ลูกทุ่ง(ตีนตบ)ปลดระวาง

นักร้องลูกทุ่งที่ขึ้นเวทีเสื้อแดงเหล่านี้ไม่ใช่นักร้องในสมัยนิยม ส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่ปลดระวางแล้วแทบทั้งสิ้น !! ซึ่งมีทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นกลาง หลายคนไม่มีผลงานต่อเนื่องมานานแล้ว อาศัยเพลงฮิตในอดีตทำมาหากินเป็นครั้งเป็นคราว และจะว่าไปแล้ว นักร้องลูกทุ่งพวกนี้ใช้เวทีนี้เพื่อสร้างฐานผู้ฟังเพื่อจะหาทางกลับมาในวงการเพลงหรือผลทางด้านการเมืองทั้งสิ้น

นักร้องลูกทุ่งรุ่นพี่หลายคน ก่อนวันนี้หลายปีเคยดาหน้าเข้ามาสู่เวที “นปก.” ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็น “นปช.” ในปัจจุบัน นักร้องลูกทุ่งในระดับตำนานเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงมาก่อน ขึ้นเวทีไม่กี่ครั้งก็ต้องโบกมือลาเพราะสู้แรงเสียดทานจากสังคมไม่ไหว ดังนั้น … บรรดานักร้องที่แดงเถือกตั้งแต่หัวจดตีน จึงต้องกลับลำ กลับคำ กลับมาเป็น “นักร้องไร้สังกัด” และไม่ฝักใฝ่กีฬาสีเดียวอีกต่อไป

เสื้อแดงกลับใจ
นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่อย่าง สายัณห์ สัญญา ตามด้วยรุ่นรองอย่าง เอกชัย ศรีวิชัย ใช้เวลาไม่นานกลับลำสู่อ้อมใจของมิตรรักแฟนเพลงอีกครั้ง เอกชัย ศรีวิชัย นักร้องหนุ่มเลือดสตอจากแดนใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าของเพลงดังเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “พี่มีแต่ให้” ไปจนถึง “หมากัด” โบกมือลาเสื้อแดงและประกาศจุดยืนต่อแฟนเพลงเป็นรายแรกๆ เพราะเจ้าตัวเจอผลกระทบจากแฟนเพลงทันที จนต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ตหลังจากที่เจ้าตัวขึ้นไปร้องเพลงสนับสนุนพรรคไทยรักไทย กระทั่งถูกมือดีใช้หนังสติ๊กยิงหัวแตก จนต้องแถลงข่าวเรื่อง “จุดยืน” ด้วยน้ำตานองหน้า ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยขอให้ประชาชนและแฟนเพลงแยกแยะเรื่องทางสังคมและการเมืองให้ออก เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

"ผมว่าเรื่องของการสร้างสังคมเป็นภาระของผม ส่วนการเมืองไม่ใช่ เพราะฉะนั้นการรณรงค์ให้คนออกไปเลือกตั้งมันเป็นหน้าที่ของสังคม และเป็นหน้าที่ของคนที่เป็นศิลปิน ซึ่งหลายคนยังไม่เข้าใจ เพราะประชาชนจะเลือกใครมันเป็นสิทธิของท่าน"

"จริงๆ แล้วส่วนตัวไม่เป็นฝ่ายใดเลย จิตใจของผมอยู่กับแฟนเพลงมาตลอด เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการคิดกันไปเอง"

เอกชัย ศรีวิชัย เป็นนักร้องสายเลือดชาวใต้ที่แคร์กับเรื่องของแฟนเพลงเป็นที่สุด !! แม้แต่ในกรณีของนาธาน โอมาน ก็กลับลำเลิกสนับสนุนเพราะถูกบีบจากเสียงของแฟนคลับเช่นเดียวกัน เอกชัย จะน่ารักกว่านี้ ถ้าสามารถตัดสินใจเรื่องผิดชอบชั่วดีได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอเสียงกระทุ้งจากแฟนคลับ !!

รายต่อมา “เป้า” สายัณห์ สัญญา นักร้องลูกทุ่งรุ่นเดอะจากสุพรรณบุรี เจ้าของเพลงฮิตเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เกลียดห้องเบอร์ห้า, รักคุณเท่าฟ้า, กินอะไรถึงสวย, นางกวักมหาเสน่ห์ ฯลฯ ล่าสุด ...กลับลำถอนตัว ไม่ขอเลือกข้าง ซะแล้ว สายัณห์มาในสายของขวัญชัย ไพรพนา ดีเจคนดังแห่งคลื่นมวลชนสัมพันธ์ หนึ่งในสถานีวิทยุชุมชน จ. อุดรธานี

“สมัยที่ไปขึ้นเวที นปก. พี่ไม่เคยด่าใคร ที่ขึ้นเพราะไม่ชอบความเป็นเผด็จการ จะทำอะไรให้นึกถึงประชาชนมากๆ ถ้าคุณทักษิณคิดว่าให้เสื้อแดงทำแบบนี้แล้วคุ้มหรือ อย่ามัวทำเพื่ออำนาจผลประโยชน์ เหตุผลที่พี่ไม่เข้าไปร่วมเพราะมันทำไม่ตรงกับอุดมการณ์ของพี่เลย ของพี่ต้องเคารพกฎหมาย ทำแล้วไม่ต้องกลัวตำรวจมาจับ ไม่ต้องกลัวทหารพาไปยิงทิ้ง พูดแล้วคนก็เห็นใจ อยากช่วย ไม่ต้องไปจ้างใครมาเลย สันติวิธี ใครมาอยากอภัยก็ต้องอภัย เมตตาสงสาร

พี่เคยพูดนำเสนอพวกมัน แต่มันไม่ให้เราพูด มาทำสังคมเดือดร้อน ชาวบ้านไม่เป็นอันทำมาหากิน เหมือนเป็นพวกอันธพาล หวังคิดแค่ได้เงินมาเคลื่อนไหว ทำงาน ประชาธิปไตยไม่มีใครปิดบ้านเมืองแบบนี้ ที่ไอ้พวกแดงมันทำเพราะเห็นไอ้พวกเหลืองมันทำแล้วไม่มีใครเอาผิดพวกมันได้ พี่ว่าเลวทั้งคู่ เคลื่อนไหวแค่ตอบสนองเจ้านายพวกมันเท่านั้น บ้านเราจะเจริญมากถ้าไม่มีพวกนี้”

วงการลูกทุ่งแบ่งเป็น 2 สายใหญ่ สายหนึ่งแกนนำคือ สายัณห์ สัญญา ส่วนอีกสายคือ ยอดรัก สลักใจ ผู้ล่วงลับไปแล้ว และระหว่างที่แอ๊ว ยอดรัก ยังมีชีวิตอยู่นั้น ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเป้า สายัณห์ ดังจะเห็นได้จากกรณีที่ยอดรัก เจ็บป่วยก่อนเสียชีวิตที่มีการกล่าวพาดพิงกันไปมา แต่ไม่ว่าจะเป็นสายไหนก็ตาม โอกาสที่จะเข้าฝักใฝ่กับคนเสื้อแดงมีสูง

ผู้คลุกคลีในวงการลูกทุ่งท่านหนึ่งยอมรับว่า บรรดานักร้องลูกทุ่งกว่า 90 % ล้วนแต่เป็นเสื้อแดงทั้งสิ้น เพียงแต่จะเปิดตัวหรือไม่เท่านั้นเอง

เรื่องลึกๆ ในแวดวงลูกทุ่งเสื้อแดง
ย้อนความหลังกลับไป ตั้งแต่สมัยที่สายัณห์ สัญญา เริ่มจะเข้ามาโด่งดังในวงการเพลง ส่วนตัวขวัญใจ ไพรพนานั้น เป็นคนอ. เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี และเข้ามาจับธุรกิจทำรายการวิทยุที่สถานีวิทยุเสียงสามยอด ต่อมาขวัญชัยได้ร่วมทำมาหากินกับสายัณห์ สัญญา ขณะที่นักจัดรายการอีกคนที่เสียงสามยอดคือ ทิดสา ผีบ่อยาก ทำมาหากินเดินสายกับยอดรัก สลักใจ

ในกลุ่มนักร้องรุ่นใหญ่ ในปีแรกๆ นอกจากสายัณห์ สัญญาและเอกชัย ศรีวิชัยแล้ว ยังมี ยอดรัก สลักใจ และสดใส รุ่งโพธิ์ทอง ณ วันนี้ … เราสูญเสียยอดรัก สลักใจในวงการเพลงลูกทุ่ง แต่สำหรับ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง เจ้าของเพลงดังอย่าง “รักน้องพร” หลังจากที่ประกาศตัวหนุนกลุ่มคนรักทักษิณอยู่พักหนึ่ง ที่สุดเมื่อใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น “นักการเมือง” จึงจำต้องพลิกรสนิยมแบบฉับพลัน สวมเสื้อของพรรคประชาธิปัตย์ลงสนามเลือกตั้งที่จังหวัดปทุมธานี เพราะเก้าอี้ ส.ส.เพื่อไทยในจังหวัดดังกล่าวถูกจับจองหมดแล้ว

นักร้องลูกทุ่งสายทายาทอสูร รุ่น 2 ขวัญชัย ไพรพนาเริ่มพา หงษ์ทอง ดาวอุดร หรือ กุหลาบ ยศอ่อน นักร้องลูกทุ่งอีสานและหมอลำ มาช่วยพรรคพลังประชาชนในการหาเสียง หงษ์ทองมีพื้นเพเป็นคนอุดรธานี บนเวทีประกวดสมัยเด็กๆ เธอนำงานเพลงเก่าของนกน้อย อุไรพรมาร้องจนชนะคู่แข่งขันอยู่เสมอ และเริ่มบันทึกเสียงครั้งแรก ชุด “รักติ๋มแน่หรือ” ซึ่งเป็นเพลงร้องแก้กับเพลง “รักติ๋มคนเดียว” ของสายัณห์ สัญญา งานเพลงที่รู้จักกันมากคือ หงษ์ทองคะนองลำ
ส่วนนักแต่งเพลงที่เข้ามาในยุคนี้คือ ยอดธง บุญธูป ที่แค่งเพลงใหม่ด้วยความรักและศรัทธาที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่อมา ยอดธง ขัดแย้งกับแกนนำบางคนในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง

งานเลี้ยงโต๊ะจีน 1 พันโต๊ะ (ราคาโต๊ะละ 1 หมื่นบาท) ของกลุ่มผู้ดำเนินรายการ “ความจริงวันนี้” ที่วัดไผ่เขียว ดอนเมือง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2552 นั้น มีนักร้องลูกทุ่งไปร่วมงานด้วยจำนวนหนึ่ง

ลูกทุ่งหญิงคนหนึ่งที่ติดพันจากงานนั้นถึงวันนี้คือ “มุก เมทินี” อดีตนักร้องในสังกัดท็อปไลน์ เจ้าของเพลง รักแท้แค่น้องสาว, รอพี่ที่คาเฟ่ ฯลฯ เธอมีบทบาทในการกล่อมเพลงให้แก่เวทีคนเสื้อดังตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (วันที่ 3 มีนาคม 2552) และเป็นเพลงที่แต่งให้สอดรับกับสถานการณ์รักทักษิณอีกด้วย

วันนี้ ครูเพลงบางคนหันมาแต่งเพลงลูกทุ่งสะท้อนภาพคนเสื้อแดงด้วยบทเพลงใหม่ๆ เช่น รักคนเสื้อแดง, โปรดดูแลรักษาคนดี, คิดถึงเสมอ, คิดฮอดทักษิณ, คนใต้เสื้อแดง, คุณหนูจัดให้ , เมียไอ้เสื้อแดง, รอวันเธอกลับมา ฯลฯ ทั้งนี้ยังไม่นับบทเพลงเพื่อชีวิตที่ลิขิตโดย วิสา คัญทัพ, อดิศร เพียงเกษ

นักร้องลูกทุ่งในวาระเดียวกันกับมุก เมทินี เช่น รังษี เสรีชัย, วันชนะ เกิดดี, พจมาน พิมพ์จันทร์, ป้อม กรองทอง, สมชัยน้อย ภูมิมาลา เป็นต้น

รังษี เสรีชัย เป็นนักร้องที่เข้ามาในวงการเพลงสังกัดอโซน่า โปรโมชั่น เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยเป็นนักร้องคู่ขวัญประกบกับศิรินทรา นิยากร เพลงดังๆ ของรังษี เจ้าของฉายา “นักร้องเสียงกำมะหยี่” เช่น ตอไม้ที่ตายแล้ว , น้ำกรดแช่เย็น, ขอเวลา 3 นาที, รอวันเธอว่าง, กากีเหมือนดอกไม้ รังษี เสรีชัยลงเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล อ.มวกเหล็ก ช่วงปี 2543 - 2547 เขาพยายามขยับมาเล่นการเมืองระดับประเทศ ด้วยการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคมหาชน เขต 2 จ.สระบุรี ปี 2548 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ การร้องเพลงในเวทีเสื้อแดง ถือเป็นการเปิดตัวและเตรียมตัวเข้าสู่วงการเมืองในอนาคต...

อีกคนที่ฝักใฝ่เวทีการเมืองคือ วันชนะ เกิดดี และได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากอดิศร เพียงเกษ ถึงขนาดมอบบางเพลง เช่น “ของประชาชนเพื่อประชาชน” ให้นักร้องหนุ่มหน้าตาดีผู้นี้เป็นผู้ถ่ายทอด นักร้องผู้นี้ก็จะเริ่มต้นด้วยการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วยคำก้าวร้าว - หยาบคาย เป็นคนที่มีคดีติดตัวจากเหตุการณ์ชุมนุมที่พัทยาจนการประชุมผู้นำอาเซียนที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท ล่ม ทั้งเคยประกาศว่าการเลือกตั้ง ส.ส. สมัยหน้าจะลงสมัครที่จังหวัดเพชรบุรีแข่งกับอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

พจมาน พิมพ์จันทร์ หรือ “นุช” พจมาน นิลนาค พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครสวรรค์ จนชีวิตโคจรมาพบกับพร ไพรสณฑ์ นักร้อง 1 ใน 3 ร่องเสียงของสุรพล สมบัติเจริญ (อีก 2 คนคือ บรรจบ เจริญพร และ พรไพร เพชรดำเนิน) พจมานบันทึกเพลงชุดแรกชื่อ “หนักรักหนักใจ” พร ไพรสณฑ์เป็นทั้งครูและสามีของพจมาน พิมพ์จันทร์ และต่อมาทั้งคู่ประสบความสำเร็จจากการเป็นนักร้องคู่ขวัญ ร้องเพลงโต้ - ตอบกัน โดยนำเอาเพลงของครูสุรพลมาบันทึกเสียงใหม่ ชีวิตนักร้อง ภายหลังเปลี่ยนชื่อจากพจมาน พิมพ์จันทร์ เป็น “นุช พจมาน” เพลงที่เรียกเสียงกรี๊ดจากคนเสื้อแดง ได้แก่ คิดถึงเสมอ และกูกู้คุณหนูจัดให้ นอกจากนี้เธอยังเป็นคอลัมนิสต์ให้แก่ไทยเรดนิวส์ และจะเป็นนักร้องที่มีผลงานเพลง “เสื้อแดง” เป็นของตัวเองทั้งอัลบั้ม เธอพยายามใช้เส้นทางนี้กลับมาสร้างชื่ออีกครั้งในวงการเพลงลูกทุ่ง

เป้าหมายของพจมาน และมุก เมทินี ไม่ต่างกัน

นอกจากนี้ยังมีเพลิน พรหมแดน ราชาเพลงพูด !! ในวงการลูกทุ่ง … เพลิน พรหมแดน ขึ้นเวทีครั้งแรกเพราะเมีย ซึ่งเป็นเสื้อแดงเป็นผู้ผลักดัน ตั้งแต่เดือนเมษายน เมื่อปีที่แล้ว ฝ่ายเมียเป็นชาวหนองคาย ฝ่ายชายเป็นคน อ. อรัญประเทศ ปราจีนบุรี เพลินพูดชัดเจนว่า ทั้งบ้านเมียและบ้านตนในรัศมีใกล้เคียงกันแดงเถือกไปทั้งหมู่บ้าน !! ชีวิตการร้องเพลงของเขา เพลงลูกทุ่งที่ประสบความสำเร็จมีเพียงไม่กี่เพลง เช่น ชมทุ่ง , อย่าลืมเมืองไทย นอกจากนั้นเพลงปนพูด คนรู้จักกันมาก และติดหูแทบทุกเพลง เพลงปนพูดเหล่านี้ก็ถูกดัดแปลงไปตามวาระเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่คนเสื้อแดงกำลังเรียกร้องอยู่ !!

ดาว บ้านดอน นักร้องจากเมืองยโสธร เจ้าของเพลงฮิต “คนขี่หลังควาย” และในฐานะครูเพลง เคยแต่งเพลงให้นักร้องมากมายในวงการ เช่น สมจิตร บ่อทอง, ฮันนี่ ศรีอีสาน (เสียชีวิตแล้ว) , จินตหรา พูนลาภ, พิมพา พรศิริ, สันติ ดวงสว่าง, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, สาธิต ทองจันทร์, ลูกแพร – ไหมทอง อุไรพร, พิมพ์ใจ เพชรพลาญชัย , ศรเพชร ศรสุพรรณ เป็นต้น ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ขึ้นเวทีเสื้อแดง

ล่าสุด ทอม ดันดี ขึ้นเวทีเสื้อแดง ในขณะที่เพื่อนร่วมงานเก่าอย่างน้าซู ยังประกาศอุดมการณ์เดิมไม่แปรเปลี่ยน

นี่ยังไม่นับรวมถึง ไพจิตร อักษรณรงค์ นักร้องที่มีพื้นเพเป็นคนอ.ประจันตคาม จ. ปราจีนบุรี ที่มาร้องเพลงพร้อมกับไฮด์ปาร์กเคียงข้างกับสามีคนปัจจุบัน – วิสา คัญทัพ แต่เชียร์ลูกที่เกิดจากผัวเก่า (คณิต อุทยานสิงห์ - นิค นิรนาม) ที่ขึ้นประกวด มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เป็นระยะๆ วันหนึ่งก็หลายเที่ยว สุดท้ายก็ร่วง เพราะคนเสื้อแดงเชลียร์ไม่ถึงเป้า !!

ยังมีบรรดานักร้องจำเป็น เช่นพวกสามเกลอ ที่มีเพลงเก่งของตัวเองถ้าจำเป็นต้องร้องเพลง เพลงที่รู้จักกันดีคือ รักสาวเสื้อแดง ร้องโดยณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยแปลงจากเพลง “รักสาวเสื้อลาย” ของแสงสุรีย์ รุ่งโรจน์

นี่คือ เรื่องราวของนักี้องลูกทุ่ง หลายรุ่น หลายคนที่เคยผ่านและบางคนก็ยังอยู่บนเวทีเสื้อแดง ร้องกันไปอย่างนั้น แก้เหงาไม่ให้ผู้ชุมนุมง่วงเหงาหาวนอน เป็นกิจกรรมที่สร้างความครื้นเครงให้ได้บิดขี้เกียจกัน ไม่งั้นเดี๋ยวม็อบชิงกลับไปซุกหัวนอนที่บ้าน

แต่ถ้าวันนี้...เวทีคนเสื้อแดงได้จินตหรา พูนลาภ ขึ้นมาร้องเพลง “ชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้” ก็จะยกนิ้วให้เลย เพราะนาทีเพลงลูกทุ่งในวันนี้ ไม่มีเพลงไหน “ดัง” เท่ากับเพลงนี้อีกแล้ว

ไม่ได้ตั้งใจให้เป็น 2 มาตรฐานในวงการเพลงไทย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับนักร้องที่เคยขึ้นบนเวทีเสื้อเหลือง และถ้าเราพูดถึงเรื่อง “คุณภาพ” ที่ไม่เกี่ยวกับแนวเพลง ลองดูรายชื่อนักร้องเหล่านี้ดู ในเชิงเปรียบเทียบ

สุทพ วงศ์คำแหง, สเกน สุทธิวงศ์, อุมาพร บัวพึ่ง, กรรณิการ์ อารีสมาน, สุกัญญา มิเกล, สุนทรี เวชานนท์ - ลานนา คัมมินส์, อ๊อด โอภาส ทศพร, หรั่ง ชัชชัย สุขาวดี, สุชาติ ชวางกูร, นัดดา วิยะกาญจน์, อ๊อด รณชัย ถมยาปริวัฒน์, หงา สุรชัย จันทิมาธร, วงซูซู, วง ก. ไก่, จ๊อบ บรรจบ ฯลฯ