเทิงที่สุด และเป็นหนังที่เงินรางวัลเยอะที่สุดของทุกสายในเทศกาลนี้ครับ แต่รางวัลที่ใหญ่สุดของเทศกาลนี้จะเป็นรางวัลกรังปีที่เราไม่ได้ อันนี้เป็นรางวัลพิเศษ แต่เงินรางวัลเยอะกว่าครับ ถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็ 4 แสนกว่าบาท ซึ่งผมก็ได้คุยกับทางผู้ใหญ่ของจีทีเอชเรียบร้อยแล้ว เขาก็เลยนำเงินไปมอบเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่นครับ 1 แสนบาทครับ ก็มอบให้ท่านกงสุลที่นั่นเรียบร้อยแล้วครับ”

“สำหรับเทศกาลนี้เป็นเทศกาลหนังเอเชีย ก็จะมีทั้งหมดประมาณ 30-40 เรื่อง แล้วก็มีคนญี่ปุ่นไปดูกันเยอะมากครับ ซึ่งตอนแรกฟีดแบ็คกวนมันโฮผมก็กลัว เพราะว่ามันจะมีความแตกต่างทางวัฒนธรรมหลายอันเหมือนกัน ทีนี้พอเข้าไปดูในโรงผมกับเต๋อก็แอบเข้าไปนั่งหลังสุดเลย ปรากฏว่าฟีดแบคดีเลยครับ ถึงเสียงหัวเราะจะไม่เท่าเมืองไทย เพราะคงเข้าใจไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฏว่าช่วงร้องไห้เขาร้องมากกว่านะครับ เขาร้องไห้กันเยอะมาก แล้วก็จะมีไปฉายที่ฮาวายด้วย แต่พวกผมไม่ได้ไปจะมีแต่หนังไปฉาย แต่ที่ฮาวายก็มีข่าวสึนามิเหมือนกัน ก็คงไม่ไป(หัวเราะ)”

ผู้กำกับโต้ง เผย ถึงเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นว่าโชคดีที่พวกตนไปถึงก่อนหนึ่งวัน ไม่อย่างนั้นก็คงติดอยู่ที่นั่นและไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่ และยังดีที่เมืองโอซาก้าที่จัดเทศกาลนั้นไม่ได้รับกระทบมาก

“ตอนที่เกิดเหตุการณ์ผมอยู่ในห้องประชุมกำลังสัมมนา ก็จะมีคนฟังเป็นร้อยอยู่ในห้อง ตอนแรกก็นั่งฟังหัวเราะกันดี สักพักมันเริ่มสั่นแรง และเห็นโคมไฟด้านบนสั่นชนกับกำแพง มันก็เริ่มน่ากลัว เริ่มมีคนออกไปบ้าง แต่เขาก็แค่มองหน้ากันแล้วก็ออกไป เพราะที่ญี่ปุ่นเหตุการณ์แบบนี้คงไม่ผิดปกติมาก เพราะเขายังไม่รู้ว่ามันเกิดที่อื่นที่รุนแรงกว่า เพราะมันมาถึงโอซาก้าประมาณ 3-4 ริกเตอร์ครับ ไม่ได้รุนแรงเท่าเมืองอื่น”

“แต่พอเห็นภาพจากข่าวผมเองออกจะงงๆ มากกว่า เพราะคนในโอซาก้าเขาปกติมาก และกำลังใจดีมาก ไม่ได้ตกใจเสียขวัญขนาดนั้น เราก็เลยโอเคไปด้วยที่นั่นเขาเป็นระบบระเบียบดีมาก และรัฐบาลก็ช่วยเหลือเต็มที่ ผมรู้สึกว่ามันเกิดจากการคิดบวกมากๆ ของคนญี่ปุ่นด้วยครับเราติดตามข่าวกันตลอดครับ และผมว่าที่อุ่นใจได้ก็คือเราปรึกษากับท่านกงสุลที่นั่นตลอดว่าจะปลอดภัยไหม แล้วท่านก็พร้อมจะดำเนินการให้เรากลับมาอย่างรวดเร็วกว่านี้ได้ เพียงแต่เรารู้สึกว่าอยู่ต่อดีกว่าเพราะเทศกาลเขาเชิญเรามาด้วย ก็อาจจะไม่มีอะไรร้ายแรง”

“เราสองคนก็ให้กำลังใจกัน ผมก็บอกเต๋อว่าถ้ามีอะไรมึงโทรหากูนะ(หัวเราะ) เพราะเราอยู่คนละห้อง แต่ก็โชคดีที่เราไปถึงก่อนวันหนึ่ง แล้วก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่นารีตะด้วย ถ้าเราไปช้าวันหนึ่งแสดงว่าเราก็ต้องติดอยู่ที่นารีตะไม่รู้กี่วันเลย ก็ถือว่าโชคดีมาก”

ด้านพระเอกหนุ่ม “เต๋อ” เผย ตกใจเพราะไม่เคยเจอแผ่นดินไหวมาก่อน ซึ่งเมื่อทราบข่าวจากเมืองไทยว่าเหตุการณ์รุนแรงมาก ก็ชักรู้สึกกลัวอยากจะกลับเลยทันที อีกทั้งแม่ของตนยังโทรมาร้องไห้เพราะเป็นห่วง อยากให้รีบกลับ

“ตอนนี้เดินทางกลับถึงไทยแล้วดีใจครับ แผ่นดินไทยมั่นคงกว่าเยอะ แผ่นดินที่ญี่ปุ่นดูน่ากลัวเหมือนกัน แต่ว่าจริงๆ ที่โอซาก้าที่ผมไปไม่ค่อยได้รับผลกระทบอะไรนะครับ แต่ตอนที่แผ่นดินไหวครั้งแรกมันก็สั่นมาถึงโอซาก้าเหมือนกัน ตอนแรกผมคิดว่าผมเวียนหัวเฉยๆ แต่ก็เอ๊ะทำไมมันมึนๆ งงๆ เซๆ ก็เพราะพื้นมันสั่น แล้วตอนนั้นพี่โต้งเขาเสวนาอยู่ชั้นบน ผมก็นั่งรออยู่ข้างล่าง สักพักมันก็สั่นขึ้นมา ตอนแรกก็ตกใจเพราะเราไม่เคยเจอแผ่นดินไหว แต่พอไปถามคนญี่ปุ่นก็บอกปกติ แต่พอเริ่มมีข่าวมันก็ชักไม่ปกติแล้วล่ะ(หัวเราะ)”

“ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงอะไร คิดว่ามันเป็นแค่แผ่นดินไหวธรรมดา แต่ก็เพราะข่าวจากทางไทยนี่แหละเริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยรู้ว่ามันรุนแรงมากเลย ก็กลัวนะครับ ตอนแรกผมจะบินกลับเลยด้วย เพราะคุณแม่โทรมาร้องไห้ คุณแม่บอกอยากให้กลับเลยได้ไหม คือตอนนั้นยังไม่ทันได้ไปร่วมงานอะไรเลย เหมือนบินไปเฉยๆ แล้วก็กลับเลย แต่พอได้คุยกับท่านทูตที่นั่นเขาก็บอกว่าโอซาก้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็เลยอยู่ต่อ ก็ไปคุยกับคุณแม่เขาก็ดีขึ้น”

“คุณแม่ดูจะเสียขวัญกว่าผมอีก ผมก็เลยต้องพยายามปลอบให้เข้าใจว่ามันอยู่ไกลกัน สิ่งที่แม่เห็นว่ามันดูรุนแรงคือมันอยู่คนละเมือง ไกลมาก คุณแม่เขาก็เข้าใจ แต่ถ้าจะไปอีกก็คงรอให้อาฟเตอร์ช็อคมันหายไปก่อนดีกว่า ให้มั่นใจกว่านี้หน่อยแล้วค่อยไป(ยิ้ม) ถ้าให้บินไปเร็วๆ นี้อีกก็คงไม่ไหวครับ ส่วนน้องพีค(ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) บอกตอนแรกไม่ตกใจนะครับแต่พอคนอื่นตกใจน้องพีคก็เลยตกใจไปด้วย(หัวเราะ) ก็เลยโทรมาแล้วก็ได้คุยกันครับ”

“ส่วนที่หลายๆ คนเป็นห่วงแล้วก็ทวิตไปหาอันนี้ผมรู้สึกดีใจนะครับ เพราะว่าผมไม่สามารถติดต่อทางไทยได้เลย ไม่ได้มีการติดต่อที่สะดวกสบายอะไรขนาดนั้น ก็ได้ทวิตเตอร์นี่แหละครับช่วยได้เยอะ ก็จะมีอัพเดทข่าวสารมาให้ แล้วก็ส่งกำลังใจมาให้เยอะแยะมาก บางทีข่าวสารก็ดูจะรุนแรงกว่าความเป็นจริงเยอะเหมือนกัน”


กำลังโหลดความคิดเห็น