ASTVผู้จัดการรายวัน-"แดงไพร่"ปฏิบัติการป่วนกรุงวันนี้ ทั้งฝั่งกรุงเทพฯ-ธนบุรี "ณัฐวุฒิ"ยัน"แม้ว" เป็นไพร่แต่เติบใหญ่จนอำมาตย์หมั่นไส้ เตรียมย้ายเวทีไปทำเนียบฯหลังมวลชนหดหาย "สุริยะใส" ชี้แผนป่วนกรุง เป็นการกดดันประชาชน ไม่ใช่กดดันอำนาจรัฐ เตือนจะเจอแรงต้านกลับ "กรณ์" ไม่เชื่อคนกรุงจะเข้าร่วม ด้านฝ่ายความมั่นคงคาดชุมนุมยืดเยื้อ เตรียมขยายเวลาใช้ พ.ร.บ.มั่นคงไปถึง 7 เม.ย.
วานนี้ (19 มี.ค.)นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงเส้นทางการเคลื่อนขบวนในวันที่ 20 มี.ค. ว่า ทางแกนนำ นปช. ได้สรุปเส้นทางเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีการเคลื่อนขบวนตั้งแต่ เวลา 10.00 – 18.00 น. โดยเส้นทางจะเริ่มจากสะพานผ่านฟ้า ตรงไปแยกยมราช เข้าสู่ถนนเพชรบุรี ผ่านประตูน้ำ มุ่งตรงสู่แยกอโศก เลี้ยวซ้ายไป อสมท. เข้าสู่ถนนรัชดาพิเษก ไปจนถึงแยกห้วยขวาง และแยกรัชดาลาดพร้าว เคลื่อนขบวนไปตามถนนลาดพร้าวตลอดทั้งสาย ผ่านเดอะมอลล์บางกะปิ ไปแยกลำสาลี เข้าสู่ถนนรามคำแหง ผ่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถึงแยกพระราม 9 ไปคลองตัน เข้าซอยสุขุมวิท 71 ผ่านพระโขนง กล้วยน้ำไท จากนั้นเข้าสู่ถนนพระราม 4 และคลองเตย ผ่านสนามมวยลุมพินี เมื่อถึงแยกศาลาแดง มุ่งหน้าสู่ถนนสีลม ไปจนถึงแยกบางรัก เคลื่อนขบวนไปตามถนนเจริญกรุงทั้งสาย ถึงวงเวียนโอเดี้ยน เข้าเยาวราช จากนั้นขึ้นสะพานพระปกเกล้า ถึงวงเวียนใหญ่ไปตามถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เลี้ยวขวาตรงแยกมไหศวรรย์ เข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ จนถึงแยก 35 โบล เลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า กลับเข้าสู่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตลอดเส้นทางการเคลื่อนขบวน จะมีการเชิญชวนคนกรุงเทพฯ มาต่อสู่ในสงครามชนชั้น และจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า ระบบอำมาตย์ไม่ดีอย่างไร ซึ่งจัดเป็นยุทธศาสตร์หลากสี ปลดแอกชนชั้นในประเทศไทย ส่วนประชาชนที่จะมาร่วมกับคนเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อสีแดงก็ได้ แต่ขอให้มีอุดมการณ์ร่วมกันก็พอ การเคลื่อนขบวนครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เราจะสื่อสารว่าไพร่ คืออะไร โดยจะเป็นการอธิบายตามหลักประวัติศาสตร์ทางการเมือง ตั้งแต่ที่มีการปฏิวัติ พ.ศ. 2475 ไม่ใช่เป็นการอธิบายตามหลักพจนานุกรม
“ไม่ว่าผลการต่อสู้จะออกมาอย่างไร เราจะใช้แนวทางสันติวิธีจนสุดทาง คนในรัฐบาล พยายามทำให้เรื่องของเราเป็นเรื่องไร้ค่า และมีการเหยีดหยามคนเสื้อแดงมาโดยตลอด เช่น กล่าวหาว่าเลือดของคนเสื้อแดงเป็นเลือดวัว เลือดควาย แต่เราก็จะสู้ด้วยแนวทางสันติวิธี” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าขบวนของกลุ่มเสื้อแดงจะผ่านจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ อย่างสีลม และเยาวราช ซึ่งเป็นตลาดค้าทองคำ จะมีมาตรการอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้มือที่ 3 เข้ามาสร้างความวุ่นวาย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา เรามีมาตรการป้องกันไว้แล้ว และจุดประสงค์ของเราเพื่อเป็นการเชิญชวนคนกรุงเทพฯ มาร่วมกับคนเสื้อแดง จึงคิดว่าไม่น่าจะสงผลกระทบแต่อย่างใด
“ขบวนของเราไม่ใช่ขบวนปล้นทอง แต่เป็นขบวนที่เรียกร้องประชาธิปไตย บางทีถ้าขบวนเราผ่านเยาวราช ทองอาจจะขายดีก็ได้ เพราะคนเสื้อแดงอาจไปซื้อ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุดระหว่างการเคลื่อนขบวน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องรถติดเป็นเรื่องธรรมดา เพราะขบวนของเรามีความยาวพอสมควร ขอให้คนกรุงเทพฯ เข้าใจด้วย ถ้าเราไม่เดือดร้อน เราคงไม่มาทำเช่นนี้ และคิดว่ารถคงจะติดไม่นาน เนื่องจากขบวนก็เคลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ปักหลัก
**เตรียมย้ายเวทีไปที่ทำเนียบฯ
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีการเปิดพื้นที่ให้จัดงานกาชาดว่า ตนได้ลงพื้นที่ด้วยตนเองแล้ว ตั้งแต่แยกสวนมิสกวันไปจนถึงถนนอู่ทองใน หน้ารัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่ที่กรุงเทพฯ จะขอความร่วมมือในกานจัดงานกาชาด ทั้งนี้ ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะมีการเปิดพื้นที่โดยฉับพลันทันที่ ซึ่งทางเราจะขอใช้เวลา แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการจัดงาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการย้ายพื้นที่แล้วการชุมนุมในบริเวณดังกล่าวจะ
มาอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่แยกสวนมิสกวันไปถึงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก แทนสถานที่เดิม พร้อมกันนี้จะมีการจัดถนนคนเดิน เพื่อเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรม และแสดงศิลปะที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย
“การชุมนุมจะทวีความเข้มข้นตลอดเวลา นายอภิสิทธิ์ จะไปที่ใด คนเสื้อแดงจะตามไปทุกที เจอทุกวัน จะเรียกร้องให้ยุบสภาทุกวัน แต่จะไม่มีการกระทำที่รุนแรงอย่างแน่นอน”
**ยัดเยียด"แม้ว"เป็นไพร่
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ตั้งคำถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไพร่หรือเป็นอำมาตย์ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไพร่ แต่เป็นไพร่ที่เติบโตและมีกำลังที่แข็งแกร่ง จากนั้น ก็นำกำลังของตัวเองมาพาไพร่ด้วยกันให้เติบโตไปด้วย อำมาตย์จึงทนดูไม่ได้ เพราะพวกอำมาตย์คิดว่า ต้องมีคนจนไว้เพื่อให้พวกเขาได้แสดงให้ดูว่าพวกเขาร่ำรวย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็เป็นชนชั้นล่าง แต่พอโตแล้วก็ตัดเส้นทางของชนชั้นตนเอง จึงไม่ใช่ระดับอำมาตย์ จากนั้นก็ไปสร้างบารมีร่วมกับชนชั้นสูง จิตวิญญาณของชนชั้นล่าง ของพล.อ.เปรม ถูกทำลายโดยท่านเองไปแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการนำภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศมอนเตรเนโกร มาเปรียบเทียบกับผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าพวกเราไม่สู้ เราก็ต้องนอนแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะเราถูกกดดันจากคนชั้นสูงมานาน และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ไปมอนเตเนโกร อยากถามว่า พล.อ.เปรม จะช่วยอะไรเราหรือไม่ พล.อ.เปรม วันนี้ยังคิดว่าตัวเองเป็นประชาชนอยู่หรือไม่ พวกเราไม่ต้องการไปกราบท่าน แต่ต้องการยืนเท่าๆ กัน
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณไปพบ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธานรสช. นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจ ดังนั้นการไปหา พล.อ.สุนทร สำหรับตนแล้วรับได้ แต่ตนรับไม่ได้ที่นายอภิสิทธิ์ ที่เป็นนักการเมืองแล้ว แต่นำดอกไม้ไปให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่อยู่ร่วมขบวนการปฏิวัติรัฐประหาร
**ไม่ปิดกั้นมาร์คเข้าทำเนียบฯ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ทราบมาว่านายอภิสิทธิ์ จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค.นี้ เสื้อแดงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่สาระ เพราะที่ผ่านมาการชุมนุมก็ไม่เคยปิดประตูเข้าออกทำเนียบฯ อยู่แล้ว นายอภิสิทธิ์จะเข้าไปทำงานก็เข้าไป แต่เราก็มีสิทธิในการไปพบ เพื่อเรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภา
ส่วนกรณีที่มีการปาระเบิดเพลิงที่ พล.ม.2 รอ. นั้น นายจตุพร กล่าวว่า คนเสื้อแดงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว แต่เกรงว่าจะมีการนำเรื่องนี้ไปขยายผลเพื่อเป็นเงื่อนไขประกาศการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ทั้งที่ยังไม่มีเงื่อนไข ตนจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
**"ไอ้ตู่"ขู่บุกสาดเลือดซิโนไทย
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงไปทั่วกทม. ว่า ทราบว่าทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จะมีการจัดชุดจิตวิทยาจำนวน 50 นาย ออกมาสวมเสื้อแดง เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนกทม. ออกมาต่อต้านนปช. ระหว่างการเคลื่อนขบวนนั้น ได้กำชับการ์ดนปช. ดูแลเป็นพิเศษ หากเจอพิรุธ ก็สามารถควบคุมตัวได้ทันที
ส่วนกรณีที่มีการจับอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวานนี้นั้น แสดงให้เห็นว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นขอเตือนไว้เลยว่าเลือดของนปช. นั้นยังเหลืออยู่อีก 15 แกลลอน หากมีความจำเป็น ก็อาจจะบุกชิโนไทย
**ตร.หวั่นการจราจรอัมพาต
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานจราจร แถลงมาตรการจัดการจราจรกรณีผู้ชุมนุมดาวกระจายใ ว่า ได้รับการประสานจากแกนนำว่าจะมีการเคลื่อนขบวนในเวลา 10.00 น.เป็นขบวนใหญ่ขบวนเดียวใช้รถยนต์ในการเคลื่อนไหวประมาณ 1 พันคันมีขบวนรถจักรยานยนต์เป็นแนวหน้า ใช้เวลาในการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน คาดว่าเสร็จสิ้นกิจกรรมในเวลา 17.00 น.
รอง ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ได้รับการยืนยันจากแกนนำ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้ชุมนุมจะใช้เส้นทางในวงกว้างทั่ว กทม.จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการเคลื่อนขบวน
"เส้นทางที่ขบวนรถผู้ชุมนุมใช้ในครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 28 สน.ด้วยกัน โดยแต่ละ สน.นั้นจะมีกำลังตำรวจจราจรคอยดูแลตามแยกต่างๆ โบกรถตัดขบวนเป็นระยะ ๆ ให้รถในเส้นทางอื่นสามารถไปได้ด้วย และมีกำลังตำรวจจาก บก.จร.เสริมการปฎิบัติท้องที่อีก 150 นายและกำลังตำรวจสายตรวจ สายสืบทั้งในและเครื่องแบบดูแลด้านความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยมีการควบคุมสั่งการในภาพรวมอยู่ที่ บก.02 ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวข้างต้นด้วย คาดว่าจะใช้เวลายาวนานถึง 17.00 น.ทีเดียว แต่หากแกนนำมีการปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ตามที่ตำรวจเสนอคือ ให้แยกเป็น 3 สาย คือเหนือ ใต้ และฝั่งธนฯ ก็จะสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแกนนำผู้ชุมนุมว่า จะจัดการในการเคลื่อนขบวนอย่างไร ซึ่งตำรวจจะประสานกับแกนนำอีกครั้งในค่ำคืนนี้ เพื่อขอการยืนยันชัดเจนในการจัดการจราจรต่อไป" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
**“สุขุมพันธุ์”ห่วงจราจรติดหนึบ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ตนเป็นห่วงในเรื่องของการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากการเดินทางมากพอแล้ว และหากจะกระจายไปทั่วพื้นที่ และมีการปิดถนน เกรงว่าจะส่งผลกระทบหนักกว่าเก่า อย่างไรก็ตาม เมื่อความชัดเจนเรื่องพื้นที่ที่จะเดินทางไป ทางกทม. จะได้เตรียมส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจ ทำงานร่วมกับตำรวจจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนเรื่องของความปลอดภัย ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคง
**ชี้"แดงไพร่"กดดันคนกทม.
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า ยุทธวิธีเคลื่อนทัพทั่วกรุง เพื่อสร้างแนวร่วมจากคนกทม. เป็นยุทธวิธีที่สุ่มเสี่ยง และเป็นเรื่องยากที่จะได้แนวร่วมจากคนกรุงที่เป็นพลังเงียบจริงๆ ถ้ามีก็คงเป็นคน กทม.ที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยใน กทม. เท่านั้น
ส่วนกลุ่มคนที่เป็นพลังเงียบจริงๆ ยากที่จะเข้าร่วมกับการชุมนุมครั้งนี้ เพราะข้อเรียกร้องให้มีการยุบสภานั้นพลังเงียบจะรู้สึกว่าไม่ใช่ทางออกและสร้างปัญหาใหม่ พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลก็วุ่นวายไม่รู้จบ ซึ่งพลังเงียบจะไม่ชอบการชุมนุมที่ยืดเยื้อหรือไม่จบไม่สิ้น
ในขณะเดียวกันพลังเงียบเหล่านั้นก็ทราบดีว่า การชุมนุมครั้งนี้เป้าหมายปลายทางคือการทวงคืนอำนาจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลพิพากษายึดทรัพย์ และมีความผิดหลายกรณี ซึ่งพลังเงียบได้แสดงจุดยืนต่อคำพิพากษานี้ผ่านโพลสำรวจความคิดเห็นไปแล้วว่า ยอมรับได้กับคำพิพากษายึดทรัพย์ และเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และ นปช. เคารพคำพิพากษาของศาล
ฉะนั้นแผนเคลื่อนทัพทั่ว กทม.ครั้งนี้ ก็จะเป็นมหกรรมกีฬาสีของมวลชนสีแดง จากต่างจังหวัดกับมวลชนสีแดงใน กทม. ที่เป็นฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว
ที่สำคัญบนเวทีปราศรัย ก็เริ่มเป็นเวทีหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าของพรรคเพื่อไทยไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเต็มไปด้วยการประกาศนโยบาย หรือโฆษณาผลงานของพรรค กลายเป็นเวทีของพรรคการเมือง ไม่ใช่การเมืองภาคประชาชนอย่างแท้จริง
จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาแนวร่วมหรือพลังอิสระต่างๆ ขึ้นร่วมเวทีได้ นักวิชาการบางคนที่ขึ้นเวทีก็เป็นลูกหลานของแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน ต่างกับช่วงชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่แนวร่วมและพลังอิสระออกมาร่วมด้วยตัวเองและแต่ละกลุ่มก็มีกิจกรรมที่เป็นอิสระมีการเคลื่อนไหวหนุนเสริมคู่ขนานไปกับเวทีพันธมิตรฯ
สิ่งที่แกนนำ นปช.ต้องระวัง คือหลังจากการดาวกระจายวันที่ 20 มี.ค. ถ้าไม่ปรับยุทธวิธีดาวกระจายจะไปกดดันคน กทม. มากกว่าจะไปกดดันอำนาจรัฐโดยตรง และการชุมนุมยืดเยื้อ แต่ข้อเรียกร้องมีวาระซ่อนเร้นแบบนี้ ระวังแรงต้านจากพลังเงียบจะเกิดขึ้น จน นปช. อาจกลายเป็นจำเลยของสังคมไปในที่สุด
ส่วนสันติวิธีที่แกนนำนปช. พยายามป่าวประกาศนั้น เป็นสันติวิธีจอมปลอม เพราะคำปราศรัยที่หยาบคาย ก้าวร้าว บิดเบือน ข่มขู่ ท้าตีท้าต่อย ถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งก็เป็นการก่อความรุนแรงรูปแบบหนึ่ง พระพยอม กัลยาโณ เคยตักเตือนการปราศรัยของพันธมิตรฯ แต่แปลกรอบนี้ พระพยอมท่านเงียบ ไม่เห็นออกมาตักเตือนอะไร
** "กรณ์"ชี้คนกรุงไม่ยอมรับเสื้อแดง
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.การคลัง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปตามเส้นทางต่างๆ รอบ กทม.ว่า จะเป็นการสร้างปัญหา ทั้งเรื่องการจราจรติดขัด สร้างความหวาดกลัว และเป็นเงื่อนไขที่สามารถนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆได้ทุกเมื่อ
นอกจากนี้ ส.ส.กทม. ยังกังวลว่าบรรยากาศของบ้านเมืองจะเปลี่ยนไป หากกลุ่มคนเสื้อแดงเปลี่ยนยุทธศาสตร์มาความเคลื่อนไหวแบบดาวกระจาย
ทั้งนี้ ตนอยากสื่อสารกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมว่า คนกทม. เคารพในสิทธิที่ผู้ชุมนุมในการแสดงออกเรียกร้องสิทธิต่างๆ ดังนั้น ขอให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ควรที่จะเคารพสิทธิของชาวกทม.ด้วย เพราะคนกทม. ก็ต้องการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขทั่วไป ไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดปัญหา โดยสามารถแสดงออกได้โดยการปราศรัยตามเวทีที่ตั้งไว้ ไม่จำเป็นต้องรุกรานประชาชนในกทม.
การที่คนเสื้อแดงพยายามอ้างว่า คนกทม.มีส่วนร่วมสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ด้วยนั้น ตนคิดว่าคน กทม.มีความพร้อม และอดทนต่อการใช้สิทธิ และพร้อมที่จะทำความเข้าใจว่ากลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง บางคนมีความเกลียดชังต่อคน กทม. เนื่องจากการได้รับข้อมูลที่บิดเบือน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ประชาชนที่มาชุมนุม แต่อยู่ที่แกนนำที่พยายามสร้างความเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกัน การที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาอ้างว่าเป็นการรักชาตินั้น ตนคิดว่า คนกทม. รับไม่ได้แน่นอน แต่หากถามว่า คนกทม.เชียร์ หรือสนับสนุนให้มีการชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าไม่มีแน่นอน และการที่ออกมาปั่นกระแสว่า คนกทม.รักและอยากให้มีการชุมนุมต่อไปนั้น ยิ่งไม่มีแน่นอน
**แดงอยากหาทางลงแต่แม้วไม่ยอม
แหล่งข่าวในที่ประชุมแกนนำ นปช. เปิดเผยว่าขณะนี้มีกลุ่มการเมืองในบ้านเลขที่ 111 และพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง รวมทั้งกลุ่มนักวิชาการ และคนเดือนตุลา รุ่น14 ตุลา ฝ่ายเสื้อแดงหลายคนเคลื่อนไหวร่วมกับ เครือข่ายยุติความรุนแรง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สร้างกระแสสังคมกดันให้รัฐบาล และนปช.เปิดเจรจายุติการเผชิญหน้าทางการเมือง เพื่อไม่ให้สถานการณ์บ้านเมืองเลวร้ายไปกว่านี้ โดยในทางฝ่าย นปช.ได้มีการประสานมายังนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนพ.เหวงโตจิราการ แต่ยังไม่คืบหน้า เนื่องจากที่ประชุมแกนนำยังไม่มีการหยิบยกข้อเสนอเปิดการเจรจาของรัฐบาลขึ้นมาหารือ อย่างไรก็ตามคาดว่า ใน1-2 วันนี้ คงต้องมีการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาหารือ เพราะทั้งรัฐบาล และนปช.ต่างกำลังถูกกดดันอย่างหนัก ถ้าฝ่ายไหนไม่ยอมเจรจา อาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้
" หากนปช. เคลื่อนไหวยืดเยื้อตามคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ยอมเปิดเจรจากับรัฐบาล เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางเมืองตามข้อเรียกร้องของสังคม นปช. อาจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้ เนื่องจากกระแสมวลชนจะหันไปสนับสนุนรัฐบาล ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องมีการหารือในที่ประชุมแกนนำโดยเร็ว เพื่อที่จะได้หาทางยุติการชุมนุมในช่วงที่ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ เนื่องจากขณะนี้ผู้ร่วมชุมนุมอ่อนล้าเต็มที่ ซึ่งแกนนำที่ประชุม นปช.หลายคนเห็นด้วย แต่ไม่มีคนกล้าเสนอในที่ประชุม เพราะติดอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้ชุมนุมกดดันรัฐบาลต่อไป" แหล่งข่าวกล่าว
**"ชายจืด"วอน"มาร์ค"ยุบสภา
เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (19 มี.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ และให้สัมภาษณ์ว่าเห็นด้วยกับแนวทางการเจรจา จะได้เป็นทางออกในการแก้ไขปัญหา แต่ไม่แน่ใจว่าแนวทางนี้จะสำเร็จหรือไม่ ซึ่งการเจรจานั้นจะเป็นใครก็ได้ในฝ่ายรัฐบาล แต่ต้องมาเจรจากับแกนนำเสื้อแดง
อย่างไรก็ตาม หากตนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คงตัดสินใจยุบสภาไปแล้ว เพราะขณะนี้รัฐบาลไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ก็เคยเรียกร้องให้ตน และนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะที่เป็นรัฐบาล ยุบสภา และลาออกอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าการที่นายอภิสิทธิ์ไม่ยอมยุบสภา เพราะกลัวเสียอำนาจ หรือรอฟังความเห็นของใครบางคนอยู่ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายอภิสิทธิ์เอง
และอยากให้รัฐบาลมาดูแลการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงบ้าง โดยเฉพาะตัวนายกฯ ควรจะมาเยี่ยมเยียนผู้ชุมนุมบ้าง
**"เทือก"ตอกให้ยุบสภาก่อนไม่ใช่เจรจา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงในฐาน ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย กล่าวถึงการเคลื่อนขบวนของกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ว่าได้เตรียมการป้องกันเหตุรุนแรงเอาไว้แล้ว คือประการที่ 1. ถ้ากรณีที่เกิดเหตุร้ายกลุ่มเสื้อแดงจะโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะทำให้เกิดเหตุ ถือได้ว่าโอกาสการก่อเหตุเป็นศูนย์ 2. หากเกิดเหตุอย่างนั้น เราจะดำเนินคดีตามจับกุม ด้วยเครือข่ายกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ตั้งด่านไว้ครอบคลุม เชื่อว่าไม่ว่าจะอยู่ไหน เราสามารถจับกุมได้
เมื่อถามว่าห่วงเรื่องมือที่ 3 หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีมือที่ 3 มีแต่มือที่ 1 และ มือที่ 2 ที่ต้องดูกันให้ดี
ส่วนข้อเรียกร้องของแกนนำเสื้อแดงในเรื่องการเจรจา คือให้มีการยุบสภาก่อนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างนั้นไม่เรียกว่าเจรจา แต่เป็นการบังคับกัน การเจรจาต้องมานั่งคุยกัน นายกรัฐมนตรีก็เปิดช่องอยู่แล้ว เมื่อถามว่าดูเหมือนจะไม่สำเร็จ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ร้าย มันอาจสำเร็จก็ได้ เมื่อถามว่าแกนนำผู้ชุมนุมอยากขอใช้สื่อรัฐเพื่อชี้แจงกับประชาชน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้องแล้ว เขามีสถานีโทรทัศน์ของเขา 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว พอแล้ว
เมื่อถามว่าสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะทำงานอย่างไร หากกลุ่มเสื้อแดงยังชุมนุมอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า สัปดาห์หน้ามาถามใหม่ เมื่อถามว่าหากกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมยืดเยื้อ จะต่อขยายเวลาการประกาศ พ.ร.บ ความมั่นคงฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า วันอังคารนี้ตนจะชี้แจงเรื่องนี้ แต่ยังบอกไม่ได้ว่า จะมีการประชุม ครม.เมื่อไร
**คาดขยาย พ.ร.บ.มั่นคงถึง 7 เม.ย.
มีรายงานข่าวระบุว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จะพิจารณาในการขยายการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ออกไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย. จากเดิมที่ครม.ได้อนุมัติให้ประกาศถึงวันที่ 23 มี.ค. เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์การชุมนุมของ กลุ่มเสื้อแดงมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อ
ขณะเดียวกัน อาจจะมีการลดพื้นที่ลง แต่ยังคงไว้ใน 3 พื้นที่หลัก คือ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่การชุมนุม จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของการพักคอยของผู้ชุมนุม และจ. สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ตามหน่วยปฏิบัติยังมีความเห็นว่า ควรจะประกาศในพื้นที่เหมือนเดิมทั้งหมด จะได้ไม่ยุ่งยากเรื่องการปรับกำลัง อีกทั้งเพื่อเฝ้าระวังป้องกันเหตุร้ายด้วย
**ชี้ดวงเมือง-ดวงมาร์คยังแข็ง
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่ง จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ดวงเมืองขณะนี้ว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นขณะนี้จะยังคงมีอยู่ แต่ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น หลังสิ้นเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ไประยะหนึ่ง แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หลังจากนั้นบ้านเมืองก็จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ตามดวงเมืองพบว่า บ้านเมืองไทยเราจะสงบเรียบร้อยหลังปี 54 เป็นต้นไป
เมื่อถามถึงการทำพิธีกรรมเทเลือดของคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และบ้านนายกรัฐมนตรี นายวารินทร์ กล่าวว่า ตามหลักทางศาสนา ไม่ถือเป็นพิธีที่กระทบต่อดวงชะตา แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่ได้รับผลการกระทำนั้น
ทั้งนี้ พิธีกรรมที่เกิดขึ้นคงไม่ส่งผลกระทบต่อดวงเมือง หรือดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะนี้ดวงนายอภิสิทธิ์ ยังคงมีฐานบุญที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะถึงห้วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง จะทำให้นายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า คงต้องดูว่าห้วงนั้นฐานบุญของนายอภิสิทธิ์ เป็นเช่นไร คงต้องรอให้ใกล้ถึงเวลานั้นก่อน แต่เวลานี้ถือว่า ดวงของนายอภิสิทธิ์ ยังคงเป็นดวงผู้นำประเทศอยู่
เมื่อถามว่า ดวงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. จะได้เป็นผบ.ทบ. คนต่อไปหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า ฐานบุญของพล.อ.ประยุทธ์ ยังคงส่งผลให้นั่งตำแหน่งผบ.ทบ. แน่นอน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
**หนุนคนกทม.ทวงคืนราชดำเนิน
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ พร่ำเรียกร้องประชาธิปไตย แต่กลับไม่มีจิตวิญญาณของนักประชาธิปไตย เป็นเพียงการเรียกร้องขอประชาธิปไตยบังหน้าเท่านั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และดูแลอย่างเต็มที่ทั้งในเรื่องของความสะดวกทางสุขลักษณะ สาธารณสุข อีกทั้ง หากคนเสื้อแดงต้องการยกเลิกการชุมนุม และจะกลับภูมิลำเนา รัฐบาลก็พร้อมจัดรถส่งถึงบ้าน แต่แกนนำกลับพยายามปลุกม็อบให้เกิดความรุนแรง ซึ่งประวัติศาสตร์ไม่เคยมีม็อบลุกล้ำผู้นำเหมือนการชุมนุมครั้งนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะหารือ เพื่อให้เกิดความสงบ แต่จะให้ปูผ้าขาวไปกราบแกนนำ คงไม่ใช่ทางออกของปัญหา
นายเทพไท กล่าวว่า วันที่ 20 มี.ค.นี้ ที่จะดาวกระจายไปทั่ว กทม.เชื่อว่าเป็นภาพเดิม คือ หลอกนายใหญ่อีกรอบว่าคนจะมาร่วมชุมนุมเป็นล้าน เพื่อที่จะได้รับบิล และเชื่อว่าครั้งนี้ก็จะเป็นมุกเดิม จึงขอแนะนำให้แกนนำวางแผนให้ดีๆ เพราะคนกทม.ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง อีกทั้งเชื่อว่าคนกทม.ไม่ได้สนับสนุน
ดังนั้น แกนนำเสื้อแดงทำอะไรจะต้องระวัง ไม่เช่นนั้นดาวกระจายจะเป็นดาวกระจุย และเรียกร้องคนกทม.ให้ใช้สิทธิการเป็นเจ้าบ้าน ทวงคืนถนน อย่าให้คนเสื้อแดงยึดถนนราชดำเนิน และควรที่จะไปชุมนุมที่สนามหลวง เพื่อลดปัญหาการจราจร
**ให้สิทธิ์ปิดร้านทองปิด
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ทางสมาคมค้าทองคำขอให้สมาชิกติดตามและประเมินสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้อย่างใกล้ชิดเป็นรายชั่วโมงเนื่องจากมีการดาวกระจายมายังถนนเยาวราช โดยให้สิทธิ์ร้านค้าทองแต่ละร้านพิจารณาว่าจะมีการปิดขายทองหรือไม่ ซึ่งหากร้านค้าทองรายใดเห็นว่า มีความเสี่ยงและเกิดความไม่สะดวก ก็สามารถปิดการซื้อขายได้
**แดงชัยภูมิจ๋อย ปชช.เมินโวยโดนหักหัวคิว
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ เกิดความขัดแย้งเรื่องการอมเงินค่าหัวคิวจ้างชาวบ้านเข้าร่วมชุมนุมหัวละ 2,000 บาท แต่ทางแกนนำจ่ายให้เพียงรายละ 1,500 บาท ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์ไปร่วมชุมนุมเป็นอย่างมาก ทำให้มวลชนส่วนหนึ่งขึ้นรถโดยสารเดินทางกลับบ้านเองก่อนกำหนดส่งผลให้ม็อบคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯลดลงจำนวนมาก
**"ขวัญชัย"โคตรถ่อยกทม.รถติดชั่งมัน
ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร FM 97.50 Mhz กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงรวมตัวกันประมาณ 1,000 คน เพื่อรอขึ้นรถโดยสารเดินทางไปสับเปลี่ยนกำลังคนเสื้อแดง
นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแดงอุดร กล่าวว่า การเดินทางเข้ากรุงเทพฯครั้งนี้จะมีเสื้อแดงประมาณ 1,000 คน พร้อมเสบียงอาหาร เราจะไปสมทบกับคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ซึ่งวันนี้ (20) เราจะเดินดาวกระจายที่กรุงเทพฯ ส่วนรถจะติดก็ช่างมัน เชื่อว่าคนกรุงเทพฯอดทนได้"
มีรายงานว่าได้มีอดีตนักการเมืองที่เคยยิ่งใหญ่จากพะเยาในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีอำนาจได้ยอมควักกระเป๋ากว่า 1.4 ล้านบาทเพื่อแลกกับการได้รับการยอมรับจากนายเก่าอีกครั้ง
**“สุรชัย”แฉซ้ำ3เกลอหวังเป็น รมต.
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวีระ มุสิกพงศ์ ความเป็นจริงแล้วนายวีระ และนายจตุพร คิดได้แค่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล และนายจตุพร จะได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลเพื่อไทย เรื่องแบบนี้แม้แต่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เองก็รู้ไส้รู้พุงนายจตุพร ดี นายวีระ จะได้เป็นหัวหน้ามุ่งใหญ่ในเพื่อไทย เช่นเดียวกับสมัยการคุมมุ้งใหญ่ในพรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่ท้ายสุดก็มีปัญหาเรื่องของการ “อม”
"นายวีระ มุกสิกพงศ์ ไม่ต้องสาบานอะไรมากแค่หนี้ที่มีอยู่ก็ใช้เขาเสีย การคิดจะมาโยนบาปให้คนอื่นนั้นไม่ได้ผล วันนี้เขาไม่ได้พุ่งเป้ามองที่นายวีระ หรือนายจตุพร แต่เขาพุ่งเป้าไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถ้าคิดจะตัดขอแนะนำให้ตัด พ.ต.ท.ทักษิณ จึงจะพ้นข้อครหาถึงการล้มเจ้าไม่ต้องเอาท่านผู้หญิงวิริยา มาบังหน้า มาประกาศตัดกับผมนั้นยังไม่พ้นข้อครหาอย่างแน่นอน"
**แม้วปิดถนนกทม.จนกว่าชนะ
เวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงค์มายังเวทีคนเสื้อแดง ตอนหนึ่งว่า มีคนอีเมลล์ไปบอกว่า อยากจะบอกให้ 3 เกลอ ทราบว่า คนกทม.ไม่ชอบให่ใช่คำว่า “ไพร่” แต่คำนี้ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง เป็นคำโบราณและในต่างประเทศก็มี แต่ประเทศไทย เป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เอาเป็นว่า เรามาใช้คำว่า “ประชาชนราษฎรเต็มขั้นธรรมดา” ทั้งนี้คนเสื้อแดง เราจะปรับกระบวนการเสื้อแดง คนที่ไม่ใส่เสื้อแดงก้มารวมกับเราได้ คนเสื้อเหลืองที่รู้แจ้งเห็นจริงก็มาได้ เราจะสร้างเป็น “แนวร่วมแห่งชาติ” ที่รู้แจ้งเห็นจริง เพราะคน กทม.เป็นตัวแทนของคนทั้งชาติ และเป็นคนที่มาจากทุกจังหวัด
อดีตนายกฯ กล่าว่วา ขอให้อำมาตย์หยุดรังสีอำมหิต มีคนไปบอกว่า อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบ ไม่มีทางดังนั้นอำมาตย์ถ้ารักประชาชนจริงต้องเลิกอุ้มข้างเดียว และกระทืบประชาชนอีกข้างหนึ่ง เพราะเป็นการอุ้มจนเหิมเกริม
นช.ทักษิณ กล่าวว่า คนเสื้อแดงกับคนเสื้อเหลืองจะรวมกันตั้งแต่ พรุ่งนี้20 มี.ค.) ดังนั้นขอให้ส่งสัญญาณอะไรก็ได้ ที่บอกว่า คนเสื้อแดงรักความยุติธรรม ไม่อยากให้ใครข่มเหง รังแก เพราะตอนนี้คนเสื้อเหลืองทีเข้าใจก็มารวมกับเราแล้ว เพื่อให้คนเสื้อแดงเหลืองรักกันเหมือนพวกเรา
รายงานข่าวแจ้งว่า การพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ในวันนี้ฉากหลังไม่เหมือนเดิม และเป็นการยืนพูด โดยไม่มีการยืนยันจากปากแกนนำคนเสื้อแดงและพ.ต.ท.ทักษิณว่าพูดมาจากที่ใด
วานนี้ (19 มี.ค.)นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงเส้นทางการเคลื่อนขบวนในวันที่ 20 มี.ค. ว่า ทางแกนนำ นปช. ได้สรุปเส้นทางเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีการเคลื่อนขบวนตั้งแต่ เวลา 10.00 – 18.00 น. โดยเส้นทางจะเริ่มจากสะพานผ่านฟ้า ตรงไปแยกยมราช เข้าสู่ถนนเพชรบุรี ผ่านประตูน้ำ มุ่งตรงสู่แยกอโศก เลี้ยวซ้ายไป อสมท. เข้าสู่ถนนรัชดาพิเษก ไปจนถึงแยกห้วยขวาง และแยกรัชดาลาดพร้าว เคลื่อนขบวนไปตามถนนลาดพร้าวตลอดทั้งสาย ผ่านเดอะมอลล์บางกะปิ ไปแยกลำสาลี เข้าสู่ถนนรามคำแหง ผ่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถึงแยกพระราม 9 ไปคลองตัน เข้าซอยสุขุมวิท 71 ผ่านพระโขนง กล้วยน้ำไท จากนั้นเข้าสู่ถนนพระราม 4 และคลองเตย ผ่านสนามมวยลุมพินี เมื่อถึงแยกศาลาแดง มุ่งหน้าสู่ถนนสีลม ไปจนถึงแยกบางรัก เคลื่อนขบวนไปตามถนนเจริญกรุงทั้งสาย ถึงวงเวียนโอเดี้ยน เข้าเยาวราช จากนั้นขึ้นสะพานพระปกเกล้า ถึงวงเวียนใหญ่ไปตามถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เลี้ยวขวาตรงแยกมไหศวรรย์ เข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ จนถึงแยก 35 โบล เลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า กลับเข้าสู่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตลอดเส้นทางการเคลื่อนขบวน จะมีการเชิญชวนคนกรุงเทพฯ มาต่อสู่ในสงครามชนชั้น และจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า ระบบอำมาตย์ไม่ดีอย่างไร ซึ่งจัดเป็นยุทธศาสตร์หลากสี ปลดแอกชนชั้นในประเทศไทย ส่วนประชาชนที่จะมาร่วมกับคนเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อสีแดงก็ได้ แต่ขอให้มีอุดมการณ์ร่วมกันก็พอ การเคลื่อนขบวนครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เราจะสื่อสารว่าไพร่ คืออะไร โดยจะเป็นการอธิบายตามหลักประวัติศาสตร์ทางการเมือง ตั้งแต่ที่มีการปฏิวัติ พ.ศ. 2475 ไม่ใช่เป็นการอธิบายตามหลักพจนานุกรม
“ไม่ว่าผลการต่อสู้จะออกมาอย่างไร เราจะใช้แนวทางสันติวิธีจนสุดทาง คนในรัฐบาล พยายามทำให้เรื่องของเราเป็นเรื่องไร้ค่า และมีการเหยีดหยามคนเสื้อแดงมาโดยตลอด เช่น กล่าวหาว่าเลือดของคนเสื้อแดงเป็นเลือดวัว เลือดควาย แต่เราก็จะสู้ด้วยแนวทางสันติวิธี” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าขบวนของกลุ่มเสื้อแดงจะผ่านจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ อย่างสีลม และเยาวราช ซึ่งเป็นตลาดค้าทองคำ จะมีมาตรการอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้มือที่ 3 เข้ามาสร้างความวุ่นวาย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา เรามีมาตรการป้องกันไว้แล้ว และจุดประสงค์ของเราเพื่อเป็นการเชิญชวนคนกรุงเทพฯ มาร่วมกับคนเสื้อแดง จึงคิดว่าไม่น่าจะสงผลกระทบแต่อย่างใด
“ขบวนของเราไม่ใช่ขบวนปล้นทอง แต่เป็นขบวนที่เรียกร้องประชาธิปไตย บางทีถ้าขบวนเราผ่านเยาวราช ทองอาจจะขายดีก็ได้ เพราะคนเสื้อแดงอาจไปซื้อ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุดระหว่างการเคลื่อนขบวน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องรถติดเป็นเรื่องธรรมดา เพราะขบวนของเรามีความยาวพอสมควร ขอให้คนกรุงเทพฯ เข้าใจด้วย ถ้าเราไม่เดือดร้อน เราคงไม่มาทำเช่นนี้ และคิดว่ารถคงจะติดไม่นาน เนื่องจากขบวนก็เคลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ปักหลัก
**เตรียมย้ายเวทีไปที่ทำเนียบฯ
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีการเปิดพื้นที่ให้จัดงานกาชาดว่า ตนได้ลงพื้นที่ด้วยตนเองแล้ว ตั้งแต่แยกสวนมิสกวันไปจนถึงถนนอู่ทองใน หน้ารัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่ที่กรุงเทพฯ จะขอความร่วมมือในกานจัดงานกาชาด ทั้งนี้ ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะมีการเปิดพื้นที่โดยฉับพลันทันที่ ซึ่งทางเราจะขอใช้เวลา แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการจัดงาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการย้ายพื้นที่แล้วการชุมนุมในบริเวณดังกล่าวจะ
มาอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่แยกสวนมิสกวันไปถึงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก แทนสถานที่เดิม พร้อมกันนี้จะมีการจัดถนนคนเดิน เพื่อเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรม และแสดงศิลปะที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย
“การชุมนุมจะทวีความเข้มข้นตลอดเวลา นายอภิสิทธิ์ จะไปที่ใด คนเสื้อแดงจะตามไปทุกที เจอทุกวัน จะเรียกร้องให้ยุบสภาทุกวัน แต่จะไม่มีการกระทำที่รุนแรงอย่างแน่นอน”
**ยัดเยียด"แม้ว"เป็นไพร่
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ตั้งคำถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไพร่หรือเป็นอำมาตย์ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไพร่ แต่เป็นไพร่ที่เติบโตและมีกำลังที่แข็งแกร่ง จากนั้น ก็นำกำลังของตัวเองมาพาไพร่ด้วยกันให้เติบโตไปด้วย อำมาตย์จึงทนดูไม่ได้ เพราะพวกอำมาตย์คิดว่า ต้องมีคนจนไว้เพื่อให้พวกเขาได้แสดงให้ดูว่าพวกเขาร่ำรวย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็เป็นชนชั้นล่าง แต่พอโตแล้วก็ตัดเส้นทางของชนชั้นตนเอง จึงไม่ใช่ระดับอำมาตย์ จากนั้นก็ไปสร้างบารมีร่วมกับชนชั้นสูง จิตวิญญาณของชนชั้นล่าง ของพล.อ.เปรม ถูกทำลายโดยท่านเองไปแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการนำภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศมอนเตรเนโกร มาเปรียบเทียบกับผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าพวกเราไม่สู้ เราก็ต้องนอนแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะเราถูกกดดันจากคนชั้นสูงมานาน และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ไปมอนเตเนโกร อยากถามว่า พล.อ.เปรม จะช่วยอะไรเราหรือไม่ พล.อ.เปรม วันนี้ยังคิดว่าตัวเองเป็นประชาชนอยู่หรือไม่ พวกเราไม่ต้องการไปกราบท่าน แต่ต้องการยืนเท่าๆ กัน
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณไปพบ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธานรสช. นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจ ดังนั้นการไปหา พล.อ.สุนทร สำหรับตนแล้วรับได้ แต่ตนรับไม่ได้ที่นายอภิสิทธิ์ ที่เป็นนักการเมืองแล้ว แต่นำดอกไม้ไปให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่อยู่ร่วมขบวนการปฏิวัติรัฐประหาร
**ไม่ปิดกั้นมาร์คเข้าทำเนียบฯ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ทราบมาว่านายอภิสิทธิ์ จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค.นี้ เสื้อแดงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่สาระ เพราะที่ผ่านมาการชุมนุมก็ไม่เคยปิดประตูเข้าออกทำเนียบฯ อยู่แล้ว นายอภิสิทธิ์จะเข้าไปทำงานก็เข้าไป แต่เราก็มีสิทธิในการไปพบ เพื่อเรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภา
ส่วนกรณีที่มีการปาระเบิดเพลิงที่ พล.ม.2 รอ. นั้น นายจตุพร กล่าวว่า คนเสื้อแดงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว แต่เกรงว่าจะมีการนำเรื่องนี้ไปขยายผลเพื่อเป็นเงื่อนไขประกาศการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ทั้งที่ยังไม่มีเงื่อนไข ตนจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
**"ไอ้ตู่"ขู่บุกสาดเลือดซิโนไทย
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงไปทั่วกทม. ว่า ทราบว่าทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จะมีการจัดชุดจิตวิทยาจำนวน 50 นาย ออกมาสวมเสื้อแดง เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนกทม. ออกมาต่อต้านนปช. ระหว่างการเคลื่อนขบวนนั้น ได้กำชับการ์ดนปช. ดูแลเป็นพิเศษ หากเจอพิรุธ ก็สามารถควบคุมตัวได้ทันที
ส่วนกรณีที่มีการจับอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวานนี้นั้น แสดงให้เห็นว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นขอเตือนไว้เลยว่าเลือดของนปช. นั้นยังเหลืออยู่อีก 15 แกลลอน หากมีความจำเป็น ก็อาจจะบุกชิโนไทย
**ตร.หวั่นการจราจรอัมพาต
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานจราจร แถลงมาตรการจัดการจราจรกรณีผู้ชุมนุมดาวกระจายใ ว่า ได้รับการประสานจากแกนนำว่าจะมีการเคลื่อนขบวนในเวลา 10.00 น.เป็นขบวนใหญ่ขบวนเดียวใช้รถยนต์ในการเคลื่อนไหวประมาณ 1 พันคันมีขบวนรถจักรยานยนต์เป็นแนวหน้า ใช้เวลาในการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน คาดว่าเสร็จสิ้นกิจกรรมในเวลา 17.00 น.
รอง ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ได้รับการยืนยันจากแกนนำ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้ชุมนุมจะใช้เส้นทางในวงกว้างทั่ว กทม.จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการเคลื่อนขบวน
"เส้นทางที่ขบวนรถผู้ชุมนุมใช้ในครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 28 สน.ด้วยกัน โดยแต่ละ สน.นั้นจะมีกำลังตำรวจจราจรคอยดูแลตามแยกต่างๆ โบกรถตัดขบวนเป็นระยะ ๆ ให้รถในเส้นทางอื่นสามารถไปได้ด้วย และมีกำลังตำรวจจาก บก.จร.เสริมการปฎิบัติท้องที่อีก 150 นายและกำลังตำรวจสายตรวจ สายสืบทั้งในและเครื่องแบบดูแลด้านความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยมีการควบคุมสั่งการในภาพรวมอยู่ที่ บก.02 ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวข้างต้นด้วย คาดว่าจะใช้เวลายาวนานถึง 17.00 น.ทีเดียว แต่หากแกนนำมีการปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ตามที่ตำรวจเสนอคือ ให้แยกเป็น 3 สาย คือเหนือ ใต้ และฝั่งธนฯ ก็จะสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแกนนำผู้ชุมนุมว่า จะจัดการในการเคลื่อนขบวนอย่างไร ซึ่งตำรวจจะประสานกับแกนนำอีกครั้งในค่ำคืนนี้ เพื่อขอการยืนยันชัดเจนในการจัดการจราจรต่อไป" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
**“สุขุมพันธุ์”ห่วงจราจรติดหนึบ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ตนเป็นห่วงในเรื่องของการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากการเดินทางมากพอแล้ว และหากจะกระจายไปทั่วพื้นที่ และมีการปิดถนน เกรงว่าจะส่งผลกระทบหนักกว่าเก่า อย่างไรก็ตาม เมื่อความชัดเจนเรื่องพื้นที่ที่จะเดินทางไป ทางกทม. จะได้เตรียมส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจ ทำงานร่วมกับตำรวจจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนเรื่องของความปลอดภัย ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคง
**ชี้"แดงไพร่"กดดันคนกทม.
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า ยุทธวิธีเคลื่อนทัพทั่วกรุง เพื่อสร้างแนวร่วมจากคนกทม. เป็นยุทธวิธีที่สุ่มเสี่ยง และเป็นเรื่องยากที่จะได้แนวร่วมจากคนกรุงที่เป็นพลังเงียบจริงๆ ถ้ามีก็คงเป็นคน กทม.ที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยใน กทม. เท่านั้น
ส่วนกลุ่มคนที่เป็นพลังเงียบจริงๆ ยากที่จะเข้าร่วมกับการชุมนุมครั้งนี้ เพราะข้อเรียกร้องให้มีการยุบสภานั้นพลังเงียบจะรู้สึกว่าไม่ใช่ทางออกและสร้างปัญหาใหม่ พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลก็วุ่นวายไม่รู้จบ ซึ่งพลังเงียบจะไม่ชอบการชุมนุมที่ยืดเยื้อหรือไม่จบไม่สิ้น
ในขณะเดียวกันพลังเงียบเหล่านั้นก็ทราบดีว่า การชุมนุมครั้งนี้เป้าหมายปลายทางคือการทวงคืนอำนาจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลพิพากษายึดทรัพย์ และมีความผิดหลายกรณี ซึ่งพลังเงียบได้แสดงจุดยืนต่อคำพิพากษานี้ผ่านโพลสำรวจความคิดเห็นไปแล้วว่า ยอมรับได้กับคำพิพากษายึดทรัพย์ และเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และ นปช. เคารพคำพิพากษาของศาล
ฉะนั้นแผนเคลื่อนทัพทั่ว กทม.ครั้งนี้ ก็จะเป็นมหกรรมกีฬาสีของมวลชนสีแดง จากต่างจังหวัดกับมวลชนสีแดงใน กทม. ที่เป็นฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว
ที่สำคัญบนเวทีปราศรัย ก็เริ่มเป็นเวทีหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าของพรรคเพื่อไทยไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเต็มไปด้วยการประกาศนโยบาย หรือโฆษณาผลงานของพรรค กลายเป็นเวทีของพรรคการเมือง ไม่ใช่การเมืองภาคประชาชนอย่างแท้จริง
จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาแนวร่วมหรือพลังอิสระต่างๆ ขึ้นร่วมเวทีได้ นักวิชาการบางคนที่ขึ้นเวทีก็เป็นลูกหลานของแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน ต่างกับช่วงชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่แนวร่วมและพลังอิสระออกมาร่วมด้วยตัวเองและแต่ละกลุ่มก็มีกิจกรรมที่เป็นอิสระมีการเคลื่อนไหวหนุนเสริมคู่ขนานไปกับเวทีพันธมิตรฯ
สิ่งที่แกนนำ นปช.ต้องระวัง คือหลังจากการดาวกระจายวันที่ 20 มี.ค. ถ้าไม่ปรับยุทธวิธีดาวกระจายจะไปกดดันคน กทม. มากกว่าจะไปกดดันอำนาจรัฐโดยตรง และการชุมนุมยืดเยื้อ แต่ข้อเรียกร้องมีวาระซ่อนเร้นแบบนี้ ระวังแรงต้านจากพลังเงียบจะเกิดขึ้น จน นปช. อาจกลายเป็นจำเลยของสังคมไปในที่สุด
ส่วนสันติวิธีที่แกนนำนปช. พยายามป่าวประกาศนั้น เป็นสันติวิธีจอมปลอม เพราะคำปราศรัยที่หยาบคาย ก้าวร้าว บิดเบือน ข่มขู่ ท้าตีท้าต่อย ถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งก็เป็นการก่อความรุนแรงรูปแบบหนึ่ง พระพยอม กัลยาโณ เคยตักเตือนการปราศรัยของพันธมิตรฯ แต่แปลกรอบนี้ พระพยอมท่านเงียบ ไม่เห็นออกมาตักเตือนอะไร
** "กรณ์"ชี้คนกรุงไม่ยอมรับเสื้อแดง
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.การคลัง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปตามเส้นทางต่างๆ รอบ กทม.ว่า จะเป็นการสร้างปัญหา ทั้งเรื่องการจราจรติดขัด สร้างความหวาดกลัว และเป็นเงื่อนไขที่สามารถนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆได้ทุกเมื่อ
นอกจากนี้ ส.ส.กทม. ยังกังวลว่าบรรยากาศของบ้านเมืองจะเปลี่ยนไป หากกลุ่มคนเสื้อแดงเปลี่ยนยุทธศาสตร์มาความเคลื่อนไหวแบบดาวกระจาย
ทั้งนี้ ตนอยากสื่อสารกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมว่า คนกทม. เคารพในสิทธิที่ผู้ชุมนุมในการแสดงออกเรียกร้องสิทธิต่างๆ ดังนั้น ขอให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ควรที่จะเคารพสิทธิของชาวกทม.ด้วย เพราะคนกทม. ก็ต้องการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขทั่วไป ไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดปัญหา โดยสามารถแสดงออกได้โดยการปราศรัยตามเวทีที่ตั้งไว้ ไม่จำเป็นต้องรุกรานประชาชนในกทม.
การที่คนเสื้อแดงพยายามอ้างว่า คนกทม.มีส่วนร่วมสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ด้วยนั้น ตนคิดว่าคน กทม.มีความพร้อม และอดทนต่อการใช้สิทธิ และพร้อมที่จะทำความเข้าใจว่ากลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง บางคนมีความเกลียดชังต่อคน กทม. เนื่องจากการได้รับข้อมูลที่บิดเบือน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ประชาชนที่มาชุมนุม แต่อยู่ที่แกนนำที่พยายามสร้างความเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกัน การที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาอ้างว่าเป็นการรักชาตินั้น ตนคิดว่า คนกทม. รับไม่ได้แน่นอน แต่หากถามว่า คนกทม.เชียร์ หรือสนับสนุนให้มีการชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าไม่มีแน่นอน และการที่ออกมาปั่นกระแสว่า คนกทม.รักและอยากให้มีการชุมนุมต่อไปนั้น ยิ่งไม่มีแน่นอน
**แดงอยากหาทางลงแต่แม้วไม่ยอม
แหล่งข่าวในที่ประชุมแกนนำ นปช. เปิดเผยว่าขณะนี้มีกลุ่มการเมืองในบ้านเลขที่ 111 และพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง รวมทั้งกลุ่มนักวิชาการ และคนเดือนตุลา รุ่น14 ตุลา ฝ่ายเสื้อแดงหลายคนเคลื่อนไหวร่วมกับ เครือข่ายยุติความรุนแรง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สร้างกระแสสังคมกดันให้รัฐบาล และนปช.เปิดเจรจายุติการเผชิญหน้าทางการเมือง เพื่อไม่ให้สถานการณ์บ้านเมืองเลวร้ายไปกว่านี้ โดยในทางฝ่าย นปช.ได้มีการประสานมายังนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนพ.เหวงโตจิราการ แต่ยังไม่คืบหน้า เนื่องจากที่ประชุมแกนนำยังไม่มีการหยิบยกข้อเสนอเปิดการเจรจาของรัฐบาลขึ้นมาหารือ อย่างไรก็ตามคาดว่า ใน1-2 วันนี้ คงต้องมีการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาหารือ เพราะทั้งรัฐบาล และนปช.ต่างกำลังถูกกดดันอย่างหนัก ถ้าฝ่ายไหนไม่ยอมเจรจา อาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้
" หากนปช. เคลื่อนไหวยืดเยื้อตามคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ยอมเปิดเจรจากับรัฐบาล เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางเมืองตามข้อเรียกร้องของสังคม นปช. อาจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้ เนื่องจากกระแสมวลชนจะหันไปสนับสนุนรัฐบาล ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องมีการหารือในที่ประชุมแกนนำโดยเร็ว เพื่อที่จะได้หาทางยุติการชุมนุมในช่วงที่ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ เนื่องจากขณะนี้ผู้ร่วมชุมนุมอ่อนล้าเต็มที่ ซึ่งแกนนำที่ประชุม นปช.หลายคนเห็นด้วย แต่ไม่มีคนกล้าเสนอในที่ประชุม เพราะติดอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้ชุมนุมกดดันรัฐบาลต่อไป" แหล่งข่าวกล่าว
**"ชายจืด"วอน"มาร์ค"ยุบสภา
เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (19 มี.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ และให้สัมภาษณ์ว่าเห็นด้วยกับแนวทางการเจรจา จะได้เป็นทางออกในการแก้ไขปัญหา แต่ไม่แน่ใจว่าแนวทางนี้จะสำเร็จหรือไม่ ซึ่งการเจรจานั้นจะเป็นใครก็ได้ในฝ่ายรัฐบาล แต่ต้องมาเจรจากับแกนนำเสื้อแดง
อย่างไรก็ตาม หากตนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คงตัดสินใจยุบสภาไปแล้ว เพราะขณะนี้รัฐบาลไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ก็เคยเรียกร้องให้ตน และนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะที่เป็นรัฐบาล ยุบสภา และลาออกอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าการที่นายอภิสิทธิ์ไม่ยอมยุบสภา เพราะกลัวเสียอำนาจ หรือรอฟังความเห็นของใครบางคนอยู่ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายอภิสิทธิ์เอง
และอยากให้รัฐบาลมาดูแลการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงบ้าง โดยเฉพาะตัวนายกฯ ควรจะมาเยี่ยมเยียนผู้ชุมนุมบ้าง
**"เทือก"ตอกให้ยุบสภาก่อนไม่ใช่เจรจา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงในฐาน ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย กล่าวถึงการเคลื่อนขบวนของกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ว่าได้เตรียมการป้องกันเหตุรุนแรงเอาไว้แล้ว คือประการที่ 1. ถ้ากรณีที่เกิดเหตุร้ายกลุ่มเสื้อแดงจะโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะทำให้เกิดเหตุ ถือได้ว่าโอกาสการก่อเหตุเป็นศูนย์ 2. หากเกิดเหตุอย่างนั้น เราจะดำเนินคดีตามจับกุม ด้วยเครือข่ายกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ตั้งด่านไว้ครอบคลุม เชื่อว่าไม่ว่าจะอยู่ไหน เราสามารถจับกุมได้
เมื่อถามว่าห่วงเรื่องมือที่ 3 หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีมือที่ 3 มีแต่มือที่ 1 และ มือที่ 2 ที่ต้องดูกันให้ดี
ส่วนข้อเรียกร้องของแกนนำเสื้อแดงในเรื่องการเจรจา คือให้มีการยุบสภาก่อนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างนั้นไม่เรียกว่าเจรจา แต่เป็นการบังคับกัน การเจรจาต้องมานั่งคุยกัน นายกรัฐมนตรีก็เปิดช่องอยู่แล้ว เมื่อถามว่าดูเหมือนจะไม่สำเร็จ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ร้าย มันอาจสำเร็จก็ได้ เมื่อถามว่าแกนนำผู้ชุมนุมอยากขอใช้สื่อรัฐเพื่อชี้แจงกับประชาชน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้องแล้ว เขามีสถานีโทรทัศน์ของเขา 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว พอแล้ว
เมื่อถามว่าสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะทำงานอย่างไร หากกลุ่มเสื้อแดงยังชุมนุมอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า สัปดาห์หน้ามาถามใหม่ เมื่อถามว่าหากกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมยืดเยื้อ จะต่อขยายเวลาการประกาศ พ.ร.บ ความมั่นคงฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า วันอังคารนี้ตนจะชี้แจงเรื่องนี้ แต่ยังบอกไม่ได้ว่า จะมีการประชุม ครม.เมื่อไร
**คาดขยาย พ.ร.บ.มั่นคงถึง 7 เม.ย.
มีรายงานข่าวระบุว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จะพิจารณาในการขยายการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ออกไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย. จากเดิมที่ครม.ได้อนุมัติให้ประกาศถึงวันที่ 23 มี.ค. เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์การชุมนุมของ กลุ่มเสื้อแดงมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อ
ขณะเดียวกัน อาจจะมีการลดพื้นที่ลง แต่ยังคงไว้ใน 3 พื้นที่หลัก คือ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่การชุมนุม จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของการพักคอยของผู้ชุมนุม และจ. สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ตามหน่วยปฏิบัติยังมีความเห็นว่า ควรจะประกาศในพื้นที่เหมือนเดิมทั้งหมด จะได้ไม่ยุ่งยากเรื่องการปรับกำลัง อีกทั้งเพื่อเฝ้าระวังป้องกันเหตุร้ายด้วย
**ชี้ดวงเมือง-ดวงมาร์คยังแข็ง
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่ง จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ดวงเมืองขณะนี้ว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นขณะนี้จะยังคงมีอยู่ แต่ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น หลังสิ้นเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ไประยะหนึ่ง แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หลังจากนั้นบ้านเมืองก็จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ตามดวงเมืองพบว่า บ้านเมืองไทยเราจะสงบเรียบร้อยหลังปี 54 เป็นต้นไป
เมื่อถามถึงการทำพิธีกรรมเทเลือดของคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และบ้านนายกรัฐมนตรี นายวารินทร์ กล่าวว่า ตามหลักทางศาสนา ไม่ถือเป็นพิธีที่กระทบต่อดวงชะตา แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่ได้รับผลการกระทำนั้น
ทั้งนี้ พิธีกรรมที่เกิดขึ้นคงไม่ส่งผลกระทบต่อดวงเมือง หรือดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะนี้ดวงนายอภิสิทธิ์ ยังคงมีฐานบุญที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะถึงห้วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง จะทำให้นายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า คงต้องดูว่าห้วงนั้นฐานบุญของนายอภิสิทธิ์ เป็นเช่นไร คงต้องรอให้ใกล้ถึงเวลานั้นก่อน แต่เวลานี้ถือว่า ดวงของนายอภิสิทธิ์ ยังคงเป็นดวงผู้นำประเทศอยู่
เมื่อถามว่า ดวงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. จะได้เป็นผบ.ทบ. คนต่อไปหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า ฐานบุญของพล.อ.ประยุทธ์ ยังคงส่งผลให้นั่งตำแหน่งผบ.ทบ. แน่นอน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
**หนุนคนกทม.ทวงคืนราชดำเนิน
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ พร่ำเรียกร้องประชาธิปไตย แต่กลับไม่มีจิตวิญญาณของนักประชาธิปไตย เป็นเพียงการเรียกร้องขอประชาธิปไตยบังหน้าเท่านั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และดูแลอย่างเต็มที่ทั้งในเรื่องของความสะดวกทางสุขลักษณะ สาธารณสุข อีกทั้ง หากคนเสื้อแดงต้องการยกเลิกการชุมนุม และจะกลับภูมิลำเนา รัฐบาลก็พร้อมจัดรถส่งถึงบ้าน แต่แกนนำกลับพยายามปลุกม็อบให้เกิดความรุนแรง ซึ่งประวัติศาสตร์ไม่เคยมีม็อบลุกล้ำผู้นำเหมือนการชุมนุมครั้งนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะหารือ เพื่อให้เกิดความสงบ แต่จะให้ปูผ้าขาวไปกราบแกนนำ คงไม่ใช่ทางออกของปัญหา
นายเทพไท กล่าวว่า วันที่ 20 มี.ค.นี้ ที่จะดาวกระจายไปทั่ว กทม.เชื่อว่าเป็นภาพเดิม คือ หลอกนายใหญ่อีกรอบว่าคนจะมาร่วมชุมนุมเป็นล้าน เพื่อที่จะได้รับบิล และเชื่อว่าครั้งนี้ก็จะเป็นมุกเดิม จึงขอแนะนำให้แกนนำวางแผนให้ดีๆ เพราะคนกทม.ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง อีกทั้งเชื่อว่าคนกทม.ไม่ได้สนับสนุน
ดังนั้น แกนนำเสื้อแดงทำอะไรจะต้องระวัง ไม่เช่นนั้นดาวกระจายจะเป็นดาวกระจุย และเรียกร้องคนกทม.ให้ใช้สิทธิการเป็นเจ้าบ้าน ทวงคืนถนน อย่าให้คนเสื้อแดงยึดถนนราชดำเนิน และควรที่จะไปชุมนุมที่สนามหลวง เพื่อลดปัญหาการจราจร
**ให้สิทธิ์ปิดร้านทองปิด
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ทางสมาคมค้าทองคำขอให้สมาชิกติดตามและประเมินสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้อย่างใกล้ชิดเป็นรายชั่วโมงเนื่องจากมีการดาวกระจายมายังถนนเยาวราช โดยให้สิทธิ์ร้านค้าทองแต่ละร้านพิจารณาว่าจะมีการปิดขายทองหรือไม่ ซึ่งหากร้านค้าทองรายใดเห็นว่า มีความเสี่ยงและเกิดความไม่สะดวก ก็สามารถปิดการซื้อขายได้
**แดงชัยภูมิจ๋อย ปชช.เมินโวยโดนหักหัวคิว
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ เกิดความขัดแย้งเรื่องการอมเงินค่าหัวคิวจ้างชาวบ้านเข้าร่วมชุมนุมหัวละ 2,000 บาท แต่ทางแกนนำจ่ายให้เพียงรายละ 1,500 บาท ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์ไปร่วมชุมนุมเป็นอย่างมาก ทำให้มวลชนส่วนหนึ่งขึ้นรถโดยสารเดินทางกลับบ้านเองก่อนกำหนดส่งผลให้ม็อบคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯลดลงจำนวนมาก
**"ขวัญชัย"โคตรถ่อยกทม.รถติดชั่งมัน
ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร FM 97.50 Mhz กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงรวมตัวกันประมาณ 1,000 คน เพื่อรอขึ้นรถโดยสารเดินทางไปสับเปลี่ยนกำลังคนเสื้อแดง
นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแดงอุดร กล่าวว่า การเดินทางเข้ากรุงเทพฯครั้งนี้จะมีเสื้อแดงประมาณ 1,000 คน พร้อมเสบียงอาหาร เราจะไปสมทบกับคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ซึ่งวันนี้ (20) เราจะเดินดาวกระจายที่กรุงเทพฯ ส่วนรถจะติดก็ช่างมัน เชื่อว่าคนกรุงเทพฯอดทนได้"
มีรายงานว่าได้มีอดีตนักการเมืองที่เคยยิ่งใหญ่จากพะเยาในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีอำนาจได้ยอมควักกระเป๋ากว่า 1.4 ล้านบาทเพื่อแลกกับการได้รับการยอมรับจากนายเก่าอีกครั้ง
**“สุรชัย”แฉซ้ำ3เกลอหวังเป็น รมต.
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวีระ มุสิกพงศ์ ความเป็นจริงแล้วนายวีระ และนายจตุพร คิดได้แค่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล และนายจตุพร จะได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลเพื่อไทย เรื่องแบบนี้แม้แต่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เองก็รู้ไส้รู้พุงนายจตุพร ดี นายวีระ จะได้เป็นหัวหน้ามุ่งใหญ่ในเพื่อไทย เช่นเดียวกับสมัยการคุมมุ้งใหญ่ในพรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่ท้ายสุดก็มีปัญหาเรื่องของการ “อม”
"นายวีระ มุกสิกพงศ์ ไม่ต้องสาบานอะไรมากแค่หนี้ที่มีอยู่ก็ใช้เขาเสีย การคิดจะมาโยนบาปให้คนอื่นนั้นไม่ได้ผล วันนี้เขาไม่ได้พุ่งเป้ามองที่นายวีระ หรือนายจตุพร แต่เขาพุ่งเป้าไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถ้าคิดจะตัดขอแนะนำให้ตัด พ.ต.ท.ทักษิณ จึงจะพ้นข้อครหาถึงการล้มเจ้าไม่ต้องเอาท่านผู้หญิงวิริยา มาบังหน้า มาประกาศตัดกับผมนั้นยังไม่พ้นข้อครหาอย่างแน่นอน"
**แม้วปิดถนนกทม.จนกว่าชนะ
เวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงค์มายังเวทีคนเสื้อแดง ตอนหนึ่งว่า มีคนอีเมลล์ไปบอกว่า อยากจะบอกให้ 3 เกลอ ทราบว่า คนกทม.ไม่ชอบให่ใช่คำว่า “ไพร่” แต่คำนี้ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง เป็นคำโบราณและในต่างประเทศก็มี แต่ประเทศไทย เป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เอาเป็นว่า เรามาใช้คำว่า “ประชาชนราษฎรเต็มขั้นธรรมดา” ทั้งนี้คนเสื้อแดง เราจะปรับกระบวนการเสื้อแดง คนที่ไม่ใส่เสื้อแดงก้มารวมกับเราได้ คนเสื้อเหลืองที่รู้แจ้งเห็นจริงก็มาได้ เราจะสร้างเป็น “แนวร่วมแห่งชาติ” ที่รู้แจ้งเห็นจริง เพราะคน กทม.เป็นตัวแทนของคนทั้งชาติ และเป็นคนที่มาจากทุกจังหวัด
อดีตนายกฯ กล่าว่วา ขอให้อำมาตย์หยุดรังสีอำมหิต มีคนไปบอกว่า อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบ ไม่มีทางดังนั้นอำมาตย์ถ้ารักประชาชนจริงต้องเลิกอุ้มข้างเดียว และกระทืบประชาชนอีกข้างหนึ่ง เพราะเป็นการอุ้มจนเหิมเกริม
นช.ทักษิณ กล่าวว่า คนเสื้อแดงกับคนเสื้อเหลืองจะรวมกันตั้งแต่ พรุ่งนี้20 มี.ค.) ดังนั้นขอให้ส่งสัญญาณอะไรก็ได้ ที่บอกว่า คนเสื้อแดงรักความยุติธรรม ไม่อยากให้ใครข่มเหง รังแก เพราะตอนนี้คนเสื้อเหลืองทีเข้าใจก็มารวมกับเราแล้ว เพื่อให้คนเสื้อแดงเหลืองรักกันเหมือนพวกเรา
รายงานข่าวแจ้งว่า การพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ในวันนี้ฉากหลังไม่เหมือนเดิม และเป็นการยืนพูด โดยไม่มีการยืนยันจากปากแกนนำคนเสื้อแดงและพ.ต.ท.ทักษิณว่าพูดมาจากที่ใด