“บอล” แจงข่าว “นาตาลี” เตรียมฟ้องหย่ามั่วสุดๆ ยันขาเตียงยังแข็งแรง และยังรักกันดีกับภรรยา บอกคนยังติดภาพตนเจ้าชู้ พอเห็นคุยหญิงอื่นก็คิดว่านอกใจ ลั่นมีลิมิตให้สาวอื่นแค่เพื่อน ย้ำไม่เคยมีปัญหากับ “นาตาลี” เรื่องผู้หญิง ยึดธรรมเนียมฝรั่งในการใช้ชีวิตคู่ ทำให้อยู่กันได้ยาว
มีข่าวยังรักสนุกเป็นหนุ่มเจ้าชู้ ทำให้ภรรยาฝรั่งตาน้ำข้าว “ฟ้า นาตาลี ศรีชาพันธ์” ต้องปวดใจอยู่ตลอดเวลา เลยมีกระแสข่าวว่าสาวฟ้าได้ไปพูดคุยปรึกษากับเพื่อนสนิท “ทอม เครือโสภณ” เรื่องเตรียมฟ้องหย่าสามีนักเทนนิส “บอล ภราดร ศรีชาพันธ์” เนื่องจากไม่อาจทนความเจ้าชู้ของฝ่ายชายต่อไปได้อีก วันก่อนมีโอกาสเจอหนุ่มบอล เจ้าตัวได้ออกมายืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ขาเตียงยังแข็งแรง ยังรักกันดีกับภรรยาเหมือนเดิม
“เรื่องข่าวที่ออกมาบอลสรุปให้เลยว่า มันไม่ใช่ความจริง มันเป็นกระแสที่คุณทอมและน้องฟ้าไปพบปะกัน เพราะเขาสนิทกันตั้งแต่ตอนที่น้องฟ้ามาเมืองไทยใหม่ๆ คือเขาไม่ได้เจอกันนานแล้ว คุณทอมเองเพิ่งกลับจากอเมริกาก็เลยเหมือนไปพบปะพูดคุย สนทนากันถามสารทุกข์สุขดิบ เนื้อหาสาระที่เขาคุยกันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขียนกันมาเลย ไม่มีการพูดถึงเรื่องฟ้องหย่าอะไรทั้งสิ้น”
“พอน้องฟ้าทราบข่าวก็ตกใจ และแปลกใจว่าทำไมข่าวถึงเขียนว่าอย่างนั้น แต่เราคุ้นและชินกับข่าวประมาณนี้อยู่แล้ว เนื่องจากมันมีกระแสออกมาตลอด ถ้าไม่เห็นเราออกงานไปไหนมาไหนด้วยกัน คนก็จะคิดว่าเรารักร้าวเตียงหักหรือเปล่า ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย”
“ด้วยธรรมเนียมของไทยกับฝรั่ง ต้องยอมรับว่าแตกต่างกัน มันไม่จำเป็นว่าจะต้องไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าจะเป็นแฟนหรือสามีภรรยากัน เพราะต่างคนก็ต้องมีหน้าที่ของตัวเอง อย่างผมมาทำงานวันนี้ ถามว่าทำไมเขาถึงไม่มา เพราะมันไม่ใช่งานของเขา มันไม่ใช่สไตล์ของเราที่จะต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน บอลว่าน่าจะเป็นส่วนนี้มากกว่าที่หลายๆครั้งทำให้เกิดข่าวแบบนี้ขึ้นมา ยืนยันได้เลยครับว่าขาเตียงยังแข็งแรงดีอยู่ ถึงจะมีข่าวแบบนี้ออกมาอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็ยังรักกันเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวเขียน และข่าวที่เขียนออกมาหลายคนอาจจะมองในมุมลบ แต่ผมกับฟ้ามองมันในมุมบวก เพราะเราคบกันด้วยความเข้าใจ”
แจงภาพยืนนัวเนียสาวแค่เพื่อน บอกคนยังติดภาพตนเจ้าชู้ เลยทำให้คิดไปว่าต้องนอกใจภรรยา
“เรื่องข่าวความเจ้าชู้ของผมไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเราเลย เป็นเรื่องที่เราคุยสนุกกันมากกว่าว่า เออ...มันเกิดขึ้นอีกแล้วเหรอ มีอีกแล้วเหรอ คู่เราไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้เครียดอะไร แต่ตัวผมเองยอมรับว่าออกไปปาร์ตี้สนุกสนานกับเพื่อนๆมากขึ้น หลังจากที่เราทำงานอย่างหนัก ตั้งใจกับการซ้อมเพื่อจะได้เป็นมืออาชีพ พอปีที่ผ่านมาเรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น กับการที่ตอนเย็นได้มาเจอได้ไปเที่ยวกับเพื่อน บางครั้งก็พาภรรยาไปด้วยบ้างแล้วแต่ บางครั้งเป็นปาร์ตี้เฉพาะผู้ชาย แต่เอาแฟนมาด้วยได้ มันก็ทำให้เรารู้สึกเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น”
“ที่มีภาพผมไปยืนนัวเนียกับผู้หญิง จริงๆแล้วภาพบอลกับผู้หญิงติดมาตั้งแต่สมัยก่อน ที่บอลมีแฟนคนนั้นคนนี้จนมาแต่งงาน ภาพนี้มันก็ยังคงติดอยู่ด้วย เวลาที่บอลไปไหนมาไหนก็จะเป็นคนเปิดเผยอยู่แล้ว พอคนเห็นบอลไปยืนคุยกับผู้หญิง ในที่นี้คือเพื่อนเพศตรงข้าม ซึ่งในวัฒนธรรมของฝรั่งเราสามารถมีเพื่อนได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย การที่เราจะไปยืนคุยกับใครใกล้ชิดสนิทสนมเต็มที่มันก็คือคำว่าเพื่อน มันจะเป็นมากกว่านี้ไปไม่ได้”
“ซึ่งตรงนี้บอลไม่ได้สนใจว่าใครจะมองยังไง แต่เรารู้เข้าใจกันระหว่างภรรยาของเราก็เลยโอเค มีข่าวอะไรเราก็บอกเขาทุกครั้ง เวลาเขาไปกับเพื่อนก็บอกปกติธรรมดา ส่วนครั้งที่เขาไปเจอกับคุณทอม บอลไม่ได้ไปด้วย มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วไม่มีอะไร”
ยันไม่เคยทะเลาะกับภรรยาเรื่องความเจ้าชู้ของตน เพราะทำอะไรชัดเจน มีลิมิตให้หญิงอื่นแค่เพื่อน ส่วนกับภรรยาก็ทำตัวเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด
“เรื่องความเจ้าชู้ของบอลไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับชีวิตคู่ อาจจะเป็นเพราะเราเป็นผู้ชายที่ถูกจับตามอง ต้องขอใช้คำนี้เพราะการที่ผมมีเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงมันเป็นอะไรที่ปกติ เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ตรงนี้ไม่มีปัญหาเพราะวัฒนธรรมของฝรั่งเข้าใจดี กับเรื่องการมีพื้นที่ของกันและกัน มันก็เลยทำให้ชีวิตคู่ของเราไม่มีปัญหาอะไร เพราะความสนิทสนมกับสาวทั้งหมด เราให้ได้มากที่สุดก็คือคำว่าเพื่อน ไม่มีมากกว่านี้ไปได้อยู่แล้ว ภรรยาก็เลยเข้าใจกัน”
“น้องฟ้าไม่งอนเรื่องผู้หญิงอยู่แล้ว ส่วนผมจะไปงอนเรื่องผู้ชายก็ไม่มี เรื่องทะเลาะเรื่องหึงตัดออกไปเลย เพราะถ้าคบกันแล้วไม่ไว้ใจกัน ก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ แล้วมันก็จะทำให้เราเหนื่อยและเครียดกันเปล่าๆ เราคบกันเพราะเข้าใจกัน ถามว่าเรามีเรื่องทะเลาะกันบ้างมั้ย มีบ้างนิดๆหน่อยๆเป็นปกติทั่วไปธรรมดาของสามีภรรยา ซึ่งมันไม่ได้เรียกว่าการทะเลาะ แต่เรียกว่าเป็นการปรับความเข้าใจกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราแข็งแรงขึ้น”
“ตั้งแต่แต่งงานกันมาเราไม่เคยโกรธกันเลย เราเคยทำอะไรไว้ยังไง ก็ต้องทำอย่างนั้น เรามีความเสมอต้นเสมอปลาย คนที่มีโอกาสได้รู้จักผม จะมองว่าผมไปกับคนนั้นทีคนนี้ที แต่จริงๆแล้วความเสมอต้นเสมอปลายของผมมี เรามีความชัดเจน ฉะนั้นผู้ชายที่แต่งงานแล้วย่อมมีความรับผิดชอบ มากกว่าผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงาน เพราะเราต้องดูแลครอบครัว”
“เป็นเพราะเราไม่มีลูกด้วยกันหรือเปล่า ถึงทำให้มีข่าวแบบนี้ออกมาตลอด แต่ผมว่าคงเป็นเพราะภราดรมากกว่าครับ ไม่เกี่ยวกับการที่ไม่มีลูกเลย เป็นเพราะตัวผมเองที่ไปไหนก็มีแต่คนจับตามองว่า ผมจะไปไหนยังไง ไปกับใคร เวลาคนเห็นก็จะมองในมุมชู้สาวไว้ก่อน ซึ่งเรื่องนี้เราชินตั้งแต่ตอนที่เข้ามาอยู่แวดวงกีฬาแล้ว เราเคยนิสัยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น แต่เราถือว่าเป็นคนที่โชคดีมากที่ได้ภรรยาที่เข้าใจเรา และเขาเองก็เข้าใจการใช้ชีวิตของเรา อีกส่วนนึงคงเป็นเพราะว่าเราเป็นคนของสังคม กับการที่เราจะไปไหนกับเพื่อนฝูง หรือเพื่อนต่างเพศก็เป็นเรื่องธรรมดาของผม”
เผยยึดธรรมเนียมฝรั่งในการใช้ชีวิตคู่ จึงไม่ส่งผลกระทบ หรือบั่นทอนความสัมพันธ์ฉันท์สามี-ภรรยา
“เราไม่รู้สึกกดดันกับข่าวที่เกิดขึ้นเลย ผมกับภรรยาคิดอย่างนึงว่าไม่ว่าจะคบกันเป็นแฟน หรือว่าแต่งงานแล้วหรือมีลูกแล้ว หากว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทำให้เราคบกันไม่ได้ นั่นก็คือจุดสุดท้าย จุดสิ้นสุดของชีวิตคู่ นี่คือการคิดกันแบบกว้างๆสำหรับคู่ที่คบกันไม่ได้ ส่วนบางคู่ที่เขายอมรับกันได้และคบกัน มันก็จะเป็นคู่ที่อยู่กันยาวได้นั้น ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรหรือมีข่าวอะไร ก็ไม่มีส่วนที่จะทำให้เราคิดไปตามเขา สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ก็คือ ดูแลภรรยาและครอบครัวของเราให้ดี”
“อย่างเล่นเลิฟซีนในหนังผมก็ไม่ได้บอกภรรยา การที่ผมจะทำอะไรไม่เคยปรึกษาเลย ขอให้เอาขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมฝรั่งมาเป็นจุดยืนแล้วกันว่า การที่เราจะทำอะไร จะมาถามว่าอันนี้ฉันทำได้มั้ย อย่างนั้นมันไม่มีกับคู่เรา แต่เวลาเราจะทำอะไรต้องบอกเขา ก็บอกว่าเราไปทำงานมีบทที่ต้องกอดต้องอะไร ภรรยาก็แค่อ๋อ..เหรอ”
“ที่เราเล่าก็เพื่อความสบายใจในแง่เราด้วย สบายใจในแง่เขาด้วย เพราะจุดนี้แหละที่ทำให้เราคบกันมาได้ยาวนานถึงวันนี้ และจุดนี้ด้วยถึงทำให้เราตัดสินใจหมั้นกัน แต่งงานกัน เพราะเราเชื่อใจและไว้ใจกันเปิดใจกว้างให้กัน ถามว่าเขามีระแวงบ้างมั้ย อย่างที่บอกว่าคบกันมาถึงจุดนี้ได้ เราเป็นอย่างนี้กันมาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว ที่เรามั่นใจกันมาถึงจุดนี้เพราะเราเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่แรก ไม่มีก็บอกว่าไม่มี”
“อย่างที่มีข่าวออกมาว่า ผมยืนคุยกับผู้หญิงคนนึง เราเองก็ยืนคุยกันในที่เปิดเผยชัดเจน มันไม่ใช่การไปยืนชิดใกล้สนิทสนม หรือเป็นไปในทางชู้สาวอยู่แล้ว ผมพยายามเน้นเสมอเรื่องของธรรมเนียม ธรรมเนียมไทยเองก็ดี แต่ธรรมเนียมการคบกันของฝ่ายเรา หรือธรรมเนียมเอเชียค่อนข้างที่จะยึดเกาะกันติด ต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน หรือที่เขาใช้เรียกกันคือค่อนข้างตามค่อนข้างจิก แต่ในส่วนนั้นของเราไม่มี คู่เราเป็นการเข้าใจกัน และก็ให้พื้นที่กันและกันในชีวิตมากกว่า”
“คู่เราไม่มีใครติดใคร คือ 24 ชั่วโมงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา การที่เราแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเปลี่ยนชีวิตของเราตลอดไป เราเคยเป็นยังไงก็ยังคงเป็นอย่างนั้น แต่ว่าการที่เรามีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น ในการดูแลรับผิดชอบตัวเองและครอบครัว รวมทั้งจิตใจและหัวใจของเขา ที่เราเลือกที่จะหมั้นและแต่งงานกับเขานั้น คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผมคิดว่าการใช้ชีวิตคู่ คือการดูแลหัวใจซึ่งกันและกัน สิ่งอื่นเป็นเพียงปัจจัยประกอบ ไม่ใช่ว่า 24 ชั่วโมงเราต้องอยู่ด้วยกันตลอด เราสามารถแยกย้ายไปทำอย่างอื่น พอกลับบ้านก็ค่อยมาอยู่ด้วยกัน”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |