“ดี้” สุดเวทนาแกรมมี่ลดเงินเดือนพนง.ลั่นถ้าตกลงไม่ได้ลาออก

“ดี้ นิติพงษ์” ยันยังไม่ลาออกแต่ที่ขึ้นหัวเฟซบุคคว่าว่างงาน เจ้าตัวบอก ยังไม่ได้ลาออกแต่บริษัทอาจรักมากให้รับเงินเดือนแล้วอยู่เฉยๆ รับไม่ได้แกรมมี่ลดเงินเดือนพนักงานน่าเวทนา แถมบางคนก็ถูกบีบบังคับจนต้องลาออกไปเองทั้งที่บริษัทก็มีรายได้พอสมควร เผยกำลังจะคุยเรื่องนี้กับแกรมมี่หากตกลงกันไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน โวตอนนี้มีบางบริษัทติดต่อทาบทาม

ทำงานแต่งเพลงให้กับค่ายแกรมมี่มายาวนานถึง 20 ปี แต่จู่ๆ “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” ก็ประกาศตูมว่า อาจจะลาออกจากแกรมมี่เหตุเพราะรับไม่ได้ที่จะต้องทำงานเพลงเอาใจตลาดรวมไปถึงการปลดพนักงานของแกรมมี่ที่เสมือนบีบให้ลาออก จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ไม่รับหรือปฏิเสธว่าจะอยู่หรือไป แต่าล่าสุดเจอตัวดี้ในงาน 9 ENTERTAIN 2011 ก้าวสู่ความแตกต่าง ก็เปิดเผยว่า จะเข้าประชุมกับผู้บริหารแกรมมี่ถึงเรื่องดังกล่าว และจะยื่นข้อเสนอให้แกรมมี่ห้ามลดเงินเดือนพนักงานเพราะเป็นเรื่องที่น่าเวทนา และต้องปรับแนวทางการทำงานเพลงใหม่ ไม่งั้นจะลาออก

“สาเหตุที่ข่าวออกมา เพราะว่าจริงๆ แล้วมันก็เป็นสภาพที่อาจจะเจอกันทุกคน บริษัทเองในธุรกิจเพลงก็ลำบาก แต่ธุรกิจโดยรวมก็เรียบร้อยดีไม่มีอะไร ทีนี้มันมีปัญหาเรื่องความที่รู้สึกของการคนทำงาน มันยังดูน่าสงสัยว่ามันดีพอหรือยัง เช่นการลดเงินเดือน แล้วก็เหมือนถูกบังคับให้ลาออกโดยอัตโนมัติ ซึ่งบางส่วนก็ตามกฎหมายแรงงานเกษียน 55 ก็มีแต่บางส่วนก็ไม่ถึง ทีนี้ไม่มีทางเลือก คนทำงานเพลงเป็นศิลปินและเขาก็อยู่กันมาหลายๆ คน บางคนอยู่กันมาเป็น 20 ปี ถึงยังไงวันนี้ถ้ารายได้จากการแบ่งส่วนเพลงมันก็ลดลงอยู่แล้ว ทีนี้เงินเดือนก็ไม่เท่าไหร่ เอาเข้าจริงๆ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน”

“การมาลดเงินเดือนคือถ้าบริษัทปิดแล้วพนักงานออกอันนี้เข้าใจได้ เพราะว่าบริษัทไม่อยู่แล้ว แต่กิจการเพลงมันยังทำอยู่ เพราะถ้าการทำงานยังทำอยู่แต่ว่ามาลดเงินเดือนเขามันน่าเวทนา และตัวเราเองก็ได้รับผลกระทบด้วย แต่ตัวเราถ้าจะให้ต่อรองมันไม่ได้ยาก เฉพาะเราคนเดียวมันไม่ได้ยากแต่ว่าเรามองรวมว่า แล้วคนเก่าคนแก่ที่อยู่กันมานานเงินเดือนหลักหมื่นมันไม่ได้เยอะมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่มีทั้งหมด คือขอแค่ว่ามาดูแลคนเก่าๆ หน่อยประมาณนึงไม่ให้เขาถึงกับว่าเดือดร้อน เอาให้เขาอยู่ได้เพราะว่าเขาก็อยู่ยากอยู่แล้ว และอย่างที่สองก็คือการทำงานที่เปลี่ยนไปที่ค่อยข้างจะเป็นแบบเดียว คือสิ่งที่เราเคยที่เราทำมาไม่รู้หายไปไหน คือการที่เราทำมาแล้วดูเหมือนของเราเป็นรายได้หลักแล้วอยู่ๆ วันนึงจะมาเปลี่ยนเป็นแบบนี้”

ยันตอนนี้ยังอยู่บ้านเดิม แต่ถ้ายังคุยไม่รู้เรื่องมีสิทธิ์ลาออก
“ตอนนี้ยังอยู่ที่แกรมมี่อยู่ การขึ้นหัวเฟซบุคส์ว่าว่างงานก็ไม่ได้หมายความว่า เราลาออกจากงาน เขาอาจจะรักมากให้เงินเดือนเฉยๆ แล้วไม่ต้องทำอะไรก็ได้ ถ้าเราอึดอัดก็อึดอัดไปถ้าเราไม่อึดอัดก็อยู่ต่อไป ถ้าถามถึงตำแหน่งไม่รู้ท่องไม่เคยถูก เพราะว่าไม่ค่อยสนใจเรื่องตำแหน่งเท่าไหร่ หน้าที่ทำงานก็ทำไป จริงๆ แล้วมันอยู่ในขั้นตอนที่ต้องปรับคุยกัน เพราะการที่ทำงานมาด้วยกันนานๆ ก็อาจจะมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันได้ ข่าวที่ออกมาก็เกือบจริงแต่ไม่จริง เพราะว่ายังไงบ้านนี้ก็อยู่มา 20 กว่าปีบางทีมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อะไรจะมาน้อยใจแล้วเกเรไม่ทำงานไม่ใช่ ซึ่งเวลามันเปลี่ยนไปแล้วกติกามันเปลี่ยนการทำงานมันเปลี่ยน มันคิดไม่เหมือนกันก็ต้องปรับต้องคุยกัน แล้วก็ต้องมาดูอีกว่าการที่เราปรับแล้วมันจะได้ผลการทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุขและสนุกหรือไม่ ก็อยู่กันต่อไปได้อย่างมีความสุข ยังไม่ได้คิดจะย้าย”

“และจริงๆ ยังอยู่มันยังอยู่ขั้นตอนที่คุยกันและปรับ แต่ถ้าถามว่าเรียบร้อยหรือยังมันก็ยังไม่มีความเรียบร้อยอะไร คือเราไม่ได้เป็นตัวบอกว่าเราจะย้ายหรือไม่ย้าย แต่ว่าเราก็กลัวการให้คำสัญญาว่าเราจะอยู่หรือไม่อยู่ แต่ก็อย่างว่าครับ ไม่มีใครอยากไปไหนหรอก เวลาไปอยู่ที่บ้านเราก็ยังสบายใจอยู่ แต่ว่าทางแกรมมี่ก็ยังมีส่วนที่แฮบปี้และส่วนที่ต้องคุยกันอยู่"

"คือถ้าพูดยังไงมันก็ยังอยู่แบบนี้แหละ เพราะว่าถึงยังไงเราก็ต้องปรับกันไป มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าตกใจอะไร ซึ่งแนวโน้มก็น่าจะไปในทางที่ดี เพราะว่าคนเราก็เคยอยู่ด้วยกันมา ก็คงจะคุยกันได้เพียงแต่ว่าในหลายๆ เรื่องก็เป็นเรื่อจริงจังเหมือนกัน ในความเห็นของการทำงานก็ต้องดูกันต่อไป เพราะว่าจริงๆ แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นในการเปลี่ยนแปลงถึงวันนี้จะอยู่บ้านเดิมก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในบ้าน หรือในบ้านเปลี่ยนแปลงแล้วไม่ตรงกันก็อาจจะออกเหมือนแฟนที่เลิกกันก็ได้ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้หมด เพราะการหย่าร้างของคนไทยเกิดขั้นคิดเป็นร้อยละห้าสิบครับ”

“ถามว่าเหมือนเดิมมั๊ย ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะว่าที่อยู่มาแต่ละวันมันไม่เหมือนเดิมเลยสักวัน วันเวลามันเปลี่ยนไปบางคนก็อยู่บางคนก็ไม่อยู่ คนที่อยากให้อยู่ก็จากไปอย่าง 'พี่เต๋อ' เรวัติ พุทธินันท์ก็อาจไป การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่อยากจะบอกว่าเราไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งตบตีอะไรกัน เพียงแต่ว่าตรงนี้เราไม่เห็นด้วย เรื่องนี้เราเข้าใจตรงนี้เราว่าน่าจะเป็นแบบนี้ ซึ่งก็คงต้องคุยกันถึงรายละเอียดหลายๆ เรื่องทุกอย่างก็เป็นการที่ต้องปรับกันและเนียนแล้ว ถ้าเนียนแล้วก็ยิ้มแฉ่งเราก็มาทำงานกันต่อ ถ้าออกสะเทือนก็ไม่รู้สิ”

“กับทางแกรมมี่ตอนนี้ก็มีโปรเจ็กต์อยู่ คอนเสิร์ต 30 ปีดี้ นิติพงษ์จะจัดแบบเป็นกันเองมากๆ เพราะว่าเราเคยจัดคนเป็นหมื่นๆ แล้วมันก็เป็นอีกแบบนึง แล้วเราก็เคยจัดแบบมีนักร้อง 30-50 ชีวิตแต่อันนี้เราจะจัดแบบ เอาน้อยๆ ให้มันใกล้ชิดหน่อย ก็อยู่ในการคุยกันอยู่ ก็น่าจะประมาณเดือนมิถุนายนครับ คือจำนวนศิลปินน้อยลงและคนดูเราก็จำกัดไม่ให้ดูไกลๆ กัน จะดูแบบอบอุ่นหน่อยสักสี่ห้าพันคน แต่ถ้าศิลปินน้อยแล้วบางคนจะน้อยใจก็ต้องขอโทษด้วยก็แล้วกัน และปลายปีก็กำลังจะมีละครมิวสิเคิลคือคุยกันไว้นะ ตั้งชื่อเรื่องว่า 'รักเธอเสมอ' แต่ยังไม่รู้ว่าใครจะมาแสดงนำ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ก็เดี๋ยวติดตามข่าวแล้วกัน”

ปัดยังไม่คิดตั้งบริษัทเอง ถ่อมไม่มีเงินตั้ง
“ยังไม่ได้ตั้งบริษัทเอง จะเอาที่ไหนไปตั้ง หุ้นก็ไม่มีแล้วตอนนี้เบา ขายไปหมดแล้วขายตามระยะเวลาที่ถูกต้อง แต่ไม่รู้ว่ามีเหลือหรือเปล่า อะไรจะมาตั้งง่ายๆ มันไม่ใช่ง่ายนะ คือแต่ว่ามันเคยเป็นภาพขึ้นมาเฉยๆ จริงๆ เป็นบริษัทที่อยู่ในเครือแกรมมี่นั่นแหละ ไปทำคอนเสิร์ตไปทำอะไรที่สนุกๆ บ้างเพราะว่าบางเรื่องเราก็อยากไปทำอะไรบ้าง ถ้าตั้งบริษัทเล่นโขนได้ก็จะไปตั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตั้งได้หรือเปล่า คือตอนนี้ยังมีความสนุกสนานที่อยากจะทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง แต่มันก็มีสิทธิ์นะ คือในที่นี้หมายถึงว่าถ้าเรายังพูดกันไม่รู้เรื่องหรืออะไร ยังไงก็ต้องชัดเจนในตรงนี้ก่อน”

โวมีบริษัทอื่นติดต่อมาเยอะ
“มีติดต่อมาเยอะ เรื่องเงินไม่เคยพูดถึงกันในเรื่องนี้ ก็มีเจ้านั้นแหละ เจ้าเดียวใหญ่ๆ กินข้าวพูดคุยกันได้มีบางเจ้าไปกินข้าวพูดคุยกันก็เออๆ วันนึงก็ถ้าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเราก็มีพันธมิตรได้มากมาย คือตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้เดี๋ยวจะหาว่ามวยล้มต้มคนดูมันยังบอกอะไรไม่ได้มันต้องรอดูกันต่อไป เพราะว่าอาจจะวันนี้ก็ได้ พรุ่งนี้ก็ได้หรือไม่ก็อาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ จนกระทั่งเกษียน แต่คงไม่รออะไรให้เกษียนหรอก ก็ต้องดูกันต่อไปครับ”

อย่างไรก็ตามล่าสุดแหล่งข่าวใกล้ชิดดี้ นิติพงษ์ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ดี้ได้ไปทานข้าวพูดคุยเรื่องธุรกิจวงการเพลงกับ "เฮีย" เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นเฮียไหนอยู่แถวย่านลาดพร้าวหรือไม่ต้องติดตามตอนต่อไป