“ชูศรี เชิญยิ้ม” หลั่งน้ำตาโอดครวญสงสารลูกสาว บอกให้ไปช่วยแม่อีกครั้ง หลังอดีตเมีย “นก เชิญยิ้ม” ถูกจับซ้ำสอง คดีขนยาเสพติดข้ามประเทศ เผยเพื่อนตลกเมินยื่นมือช่วยอีก ต้องปล่อยให้เป็นไปตามบุญตามกรรม ด้านเพื่อนซี้ “แตน ราตรี” ยินดีช่วยแต่ติดเงินมีไม่พอ ต้องรอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ บอกยังไม่อยากให้ประกันตัว อยากให้ตลกสาวติดคุกซะให้เข็ดเพื่อดัดสันดาน
เกี่ยวกับกรณีที่ตลกหญิงชื่อดัง “นก วนิดา แสงสุข” หรือ “นก เชิญยิ้ม” โดนจับพร้อมถูกตั้งข้อหาขนยาเสพติดข้ามประเทศ หลังเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่า ได้ไปเสียการพนันที่บ่อนในเขมร เลยเกิดความเครียดจึงซื้อยาไอซ์และกัญชาจากชาวเขมรหน้าบ่อนมาเสพ ก่อนซุกที่เหลือข้ามกลับมายังฝั่งไทย
ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว “นก เชิญยิ้ม” ก็เคยโดนตำรวจจับข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง แต่อดีตสามี “ชูศรี เชิญยิ้ม” ได้ไปหยิบยืมเงินจากศิลปินตลกจำนวน 3 แสนบาท มาช่วยประกันตัวออกไปในทันที ส่วนคดีครั้งล่าสุดนี้หลังโดนจับ “นก เชิญยิ้ม” ก็ถูกส่งเข้าไปนอนในคุก โดยไร้เงาคนมาช่วยประกันตัวเหมือนครั้งก่อน ทั้งนี้ “ชูศรี เชิญยิ้ม” ได้เผยความรู้สึกกับทีมข่าวบันเทิง ผู้จัดการออนไลน์ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า หลังทราบข่าวอดีตภรรยาถูกจับอีกครั้ง เล่นเอาอึ้งและตกใจ จากนั้นก็โทรไปต่อว่าทันที
“ตอนผมทราบข่าวว่าเขาถูกจับอีกครั้ง อึ้งมากเลย มันมึนงงตอบไม่ถูก และก็ตกใจด้วยว่าอีกแล้วเหรอ ทำไมเขาทำแบบนี้ ไม่สงสารลูก สงสารแม่เลยเหรอ ซึ่งตอนนั้นผมกำลังขึ้นแสดงมหกรรมศิลปินตลกอยู่ที่ศูนย์วัฒนธรรม พวกศิลปินตลกก็รู้ข่าวนี้พร้อมๆกับผม ทั้งพี่เป็ด เชิญยิ้ม พี่โน้ต เชิญยิ้ม หม่ำ จ๊กมก ทุกคนตกใจหมดและรู้สึกตึงเครียด”
“ผมเองก็ได้คุยกับเขาแป๊บเดียว ก็โมโหต่อว่าเขาไปนิดหน่อย เพราะตอนนั้นต้องทำงานต่อด้วย เครียดมากมันอึ้งบอกไม่ถูก แต่ความรู้สึกแรกเลยคือ คิดถึงลูกสาว สงสารลูกมาก(เสียงสั่นเครือ) พอเขารู้ก็ร้องไห้ตลอด จนป่านนี้ยังไม่หยุดร้องเลย อยากจะรับลูกสาวมาอยู่ด้วยกัน เราเองก็ได้แต่ปลอบเขาว่าไม่เป็นไร ยังมีพ่ออยู่ด้วยทั้งคนไม่ต้องเสียใจ ลูกสาวก็พูดกับผมให้ช่วยแม่ด้วย ผมก็บอกเขาไปว่าจะให้พ่อช่วยยังไงได้ พ่อช่วยไม่ได้หรอกครั้งนี้ ครั้งแรกอาจะช่วยได้ แต่ครั้งนี้มันคงไม่ได้แล้ว ผมสงสารลูกเพราะเขาเป็นผู้หญิง(เสียงสะอื้น)”
“เขาไม่น่าทำแบบนี้ ทั้งๆที่ครั้งแรกเราช่วยเหลือเขาเต็มที่ ทุกคนในวงการตลกเรี่ยไรเงินมาช่วยเหลือ อย่างหม่ำก็ช่วยมา 1 แสนหรือจะเป็นคนอื่นอย่าง พี่ถั่วแระ พี่เป็ด พี่โน้ต หรือน้องๆเพื่อนๆในวงการก็ช่วยเหลือเขาเต็มที่ เพราะทุกคนต่างเห็นใจและอยากให้เขาได้โอกาส ผิดแล้วก็ให้อภัยกันได้ เพราะเพิ่งผิดครั้งแรก ถามว่าได้เตือนเขาไหมตั้งแต่ที่ถูกจับครั้งแรก ก็คุยก็เตือน แต่ด้วยความที่โตๆกันแล้ว มันน่าจะรู้สึกได้ รู้จักผิดชอบชั่วดีบ้าง”
ปัดครั้งนี้ยากที่จะช่วยเหลืออดีตภรรยา เหล่าศิลปินตลกก็เมินให้ความช่วยเหลือรอบสอง
“สำหรับครั้งนี้จะช่วยเขาอีกไหม ผมว่ามันน่าจะยากแล้ว คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ให้ทางตำรวจจัดการ เราเองก็ไม่มีปัญญาไปช่วยเหลืออะไรมากมายขนาดนั้นหรอก ยิ่งครั้งแรกคนในวงการช่วยเหลือมาเยอะแล้ว อย่างพี่ถั่วแระ เชิญยิ้ม หม่ำ จ๊กมก หรือคนอื่นๆอีกหลายคน ที่เต็มใจช่วยกันมาคนละเล็กละน้อย บอกตรงๆจะให้ผมไปขอความช่วยเหลืออีกครั้ง ก็ไม่กล้าแล้ว เพราะเรื่องแบบนี้คงไม่มีใครมาช่วยรอบ 2 หรอกครับ แล้วยิ่งเขามีประวัติอยู่แล้วด้วย มันคงยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือ”
“ตอนนี้บอกได้เลยว่า ใครจะมาช่วยอีกครั้งก็คงยากแล้ว ไม่มีใครออกตัวว่าจะช่วยเหมือนครั้งก่อนแล้ว เพราะมันเป็นครั้งที่สองแล้วครับ เรื่องแบบนี้มันยากจะให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะทุกคนให้โอกาสให้เขาแก้ตัว แต่สุดท้ายเขาก็ยังทำอีก มันเหมือนกับสิ่งที่ทุกคนช่วยเหลือเขามันเปล่าประโยชน์ ”
“เขามีคดีจากครั้งก่อนติดตัวอยู่ด้วย ยังรอลงอาญาอีก 2ปี แล้วยังมาก่อคดีซ้ำอีก ครั้งนี้เห็นทางตำรวจคิดจำนวนยาไอซ์ แล้วประเมินเป็นยาบ้าได้จำนวน 37 เม็ด โทษมันก็คงเยอะอยู่แล้ว ครั้งแรกตอนที่เขาถูกจับ เขาก็โทรหาผมบอกให้ช่วย ผมก็ช่วยเหลือ ครั้งนี้ถามผมว่าจะช่วยอีกไหม ผมตอบอย่างลูกผู้ชายเลยนะว่า ถ้ามีผมก็จะช่วย แต่จะให้ผมช่วยยังไงอีก ครั้งนี้เขาก็โทรมาขอร้องให้ผมช่วยห้ามผู้สื่อข่าว ให้ช่วยปิดข่าว ผมก็บอกจะให้ทำยังไง ผมไม่ใช่เทวดาจะให้ห้ามยังไง ผมก็ทำไม่ได้”
เผยเสียดายโอกาสแทน เนื่องจากงานกำลังไปได้สวย เชื่อเป็นวิบากกรรมของ “นก” เองที่ทำให้ต้องเจอเรื่องแบบนี้
“เขาได้โอกาสมากกว่าผมด้วยซ้ำ ครั้งแรกผมคอยช่วยหางานให้เขา เขาโชคดีที่กำลังจะได้งานมากกว่าผม ปกติศิลปินดาราที่มีคดียาเสพติด อย่างน้อยทางช่องจะแบนผลงาน 2 ปี แต่นี่เขาไม่ถึงปีไม่กี่เดือนเขาได้กลับมา คุณบอย ถกลเกียรติ ให้โอกาสเขากลับมาแสดงละครอีกครั้ง ส่วนที่เวิร์คพอยท์ก็กำลังดูๆงานให้เขาด้วย เขามีวาสนามาก คือทุกคนให้อภัยเขาหมด สงสารก็สงสาร แต่เรื่องนี้มันแล้วแต่บุญแต่กรรม ถือว่าเป็นวิบากกรรมของเขาเอง”
“ตอนนี้ผมโยนให้แตน ราตรี จัดการ ให้ประสานเรื่องนี้ เพราะเขาว่าง ส่วนผมไม่รับรู้อะไรแล้ว ตอนนี้สิ่งที่กังวลที่สุดคือเรื่องลูก ผมสงสารลูกจริงๆ กลัวทุกคนมองเขาว่าไม่ดี ผมพูดอะไรไม่ออกจริง ๆครับ มันแล้วแต่บุญแต่กรรมเขา”
ออกตัวแทนตลกสาวเล่นการพนันไม่เป็น ซึ่งค้านกับคำสารภาพของเจ้าตัวที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ที่เขาให้การว่าไปเล่นการพนันเสียหมื่นห้า คนเลยมองว่าเขาติดการพนัน ผมพูดจริงๆเลยนะว่า ในระหว่างที่ผมอยู่กับเขามา 9 ปีเต็ม นกเล่นการพนันไม่เป็นเลย แต่ในระหว่างที่เราเลิกกัน เขาจะไปทำอะไรยังไง ผมก็ไม่รู้ว่าเขามีสภาพความเป็นอยู่ยังไง ก่อนโดนจับเขาติดยามากแค่ไหนผมก็ไม่รู้ ครั้งนี้ก็คิดว่าเขาน่าจะได้รับบทเรียนที่สำคัญ แต่ผมไม่เข้าใจเขาว่า ทำไมทิ้งโอกาสตรงนี้ไป จะให้พูดอะไรถึงเขา ผมไม่ขอพูดดีกว่า ไม่มีอะไรจะพูด ผมสงสารลูกอย่างเดียว”
ด้าน “แตน ราตรี วิทวัส” ในฐานะเพื่อนสนิทของ “นก เชิญยิ้ม” ยังลังเลที่จะให้ความช่วยเหลือ เผยเอาโฉนดที่ดินไปตีประเมินราคา แต่ได้เงินไม่มากพอที่จะประกันตัวเพื่อนได้ เนื่องจากครั้งนี้ต้องใช้เงินประกันสูงถึง 1 ล้านบาท
“สำหรับเรื่องนก พี่ชูศรีให้เรามาช่วยดู เพราะแกติดงานแล้วเครียด เราก็เห็นใจ อีกอย่างนกก็เป็นเพื่อนสนิทเราด้วย ครั้งก่อนพี่ๆศิลปินตลกรวมกันช่วยเขา ตอนนี้บอกตรงๆ เลยว่า คงไม่มีใครกล้ายื่นมือมาช่วยเขาอีก ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ 70 เปอร์เซ็นต์ได้ ส่วนอีก30 เปอร์เซ็นต์ต้องรอดูความคิดเห็นจากทางผู้ใหญ่ในวงการว่าจะช่วยกันไหม จะให้เราช่วยคนเดียวก็ไม่ไหว เพื่อนก็เพื่อนเถอะ เรามีกำลังแค่นี้จริงๆ”
“เมื่อเช้าเราสงสารก็คิดจะช่วยเขานะ เราก็เอาโฉนดที่ดินที่มีอยู่ไปให้ทางกรมที่ดินตีราคา ประเมินได้มาแค่ 2 แสน ซึ่งมันไม่พอ เพราะทางทนายบอกว่า ครั้งนี้ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันถึง 1 ล้านบาท ที่มันมากกว่าคราวก่อนก็เพราะเป็นคดีใหญ่ ประมาณว่าขนยาข้ามประเทศ โทษจริงๆก็ถึงขั้นประหารชีวิตถึงมีจำนวนยาไม่มากก็ตาม แต่ทั้งนี้อาจจะไม่ถึงขึ้นนั้นก็ได้”
“เราก็ได้คุยกับเขาแล้ว เขาเองก็เสียใจนะกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราเองก็เคยเตือนเคยบอกกับเขาว่า อย่าไปทำอีกนะ แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้เขาเป็นอะไรถึงตัดสินใจทำอย่างนี้อีก เราก็ตอบแทนเขาไม่ได้ด้วย อย่างที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าเล่นพนัน อยากจะบอกว่าความจริงเขาไม่ใช่คนเล่นพนันนะ แต่ไม่รู้ว่าข่าวออกมาได้ยังไง หรืออาจจะเป็นความเข้าใจผิดกันก็ไม่รู้หรือเป็นข้ออ้างของเขา แต่เท่าที่รู้มาคือนกมีงานที่ฝั่งนั้น และอาจจะมีคนรู้จักชักชวนไปเล่นการพนันก็เป็นไปได้ พอเสียก็เลยเครียด เครียดก็เลยต้องพึ่งยา ซึ่งเขาทำแบบนี้เราเองก็รู้สึกว่า เขาคิดสั้นเกินไปจริงๆ แต่เราในฐานะเพื่อนก็จะพูดอะไรไม่ได้มาก เดี๋ยวจะหาว่าไปซ้ำเติมเพื่อนกันเอง”
ไม่หวั่นถูกสังคมมองช่วยโอบอุ้มคนกระทำผิด บอกเป็นเพื่อนกันถ้าช่วยเหลือกันได้ก็จะช่วย แต่คงยังไม่ประกันตัวตอนนี้ เพราะอยากให้ติดคุกเพื่อดัดสันดาน เผื่อจะสำนึกได้บ้าง
“กลัวสังคมมองว่าเราไปโอบอุ้มเขาหรือเปล่า ทั้งๆ ที่เขาทำความผิดขนาดนี้ เราอย่าไปมองตรงนั้นเลย เราช่วยเหลือเขาได้ก็อยากจะช่วย แต่อย่างที่บอกว่าไม่มีกำลังพอ ถ้าผู้ใหญ่ช่วยเต็มที่ เราก็พร้อมจะช่วยเหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันศิลปินตลกก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่น่าเลย ไม่น่ามีหนที่สองเลย ทุกคนรู้สึกเสียดายโอกาส ก็คิดว่าอาจจะยังไม่ประกันตัวตอนนี้ ให้เป็นการดัดสันดาน ดัดนิสัย ตลกบางคนก็บอกว่าอะไรที่ได้มาง่ายๆ เขาจะไม่รู้สึกสำนึก ก็อย่างครั้งก่อนที่ได้ประกันตัวง่ายๆ เขาอาจจะไม่รู้สึก เลยอยากให้ลองชิมรสชาติการติดคุกดูบ้าง เผื่อเขาจะได้สำนึก”
“เรื่องจะตั้งทนายสู้ คิดว่าสู้ไปก็เท่านั้น สู้ไปทำไม ยังไงก็สู้ไม่ไหวหรอก ผิดเต็มๆขนาดนี้มันสู้ลำบากแล้ว มันเรื่องใหญ่เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นการขนยาข้ามประเทศ ถึงแม้จะไม่ได้เอามาขายต่อก็ตามเถอะ ตอนนี้บอกตรงๆว่า พี่ชูศรีเองก็ถอดใจที่จะช่วยเหลือ เพราะมันยากจริงๆ มองไม่เห็นทางว่าจะช่วยได้ ตอนนี้เลยต้องปล่อยให้เขานอนในคุกต่อไปก่อน รู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่มีใครไปเยี่ยมเขาเลย เผื่อเขาจะคิดอะไรได้บ้าง”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |